1 | กุลบุตรจะเรียนกรรมฐาน ต้องบำเพ็ญศีลให้บริสุทธิ์ก่อน (ตติยปาราชิกวรรณนา) 2/350/42/350/4 2/333/9 |
2 | ตัดกังวลก่อนเรียนกรรมฐาน (ตติยปาราชิกวรรณนา) 2/351/12/351/1 2/334/3 |
3 | ศีลไม่บริสุทธิ์กรรมฐานย่อมไม่เจริญ (ปฐมปาราชิกวรรณนา) 1/763/61/763/6 1/737/9 |
4 | ภิกษุควรทำศีลให้บริสุทธิ์และทำความเห็นให้ตรงก่อน จึงเริ่มทำกรรมฐาน (ภิกขุสูตร) 30/379/1930/379/19 30/367/5 |
5 | ศีลไม่บริสุทธิ์ไปทำกรรมฐาน...มีสิทธิ์เป็นบ้า (อ.พรหมชาลสูตร) 11/104/1311/104/13 11/90/6 |
6 | ผู้ทำพอประมาณใน ศีล สมาธิ ปัญญา ล่วงสิกขาบทเล็กน้อยบ้าง แสดงอาบัติบ้าง...ก็อาจบรรลุธรรมได้ (ทุติยเสขสูตร) 34/454/1434/454/14 34/466/7 |
7 | ผู้มีศีล พึงหวังการหลุดพ้นได้ (อากังเขยยสูตร) 17/398/1117/398/11 17/319/3 |
8 | ข้อปฏิบัติเพื่อถึงความสิ้นอาสวะ (สัพพาสวสังวรสูตร) 17/138/317/138/3 17/113/1 |
9 | การทำกรรมฐาน หากภิกษุทำถูกต้อง สายญาติตั้งแต่ลูกศิษย์ จนถึงพรหมโลกย่อมทำถูกต้องด้วย (อ.ญาตกสูตร) 34/24/1234/24/12 34/24/19 |
10 | ไม่ควรมีข้ออ้างในการทำความเพียร (อารัพภวัตถุสูตร) 37/665/237/665/2 37/544/6 |
11 | พระพุทธองค์ทรงให้กรรมฐานแก่ผู้มีจริตต่างๆ (อ.ทสุตตรสูตร) 16/456/1816/456/18 16/442/20 |
12 | กรรมฐานที่เหมาะกับบุคคลผู้มีจริตต่างๆ (อ.มหาสมัยสูตร) 14/100/714/100/7 14/96/1 |
13 | อาสวะที่ละได้ด้วยอำนาจ อุเทศ เป็นต้น (อ.สัพพาสวสังวรสูตร) 17/160/317/160/3 17/131/22 |
14 | ผู้ไม่ได้ทำบุญญาธิการไว้ ย่อมเหมาะในการถึงสรณคมน์เท่านั้น. (อ.พหุการสูตร) 34/80/934/80/9 34/81/21 |