1 | [๑-๓] ภิกษุอาบน้ำไม่พึงสีกายที่ต้นไม้ , ไม่พึงสีกายที่เสา , ไม่พึงสีกายที่ฝา รูปใดสีต้องอาบัติทุกกฏ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/2/109/2/10 9/2/11 |
2 | [๔] ภิกษุอาบน้ำ ไม่พึงอาบในสถานที่อันไม่สมควร รูปใดอาบต้องอาบัติทุกกฏ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/3/169/3/16 9/3/20 |
3 | [๕-๖] ภิกษุไม่พึงอาบน้ำ ถูด้วยมือที่ทำด้วยไม้, ถูด้วยก้อนจุรณหินสีดั่งพลอย แดง รูปใดอาบต้องอาบัติทุกกฏ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/3/239/3/23 9/4/6 |
4 | [๗] ภิกษุไม่พึงผลัดกันถูตัว รูปใดให้ทำต้องอาบัติทุกกฏ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/4/109/4/10 9/4/20 |
5 | [๘] ภิกษุไม่พึงถูด้วยไม้บังเวียน ที่จักเป็นฟันมังกร รูปใดถู ต้องอาบัติทุกกฏ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/4/159/4/15 9/5/6 |
6 | [๙] ทรงอนุญาตไม้บังเวียนที่มิได้จักเป็นฟันมังกร แก่ภิกษุอาพาธ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/4/209/4/20 9/5/13 |
7 | [๑๐-๑๑] ทรงอนุญาตเกลียวผ้า ทรงอนุญาตการถูหลังด้วยมือ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/5/29/5/2 9/5/19 |
8 | [๑๒] ภิกษุไม่พึงทรงเครื่องประดับหู สังวาล เครื่องประดับเอว วลัย สร้อยตาบ เครื่องประดับข้อมือ แหวนประดับนิ้วมือ รูปใดทรงต้องอาบัติทุกกฏ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/5/199/5/19 9/6/19 |
9 | [๑๓] ภิกษุไม่พึงไว้ผมยาว รูปใดไว้ ต้องอาบัติทุกกฏ ให้ไว้ได้ไม่เกิน 2 เดือน หรือยาว 2 นิ้ว (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/6/59/6/5 9/7/6 |
10 | [๑๔] ภิกษุไม่พึงเสยผมด้วยแปรง , หวี , นิ้วมือต่างหวี , น้ำมันผสมกับขี้ผึ้ง , น้ำมันผสมกับน้ำ รูปใดเสยต้องอาบัติทุกกฏ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/6/139/6/13 9/7/16 |
11 | [๑๕-๑๖] ภิกษุไม่พึงดูเงาหน้าในแว่น หรือในภาชนะน้ำ รูปใดดูต้องอาบัติทุกกฏ ให้ดูได้เพราะเหตุแห่งอาพาธ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/6/219/6/21 9/8/7 |
12 | [๑๗-๑๘] ภิกษุไม่พึงทาหน้า, ถูหน้า, ผัดหน้า, เจิมหน้าด้วยมโนศิลา, ย้อมตัว, ย้อมหน้า, ย้อมทั้งตัวและหน้า รูปใดทำต้องอาบัติทุกกฏ อนุญาตให้ทาหน้า ได้ เพราะเหตุแห่งอาพาธ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/7/129/7/12 9/8/21 |
13 | [๑๙] ภิกษุไม่พึงไปดูการฟ้อนรำ ขับร้อง ประโคมดนตรี รูปใดไปต้องอาบัติ ทุกกฏ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/8/39/8/3 9/9/15 |
14 | [๒๐] สวดพระธรรมด้วยทำนองยาว คล้ายเพลงขับ มีโทษ 5 ประการ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/8/179/8/17 9/10/11 |
15 | [๒๐-๒๑] ภิกษุไม่พึงสวดพระธรรมด้วยทำนองยาว คล้ายเพลงขับ รูปใดสวด ต้องอาบัติทุกกฏ อนุญาตให้สวด เป็นทำนองสรภัญญะได้ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/9/39/9/3 9/10/20 |
16 | [๒๒] ภิกษุไม่พึงห่มผ้าขนสัตว์ มีขนข้างนอก รูปใดห่ม ต้องอาบัติทุกกฏ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/9/139/9/13 9/11/7 |
17 | [๒๓-๒๔] ภิกษุไม่พึงฉันผลมะม่วง รูปใดฉันต้องอาบัติทุกกฏ อนุญาตมะม่วง เป็นชิ้น ๆ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/10/99/10/9 9/12/5 |
18 | [๒๕] ทรงอนุญาตให้ฉันผลไม้ โดยสมณกัปปะ 5 อย่าง (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/10/199/10/19 9/12/16 |
19 | [๒๖] ทรงอนุญาตให้แผ่เมตตาจิต ไปสู่ตระกูลพญางูทั้ง 4 เพื่อคุ้มครอง เพื่อ รักษาตน เพื่อป้องกันตน (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/11/199/11/19 9/13/17 |
20 | [๒๗] พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ มีคุณหาประมาณมิได้ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/12/179/12/17 9/14/9 |
21 | [๒๘] ภิกษุไม่พึงตัดองค์กำเนิดของตน รูปใดตัดต้องอาบัติถุลลัจจัย (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/13/59/13/5 9/14/19 |
22 | [๓๓] พระพุทธองค์ทรงตำหนิ ผู้แสดงอิทธิปาฏิหาริย์ เพราะเหตุแห่งบาตรไม้ จันทน์ ว่ามาตุคามแสดงของลับ เพราะเหตุแห่งทรัพย์เป็นดุจซากศพ แม้ฉันใด เธอก็ฉันนั้น เหมือนกัน... (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/15/119/15/11 9/16/25 |
23 | [๒๙-๓๓] ภิกษุไม่พึงแสดงอิทธิปาฏิหาริย์ ซึ่งเป็นธรรมอันยิ่ง ของมนุษย์ แก่ คฤหัสถ์ รูปใดแสดงต้องอาบัติทุกกฏ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/15/199/15/19 9/17/7 |
24 | [๓๓] ภิกษุไม่พึงใช้บาตรไม้ รูปใดใช้ต้องอาบัติทุกกฏ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/15/219/15/21 9/17/10 |
25 | [๓๔] ภิกษุไม่พึงใช้บาตรทองคำ เงิน... ทองแดง รูปใดใช้ต้องอาบัติทุกกฏ ทรงอนุญาต บาตรเหล็ก และบาตรดิน (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/16/59/16/5 9/17/18 |
26 | [๓๕-๓๖] ทรงอนุญาตบังเวียนรองบาตร, ภิกษุไม่พึงใช้บังเวียนรองบาตรต่างๆ รูปใดใช้ต้องอาบัติทุกกฏ, ทรงอนุญาตบังเวียนรองบาตร 2 ชนิด คือ ทำด้วยดีบุก ทำด้วยตะกั่ว (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/16/139/16/13 9/18/3 |
27 | [๓๗] ภิกษุไม่พึงใช้บังเวียนรองบาตรอันวิจิตร ที่จ้างเขาทำ ให้มีลวดลายเป็น รูปภาพ รูปใดใช้ต้องอาบัติทุกกฏ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/17/49/17/4 9/18/22 |
28 | [๓๘] บาตรที่ยังมีน้ำ ภิกษุไม่พึงเก็บงำ รูปใดเก็บงำต้องอาบัติทุกกฏ, ให้ผึ่งแล้ว จึงเก็บงำบาตร (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/17/109/17/10 9/19/6 |
29 | [๓๙] บาตรที่ยังมีน้ำ ภิกษุไม่พึงผึ่งไว้ รูปใดผึ่งไว้ต้องอาบัติทุกกฏ ให้ทำให้ หมดน้ำเสียก่อนผึ่ง แล้วจึงเก็บงำบาตร (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/17/159/17/15 9/19/11 |
30 | [๔๐] ไม่พึงวางบาตรไว้ในที่ร้อน รูปใดวาง ต้องอาบัติทุกกฏ ให้ผึ่งไว้ในที่ร้อน ครู่เดียว แล้วจึงเก็บงำบาตร (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/17/219/17/21 9/19/17 |
31 | [๔๑-๔๓] ทรงอนุญาตเชิงรองบาตร , ภิกษุไม่พึงวางบาตรไว้ริมกระดานเลียบ, ไม่พึงวางบาตรไว้ริมกระดานเลียบเล็กๆ นอกฝา รูปใดวาง ต้องอาบัติทุกกฏ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/18/69/18/6 9/19/24 |
32 | [๔๔] เวลาคว่ำบาตร ทรงอนุญาตให้ใช้หญ้ารอง, ใช้ท่อนผ้ารอง อนุญาตแท่น เก็บบาตร, หม้อเก็บบาตร อนุญาตให้ใช้ถุงบาตร, อนุญาตสายโยกเป็นด้ายถัก (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/18/199/18/19 9/20/14 |
33 | [๔๕-๔๖] ภิกษุไม่พึงแขวนบาตรไว้ รูปใดแขวน ต้องอาบัติทุกกฏ ภิกษุไม่พึงเก็บ บาตรไว้บนเตียง รูปใดเก็บต้องอาบัติทุกกฏ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/19/179/19/17 9/21/13 |
34 | [๔๗-๔๙] ภิกษุไม่พึงเก็บบาตรไว้บนตั่ง, บนกลด รูปใดเก็บต้องอาบัติทุกกฏ ภิกษุไม่พึงวางบาตรไว้บนตัก รูปใดวางต้องอาบัติทุกกฏ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/20/39/20/3 9/21/21 |
35 | [๕๐] ภิกษุถือบาตรอยู่ไม่พึงผลักบานประตูเข้าไป รูปใดผลักต้องอาบัติทุกกฏ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/20/169/20/16 9/22/9 |
36 | [๕๑-๕๓] ภิกษุไม่พึงใช้กะโหลกน้ำเต้าเที่ยวบิณฑบาต, กระเบื้องหม้อเที่ยว บิณฑบาต, บาตรกะโหลกผี, ของบังสุกุลทุกอย่าง รูปใดใช้ต้องอาบัติทุกกฏ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/20/219/20/21 9/22/15 |
37 | [๕๔] ภิกษุไม่พึงใช้บาตรรับเศษอาหาร ก้าง น้ำบ้วนปาก รูปใดใช้ต้องอาบัติทุกกฏ ทรงอนุญาตให้ใช้กระโถน (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/21/189/21/18 9/23/11 |
38 | [๕๕-๕๗] ทรงอนุญาตให้ใช้มีดมีผ้าพัน , มีดมีด้าม ภิกษุไม่พึงใช้ด้ามมีดต่างๆ รูปใดใช้ต้องอาบัติทุกกฏ ทรงอนุญาตให้ใช้ด้ามมีดที่ทำด้วยกระดูก งา เขา ไม้อ้อ ไม้ไผ่ ไม้ธรรมดา ครั่ง เมล็ดผลไม้ โลหะ และกระดองสังข์ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/22/19/22/1 9/23/17 |
39 | [๕๘] ทรงอนุญาตให้ใช้เข็ม, กล่องเข็ม, เข็มขึ้นสนิมให้โรยด้วยแป้งข้าวหมาก, โรยด้วยแป้งเจือขมิ้นผง , ให้ใช้ฝุ่นหิน, ให้ทาด้วยขี้ผึ้ง, ฝุ่นหินแตกให้ใช้ผ้ามัด ขี้ผึ้งพอกหินฝุ่น (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/22/169/22/16 9/24/13 |
40 | [๕๙] ทรงอนุญาตไม้สะดึง เชือกผูกไม้สะดึง ให้ผูกลงในที่นั้นๆ เย็บจีวรได้. ภิกษุไม่พึงขึงไม้สะดึงในที่ไม่เสมอ รูปใดขึงต้องอาบัติทุกกฏ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/23/69/23/6 9/25/4 |
41 | [๕๙] ภิกษุขึงไม้สะดึงบนพื้นดิน ทรงอนุญาตให้ใช้หญ้ารอง , ขอบไม้สะดึง ชำรุด ให้ดามขอบเหมือนผ้าอนุวาต, ไม้สะดึงไม่พอจึงอนุญาต ไม้สะดึงเล็ก ไม้ประกับ ซี่ไม้สำหรับสอดเข้าในระหว่างจีวร 2 ชั้น เชือกรัดสะดึงในกับ สะดึงนอก ด้ายผูกจีวรลงกับสะดึงใน ครั้นขึงแล้วจึงเย็บจีวร. ทรงอนุญาตให้ ทำหมาย อนุญาตเส้นด้ายตีบรรทัด (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/23/109/23/10 9/25/10 |
42 | [๖๐-๖๒] ภิกษุมีเท้าเปื้อน, มีเท้าเปียก, สวมรองเท้า, ไม่พึงเหยียบไม้สะดึง รูปใดเหยียบต้องอาบัติทุกกฏ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/23/209/23/20 9/25/19 |
43 | [๖๓-๖๔] ทรงอนุญาตให้ใช้ปลอกสวมนิ้วมือ. ภิกษุไม่พึงใช้ปลอกสวมนิ้วมือ ต่างๆ รูปใดใช้ต้องอาบัติทุกกฏ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/24/119/24/11 9/26/8 |
44 | [๖๕] ทรงอนุญาตกล่องเก็บเครื่องเย็บผ้า, ถุงเก็บปลอกนิ้วมือ, สายโยกเป็น ด้ายถัก (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/25/19/25/1 9/26/20 |
45 | [๖๖-๖๗] ทรงอนุญาตโรงสะดึง ปะรำสะดึง, ให้ถมพื้นที่ให้สูง ก่อมูลดิน ด้วย อิฐ ศิลา ไม้. อนุญาตบันได, ราวสำหรับยึด ให้รื้อหญ้าที่มุงลง แล้วฉาบด้วย ดินทั้งข้างนอกข้างใน ให้มีสีขาว สีดำ สีเหลือง จำหลักเป็นพวงดอกไม้ เครือไม้ ฟันมังกร ดอกจอกห้ากลีบ ราวจีวร สายระเดียงจีวรได้ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/25/109/25/10 9/27/5 |
46 | [๖๘-๖๙] ทรงอนุญาตให้ม้วนไม้สะดึงเก็บไว้, ให้สอดท่อนไม้ม้วน ไม้สะดึงเข้า ไปใช้เชือกผูก ให้แขวนไว้ที่เดือยข้างฝา หรือที่ไม้นาคทนต์ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/26/69/26/6 9/27/22 |
47 | [๗๐-๗๑] ทรงอนุญาตถุงเก็บเครื่องยา, สายโยกเป็นด้ายถัก, ทรงอนุญาตถุง เก็บรองเท้า, สายโยกเป็นด้ายถัก (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/26/179/26/17 9/28/10 |
48 | [๗๒] ทรงอนุญาต ผ้ากรองน้ำ, ผ้ากรองน้ำรูปคล้ายช้อน, ให้ใช้กระบอกกรองน้ำ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/27/69/27/6 9/28/21 |
49 | [๗๔] ภิกษุผู้เดินทาง เมื่อถูกเขาอ้อนวอนขอผ้ากรองน้ำ จะไม่พึงให้ไม่ควร รูป ใดไม่ให้ต้องอาบัติทุกกฏ. ภิกษุไม่มีผ้ากรองน้ำอย่าเดินทางไกล รูปใดเดินทาง ต้องอาบัติทุกกฏ. ถ้ากระบอกกรองน้ำไม่มี แม้มุมผ้าสังฆาฏิก็พึง อธิษฐานว่า จะใช้กรองน้ำดื่ม (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/28/99/28/9 9/29/24 |
50 | [๗๖] ทรงอนุญาตผ้ากรองน้ำมีขอบ, ให้ลาดผ้าลงบนน้ำ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/28/209/28/20 9/30/10 |
51 | [๗๗] ทรงอนุญาตมุ้ง (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/29/19/29/1 9/30/17 |
52 | [๗๙-๘๒] ทรงอนุญาตที่จงกรม และเรือนไฟ, ให้ทำพื้นให้เรียบ, ทำที่จงกรม ให้สูง... ให้ทำรั้วรอบที่จงกรม (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/29/199/29/19 9/31/15 |
53 | [๘๓] ทรงอนุญาตโรงจงกรม, ให้รื้อหญ้าที่มุงลง แล้วฉาบด้วยดินทั้งข้างนอก ข้างใน ให้มีสีขาว สีดำ สีเหลือง จำหลักเป็นพวงดอกไม้... สายระเดียงจีวร . (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/30/169/30/16 9/32/6 |
54 | [๘๔] ทรงอนุญาตให้ถมพื้นเรือนไฟ ให้สูง, ให้ก่อมูลดินที่ถม, อนุญาตบันได, ราวสำหรับยึด, บานประตู กรอบเช็ดหน้า ครกรองเดือยประตู ห่วงข้างบน สายยู ไม้หัวลิง กลอน ลิ่ม ช่องดาล ช่องสำหรับชักเชือก เชือกสำหรับชัก, เชิงฝาเรือนไฟชำรุด อนุญาตให้ก่อให้ต่ำ, อนุญาตปล่องควัน (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/30/229/30/22 9/32/12 |
55 | [๘๕] ทรงอนุญาตให้ทำที่ตั้งเตาไฟไว้ ส่วนข้างหนึ่ง เฉพาะเรือนไฟขนาดเล็ก เรือนไฟขนาดกว้าง ตั้งไว้ตรงกลางได้. อนุญาตดินสำหรับทาหน้า รางสำหรับ ละลายดิน, ดินมีกลิ่นเหม็นให้อบกลิ่น (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/31/129/31/12 9/33/2 |
56 | [๘๖] ไฟในเรือนไฟลนกาย ทรงอนุญาตให้ตักน้ำมาไว้มากๆ, อนุญาตที่ขังน้ำ ขันตักน้ำ, เรือนไฟที่มุงด้วยหญ้าไหม้เกรียม ทรงอนุญาตให้รื้อลง ฉาบดินทั้ง ข้างบนข้างล่าง, ให้ปูเครื่องลาด 3 อย่าง คือ อิฐ หิน ไม้ , ให้ชำระล้างน้ำขัง, ทรงอนุญาตท่อระบายน้ำ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/31/189/31/18 9/33/10 |
57 | [๘๗-๘๙] ทรงอนุญาตตั่งในเรือนไฟ , ให้ล้อมรั้ว 3 อย่าง, ทรงอนุญาตซุ้ม... อนุญาตท่อระบายน้ำ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/32/69/32/6 9/33/22 |
58 | [๙๐] ภิกษุเปลือยกาย ไม่พึงไหว้ภิกษุเปลือกกาย... ไม่พึงเปลือยกายดื่ม รูปใดดื่ม ต้องอาบัติทุกกฏ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/33/89/33/8 9/35/4 |
59 | [๙๑] ทรงอนุญาตราวจีวร สายระเดียงในเรือนไฟ , ทรงอนุญาตศาลาใกล้ เรือนไฟ... (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/33/189/33/18 9/35/16 |
60 | [๙๓] ทรงอนุญาตเครื่องกำบัง 3 ชนิด คือ เรือนไฟ น้ำ ผ้า (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/34/69/34/6 9/36/5 |
61 | [๙๔-๙๕] น้ำในเรือนไฟไม่มี ทรงอนุญาตบ่อน้ำ, ทรงอนุญาตเชือกสำหรับ บ่อน้ำ, คันโพงคล้ายคันชั่ง ระหัดชัก ระหัดถีบ, ทรงอนุญาต ถังน้ำ 3 อย่าง คือ ถังน้ำโลหะ ถังน้ำไม้ ถังน้ำหนัง (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/34/89/34/8 9/36/8 |
62 | [๙๖-๙๘] ทรงอนุญาตศาลาสำหรับบ่อน้ำ, ฝาปิดบ่อน้ำ, รางน้ำ, อ่างน้ำ 9/34/229/34/22 9/36/23 |
63 | [๙๙] ทรงอนุญาต ลำรางระบายน้ำ,ให้กั้นกำแพง,ทรงอนุญาตเครื่องลาด 3 ชนิดคือ อิฐ หิน ไม้ อนุญาตท่อระบายน้ำ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/35/109/35/10 9/37/8 |
64 | [๑๐๐] ภิกษุทั้งหลายมีเนื้อตัวตกหนาว จึงทรงอนุญาตให้เอาผ้าชุบน้ำเช็ดตัว (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/35/169/35/16 9/37/15 |
65 | [๑๐๑] ทรงอนุญาตสระน้ำ ให้ก่อขอบสระ, ทำบันได, ราวสำหรับยึด, รางน้ำ, ท่อระบายน้ำ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/35/229/35/22 9/37/20 |
66 | [๑๐๒] ทรงอนุญาตเรือนไฟมีปั้นลม (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/36/99/36/9 9/38/4 |
67 | [๑๐๓] ภิกษุไม่พึงอยู่ปราศจากผ้าปูนั่งถึง 4 เดือน รูปใดอยู่ปราศต้องอาบัติ ทุกกฏ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/36/129/36/12 9/38/10 |
68 | [๑๐๔] ภิกษุไม่พึงนอนที่นอนอันเกลื่อนด้วยดอกไม้รูปใดนอนต้องอาบัติทุกกฏ . (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/36/189/36/18 9/38/17 |
69 | [๑๐๕] ทรงอนุญาตให้รับของหอมแล้ว เจิมไว้ที่บานประตูหน้าต่าง ให้รับดอกไม้ แล้ววางไว้ในส่วนข้างหนึ่งในวิหาร (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/37/19/37/1 9/39/4 |
70 | [๑๐๖] ทรงอนุญาตสันถัตขนเจียมหล่อ สันถัตขนเจียมที่หล่อไม่ต้องอธิษฐาน ไม่ต้องวิกัป (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/37/59/37/5 9/39/10 |
71 | [๑๐๗-๑๐๘] ภิกษุไม่พึงฉันอาหารบนเตียบ รูปใดฉัน ต้องอาบัติทุกกฏ ทรง อนุญาตโตก (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/37/119/37/11 9/39/19 |
72 | [๑๐๙] ภิกษุไม่พึงฉันร่วมภาชนะเดียวกัน ไม่พึงดื่มร่วมขันใบเดียวกัน ไม่พึงนอน ร่วมเตียงเดียวกัน ไม่พึงนอนร่วมเครื่องลาดเดียวกัน ไม่พึงนอนร่วมผ้าห่มผืน เดียวกัน ไม่พึงนอนร่วมเครื่องลาดและผ้าห่มผืนเดียวกัน รูปใดนอนต้องอาบัติ ทุกกฏ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/37/219/37/21 9/40/12 |
73 | [๑๑๓-๑๑๔] สงฆ์จงคว่ำบาตร แก่อุบาสกผู้ประกอบด้วยองค์ 8 ด้วยญัตติ ทุติยกรรมวาจา (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/40/29/40/2 9/42/20 |
74 | [๑๒๓] ภิกษุไม่พึงเหยียบผืนผ้าที่ปูไว้ รูปใดเหยียบต้องอาบัติทุกกฏ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/46/229/46/22 9/49/15 |
75 | [๑๒๔] เมื่อคฤหัสถ์ต้องการมงคล ทรงอนุญาตให้ผู้ที่ถูกคฤหัสถ์ ขอร้องให้ เหยียบเพื่อความเป็นมงคล เหยียบผืนผ้าได้ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/47/89/47/8 9/50/2 |
76 | [๑๒๕] ทรงอนุญาตให้เหยียบผ้า สำหรับเช็ดเท้าที่ล้างแล้ว (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/47/129/47/12 9/50/6 |
77 | [๑๒๗] ทรงอนุญาตหม้อน้ำ และไม้กวาด, ภิกษุไม่พึงใช้ปุ่มไม้สำหรับเช็ดเท้า รูปใดใช้ต้องอาบัติทุกกฏ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/48/89/48/8 9/51/3 |
78 | [๑๒๗] ทรงอนุญาตที่เช็ดเท้า 3 ชนิด คือ หินกรวด กระเบื้อง หินฟองน้ำใน ทะเล (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/48/109/48/10 9/51/5 |
79 | [๑๒๙-๑๓๐] ทรงอนุญาตพัดโบก พัดใบตาล ไม้ปัดยุง. ภิกษุไม่พึงใช้แส้จามรี รูปใดใช้ต้องอาบัติทุกกฏ ทรงอนุญาตพัด 3 ชนิด คือ ทำด้วยปอ ทำด้วยแฝกทำ ด้วยขนปีกขนหางนกยูง (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/48/219/48/21 9/51/17 |
80 | [๑๓๒-๑๓๔] ภิกษุไม่พึงกั้นร่ม รูปใดกั้นร่ม ต้องอาบัติทุกกฏ. ทรงอนุญาตร่ม แก่ภิกษุผู้อาพาธ ภิกษุแม้ไม่อาพาธ กั้นร่มในวัด หรือในอุปจารของวัดได้ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/50/29/50/2 9/52/18 |
81 | [๑๓๕-๑๓๘] ภิกษุไม่พึงถือไม้เท้ากับสาแหรก รูปใดถือต้องอาบัติทุกกฏ ทรง อนุญาตให้สมมติไม้เท้า แก่ภิกษุอาพาธด้วยญัตติทุติยกรรมวาจา (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/50/229/50/22 9/53/14 |
82 | อรรถกถาอธิบาย ไม้คานที่หย่อน หรือเกินกว่า 4 ศอก แม้เว้นจากการสมมติ ก็ควรแก่ภิกษุทั้งหลาย (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/96/189/96/18 9/101/12 |
83 | [๑๓๙-๑๔๓] ทรงอนุญาตให้สมมติสาแหรก แก่ภิกษุอาพาธ, ทรงอนุญาตให้สมมติไม้เท้า และสาแหรกแก่ภิกษุอาพาธ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/52/59/52/5 9/54/23 |
84 | [๑๔๔] ทรงอนุญาต อาหารที่อ้วก แก่ภิกษุผู้มักอ้วก แต่ออกมานอกปากแล้ว ไม่พึงกลืนเข้าไป รูปใดกลืนเข้าไปพึงปรับตามธรรม (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/54/199/54/19 9/57/18 |
85 | [๑๔๕] สิ่งใดทายกถวายตกหล่น ทรงอนุญาตให้เก็บสิ่งนั้นฉันเองได้ เพราะ ของนั้นทายก บริจาคแล้ว (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/55/69/55/6 9/58/7 |
86 | [๑๔๖-๑๔๗] ภิกษุไม่พึงไว้เล็บยาว รูปใดไว้ต้องอาบัติทุกกฏ ทรงอนุญาตมีด ตัดเล็บ ให้ตัดเล็บเสมอเนื้อ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/55/229/55/22 9/59/2 |
87 | [๑๔๘] ภิกษุไม่พึงวานกันให้ขัดเล็บ ทั้ง 20 นิ้ว รูปใดให้ขัดต้องอาบัติทุกกฏ อนุญาตให้แคะขี้เล็บได้ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/56/109/56/10 9/59/12 |
88 | [๑๔๙] ทรงอนุญาตมีดโกน หินลับมีดโกน ฝักมีดโกน ผ้าพันมีดโกน เครื่อง มีดโกนทุกอย่าง (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/56/189/56/18 9/59/20 |
89 | [๑๕๐] ภิกษุไม่พึงตัดหนวด ไม่พึงปล่อยหนวดไว้ให้ยาว ไม่พึงไว้เครา ไม่พึง แต่งหนวดเป็นสี่เหลี่ยม ไม่พึงขมวดกลุ่มขนหน้าอก ไม่พึงไว้กลุ่มขนหน้าท้อง ไม่พึงไว้หนวดเป็นเขี้ยวโง้ง ไม่พึงโกนขนในที่แคบ รูปใดโกนต้องอาบัติทุกกฏ . (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/57/39/57/3 9/60/6 |
90 | [๑๕๑-๑๕๓] ทรงอนุญาตให้โกนขนในที่แคบได้ เพราะเหตุอาพาธ ภิกษุไม่พึง ตัดผมด้วยกรรไกร รูปใดตัดต้องอาบัติทุกกฏ ทรงอนุญาตให้ตัดผมด้วย กรรไกรได้เพราะเหตุอาพาธ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/57/109/57/10 9/60/14 |
91 | [๑๕๔-๑๕๖] ภิกษุไม่พึงไว้ขนจมูกยาว รูปใดไว้ต้องอาบัติทุกกฏ ทรงอนุญาตแหนบ ภิกษุไม่พึงให้ถอนผมหงอก รูปใดให้ถอนต้องอาบัติทุกกฏ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/57/219/57/21 9/61/8 |
92 | [๑๕๗-๑๕๘] ทรงอนุญาตไม้แคะหู ภิกษุไม่พึงใช้ไม้แคะหูต่าง ๆ รูปใดใช้ต้อง อาบัติทุกกฏ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/58/89/58/8 9/61/19 |
93 | [๑๕๙] ภิกษุไม่พึงสั่งสม เครื่องโลหะ เครื่องทองสัมฤทธิ์ รูปใดสั่งสม ต้องอาบัติ ทุกกฏ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/58/229/58/22 9/62/14 |
94 | [๑๖๐] ทรงอนุญาตกล่องยาตา ไม้ป้ายยาตา ไม้แคะหู เพียงห่อรวมกันไว้ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/59/39/59/3 9/62/18 |
95 | [๑๖๑] ภิกษุไม่พึงนั่งรัดเข่าด้วยผ้าสังฆาฏิ รูปใดนั่งต้องอาบัติทุกกฏ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/59/79/59/7 9/62/23 |
96 | [๑๖๒] ทรงอนุญาตผ้ารัดเข่า ทรงอนุญาตให้ไม้สะดึงที่แผ่ด้าย ฟืม ด้ายพัน ไม้สลักทอ และเครื่องหูกทุกอย่าง (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/59/119/59/11 9/63/4 |
97 | [๑๖๓] ภิกษุไม่มีประคดเอว ไม่พึงเข้าบ้าน รูปใดเข้าบ้านต้องอาบัติทุกกฏ ทรงอนุญาตผ้ารัดประคดเอว (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/59/199/59/19 9/63/12 |
98 | [๑๖๔] ภิกษุไม่พึงใช้ประคดเอวต่างๆ คือ ประคดเอวถักด้วยเชือกหลายชั้น ประคดถักเป็นหัวงูน้ำ ประคดกลมคล้ายเกลียวเชือก ประคดคล้ายสังวาล รูปใดใช้ต้องอาบัติทุกกฏ ทรงอนุญาตประคด 2 ชนิด คือ ประคดแผ่นผ้า ประคดกลมคล้ายไส้สุกร (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/60/39/60/3 9/63/20 |
99 | [๑๖๔] ชายผ้าประคดเอวเก่า ให้ถักกลมคล้ายเกลียวเชือก, ให้ถักคล้ายสังวาล ได้ ปลายประคดเก่า ให้เย็บทบเข้ามา ถักเป็นห่วง, ห่วงประคดเอวเก่า ทรง อนุญาตลูกถวิล (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/60/89/60/8 9/64/2 |
100 | [๑๖๕] ภิกษุไม่พึงใช้ลูกถวิลต่าง ๆ รูปใดใช้ต้องอาบัติทุกกฏ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/60/159/60/15 9/64/11 |
101 | [๑๖๖-๑๖๗] ทรงอนุญาตลูกดุม และรังดุม , ภิกษุไม่พึงใช้ลูกดุมต่างๆ รูปใด ใช้ต้องอาบัติทุกกฏ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/61/29/61/2 9/64/19 |
102 | [๑๖๗] ทรงอนุญาตลูกดุมทำด้วยกระดูก งา เขา ไม้อ้อ ไม้ไผ่ ไม้จริง ยางไม้ เมล็ดผลไม้ โลหะ กระดองสังข์ เส้นด้าย (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/61/99/61/9 9/65/4 |
103 | [๑๖๘] ทรงอนุญาตแผ่นผ้ารองลูกดุม แผ่นผ้ารองรังดุม ให้ติดที่ชายผ้า ลึกเข้าไป 7-8 นิ้ว (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/61/139/61/13 9/65/8 |
104 | [๑๖๙-๑๗๑] ภิกษุไม่พึงนุ่งผ้า อย่างคฤหัสถ์, ห่มอย่างคฤหัสถ์, ไม่พึงนุ่งผ้า เหน็บชายกระเบน รูปใดนุ่งต้องอาบัติทุกกฏ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/62/19/62/1 9/65/20 |
105 | [๑๗๒] ภิกษุไม่พึงหาบของ 2 ข้าง รูปใดหาบต้องอาบัติทุกกฏ อนุญาตให้คอน หาม เทิน แบก กระเดียด หิ้ว (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/62/169/62/16 9/66/14 |
106 | [๑๗๓] การไม่เคี้ยวไม้ชำระฟัน มีโทษ 5 ประการ ทรงอนุญาตไม้ชำระฟัน (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/62/229/62/22 9/66/20 |
107 | [๑๗๔] ภิกษุไม่พึงเคี้ยวไม้ ชำระฟันยาว รูปใดเคี้ยวต้องอาบัติทุกกฏ อนุญาต ไม้ชำระฟันยาว 8 นิ้ว เป็นอย่างยิ่ง และไม่พึงตีสามเณรด้วยไม้นั้น รูปใดตี ต้องอาบัติทุกกฏ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/63/109/63/10 9/67/8 |
108 | [๑๗๕] ภิกษุไม่พึงเคี้ยวไม้ชำระฟันสั้นเกินไป รูปใดเคี้ยว ต้องอาบัติทุกกฏ อนุญาตไม้ชำระฟันขนาด 4 นิ้ว เป็นอย่างต่ำ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/63/169/63/16 9/67/14 |
109 | [๑๗๖-๑๗๗] ภิกษุไม่พึงเผากองหญ้า รูปใดเผาต้องอาบัติทุกกฏ. ทรงอนุญาต เมื่อไฟป่าไหม้มาถึง ให้จุดไฟรับ เพื่อป้องกัน (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/64/29/64/2 9/67/21 |
110 | [๑๗๘-๑๗๙] ภิกษุไม่พึงขึ้นต้นไม้ รูปใดขึ้นต้องอาบัติทุกกฏ เมื่อมีกิจจำเป็น ให้ขึ้นต้นไม้สูงชั่วบุรุษ ในคราวมีอันตรายขึ้นได้ตามประสงค์ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/64/119/64/11 9/68/7 |
111 | [๑๘๐] ภิกษุไม่พึงยกพุทธวจนะ ขึ้นโดยภาษาสันสกฤต รูปใดยกขึ้นต้องอาบัติ ทุกกฏ ให้เรียนตามภาษาเดิม (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/65/79/65/7 9/69/6 |
112 | [๑๘๑-๑๘๒] ภิกษุไม่พึงเรียน-สอน คัมภีร์โลกายตะ รูปใดเรียน-สอน ต้อง อาบัติทุกกฏ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/65/219/65/21 9/69/20 |
113 | [๑๘๓-๑๘๔] ภิกษุไม่พึงเรียน-สอน ดิรัจฉานวิชา รูปใดเรียน-สอน ต้องอาบัติ ทุกกฏ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/66/99/66/9 9/70/8 |
114 | [๑๘๕] ภิกษุไม่พึงกล่าวคำให้พรว่า ขอจงมีชนมายุในเวลาที่เขาจาม รูปใด กล่าว ต้องอาบัติทุกกฏ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/67/29/67/2 9/71/2 |
115 | [๑๘๖] ชาวบ้านมีความต้องการด้วยสิ่งเป็นมงคล ทรงอนุญาตให้ภิกษุที่เขาให้ พรว่า จงเจริญชนมายุ ให้พรตอบแก่ชาวบ้านว่า "ขอท่านจงเจริญชนมายุยืนนาน" (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/67/89/67/8 9/71/8 |
116 | [๑๘๗-๑๘๘] ภิกษุไม่พึงฉันกระเทียม รูปใดฉันต้องอาบัติทุกกฏ ฉันได้เพราะ เหตุแห่งอาพาธ (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/68/19/68/1 9/71/23 |
117 | [๑๘๙] ทรงอนุญาตให้ถ่ายปัสสาวะในที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ทรงอนุญาตหม้อ ปัสสาวะ เขียงเท้าถ่ายปัสสาวะ ให้ล้อมด้วย อิฐ หิน ฝาไม้ ทรงอนุญาตฝาปิด (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/68/119/68/11 9/72/10 |
118 | [๑๙๐] ทรงอนุญาตให้ถ่ายอุจจาระในที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ทรงอนุญาตหลุม ถ่ายอุจจาระ ให้ก่อกรุ ด้วย อิฐ ศิลา ไม้ ให้ถมพื้นให้สูง..., ให้ลาดพื้น แล้วเจาะ ช่องตรงกลาง ทรงอนุญาตเขียงรองเท้าถ่ายอุจจาระ, รางรองปัสสาวะ, ไม้ชำระ, ตะกร้ารองรับไม้ชำระ , ทรงอนุญาตฝาปิด (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/68/219/68/21 9/72/21 |
119 | [๑๙๑] ทรงอนุญาตวัจจกุฎี (ส้วม) บานประตู... (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/69/189/69/18 9/73/20 |
120 | [๑๙๒-๑๙๔] ทรงอนุญาตเชือกห้อยสำหรับเหนี่ยว... หม้ออุจจาระ กระบอก ตักน้ำชำระ เขียงไม้สำหรับนั่งถ่าย...ทรงอนุญาตฝาปิด (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/70/59/70/5 9/74/6 |
121 | [๑๙๕] ภิกษุไม่พึงประพฤติอนาจาร มีอย่างต่างๆ รูปใดประพฤติ ปรับอาบัติ ตามธรรม (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/72/219/72/21 9/76/20 |
122 | [๑๙๖] ทรงอนุญาตเครื่องโลหะทุกชนิด เว้นเครื่องประหาร อนุญาตเครื่องไม้ทุก ชนิด เว้นเก้าอี้นอนมีแคร่ บัลลังก์ บาตรไม้ และเขียงไม้ อนุญาตเครื่องดินทุกชนิด เว้นเครื่องเช็ดเท้า และกุฎีที่ทำด้วยดินเผา (ขุททกวัตถุขันธกะ) 9/73/109/73/10 9/77/7 |
123 | บังเวียนกระดานที่ไม่ได้จักเป็นฟันมังกร ไม่ควรแก่ภิกษุผู้ไม่อาพาธ ส่วนแผ่นอิฐ หรือแผ่นกระเบื้อง ควรอยู่ (ขุททกวัตถุขันธกวรรณนา) 9/80/59/80/5 9/83/24 |
124 | ภายใน 2 เดือน ผมยาวถึง 2 นิ้ว ต้องปลงภายใน 2 เดือนเท่านั้น แต่จะปล่อย ให้ยาวเกิน 2 นิ้ว ไม่ควร (ขุททกวัตถุขันธกวรรณนา) 9/81/19/81/1 9/85/4 |
125 | พึงชุบมือให้เปียก แล้วเช็ดศีรษะ เพื่อยังผมที่มีปลายงอนให้ราบไป หรือเช็ด ศีรษะ ที่ร้อน และเปื้อนฝุ่นก็ควร (ขุททกวัตถุขันธกวรรณนา) 9/81/159/81/15 9/85/20 |
126 | สมควรมองดูเงาหน้า เพื่อตรวจดูอายุสังขาร ว่าเราแก่หรือยังหนอ ก็ได้ (ขุททกวัตถุขันธกวรรณนา) 9/82/39/82/3 9/86/10 |
127 | ภิกษุขับเอง หรือให้ผู้อื่นขับเป็นทุกกฏ แม้การประโคม ก็ไม่ควร แต่เมื่อรำคาญ หรือตั้งอยู่ในที่น่ารังเกียจ จึงดีดนิ้วมือ หรือตบมือก็ตาม ไม่ต้องอาบัติไม่เป็น อาบัติแก่ภิกษุผู้อยู่ในวัด เห็นการเล่นทุกอย่าง (ขุททกวัตถุขันธกวรรณนา) 9/82/209/82/20 9/87/8 |
128 | เสียงขับที่ทำลายวัตร(คือวิธีเปลี่ยนเสียง)นั้นๆ ทำอักขระให้เสีย ชื่อว่า เสียงขับ อันยาว (ขุททกวัตถุขันธกวรรณนา) 9/83/159/83/15 9/88/5 |
129 | พระฉัพพัคคีย์ห่มผ้า ปาวารขนสัตว์ เอาขนไว้ข้างนอกเป็นทุกกฏ ห่มเอาขนไว้ ข้างในควรอยู่ (ขุททกวัตถุขันธกวรรณนา) 9/84/39/84/3 9/88/16 |
130 | เป็นถุลลัจจัย แก่ภิกษุผู้ตัดองคชาต เท่านั้น ตัดอวัยวะอื่น ต้องทุกกฏ ไม่เป็น อาบัติแก่ผู้เจาะโลหิต หรือตัดอวัยวะเพราะถูกงู หรือร่าน กัดก็ตาม (ขุททกวัตถุขันธกวรรณนา) 9/84/79/84/7 9/88/20 |
131 | อิทธิปาฏิหาริย์ คือ การแผลง ทรงห้าม ส่วนฤทธิ์สำเร็จด้วยอำนาจอธิษฐาน ไม่ได้ทรงห้าม (ขุททกวัตถุขันธกวรรณนา) 9/84/199/84/19 9/89/8 |
132 | ภาชนะที่ทำด้วยแก้วผลึก กระจก สำริด ไม่ควรใช้เป็นของส่วนตัว แต่ใช้เป็น ของสงฆ์ หรือเป็นของคฤหัสถ์ ควรอยู่ (ขุททกวัตถุขันธกวรรณนา) 9/85/39/85/3 9/89/15 |
133 | บนเชิงบาตร ที่เนื่องกับพื้นซึ่งทำด้วยงา เถาวัลย์ หวาย ควรวางซ้อนกันได้ 3 บาตร บนเชิงไม้ควรวางซ้อนกันได้ 2 บาตร (ขุททกวัตถุขันธกวรรณนา) 9/85/169/85/16 9/90/5 |
134 | เชิงบาตรท่อนไม้ ที่ผูกด้วยไม้ 3 ท่อน ไม่เป็นโอกาสแห่งบาตร แม้ใบเดียว ถ้า วางไว้บนนั้น ต้องเอามือจับไว้. ส่วนบนพื้นพึงคว่ำวางไว้ แต่ใบเดียวเท่านั้น (ขุททกวัตถุขันธกวรรณนา) 9/86/19/86/1 9/90/12 |
135 | ริมเฉลียง, กระดานเลียบ ถ้าบาตรกลิ้งไปแล้ว จะค้างอยู่บนบริเวณกระดาน นั้นเอง จะวางก็ควร (ขุททกวัตถุขันธกวรรณนา) 9/86/49/86/4 9/90/16 |
136 | ภิกษุจะวางบาตรไว้ บนพื้นที่ไม่ประทุษร้ายบาตร หรือบนทรายก็ได้ จะวางไว้ บนดินร่วน และฝุ่น หรือบนพื้นที่คมแข็ง ต้องทุกกฏ (ขุททกวัตถุขันธกวรรณนา) 9/86/119/86/11 9/90/23 |
137 | จะมัดบาตรรวมกับของอื่น วางไว้บนเตียงตั่งควรอยู่ หรือผูกบาตรที่แม่แคร่ ห้อยไว้ก็ควร จะผูกแล้ววางข้างบนเตียงตั่ง ไม่ควร (ขุททกวัตถุขันธกวรรณนา) 9/87/19/87/1 9/91/13 |
138 | เขานำเตียงตั่ง ยกพาดไว้เป็นนั่งร้าน จะวางบาตรบนนั้นก็ควร จะเอาสายโยก คล้องบนจะงอยบ่า แล้ววางบนตักก็ควร (ขุททกวัตถุขันธกวรรณนา) 9/87/39/87/3 9/91/15 |
139 | เมื่อบาตรอยู่ในมือ หรือบนหลังเท้า ภิกษุย่อมไม่ได้เพื่อผลักบานประตู หรือ ไขกุญแจด้วยมือ หรือด้วยหลังเท้า แต่คล้องบาตร บนจะงอยบ่าแล้วย่อมทำกิจ ได้ตามสบาย (ขุททกวัตถุขันธกวรรณนา) 9/87/129/87/12 9/91/22 |
140 | ภิกษุจะรักษากะโหลกน้ำเต้าไว้ไม่ควร แต่จะใช้เป็นของยืม ควรอยู่ (ขุททกวัตถุขันธกวรรณนา) 9/87/179/87/17 9/92/2 |
141 | จีวร เตียง ตั่ง เป็นของบังสุกุล ควรอยู่ (ขุททกวัตถุขันธกวรรณนา) 9/88/19/88/1 9/92/9 |
142 | ภิกษุจะจับบาตรที่สะอาดด้วยมือที่เปื้อนไม่ควร จะวางเนื้อที่มีกระดูก ปลาที่มี ก้างในบาตร แล้วเอามือปล้อนออกฉันก็ควร แต่สิ่งใดเอาออกจากปากแล้ว ยังอยากจะฉันอีก จะเอาสิ่งนั้นวางในบาตรไม่ได้ ชิ้นขิง และ ชิ้นมะพร้าว เป็นต้น กัดกินแล้วจะวางอีกก็ได้ (ขุททกวัตถุขันธกวรรณนา) 9/88/89/88/8 9/92/16 |
143 | เรือนที่ทำด้วยจีวร เรียกว่า มุ้งกันยุง (ขุททกวัตถุขันธกวรรณนา) 9/91/209/91/20 9/96/10 |
144 | ลุ้ง ที่ทำด้วยทองแดง หรือด้วยเงิน แม้ทำด้วยไม้ก็ไม่ควร เพราะเป็นของที่ ทรงห้ามแล้ว (ขุททกวัตถุขันธกวรรณนา) 9/93/199/93/19 9/98/6 |
145 | เครื่องรองทำด้วยไม้ทั้งท่อน เรียกว่า โตก แม้ที่ทำด้วยใบกระเช้า และตะกร้า ก็นับว่าโตก (ขุททกวัตถุขันธกวรรณนา) 9/93/229/93/22 9/98/9 |
146 | วัตถุมีไม้เส้า เป็นต้นนั้น จำเดิมแต่ที่ถึงความรวมลงว่าเป็นเครื่องรอง มีช่องเจาะ ไว้ข้างในก็ตาม เจาะไว้โดยรอบ ก็ตาม ก็ควรเหมือนกัน (ขุททกวัตถุขันธกวรรณนา) 9/94/19/94/1 9/98/11 |
147 | ภิกษุรูปหนึ่งถือเอาผลไม้ หรือขนมจากภาชนะไป ภิกษุอื่นจะฉันผลไม้ หรือ ขนมที่ยังเหลือ ย่อมควร แม้ภิกษุนอกจากนี้จะถือเอาอีกในขณะนั้น ก็ควร (ขุททกวัตถุขันธกวรรณนา) 9/94/59/94/5 9/98/15 |
148 | เครื่องเช็ดเท้าที่เขาทำให้หนามตั้งขึ้น ท่าทางคล้ายฝักบัว ไม่ควรรับ ไม่ควร ใช้สอย (ขุททกวัตถุขันธกวรรณนา) 9/95/189/95/18 9/100/6 |
149 | ภิกษุจะกางร่มเพื่อรักษาจีวร เมื่อฝนตก จะกางร่มเพื่อป้องกันตน ก็ควร (ขุททกวัตถุขันธกวรรณนา) 9/96/99/96/9 9/101/4 |
150 | เว้นผู้มักอ้วกเสีย เป็นอาบัติแก่ภิกษุที่อ้วกออกมาค้างอยู่ ที่ปากแล้วกลืนกิน แต่ถ้าไม่ทันค้าง ไหลลงลำคอไป ควรอยู่ (ขุททกวัตถุขันธกวรรณนา) 9/97/39/97/3 9/101/19 |
151 | ไม่มีอาบัติ เพราะถอนขนจมูก ด้วยกรวด เป็นต้น ส่วนแหนบ ทรงอนุญาต เพื่อรักษาตัว (ขุททกวัตถุขันธกวรรณนา) 9/98/99/98/9 9/103/6 |
152 | ขนใดขึ้นที่คิ้ว ที่หน้าผาก หรือหนวดเป็นของน่าเกลียด จะหงอกหรือไม่หงอก ก็ควรถอน (ขุททกวัตถุขันธกวรรณนา) 9/98/139/98/13 9/103/10 |
153 | ประคดแผ่นที่ทอตามปกติ หรือถักเป็นก้างปลาย่อมควร ทรงอนุญาตการถัก ด้ายให้กลม การถักสายสังวาลนี้ ทรงอนุญาตเฉพาะที่ชายทั้งสอง ก็ชายกลม และชายดังสายสังวาลนี้ ชายดังสายสังวาลเกิน 4 ชายไม่ควร (ขุททกวัตถุขันธกวรรณนา) 9/99/69/99/6 9/104/8 |
154 | การนุ่งหยักรั้งนั้น ไม่ควรแก่ภิกษุผู้อาพาธ ทั้งผู้เดินทาง (ขุททกวัตถุขันธกวรรณนา) 9/100/659/100/65 9/105/8 |
155 | ภิกษุอาพาธจะนุ่งโจงกระเบนข้างใน แล้วนุ่งอีกผืนหนึ่ง ข้างนอกก็ได้ (ขุททกวัตถุขันธกวรรณนา) 9/100/119/100/11 9/105/13 |
156 | ภิกษุผู้ไม่อาพาธ เมื่อจะนุ่ง 2 ผืน พึงซ้อนกันเข้าเป็น 2 ชั้น แล้วนุ่ง (ขุททกวัตถุขันธกวรรณนา) 9/100/139/100/13 9/105/15 |
157 | ภิกษุผู้ไม่นุ่งห่มอย่างนั้น กระทำวิการอย่างใดอย่างหนึ่ง ด้วยไม่เอื้อเฟื้อในวัด หรือในละแวกบ้าน ก็ตาม ย่อมเป็นทุกกฏ (ขุททกวัตถุขันธกวรรณนา) 9/101/209/101/20 9/106/19 |
158 | การป้องกันไฟ เมื่อมีอนุปสัมบัน ภิกษุจะจุดไฟเอง ย่อมไม่ได้ เมื่อไม่มีอนุปสัมบัน ภิกษุจะจุดไฟเอง จะถางพื้นดินนำหญ้าออกมา จะขุดคู จะหักกิ่งไม้สดดับไฟ ย่อมได้ (ขุททกวัตถุขันธกวรรณนา) 9/102/189/102/18 9/107/15 |
159 | [๒๐๐] ทรงอนุญาตเสนาสนะ 5 ชนิด คือ วิหาร เรือนมุงแถบเดียว เรือนชั้น เรือนโล้น ถ้ำ (เสนาสนขันธกะ) 9/106/109/106/10 9/111/5 |
160 | [๒๐๒] ทรงตรัสให้ ราชคหเศรษฐี ถวายวิหารแก่สงฆ์จตุรทิศ ทั้งที่มาแล้ว และ ยังไม่มา (เสนาสนขันธกะ) 9/107/109/107/10 9/112/5 |
161 | [๒๐๔] ทรงอนุญาตบานประตู กรอบเช็ดหน้า ครกรับเดือยประตู ช่องเชือกชัก เชือกสำหรับชัก สายยู ไม้หัวลิง ลิ่ม กลอน (เสนาสนขันธกะ) 9/108/179/108/17 9/113/7 |
162 | [๒๐๕] ทรงอนุญาตช่องลูกดาล ลูกดาลมี 3 คือ ทำด้วยโลหะ ไม้ เขา อนุญาต ลิ่มยนต์ (เสนาสนขันธกะ) 9/109/59/109/5 9/113/18 |
163 | [๒๐๖] ทรงอนุญาตให้รื้อหลังคาลง แล้วฉาบด้วยดินทั้งข้างนอกข้างใน 9/109/119/109/11 9/114/3 |
164 | [๒๐๗] ทรงอนุญาตหน้าต่าง 3 ชนิด คือ หน้าต่างมีชุกชี หน้าต่างมีข่าย หน้าต่างมีซี่กรง (เสนาสนขันธกะ) 9/109/159/109/15 9/114/8 |
165 | [๒๐๗] ทรงอนุญาตผ้าผืนเล็กสำหรับหน้าต่าง อนุญาตบานหน้าต่าง มู่ลี่หน้าต่าง (เสนาสนขันธกะ) 9/109/189/109/18 9/114/12 |
166 | [๒๐๘] ภิกษุนอนบนดิน จึงทรงอนุญาตให้ลาดด้วยหญ้า ทรงอนุญาตแผ่น กระดานคล้ายตั่ง เตียงถัก หรือสาน (เสนาสนขันธกะ) 9/110/29/110/2 9/114/18 |
167 | [๒๐๙] ทรงอนุญาตเตียงมีแคร่สอดเข้าในเท้า ตั่งมีแคร่สอดเข้าในเท้า 9/110/119/110/11 9/115/4 |
168 | [๒๑๐] ทรงอนุญาตเตียงมีแคร่ติดกับเท้า ตั่งมีแคร่ติดกับเท้า (เสนาสนขันธกะ) 9/110/169/110/16 9/115/10 |
169 | [๒๑๑-๒๑๒] ทรงอนุญาตเตียงมีเท้าดังก้ามปู ตั่งมีเท้าดังก้ามปู เตียงมีเท้าจด แม่แคร่ ตั่งมีเท้าจดแม่แคร่ (เสนาสนขันธกะ) 9/111/19/111/1 9/115/16 |
170 | [๒๑๓] ทรงอนุญาตม้าสี่เหลี่ยม ม้าสี่เหลี่ยมชนิดสูง ม้าสี่เหลี่ยมมีพนัก 3 ด้าน ม้าสี่เหลี่ยมมีพนัก 3 ด้านชนิดสูง ตั่งหวาย ตั่งหวายหุ้มด้วยผ้า ตั่งขาทราย ตั่งทรงมะขามป้อม แผ่นกระดาน เก้าอี้ ตั่งฟาง (เสนาสนขันธกะ) 9/111/119/111/11 9/116/4 |
171 | [๒๑๔-๒๑๕] ภิกษุไม่พึงนอนบนเตียงสูง รูปใดนอนต้องอาบัติทุกกฏ ทรงอนุญาตเขียงรองเท้าเตียง (เสนาสนขันธกะ) 9/112/169/112/16 9/117/5 |
172 | [๒๑๖] ภิกษุไม่พึงใช้เขียงรองเท้าเตียงสูง รูปใดใช้ต้องอาบัติทุกกฏ ทรงอนุญาต เขียงรองเท้าเตียง 8 นิ้วเป็นอย่างยิ่ง (เสนาสนขันธกะ) 9/113/49/113/4 9/117/15 |
173 | [๒๑๗] ทรงอนุญาตด้ายไว้ถักเตียง ให้เจาะตัวเตียง แล้วถักเป็นตาหมากรุก 9/113/109/113/10 9/117/21 |
174 | [๒๑๗] ผ้าผืนน้อย ๆ บังเกิด ทรงอนุญาตให้ทำเป็นผ้ารองพื้น, นุ่นให้สางออก ทำหมอน นุ่นมี 3 ชนิด คือ นุ่นต้นไม้ นุ่นเถาวัลย์ นุ่นหญ้า (เสนาสนขันธกะ) 9/113/129/113/12 9/118/1 |
175 | [๒๑๘] ภิกษุไม่พึงใช้หมอนยาวกึ่งกาย รูปใดใช้ต้องทุกกฏ ทรงอนุญาตให้ทำ หมอนพอดีกับศีรษะ (เสนาสนขันธกะ) 9/113/219/113/21 9/118/10 |
176 | [๒๑๙] ทรงอนุญาตฟูก 5 ชนิด คือ ฟูกขนสัตว์ ฟูกผ้า ฟูกเปลือกไม้ ฟูกหญ้า ฟูกใบไม้ (เสนาสนขันธกะ) 9/114/79/114/7 9/118/20 |
177 | [๒๒๐] ผ้าอันเป็นบริขารของเสนาสนะบังเกิดแก่สงฆ์ ทรงอนุญาตให้หุ้มฟูก (เสนาสนขันธกะ) 9/114/99/114/9 9/119/2 |
178 | [๒๒๑] ทรงอนุญาตเตียงหุ้มฟูก ตั่งหุ้มฟูก ให้ใช้ผ้ารองปูพื้น และหุ้มฟูก, โจรลัก ผ้าหุ้มฟูกไป ทรงอนุญาตให้จดไว้ ทำรอยไว้ พิมพ์รอยนิ้วมือไว้ (เสนาสนขันธกะ) 9/114/159/114/15 9/119/6 |
179 | [๒๒๒] ทรงอนุญาตสีขาว สีดำ ทำบริกรรม(ทา) ด้วยสีเหลืองในวิหาร (เสนาสนขันธกะ) 9/115/29/115/2 9/119/17 |
180 | [๒๒๓] ทรงอนุญาตให้ใช้ดินปนแกลบ แล้วกวดด้วยเกรียง ให้ใช้ดินละเอียด แล้วกวดด้วยเกรียงให้สีขาวจับ ให้ใช้ยางไม้ และแป้งเปียก (เสนาสนขันธกะ) 9/115/69/115/6 9/119/21 |
181 | [๒๒๔] สีเหลืองไม่จับ ทรงให้ใช้ดินปนแกลบ แล้วกวดด้วยเกรียง ให้ใช้ดินปนรำ แล้วกวดด้วยเกรียง ให้ใช้แป้งเมล็ดพันธุ์ผักกาด ขี้ผึ้งเหลว ครั้นหนาเกินไป ให้เช็ดออกด้วยท่อนผ้า (เสนาสนขันธกะ) 9/115/149/115/14 9/120/6 |
182 | [๒๒๕] พื้นดินหยาบสีดำไม่จับ ทรงอนุญาตให้ใช้ดินปนแกลบ แล้วกวดด้วย เกรียง ให้ใช้ยางไม้ น้ำฟาด (เสนาสนขันธกะ) 9/115/229/115/22 9/120/15 |
183 | [๒๒๖] ภิกษุไม่พึงให้เขียนภาพสตรี บุรุษ รูปใดให้เขียน ต้องอาบัติทุกกฏ ทรงอนุญาตภาพดอกไม้ เครือเถา ฟันมังกร ดอกจอก 5 กลีบ (เสนาสนขันธกะ) 9/116/79/116/7 9/121/2 |
184 | [๒๒๗] วิหารต่ำ ทรงอนุญาตให้ถมพื้นให้สูง ก่อกรุด้วย อิฐ ศิลา ไม้, ทรงอนุญาต บันได ราวสำหรับยึด (เสนาสนขันธกะ) 9/116/119/116/11 9/121/8 |
185 | [๒๒๘] ทรงอนุญาตผ้าม่าน ฝากึ่งหนึ่ง อนุญาตห้อง 3 ชนิด คือ ห้องสี่เหลี่ยม จัตุรัส ห้องยาว ห้องคล้ายตึกโล้น (เสนาสนขันธกะ) 9/116/219/116/21 9/121/15 |
186 | [๒๒๙] ทรงอนุญาตให้ทำห้องไว้ส่วนข้างหนึ่งในวิหารเล็ก ส่วนวิหารใหญ่ ให้ทำไว้ตรงกลางได้ (เสนาสนขันธกะ) 9/117/99/117/9 9/121/23 |
187 | [๒๓๐-๒๓๑] เชิงฝาวิหารเก่า ทรงอนุญาตกรอบเชิงฝา ฝนสาด ทรงอนุญาต แผงกันสาด ดินปนเถ้ากับขี้วัว ทรงอนุญาตเพดาน (เสนาสนขันธกะ) 9/117/119/117/11 9/122/2 |
188 | [๒๓๒-๒๓๓] ทรงอนุญาตไม้เดือยติดฝา ไม้นาคทนต์ ทรงอนุญาตราวจีวร สายระเดียง ในวิหาร (เสนาสนขันธกะ) 9/118/19/118/1 9/122/12 |
189 | [๒๓๔] ทรงอนุญาตระเบียง เฉลียงลับแล หน้ามุขมีหลังคา , ระเบียงโล่งโถง จึงทรงอนุญาตกันสาดเลื่อน ฝาค้ำ (เสนาสนขันธกะ) 9/118/99/118/9 9/122/20 |
190 | [๒๓๕] ทรงอนุญาตหอฉัน (เสนาสนขันธกะ) 9/118/159/118/15 9/123/2 |
191 | [๒๓๖] ทรงอนุญาตราวจีวร สายระเดียงไว้กลางแจ้ง ทรงอนุญาตโรงน้ำฉัน ปะรำน้ำฉัน... สังข์ตักน้ำดื่ม ขันตักน้ำดื่ม (เสนาสนขันธกะ) 9/119/49/119/4 9/123/14 |
192 | [๒๓๗] ทรงอนุญาตให้ล้อมวิหารด้วยเครื่องล้อม 3 ชนิด คือ อิฐ ศิลา ไม้ (เสนาสนขันธกะ) 9/119/179/119/17 9/124/5 |
193 | [๒๓๘] บริเวณเป็นตม ทรงอนุญาตให้โรยกรวดแร่ ปูศิลาเรียบ ทรงอนุญาต ท่อระบายน้ำ (เสนาสนขันธกะ) 9/120/49/120/4 9/124/15 |
194 | [๒๓๙] ทรงอนุญาตให้ทำโรงไฟไว้ ในที่ควรส่วนข้างหนึ่ง... (เสนาสนขันธกะ) 9/120/119/120/11 9/124/22 |
195 | [๒๔๐] ทรงอนุญาตเครื่องมุง 5 ชนิด คือ กระเบื้อง หิน ปูนขาว หญ้า ใบไม้ 9/121/169/121/16 9/126/6 |
196 | [๒๔๖] ช้าง 1 แสน, ม้า 1 แสน, รถม้าอัสดร 1 แสน, สาวน้อยประดับ, ต่างหู เพชร 1 แสน, ก็ยังไม่เท่าเสี้ยวที่ 16 แห่งการย่างเท้าไปก้าวหนึ่ง (เพื่อไปหา พระพุทธองค์) (เสนาสนขันธกะ) 9/124/19/124/1 9/128/13 |
197 | [๒๕๐] อนาถบิณฑิกเศรษฐีได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าแล้วได้บรรลุโสดาบัน ณ ป่าสีตะวัน (เสนาสนขันธกะ) 9/126/59/126/5 9/130/9 |
198 | [๒๕๖] อนาถบิณฑิกเศรษฐีได้ให้สร้างวิหารหลายหลัง ในพระเชตวัน สร้างบริเวณ ซุ้มประตู ศาลาหอฉัน โรงไฟ กัปปิยกุฎี ส้วม ที่จงกรม โรงจงกรม บ่อน้ำ ศาลาบ่อน้ำ เรือนไฟ ศาลาเรือนไฟ สระโบกขรณี มณฑป (เสนาสนขันธกะ) 9/130/149/130/14 9/134/15 |
199 | [๒๕๙] ทรงอนุญาตให้ๆ การก่อสร้าง ภิกษุผู้อำนวยการก่อสร้าง ต้องขวนขวาย ว่า ทำไฉนหนอ วิหารจึงสำเร็จได้เร็ว ต้องซ่อมสิ่งที่หักพัง (เสนาสนขันธกะ) 9/131/179/131/17 9/135/17 |
200 | [๒๖๒-๒๖๓] เรื่องสัตว์ 3 สหาย ผู้ให้ความเคารพยำเกรงต่อกัน (เสนาสนขันธกะ) 9/135/49/135/4 9/138/24 |
201 | [๒๖๓] ทรงอนุญาตการกราบไหว้ การลุกรับ การทำอัญชลีกรรม การทำสามีจิกรรม อาสนะที่เลิศ น้ำอันเลิศ บิณฑบาตอันเลิศ ตามลำดับผู้แก่กว่า ภิกษุ ไม่ควรเกียดกัน เสนาสนะของสงฆ์ตามลำดับผู้แก่กว่า รูปใดเกียดกันต้อง อาบัติทุกกฏ (เสนาสนขันธกะ) 9/136/159/136/15 9/140/12 |
202 | [๒๖๔] บุคคล 10 จำพวก ภิกษุไม่ควรไหว้, บุคคลที่ภิกษุควรไหว้ 3 จำพวก (เสนาสนขันธกะ) 9/136/209/136/20 9/140/17 |
203 | [๒๖๖] แม้ของที่เขาทำเจาะจง ภิกษุก็ไม่พึงเกียดกันตามลำดับผู้แก่กว่า รูปใด เกียดกัน ต้องอาบัติทุกกฏ (เสนาสนขันธกะ) 9/138/159/138/15 9/142/14 |
204 | [๒๖๗] ทรงอนุญาตเครื่องลาดที่เป็น คิหิวิกัฏ (เครื่องใช้แบบคฤหัสถ์) เว้น เครื่องลาด 3 ชนิด คือ เก้าอี้นอน เตียงใหญ่ เครื่องลาดที่ยัดนุ่น นอกนั้นนั่ง ทับได้ แต่จะนอนทับไม่ได้ (เสนาสนขันธกะ) 9/139/49/139/4 9/143/5 |
205 | [๒๖๘] ทรงอนุญาตให้นั่งทับเตียง ตั่งที่เป็น คิหิวิกัฏได้ แต่จะนอนทับไม่ได้ 9/139/109/139/10 9/143/10 |
206 | [๒๗๐] ทรงรับสั่งให้อนาถบิณฑิกเศรษฐี ถวายวิหารในสงฆ์จตุรทิศ ทั้งที่มา แล้วและยังไม่มา (เสนาสนขันธกะ) 9/140/109/140/10 9/144/8 |
207 | [๒๗๒] ภิกษุไม่พึงให้ภิกษุผู้นั่งในลำดับลุกขึ้นทั้งที่ยัง ฉันอาหารค้างอยู่ รูปใด ให้ลุกขึ้น ต้องอาบัติทุกกฏ ถ้าให้ลุกขึ้นย่อมเป็นอันห้ามภัตรด้วย. พึงกล่าวว่า ท่านจงไปหาน้ำมา ถ้าไม่ได้ พึงกลืนอาหารให้เรียบร้อยแล้ว จึงให้อาสนะแก่ ภิกษุผู้แก่กว่า. มิได้หมายความว่าภิกษุพึงหวงกัน อาสนะแก่ภิกษุผู้แก่กว่า โดยปริยายไรๆ รูปใดหวงกัน ต้องอาบัติทุกกฏ (เสนาสนขันธกะ) 9/142/109/142/10 9/146/2 |
208 | [๒๗๓] ภิกษุไม่พึงไล่ภิกษุอาพาธให้ลุกขึ้น รูปใดไล่ให้ลุกขึ้นต้องอาบัติทุกกฏ 9/142/219/142/21 9/146/15 |
209 | [๒๗๔-๒๗๕] ทรงอนุญาตให้ที่นอน เหมาะสมแก่ภิกษุอาพาธ, ภิกษุมีอาพาธ เล็กน้อย ไม่พึงหวงกันเสนาสนะไว้ รูปใดหวงกัน ต้องอาบัติทุกกฏ (เสนาสนขันธกะ) 9/143/39/143/3 9/146/19 |
210 | [๒๗๖] ภิกษุไม่พึงโกรธ ขัดเคือง ฉุดคร่าภิกษุทั้งหลายออกจากวิหารของสงฆ์ รูปใดฉุดคร่า พึงปรับตามธรรม อนุญาตให้ภิกษุถือเสนาสนะ (เสนาสนขันธกะ) 9/144/119/144/11 9/148/6 |
211 | [๒๗๗-๒๗๘] ทรงอนุญาตให้สมมติภิกษุ ผู้ประกอบด้วยองค์ 5 เป็นผู้ให้ ถือ เสนาสนะ ด้วยญัตติทุติยกรรมวาจา (เสนาสนขันธกะ) 9/144/179/144/17 9/148/12 |
212 | [๒๗๙] ทรงอนุญาตให้นับภิกษุก่อน แล้วนับที่นอน จึงให้ถือตามจำนวนที่นอน ให้ถือตามจำนวนวิหาร ให้ถือตามจำนวนบริเวณ ถ้ายังเหลือมาก ให้ส่วนซ้ำอีก เมื่อให้ถือส่วนซ้ำอีกแล้ว ภิกษุรูปอื่นมา ไม่ปรารถนา ก็อย่าพึงให้ (เสนาสนขันธกะ) 9/145/179/145/17 9/149/13 |
213 | [๒๘๐] ภิกษุไม่พึงให้ภิกษุผู้อยู่นอกสีมา ถือเสนาสนะ รูปใดให้ถือต้องอาบัติ ทุกกฏ (เสนาสนขันธกะ) 9/146/69/146/6 9/149/23 |
214 | [๒๘๑] ภิกษุถือเสนาสนะแล้วไม่พึงหวงกันไว้ตลอดทุกเวลา รูปใดหวงกัน ต้องอาบัติทุกกฏ ให้หวงกันไว้ ตลอดพรรษา 3 เดือน หวงกันตลอด ฤดูกาล ไม่ได้ (เสนาสนขันธกะ) 9/146/109/146/10 9/150/4 |
215 | [๒๘๒] การให้ถือเสนาสนะ มี 3 อย่าง คือ วันเข้าพรรษาแรก วันเข้าพรรษาหลัง ในระหว่างพ้นจากนั้น (เสนาสนขันธกะ) 9/146/179/146/17 9/150/11 |
216 | [๒๘๓] ภิกษูรูปเดียว ไม่พึงหวงกันเสนาสนะไว้ 2 แห่ง รูปใดหวงกัน ต้องอาบัติ ทุกกฏ (เสนาสนขันธกะ) 9/148/59/148/5 9/151/23 |
217 | [๒๘๔] ทรงอนุญาตให้ภิกษุนวกะ ผู้สอนนั่งบนอาสนะ เสมอกันหรือสูงกว่าได้ ด้วยความเคารพธรรม ให้ภิกษุเถระผู้เรียน นั่งอาสนะเสมอกัน หรือต่ำกว่าได้ ด้วยความเคารพธรรม (เสนาสนขันธกะ) 9/148/199/148/19 9/152/13 |
218 | [๒๘๕] ทรงอนุญาตให้ภิกษุมีอาสนะเสมอกันนั่งรวมกันได้ (เสนาสนขันธกะ) 9/149/39/149/3 9/152/19 |
219 | [๒๘๖] ทรงอนุญาตให้ภิกษุ ระหว่าง 3 พรรษานั่งรวมกันได้ (เสนาสนขันธกะ) 9/149/79/149/7 9/152/23 |
220 | [๒๘๗] ทรงอนุญาตให้นั่งบนเตียง ละ 2 รูป ตั่งละ 2 รูป (เสนาสนขันธกะ) 9/149/149/149/14 9/153/6 |
221 | [๒๘๘] ทรงอนุญาตให้นั่งอาสนะยาว ร่วมกับภิกษุที่มีอาสนะไม่เสมอกันได้ เว้น บัณเฑาะก์ มาตุคาม อุภโตภยัญชนก (เสนาสนขันธกะ) 9/149/189/149/18 9/153/10 |
222 | [๒๘๙] อาสนะยาวที่สุด กำหนดนั่งได้ 3 รูป (เสนาสนขันธกะ) 9/149/229/149/22 9/153/14 |
223 | [๒๙๐] ทรงอนุญาตการใช้สอย ปราสาททุกอย่าง (เสนาสนขันธกะ) 9/150/59/150/5 9/153/21 |
224 | [๒๙๑] ทรงอนุญาตให้ตัดเท้าเก้าอี้นอน แล้วใช้สอยได้ เตียงใหญ่ทำลาย รูปสัตว์ร้ายเสียแล้วใช้สอยได้ ฟูกที่ยัดนุ่น รื้อแล้วทำเป็นหมอน นอกนั้นทำเป็น เครื่องลาดพื้น (เสนาสนขันธกะ) 9/150/179/150/17 9/154/13 |
225 | [๒๙๒] ของที่ไม่ควรแจกจ่าย 5 หมวด ภิกษุไม่ควรแจกจ่าย แม้สงฆ์ คณะหรือ บุคคล แจกจ่ายไปแล้ว ก็ไม่เป็นอันแจกจ่าย รูปใดแจกจ่าย ต้องอาบัติถุลลัจจัย (เสนาสนขันธกะ) 9/151/199/151/19 9/155/16 |
226 | [๒๙๓] ของที่ไม่ควรแบ่ง 5 หมวด สงฆ์ คณะ บุคคล ไม่ควรแบ่ง แม้แบ่งไป แล้ว ก็ไม่เป็นอันแบ่ง รูปใดแบ่งต้องอาบัติถุลลัจจัย (เสนาสนขันธกะ) 9/154/159/154/15 9/158/5 |
227 | [๒๙๕] ภิกษุไม่พึงให้นวกรรม ด้วยเพียงวางก้อนดิน... วิหารที่สร้างแล้วยังอยู่ใน เวลาแห่งควัน รูปใดให้ต้องอาบัติทุกกฏ (เสนาสนขันธกะ) 9/157/219/157/21 9/160/15 |
228 | [๒๙๕] ทรงอนุญาตให้นวกรรมวิหาร ที่ยังไม่ได้ทำ หรือที่ทำค้างไว้ เฉพาะ วิหารเล็กให้ตรวจดูงานแล้วให้นวกรรม 5-6 ปี เรือนมุงแถบเดียว ให้ตรวจดู งานแล้ว ให้นวกรรม 7-8 ปี วิหารใหญ่ หรือปราสาท ให้ตรวจตรวจดูงานแล้ว ให้นวกรรม 10-12 ปี (เสนาสนขันธกะ) 9/158/169/158/16 9/161/1 |
229 | [๒๙๖] ภิกษุไม่พึงให้นวกรรมวิหารทั้งหลัง รูปใดให้ต้องอาบัติทุกกฏ (เสนาสนขันธกะ) 9/158/239/158/23 9/161/8 |
230 | [๒๙๗] ภิกษุไม่พึงให้นวกรรม 2 ครั้งแก่วิหาร 1 หลัง รูปใดให้ต้องอาบัติทุกกฏ. (เสนาสนขันธกะ) 9/159/39/159/3 9/161/12 |
231 | [๒๙๘] ภิกษุถือเอานวกรรมแล้วไม่พึงให้ภิกษุรูปอื่นอยู่ รูปใดให้อยู่ ต้องอาบัติ ทุกกฏ (เสนาสนขันธกะ) 9/159/79/159/7 9/161/16 |
232 | [๒๙๙] ภิกษุถือเอานวกรรมแล้วไม่พึงเกียดกัน เสนาสนะของสงฆ์ รูปใดเกียดกัน ต้องอาบัติทุกกฏ ให้ถือที่นอนอย่างดีแห่งหนึ่ง (เสนาสนขันธกะ) 9/159/119/159/11 9/161/20 |
233 | [๓๐๐] ภิกษุไม่พึงให้นวกรรม แก่วิหารที่ตั้งอยู่นอกสีมา รูปใดให้ต้องอาบัติทุกกฏ (เสนาสนขันธกะ) 9/159/169/159/16 9/162/1 |
234 | [๓๐๑] ภิกษุถือเอานวกรรมแล้ว ไม่พึงเกียดกันตลอดกาลทั้งปวง รูปใดเกียด กันต้องอาบัติทุกกฏ ทรงอนุญาตให้เกียดกันเฉพาะ 3 เดือนฤดูฝน ไม่ให้เกียด กันตลอดฤดูกาล (เสนาสนขันธกะ) 9/159/209/159/20 9/162/5 |
235 | [๓๐๓] ภิกษุถือเอานวกรรมแล้ว หลีกไป สงฆ์พึงมอบให้แก่ภิกษุรูปอื่น ด้วยสั่ง ว่า อย่าให้ของสงฆ์เสียหาย (เสนาสนขันธกะ) 9/160/149/160/14 9/162/23 |
236 | [๓๐๕-๓๐๗] ภิกษุถือเอานวกรรมแล้ว หลีกไป เมื่อทำสำเร็จแล้ว นวกรรมนั้น ตกเป็นของภิกษุนั่นเอง พอทำเสร็จแล้วสึก... ปฏิญาณเป็นผู้ต้องปาราชิก สงฆ์เป็นเจ้าของ ถ้าปฏิญาณเป็นผู้วิกลจริต... ผู้ถูกสงฆ์ยกวัตร นวกรรมนั้น เป็นของภิกษุนั่นเอง (เสนาสนขันธกะ) 9/161/109/161/10 9/163/19 |
237 | [๓๐๙-๓๑๐] เครื่องใช้ในวิหารแห่งหนึ่ง ภิกษุไม่พึงเอาไปใช้ในวิหารอีกแห่งหนึ่ง รูปใดใช้ต้องอาบัติทุกกฏ ทรงอนุญาตให้นำไปใช้ฐานเป็นของขอยืม (เสนาสนขันธกะ) 9/162/99/162/9 9/164/15 |
238 | [๓๑๑] วิหารชำรุด ภิกษุไม่นำเสนาสนะออกไป จึงทรงอนุญาตให้นำไปเพื่อเก็บ รักษาไว้ได้ (เสนาสนขันธกะ) 9/162/179/162/17 9/165/5 |
239 | [๓๑๒] ผ้ากัมพล มีราคามาก เป็นบริขารสำหรับเสนาสนะ เกิดขึ้นแก่สงฆ์ จึง ทรงอนุญาตให้แลกเปลี่ยนเพื่อประโยชน์ แก่ผาติกรรมได้ (เสนาสนขันธกะ) 9/163/29/163/2 9/165/10 |
240 | [๓๑๔-๓๑๖] หนังหมี เครื่องเช็ดเท้ารูปวงล้อ ผ้าท่อนน้อยบังเกิดแก่สงฆ์ ทรง อนุญาตให้ทำเป็นผ้าเช็ดเท้า (เสนาสนขันธกะ) 9/163/119/163/11 9/165/17 |
241 | [๓๑๗-๓๑๙] ภิกษุไม่พึงเหยียบเสนาสนะด้วยเท้า ที่ยังมิได้ล้าง, ด้วยเท้าที่ยัง เปียก, สวมรองเท้า รูปใดเหยียบ ต้องอาบัติทุกกฏ (เสนาสนขันธกะ) 9/164/19/164/1 9/166/9 |
242 | [๓๒๐] ภิกษุไม่พึงถ่มเขฬะบนพื้นที่ขัดถูแล้ว รูปใดถ่มต้องอาบัติทุกกฏ ทรงอนุญาตกระโถน (เสนาสนขันธกะ) 9/164/169/164/16 9/167/5 |
243 | [๓๒๑] ทรงอนุญาตให้ใช้ผ้าพันเท้าเตียง / ตั่ง กันการครูดพื้นที่ขัดถูแล้ว (เสนาสนขันธกะ) 9/164/199/164/19 9/167/11 |
244 | [๓๒๒] ภิกษุไม่พึงพิงฝาที่ขัดถูแล้ว รูปใดพิง ต้องอาบัติทุกกฏ ทรงอนุญาต พนักอิง ให้ใช้ผ้าพันทั้งข้างล่าง และข้างบน (เสนาสนขันธกะ) 9/165/39/165/3 9/167/15 |
245 | [๓๒๓] ทรงอนุญาตให้ปูลาดก่อนแล้วนอน (เสนาสนขันธกะ) 9/165/119/165/11 9/168/4 |
246 | [๓๒๕] ทรงอนุญาตสังฆภัตร (อาหารถวายสงฆ์) อุทเทสภัตร (อาหารถวาย สงฆ์แต่ไม่พอแจกกันต้องมีลำดับ) นิมันตนภัตร(อาหารที่ได้ในที่นิมนต์) สลากภัตร (อาหารถวายตามสลาก) อุโบสถิกภัตร (อาหารถวายในวันอุโบสถ) ปักขิกภัตร (อาหารเขาถวาย 15 วัน ครั้งหนึ่ง) ปาฏิปทิกภัตร (อาหารถวาย ในวันค่ำหนึ่ง) (เสนาสนขันธกะ) 9/165/209/165/20 9/168/13 |
247 | [๓๒๖-๓๒๗] ทรงอนุญาตให้สมมติภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 5 เป็นภัตตุเทสก์ (ผู้แจกอาหาร) ด้วยญัตติทุติยกรรมวาจา (เสนาสนขันธกะ) 9/166/49/166/4 9/168/20 |
248 | [๓๒๘] การแจกภัตรให้เขียนชื่อลงในสลาก หรือแผ่นผ้ารวมเข้าไว้ แล้วจึง แจกภัตร (เสนาสนขันธกะ) 9/167/49/167/4 9/170/4 |
249 | [๓๓๓] ของเล็กน้อยที่ควรแจก , เข็ม มีด รองเท้า... เนยใส น้ำมัน น้ำผึ้ง น้ำอ้อย ให้ลิ้มได้คราวเดียว ถ้าต้องการอีก ก็ควรให้อีก... (เสนาสนขันธกะ) 9/170/29/170/2 9/173/2 |
250 | [๓๓๔] สามเณรทั้งหลาย อันภิกษุไม่ใช้ ย่อมไม่ทำการงาน จึงทรงอนุญาตให้ สมมติภิกษุ ผู้ประกอบด้วยองค์ 5 เป็นผู้ใช้สามเณร (เสนาสนขันธกะ) 9/170/129/170/12 9/173/13 |
251 | ตั่งยาวด้านเดียวเท่านั้น มีเท้า 8 นิ้ว จึงควร ส่วนตั่ง 4 เหลี่ยมจตุรัต เตียงที่ทำ ผนักพิง 3 ด้าน เกินประมาณก็ควร (เสนาสนักขันธกวรรณนา) 9/180/29/180/2 9/183/6 |
252 | นุ่นแห่งภูตคาม ชนิดใดชนิดหนึ่งย่อมควรในการทำหมอน (เสนาสนักขันธกวรรณนา) 9/181/79/181/7 9/184/12 |
253 | สำหรับฟูกใบเต่าร้าง ล้วนๆ ไม่ควร แต่ปนควรอยู่ (เสนาสนักขันธกวรรณนา) 9/181/159/181/15 9/184/20 |
254 | หมอนที่ได้ขนาด ด้านกว้าง เมื่อวัดในระหว่าง มุมทั้ง 2 เว้นมุมหนึ่งเสีย ใน บรรดา 3 มุม ได้คืบ 1 กับ 4 นิ้ว ตรงกลางได้ศอกกำ ด้านยาวศอกคืบ หรือ 2 ศอก เช่นนี้ ควร (เสนาสนักขันธกวรรณนา) 9/181/209/181/20 9/185/3 |
255 | หมอนหนุนหัว และเท้าควรแก่ภิกษุผู้ไม่อาพาธแท้ ภิกษุผู้อาพาธ จะวางหมอน หลายใบ แล้วปูเครื่องลาด ข้างบนนอนก็ควร (เสนาสนักขันธกวรรณนา) 9/182/39/182/3 9/185/9 |
256 | ขนแกะอย่างเดียวเท่านั้น มิได้ถือเอาใน อุณณศัพท์ (ฟูกขนสัตว์) แต่ว่าเว้นขนมนุษย์เสียแล้วขนแห่งนก และสัตว์สี่เท้า ทั้งที่มีเนื้อเป็นกัปปิยะ และอกัปปิยะ ควรทำฟูก (เสนาสนักขันธกวรรณนา) 9/182/149/182/14 9/185/22 |
257 | สำหรับฟูก ไม่มีจำกัดประมาณ พึงกระทำตามความพอใจของตน กำหนดดู พอสมควร แก่ฟูกเตียง ฟูกตั่ง ฟูกปูพื้น ฟูกที่จงกรม ฟูกสำหรับเช็ดเท้า (เสนาสนักขันธกวรรณนา) 9/183/89/183/8 9/186/15 |
258 | ไม่ใช่แต่รูปสตรี และบุรุษที่ภิกษุไม่ควรให้ทำ รูปสัตว์ดิรัจฉาน แม้รูปไส้เดือน ภิกษุไม่ควรทำเอง หรือสั่งว่า ท่านจงทำ (เสนาสนักขันธกวรรณนา) 9/184/129/184/12 9/187/20 |
259 | กระบวย และขัน อนุโลมตามสังข์ตักน้ำ (เสนาสนักขันธกวรรณนา) 9/185/179/185/17 9/189/5 |
260 | วิหารเชตวัน มีเนื้อที่ 8 กรีสะ( 1 กรีสะ = 125 ศอก หรือ 1เส้น 11วา 1ศอก) (เสนาสนักขันธกวรรณนา) 9/187/99/187/9 9/190/22 |
261 | ชื่อเศรษฐีทีสร้างวิหารถวาย พระวิปัสสีพุทธเจ้า - พระพุทธเจ้าของเรา (เสนาสนักขันธกวรรณนา) 9/187/129/187/12 9/190/25 |
262 | ภิกษุผู้ได้นวกรรม ไม่ควรถือเอาเครื่องมือมี มีด ขวาน สิ่ว ลงมือทำเอง ควรรู้ว่า เป็นอันทำแล้ว หรือไม่เป็นอันทำ (เสนาสนักขันธกวรรณนา) 9/188/139/188/13 9/191/22 |
263 | เพื่อให้บำรุงเสนาสนะนั้น พระพุทธเจ้าตรัสว่า พึงให้ถือเสนาสนะ เป็น อันตรามุตกะ เพื่ออยู่จำพรรษาต่อไป (เสนาสนักขันธกวรรณนา) 9/192/69/192/6 9/195/20 |
264 | การถือเสนาสนะในฤดูกาล ภิกษุอาคันตุกะมาในเวลาใด ภิกษุผู้แจกเสนาสนะ พึงให้ภิกษุทั้งหลายลุกขึ้น แล้วให้เสนาสนะแก่พวกนั้น ในเวลานั้น (เสนาสนักขันธกวรรณนา) 9/193/129/193/12 9/197/4 |
265 | ภิกษุอาคันตุกะ ไม่ควรไปที่อื่นในวันเข้าพรรษา พึงกะราวเดือนหนึ่ง ก่อนเข้า พรรษา แล้วเข้าไปสู่วิหารที่ต้องการจำพรรษา. (เสนาสนักขันธกวรรณนา) 9/195/29/195/2 9/198/14 |
266 | วัตถุใดทายกเจาะจงถวายภิกษุ เพื่อประโยชน์แก่บิณฑบาต หรือคิลานปัจจัย เมื่อภิกษุจะโอนเข้าในจีวร พึงอปโลกน์ เพื่อความเห็นชอบธรรมของสงฆ์ แล้ว จึงค่อยโอน (เสนาสนักขันธกวรรณนา) 9/199/19/199/1 9/201/26 |
267 | กุฎี เรือนมุงแถบเดียว ปราสาท เรือนโล้น ถ้ำ มณฑป โคนไม้ กอไผ่ จัดเป็น เสนาสนะ (เสนาสนักขันธกวรรณนา) 9/200/49/200/4 9/203/1 |
268 | ไม่พึงตั้งวัตรที่ไม่เป็นธรรม เช่น อย่าเรียนเอง อย่าให้ผู้อื่นเรียน อย่าให้บรรพชา อย่าให้อุปสมบท... (เสนาสนักขันธกวรรณนา) 9/203/149/203/14 9/206/5 |
269 | ในพรรษา พระเถระพึงเตือนภิกษุทั้งหลายว่า " อย่ากล่าวถ้อยคำแย้งกับคำ ส่อเสียด และคำหยาบ ต้องนึกถึงศีลทุกๆ วัน ตัดกังวลทุกอย่าง อย่าให้อารักขกัมมัฏฐาน 4 เสื่อมคลาย จงเป็นผู้มากด้วยมนสิการอยู่ (เสนาสนักขันธกวรรณนา) 9/204/119/204/11 9/207/4 |
270 | วินิจฉัย การถือเสนาสนะ : การถือย่อมระงับเพราะการถือ อาลัยย่อมระงับ เพราะการถือ การถือย่อมระงับเพราะอาลัย อาลัยย่อมระงับเพราะอาลัย 9/209/109/209/10 9/211/12 |
271 | ภิกษุใดเป็นผู้ใหญ่กว่ากัน หรือเป็นเด็กกว่ากันเพียง 2 พรรษา ชื่อว่า ผู้มีภายใน 3 พรรษา ย่อมนั่งเป็นคู่ๆ กันบนเตียง / ตั่ง อันเดียวกันได้. บนแผ่นกระดาน จะนั่งร่วมแม้กับอนุปสัมบัน ก็ควร (เสนาสนักขันธกวรรณนา) 9/210/79/210/7 9/212/8 |
272 | บานหน้าต่าง เตียงตั่ง พัดใบตาล วิจิตรด้วยทอง และเงิน หม้อน้ำ ขันตักน้ำ ทำด้วยทอง และเงิน หรือเครื่องใช้ ซึ่งจำหลักลวดลายงดงาม ควรทุกอย่าง เป็นคิหิวิกัติ (เครื่องใช้ของคฤหัสถ์) (เสนาสนักขันธกวรรณนา) 9/210/199/210/19 9/213/2 |
273 | เขากล่าวว่า ข้าพเจ้าให้ ทาส ทาสี นา สวน โค กระบือ แก่ปราสาท ไม่มีกิจ จะรับแผนกหนึ่งเมื่อรับปราสาท ก็เป็นอันรับไว้ด้วยแท้ จะใช้สอยผ้าปูลาด โกเชาว์บนเตียงตั่ง ในกุฎีเป็นของส่วนตัวบุคคล ไม่ควร... (เสนาสนักขันธกวรรณนา) 9/211/19/211/1 9/213/5 |
274 | สวนดอกไม้ หรือสวนผลไม้ ชื่อว่าอาราม โอกาสที่กำหนดไว้ เพื่อประโยชน์แก่ อารามเหล่านั้น หรือเมื่ออารามเหล่านั้นร้างไปแล้ว ภูมิภาคเก่าแห่งอารามนั้น ชื่อว่าอารามวัตถุ (เสนาสนักขันธกวรรณนา) 9/211/109/211/10 9/213/15 |
275 | ครุภัณฑ์ ไม่ควรสละ ไม่ควรแจก ด้วยอำนาจขาดตัว แต่เมื่อภิกษุผู้สละ และใช้ สอย ด้วยอำนาจการแลกเปลี่ยน ไม่เป็นอาบัติ (เสนาสนักขันธกวรรณนา) 9/212/179/212/17 9/214/23 |
276 | ไม่ควรจะน้อม ครุภัณฑ์เข้าไป เพื่อประโยชน์แก่ จีวรบิณฑบาต และเภสัชก่อน แต่จะเอาถาวรวัตถุ แลกกับถาวรวัตถุ และเอาครุภัณฑ์ แลกกับครุภัณฑ์ ควรอยู่ 9/212/219/212/21 9/215/1 |
277 | ถาวรวัตถุ คือ นา ที่นา บึง เหมือง ภิกษุจะจัดการ หรือจะรับ หรืออนุมัติแทน สงฆ์ ไม่ควร. ถาวรวัตถุ อันกัปปิยการกจัดการ และ กัปปิยภัณฑ์ที่ได้มาจาก ถาวรวัตถุเห็นปานนั้น ควรอยู่ (เสนาสนักขันธกวรรณนา) 9/213/19/213/1 9/215/4 |
278 | การแลกถาวรวัตถุ กับถาวรวัตถุ (เสนาสนักขันธกวรรณนา) 9/213/59/213/5 9/215/8 |
279 | การแลกครุภัณฑ์ กับครุภัณฑ์ (เสนาสนักขันธกวรรณนา) 9/215/49/215/4 9/217/3 |
280 | ขวดโลหะ จุน้ำได้ 5 ทะนานมคธ แจกกันได้ เกินนั้นเป็นครุภัณฑ์ 9/216/59/216/5 9/218/3 |
281 | ภาชนะกาววาวที่ทำด้วยสำริด หรือทองเหลือง ควรใช้สอยเป็นเครื่องใช้สอย ของสงฆ์ หรือเป็นคิหิวิกัติ ไม่ควรใช้สอยเป็นเครื่องใช้ส่วนตัวบุคคล (เสนาสนักขันธกวรรณนา) 9/216/129/216/12 9/218/10 |
282 | สิ่งของโลหะ กระทั่งตะปู ย่อมเป็นครุภัณฑ์ แม้ตนเองได้มาก็ไม่ควรเก็บไว้ใช้ อย่างเครื่องใช้ส่วนตัวบุคคล ควรใช้อย่างเครื่องใช้ของสงฆ์ หรือใช้เป็นคิหิวิกัติ (เครื่องใช้ของคฤหัสถ์) (เสนาสนักขันธกวรรณนา) 9/217/19/217/1 9/218/20 |
283 | ภาชนะทองคำ เงิน นาก และแก้วผลึก และคิหิวิกัติ ก็ไม่ควร, ไม่จำต้องกล่าว ถึงใช้อย่างเครื่องใช้ของสงฆ์ หรือ อย่างเครื่องใช้ส่วนตัวบุคคล แต่ด้วยเครื่อง ใช้สำหรับเสนาสนะ สิ่งของทุกอย่าง ทั้งที่ควรจับต้องและไม่ควรจับต้องจะใช้ สอย ก็ควร. (เสนาสนักขันธกวรรณนา) 9/217/79/217/7 9/219/3 |
284 | มีด เป็นต้น เป็นของที่ชนเหล่าใดถวายไว้ในวิหาร ถ้าเรือนเขาถูกไฟไหม้ หรือ โจรปล้น เขามาขอเครื่องมือแล้วจักคืน ควรให้ ถ้าเขานำมาส่ง อย่าพึงห้ามแม้ เขาไม่นำมาส่งก็ไม่พึงทวง (เสนาสนักขันธกวรรณนา) 9/218/19/218/1 9/219/19 |
285 | เถาวัลย์ ที่สงฆ์สงวนรักษาเป็นครุภัณฑ์ เมื่อใช้การงานของสงฆ์ เจดีย์แล้ว ถ้าเหลือ จะน้อมเข้าไปในการงานส่วนตัวบ้างก็ควร แต่ที่สงฆ์ไม่รักษา ไม่เป็น ครุภัณฑ์ เลย (เสนาสนักขันธกวรรณนา) 9/218/169/218/16 9/220/8 |
286 | เชือกที่เขาฟั่นแล้ว ถวายสงฆ์เป็นครุภัณฑ์ ด้ายที่มิได้ฟั่น แจกกันได้ 9/219/29/219/2 9/220/14 |
287 | เชิงบาตร ฝาบาตร...ไม้กวาดด้ามสั้น จะเล็ก หรือใหญ่ก็ตาม เป็นครุภัณฑ์ 9/221/199/221/19 9/223/2 |
288 | เท้าเตียง แม่แคร่ เตียง...สว่าน ซึ่งถากค้างไว้ยังไม่ทันเสร็จ แจกกันได้ แต่ที่ ถากเกลี้ยงเกลาแล้วเป็นครุภัณฑ์ (เสนาสนักขันธกวรรณนา) 9/222/109/222/10 9/223/17 |
289 | ของที่ทำด้วยดิน เช่น หม้อ บาตร ภาชนะ คนโทปากกว้าง คนโทสามัญ ขนาดเขื่องไม่เกินกว่าจุน้ำบาทหนึ่ง เป็นของที่แจกกันได้ แม้ในของโลหะ พึง ทราบวินิจฉัยเหมือนในของดิน. คนโทน้ำบวกเข้ากับส่วนที่แจกกันได้เหมือนกัน (เสนาสนักขันธกวรรณนา) 9/223/59/223/5 9/224/11 |
290 | ถ้าที่อยู่ชำรุด พึงบอกแก่เจ้าของอาวาส หรือคนในวงศ์ของเขา ถ้าเขาไม่สามารถ พึงชักชวนญาติ หรืออุปัฏฐากช่วยซ่อมแซม ถ้าเขาก็ไม่สามารถ ก็ซ่อมแซม ด้วยปัจจัยของสงฆ์ (เสนาสนักขันธกวรรณนา) 9/224/139/224/13 9/225/21 |
291 | ถ้าให้ภิกษุซ่อมแซมที่อยู่เป็นส่วนตัว ย่อมเป็นของภิกษุนั้น เมื่อภิกษุนั้นยังมี ชีวิตอยู่ ถ้าตายแล้วเป็นของสงฆ์ (เสนาสนักขันธกวรรณนา) 9/225/89/225/8 9/226/10 |
292 | ในสถานที่จะสร้างอาวาส มีต้นไม้ของสงฆ์ พึงอปโลกน์ ให้โค่น ถ้าต้นไม้ของ บุคคล พึงบอกแก่เจ้าของ ถ้าเจ้าของไม่ยอมให้ พึงบอกเพียงครั้งที่ 3 แล้วให้ โค่นเสีย ด้วยยอมรับ จักให้มูลค่า ราคาต้นไม้ (เสนาสนักขันธกวรรณนา) 9/226/79/226/7 9/227/7 |
293 | ภิกษุใด ให้สร้างที่อยู่เป็นส่วนตัว ในพื้นที่ของสงฆ์ ด้วยเครื่องอุปกรณ์ที่ตนหา มา. ที่อยู่นั้นเป็นของสงฆ์กึ่งหนึ่ง เป็นของบุคคลกึ่งหนึ่ง. (เสนาสนักขันธกวรรณนา) 9/226/119/226/11 9/227/12 |
294 | ในสถานที่ให้นวกรรม หรือสถานที่ถึงตามลำดับพรรษา ก็ดี ภิกษุผู้ซ่อมแซม ปรารถนา เสนาสนะใดย่อมได้เสนาสนะนั้น (เสนาสนักขันธกวรรณนา) 9/227/49/227/4 9/228/3 |
295 | ภิกษุขนเสนาสนะ มีเตียง-ตั่ง จากที่วิหารชำรุด ไปใช้เป็นของสงฆ์เพื่อความคุ้มครอง ถ้าเสียหาย เป็นอันเสียหายไปด้วยดี ถ้าวิหารนั้นซ่อมแซมเสร็จแล้ว ควรนำกลับมาที่เดิม ถ้าใช้เป็นเครื่องใช้ส่วนตัว เมื่อเสียหายไป เป็นสินใช้ (เสนาสนักขันธกวรรณนา) 9/227/129/227/12 9/228/12 |
296 | ภิกษุมีเถยยจิต ถือเอาเตียง ตั่ง จากที่อยู่ ที่ถูกละทิ้ง วินัยธรพึงปรับด้วยราคา ภัณฑะ ในขณะที่ยกขึ้นทีเดียว (เสนาสนักขันธกวรรณนา) 9/228/19/228/1 9/228/24 |
297 | ผาติกมฺมตฺถาย (เพื่อประโยชน์แก่ผาติกรรม) คือ เพื่อประโยชน์แก่การทำให้ เพิ่มขึ้น (เสนาสนักขันธกวรรณนา) 9/228/99/228/9 9/229/7 |
298 | พื้น หรือเสนาสนะ ที่ทำด้วยการโบกฉาบ ถ้าปรากฏ แต่เพียงรอยน้ำจางๆ เท่านั้น น้ำหาปรากฏไม่ ควรจะเหยียบได้ (เสนาสนักขันธกวรรณนา) 9/228/169/228/16 9/229/14 |
299 | ที่พื้นปูนขาว หรือที่พื้นที่โบกฉาบ ถ้าไม่มีเสื่ออ่อน พึงเอาผ้าพันเท้าเตียง และตั่ง เสีย และเป็นทุกกฏ แก่ภิกษุผู้ไม่ลาดอะไรเลย วางลงไป (เสนาสนักขันธกวรรณนา) 9/229/19/229/1 9/229/20 |
300 | ฝาที่ทาสีขาว ฝาที่ทำจิตรกรรม ไม่ควรพิง แม้ประตู หน้าต่าง พนักอิง เสาหิน เสาไม้ ภิกษุไม่รองด้วยจีวร หรือของบางอย่างแล้ว ย่อมไม่ได้เพื่อจะพิง 9/229/79/229/7 9/230/3 |
301 | พื้นที่โบกฉาบ เสนาสนะมีเครื่องรองพื้น เตียงตั่งของสงฆ์ ต้องเอาเครื่องปูลาด ของตนลาดรองเสียก่อน จึงค่อยนอน (เสนาสนักขันธกวรรณนา) 9/229/169/229/16 9/230/12 |
302 | สังฆภัตไม่มีลำดับเป็นธรรมดา เพราะฉะนั้นภิกษุทั้งหลายไม่ควรกล่าวให้เขา นิมนต์ภิกษุจากที่อื่น หรือท่านจงให้พวกเราบ้าง เพราะว่าสังฆภัตนั้น ย่อมถึง แก่ภิกษุผู้มาแล้วๆ เท่านั้น (เสนาสนักขันธกวรรณนา) 9/231/19/231/1 9/231/17 |
303 | อุทเทสภัต คือ ภัตที่เขานิมนต์ภิกษุเจาะจงสงฆ์ พึงให้ตามลำดับ ถ้าลำดับไม่มี พึงให้รับแต่เถรอาสน์ลงมา (เสนาสนักขันธกวรรณนา) 9/231/89/231/8 9/232/1 |
304 | ในนิมันตนภัต ถ้าเป็นของส่วนบุคคล ผู้รับเองนั้นแลเป็นใหญ่ , ที่เป็นของ สงฆ์ พึงให้ ถือตามลำดับ ถ้าผู้มานิมนต์ กล่าวว่า จงรับภิกษา ภัตนั้น ย่อมควร แม้แก่ภิกษุผู้ถือปิณฑปาติกธุดงค์. แต่ถ้าทูตบอกว่าท่านจงรับภัต พระภัตตุทเทสก์ เป็นผู้ฉลาดไม่ออกชื่อ ภัต กล่าวแต่ว่า "ท่านจงไป" ดังนี้ ภัตนั้น ย่อมควรแก่ภิกษุผู้ถือปิณฑปาติกธุดงค์ (เสนาสนักขันธกวรรณนา) 9/243/119/243/11 9/242/22 |
305 | สลากภัต : ควรให้จับตามลำดับ ถ้าลำดับไม่มีพึงแจกตั้งแต่พระเถระลงมา สลากต้องให้จับทุกวัน และได้รับสลากภัตที่ไหน ต้องมาแจกสลากที่สำนัก(วัด) เท่านั้น (เสนาสนักขันธกวรรณนา) 9/251/169/251/16 9/250/10 |
306 | ปักขิกภัต มีคติอย่างสลากภัต นั้นเอง (เสนาสนักขันธกวรรณนา) 9/255/209/255/20 9/254/5 |
307 | สังฆภัต...ปาฏิปทิกภัต ไม่ควรแก่ภิกษุผู้ถือ ปิณฑปาติกธุดงก์ (เสนาสนักขันธกวรรณนา) 9/257/39/257/3 9/255/6 |
308 | อาคันตุกภัต, ถ้ามีพอให้ถือเอารูปละส่วน ถ้าไม่พอให้ถือเอาตามลำดับ ภิกษุ อาคันตุกะรูปหนึ่งมาก่อน ให้ถือเอาอาคันตุกภัตทั้งหมด เพื่อตนแล้วนั่งอยู่ ภิกษุผู้มาทีหลัง พึงฉันที่เธอให้แล้ว (เสนาสนักขันธกวรรณนา) 9/257/119/257/11 9/255/14 |
309 | นิตยภัต เรียกว่าธุวภัต มี 2 คือ ของสงฆ์ ของเฉพาะบุคคล ถ้าเขาถวายสงฆ์ มี คติอย่างสลากภัต ถ้าเขาถวายว่า จงรับภิกษาประจำของข้าพเจ้า ย่อมควรแม้ แก่ ภิกษุผู้ถือปิณฑปาติกธุดงค์ ธุวภัต กุฏิภัต วารกภัต มีคติอย่างสลากภัต 9/260/49/260/4 9/258/2 |
310 | ถ้าว่าเนยเป็นแท่ง แม้ขีดเป็นรอย ถือเอาด้วยคิดว่า ส่วนอื่นจากรอยที่ขีด ถึงแก่ พระเถระ ส่วนที่เหลือถึงแก่พวกเรา ย่อมเป็นอันถือเอาชอบ (เสนาสนักขันธกวรรณนา) 9/264/79/264/7 9/261/22 |
311 | ว่าด้วยหน้าที่ ผู้แจกของเล็กน้อย (เสนาสนักขันธกวรรณนา) 9/265/29/265/2 9/262/15 |
312 | [๓๔๔] ในระหว่างพรรษา ที่บวชนั่นเอง พระเทวทัต ได้ฤทธิ์ ปุถุชน (สังฆเภทขันธกะ) 9/271/209/271/20 9/268/20 |
313 | [๓๔๕] พระภัททิยะเปล่งวาจาว่า สุขหนอ สุขหนอ (สังฆเภทขันธกะ) 9/272/29/272/2 9/269/1 |
314 | [๓๔๙]พระเทวทัต แปลงเพศเป็นกุมารน้อย เอางูพันสะเอว ได้ปรากฏบน พระเพลาของอชาตสัตตุกุมาร (สังฆเภทขันธกะ) 9/274/119/274/11 9/271/5 |
315 | [๓๔๙] พระเทวทัต ติดลาภสักการะ คิดจะปกครองสงฆ์ จึงเสื่อมจากฤทธิ์ พร้อมกับจิตตุปบาท (สังฆเภทขันธกะ) 9/275/49/275/4 9/271/20 |
316 | [๓๕๐] กักกุธะโกฬิยบุตร อุปัฏฐากของพระมหาโมคคัลลานะ ตายแล้วเข้าถึง มโนมัยกายอย่างหนึ่ง ลงมาแจ้งพระมหาโมคคัลลานะ ถึงความปรารถนา ของพระเทวทัต (สังฆเภทขันธกะ) 9/275/89/275/8 9/272/2 |
317 | [๓๕๑] พระพุทธองค์บอกให้ พระมหาโมคคัลลานะรักษาวาจานั้นไว้ โมฆบุรุษ เทวทัตจะแสดงตนให้ปรากฏเอง (สังฆเภทขันธกะ) 9/276/159/276/15 9/273/7 |
318 | [๓๕๗] พระพุทธองค์ไม่หวังเฉพาะ ซึ่งการรักษาโดยศีล โดยอาชีวะ โดยธรรมเทศนาโดย ไวยากรณ์ โดยญาณทัสสนะ จากสาวกทั้งหลาย (สังฆเภทขันธกะ) 9/279/149/279/14 9/275/25 |
319 | [๓๖๐] ผลกล้วยย่อมฆ่าต้นกล้วย ขุยไผ่ย่อมฆ่าต้นไผ่ ขุยอ้อย่อมฆ่าต้นอ้อ สักการะ ย่อมฆ่าคนชั่ว เหมือนม้าอัสดรซึ่งเกิดในครรภ์ย่อมฆ่าแม่ม้าอัสดร ฉันนั้น (สังฆเภทขันธกะ) 9/281/189/281/18 9/277/26 |
320 | [๓๖๑] พระพุทธองค์ ไม่มอบสงฆ์ให้ใครปกครอง ตรัสว่า " แม้แต่สารีบุตรและ โมคคัลลานะ เรายังไม่มอบภิกษุสงฆ์ให้ ไฉนจะพึงมอบให้เธอผู้ เช่น ซากศพ ผู้บริโภคปัจจัย เช่นก้อนเขฬะเล่า " (สังฆเภทขันธกะ) 9/282/179/282/17 9/278/21 |
321 | [๓๖๒-๓๖๕] ทรงรับสั่งให้สงฆ์ ทำปกาสนียกรรมประกาศ พระเทวทัต ในกรุงราชคฤห์ (สังฆเภทขันธกะ) 9/283/39/283/3 9/279/7 |
322 | [๓๖๙-๓๗๑] พระพุทธองค์ทรงให้อภัยแก่ผู้เห็นโทษว่าเป็นโทษ แล้วทำคืน ตามธรรม นั้นเป็นความเจริญ ในอริยวินัย บุรุษ 31 คน ที่พระเทวทัต ส่งมา ได้เป็นพระโสดาบัน (สังฆเภทขันธกะ) 9/290/159/290/15 9/286/22 |
323 | [๓๗๒] พระเทวทัตกลิ้งศิลาก้อนใหญ่ จักปลงพระชนม์ พระพุทธองค์ได้ทำ อนันตริยกรรม ข้อที่ 1 คือ ทำพระโลหิตของพระตถาคตให้ห้อ (สังฆเภทขันธกะ) 9/293/29/293/2 9/289/5 |
324 | [๓๗๒] ทรงรับสั่งให้ภิกษุพวกที่ทำการสาธยาย เพื่อรักษาคุ้มครอง ป้องกันให้ หยุด เพราะข้อที่บุคคลจะปลงชีวิต พระตถาคตด้วยความพยายามของผู้อื่น นั้น มิใช่ฐานะ มิใช่โอกาส (สังฆเภทขันธกะ) 9/293/149/293/14 9/289/18 |
325 | [๓๗๗] พระเทวทัตให้ปล่อยช้างนาฬาคิรี ไปทำร้ายพระพุทธเจ้า (สังฆเภทขันธกะ) 9/296/229/296/22 9/292/17 |
326 | [๓๘๒] ทรงบัญญัติโภชนะสำหรับ 3 คน ในสกุลแก่ภิกษุทั้งหลาย อาศัยอำนาจ ประโยชน์ 3 คือ เพื่อข่มบุคคลผู้เก้อยาก เพื่ออยู่ผาสุกของภิกษุผู้มีศีลอันเป็นที่รัก เพื่ออนุเคราะห์สกุล ด้วยหวังว่าภิกษุทั้งหลายที่มีความปรารถนาลามก อย่า อาศัยฝักฝ่าย ทำลายสงฆ์ ในการฉันเป็นหมู่พึงปรับอาบัติตามธรรม (สังฆเภทขันธกะ) 9/300/79/300/7 9/295/19 |
327 | [๓๘๔] พระพุทธองค์ไม่ทรงอนุญาต วัตถุ 5 ประการ ของเทวทัต (สังฆเภทขันธกะ) 9/302/89/302/8 9/297/3 |
328 | [๓๘๖] ผู้ใดทำลายสงฆ์ ผู้พร้อมเพรียงกัน ย่อมประสบโทษ ตั้งกัป ย่อมไหม้ในนรกตลอดกัป (สังฆเภทขันธกะ) 9/303/199/303/19 9/299/6 |
329 | [๓๙๕] พระสารีบุตร และพระมหาโมคคัลลานะ พาภิกษุวัชชีบุตร 500 ที่ไปกับพระเทวทัตกลับมา กราบทูลว่า ภิกษุเหล่านี้พึงอุปสมบทใหม่ พระพุทธองค์ ตรัสให้แสดงอาบัติถุลลัจจัย (สังฆเภทขันธกะ) 9/308/69/308/6 9/303/9 |
330 | [๓๙๘] ภิกษุผู้ประกอบด้วยองค์ 8 ควรทำหน้าที่ทูต (สังฆเภทขันธกะ) 9/309/129/309/12 9/304/18 |
331 | [๔๐๑] พระเทวทัต มีจิตอันอสัทธรรม 8 ประการครอบงำ ย่ำยีแล้วจะเกิดใน อบาย ตกนรกชั่วกัป ช่วยเหลือไม่ได้ (สังฆเภทขันธกะ) 9/310/209/310/20 9/305/22 |
332 | [๔๐๔] ฝ่ายหนึ่งมีภิกษุ 3 รูป ฝ่ายหนึ่งมี 4 รูป รูปที่ 8 เป็นผู้ให้จับสลากเป็น สังฆราชี... ภิกษุ 9 รูป หรือเกินกว่า 9 รูป เป็นทั้งสังฆราชี และสังฆเภท (สังฆเภทขันธกะ) 9/316/99/316/9 9/310/24 |
333 | [๔๐๔] ภิกษุณี สิกขมานา สามเณร สามเณรี อุบาสก อุบาสิกา ทำลาย สงฆ์ไม่ได้แต่พยายามเพื่อจะทำลายได้ ภิกษุปกตัตตะมีสังวาสเสมอกัน อยู่ ในสีมาเดียวกันย่อมทำลายสงฆ์ได้ (สังฆเภทขันธกะ) 9/316/199/316/19 9/311/10 |
334 | [๔๐๕] ภิกษุทั้งหลาย ย่อมประกาศให้แตกแยกกัน ด้วยวัตถุ 18 ประการ แล้วแยกทำอุโบสถ แยกทำปวารณา แยกทำสังฆกรรม ด้วยเหตุเพียงเท่านี้ สงฆ์เป็นอันแตกกันแล้ว (สังฆเภทขันธกะ) 9/317/69/317/6 9/311/19 |
335 | [๔๐๘] ภิกษุผู้ยินดีในการแตกพวก ไม่ตั้งอยู่ในธรรม ย่อมเสื่อมจากธรรมอัน เกษมจากโยคะ (สังฆเภทขันธกะ) 9/320/39/320/3 9/314/15 |
336 | [๔๑๒] ภิกษุ ผู้ทำลายสงฆ์ไม่ต้องเกิดในอบาย ไม่ตกนรกอยู่ชั่วกัป พอช่วย เหลือได้ ; ไม่อำพรางความเห็น ไม่อำพรางความถูกใจ ไม่อำพรางความชอบใจ ไม่อำพรางความจริง (สังฆเภทขันธกะ) 9/324/49/324/4 9/318/5 |
337 | บุคคลผู้ยังโลหิตพระพุทธองค์ให้ห้อขึ้น เป็นอนุปสัมบันไม่พึงให้อุปสมบทเป็น อุปสัมบันพึงให้ฉิบหายเสีย (สังฆเภทักขันธกวรรณนา) 9/332/239/332/23 9/326/19 |
338 | เมื่อภิกษุทั้งหลายแสดงวัตถุอันใดอันหนึ่ง แม้วัตถุอันเดียว ในเภทกรวัตถุ 18 แล้ว ให้จับสลากทำสังฆกรรมแผนกหนึ่งอย่างนั้นแล้ว สงฆ์ย่อมเป็นอันแตกกัน . (สังฆเภทักขันธกวรรณนา) 9/336/119/336/11 9/330/6 |
339 | [๔๑๔] อาการที่พระอาคันตุกะไม่ควรทำ เมื่อเข้าสู่อาราม คือ สวมรองเท้า กั้นร่ม คลุมศีรษะ พาดจีวรไว้บนศีรษะ ล้างเท้าด้วยน้ำฉัน ไม่ไหว้ภิกษุเจ้าถิ่นผู้แก่ พรรษากว่า ไม่ถามเสนาสนะ (วัตตขันธกะ) 9/337/39/337/3 9/331/5 |
340 | [๔๑๕] อาคันตุกวัตร (ข้อปฏิบัติสำหรับภิกษุผู้มาเยือน) (วัตตขันธกะ) 9/338/109/338/10 9/332/11 |
341 | [๔๑๗] อาวาสิกวัตร สำหรับภิกษุเจ้าถิ่น (วัตตขันธกะ) 9/341/89/341/8 9/335/12 |
342 | [๔๑๙] ภิกษุผู้เตรียมจะเดินทาง พึงประพฤติดังนี้ (วัตตขันธกะ) 9/342/179/342/17 9/337/4 |
343 | [๔๒๐] ทรงอนุญาตให้อนุโมทนาในโรงฉัน (วัตตขันธกะ) 9/343/219/343/21 9/338/3 |
344 | [๔๒๑-๔๒๒] ทรงอนุญาตให้ภิกษุผู้เถระอนุโมทนาในโรงฉัน ให้ภิกษุเถรานุเถระ 4-5 รูปรออยู่ในโรงฉัน (วัตตขันธกะ) 9/344/59/344/5 9/338/14 |
345 | [๔๒๓] ขณะรออยู่ในโรงฉัน เมื่อมีกรณียกิจ ทรงอนุญาตให้บอกลาภิกษุผู้นั่ง อยู่ในลำดับแล้วไปได้ (วัตตขันธกะ) 9/344/199/344/19 9/339/3 |
346 | [๔๒๕] วัตรในโรงฉัน (วัตตขันธกะ) 9/345/189/345/18 9/340/4 |
347 | [๔๒๖] ภิกษุเที่ยวบิณฑบาต ไม่ได้กำหนดเข้าไปสู่นิเวศน์ เธอเข้าใจว่าประตู เข้าไปสู่ห้องน้อย อันมีหญิงเปลือยกายนอนหงายอยู่ สามีของหญิงนั้นเห็น จึงจับภิกษุนั้นทุบตี (วัตตขันธกะ) 9/348/59/348/5 9/342/11 |
348 | [๔๒๗] วัตรในการเที่ยวบิณฑบาต (วัตตขันธกะ) 9/349/59/349/5 9/343/11 |
349 | [๔๒๙] วัตรของภิกษุผู้อยู่ป่า ; ติดไฟไว้ เตรียมไม้สีไฟ พึงเตรียมไม้เท้าไว้ พึงเรียนทางนักษัตร... (วัตตขันธกะ) 9/351/189/351/18 9/346/2 |
350 | [๔๓๑] เสนาสนะวัตร ; ถ้าอยู่วิหารหลังเดียวกับภิกษุผู้แก่กว่า ยังไม่ขออนุญาต ภิกษุผู้แก่กว่า ไม่พึงให้อุเทศ(การเรียนการสอน) ... (วัตตขันธกะ) 9/353/109/353/10 9/347/16 |
351 | [๔๓๒] ภิกษุอันพระเถระในเรือนไฟ ห้ามอยู่ ไม่พึงอาศัยความไม่เอื้อเฟื้อใส่ฟืน มากติดไฟ รูปใดติดไฟ ต้องอาบัติทุกกฏ ภิกษุไม่พึงปิดประตู แล้วนั่งขวางประตู รูปใดนั่งต้องอาบัติทุกกฏ (วัตตขันธกะ) 9/356/29/356/2 9/350/4 |
352 | [๔๓๓] วัตรในเรือนไฟ (วัตตขันธกะ) 9/356/89/356/8 9/350/11 |
353 | [๔๓๔] ภิกษุถ่ายอุจจาระแล้ว เมื่อน้ำมีอยู่ จะไม่ชำระไม่ได้ รูปใดไม่ชำระ ต้องอาบัติทุกกฏ (วัตตขันธกะ) 9/357/159/357/15 9/351/17 |
354 | [๔๓๕] ภิกษุไม่พึงถ่ายอุจจาระในวัจจกุฎี(ส้วม) ตามลำดับผู้แก่กว่า รูปใดถ่าย ต้องอาบัติทุกกฏ ให้ถ่ายอุจจาระตามลำดับของผู้มาถึง (วัตตขันธกะ) 9/358/39/358/3 9/352/4 |
355 | [๔๓๗] วัตรในวัจจกุฎี (ข้อปฏิบัติในห้องส้วม) (วัตตขันธกะ) 9/359/29/359/2 9/353/4 |
356 | [๔๓๙] อุปัชฌายวัตร ; ไม่บอกลาอุปัชฌายะก่อน ไม่พึงเข้าบ้าน ไม่พึงไปป่าช้า ไม่พึงหลีกไปสู่ทิศ... (วัตตขันธกะ) 9/360/119/360/11 9/354/19 |
357 | [๔๔๑] สัทธิวิหาริกวัตร(ข้อปฏิบัติของพระอุปัชฌาย์ต่อศิษย์) ;อุปัชฌาย์พึง สงเคราะห์อนุเคราะห์ด้วยอุเทศ ปริปุจฉา(การสอบถาม)...ถ้าสัทธิวิหาริก ป่วยพึงพยาบาลจนตลอดชีวิต หรือจนกว่าจะหาย... (วัตตขันธกะ) 9/366/29/366/2 9/360/3 |
358 | [๔๔๓] อาจาริยวัตร(ข้อปฏิบัติของศิษย์ต่ออาจารย์) ; ไม่บอกลาอาจารย์ก่อน ไม่พึงเข้าบ้าน ไม่พึงไปป่าช้า ไม่พึงหลีกไปสู่ทิศ... (วัตตขันธกะ) 9/370/99/370/9 9/364/6 |
359 | [๔๔๕] อันเตวาสิกวัตร(ข้อปฏิบัติของพระอาจารย์ต่อศิษย์) ; อาจารย์พึง สงเคราะห์อนุเคราะห์ด้วยอุเทศ ปริปุจฉา... ถ้าอันเตวาสิกป่วยพึงพยาบาล จนตลอดชีวิต หรือจนกว่าจะหาย (วัตตขันธกะ) 9/375/199/375/19 9/369/18 |
360 | [๔๔๖] วัตรทั้ง 14 ข้อ ภิกษุผู้ไม่บำเพ็ญวัตร ชื่อว่าไม่บำเพ็ญศีล ผู้มีศีลไม่ บริสุทธิ์ทรามปัญญา ย่อมไม่ประสบเอกัคคตาจิต ผู้มีจิตฟุ้งซ่านย่อมไม่เห็น ธรรมโดยชอบ ย่อมไม่พ้นทุกข์ (วัตตขันธกะ) 9/387/99/387/9 9/380/17 |
361 | ถ้าว่าตนสามารถพึงชำระสำนักทั้งหมดให้สะอาด เมื่อไม่สามารถพึงจัดแจง โอกาส เป็นที่อยู่ของตน (วัตตักขันธกวรรณนา) 9/389/59/389/5 9/382/2 |
362 | ถ้าอาคันตุกะ ผู้แก่กว่ามา พึงงดจีวรกรรม หรือนวกรรมเสีย ทำวัตรแก่ท่าน ถ้าทำยา หรือกวาดลานอยู่ คนไข้ไม่หนักมากพึงทำวัตรก่อน ถ้าอาคันตุกะผู้ ฉลาดเธอจะบอกให้ทำกิจนั้นต่อไป (วัตตักขันธกวรรณนา) 9/389/139/389/13 9/382/9 |
363 | เสนาสนะใดอยู่ในที่ปลวกขึ้นไม่ได้ ไม่เป็นอาบัติ แม้แก่ภิกษุผู้ไม่บอกมอบ เสนาสนะนั้น (วัตตักขันธกวรรณนา) 9/391/29/391/2 9/383/21 |
364 | ถ้าภิกษุผู้อนุโมทนากล่าวว่า ไปเถิดท่านผู้เจริญ ไม่มีกิจที่จะต้องคอย ดังนี้ ควรไป (วัตตักขันธกวรรณนา) 9/391/199/391/19 9/384/18 |
365 | ความว่าไม่พึงนั่ง เบียดเบียนผู้เป็นเถระนัก ถ้าพระมหาเถระสั่งว่า จงนั่งเถิด พึงนั่ง ถ้าพระมหาเถระ ไม่สั่ง, พึงเรียนว่าอาสนะนี้ สูงขอรับ เมื่อท่านบอกว่า จงนั่งเถิด พึงนั่ง ก็ถ้าว่าภิกษุใหม่ บอกแล้วพระมหาเถระไม่อนุญาต ไม่เป็น อาบัติแก่เธอผู้นั่ง เป็นอาบัติแก่พระมหาเถระเท่านั้น (วัตตักขันธกวรรณนา) 9/392/159/392/15 9/385/14 |
366 | ในโรงเลี้ยงใหญ่ คือ ภิกษุทั้งหลายฉันอยู่ที่หนึ่ง ทายกถวายน้ำในที่แห่งอื่นใน โรงเลี้ยงนั้น พึงฉันตามสบาย (วัตตักขันธกวรรณนา) 9/393/179/393/17 9/386/17 |
367 | ผู้ถวายภิกษา จะเป็นสตรีหรือบุรุษ ก็ตาม ในเวลาถวายภิกษา ภิกษุไม่พึง มองหน้าเขา (วัตตักขันธกวรรณนา) 9/394/179/394/17 9/387/15 |
368 | ในเสนาสนวัตรเมื่อนวกะภิกษุกล่าวว่า เฉพาะกิจที่ผมจะต้องบอกเล่า จงเป็น อันบอกเถิด ภิกษุผู้แก่กว่ารับว่า ดีล่ะ หรือบอกว่าท่านจงอยู่ตามสบายเถิด หรือถ้าเป็นผู้คุ้นเคยกันจะไม่บอกเล่าก็ควร (วัตตักขันธกวรรณนา) 9/395/159/395/15 9/388/15 |
369 | เมื่อถ่ายอุจจาระแล้ว ไม่มีที่กำบัง หรือไม่มีน้ำ พึงใช้ภาชนะตักน้ำไปชำระ ไม่มีภาชนะพึงเอาบาตรตักไป เมื่อไม่มีภาชนะและบาตรพึงเช็ดด้วยไม้ หรือ ของบางอย่างแล้วจึงไป (วัตตักขันธกวรรณนา) 9/396/39/396/3 9/389/6 |
370 | ส้วมที่เป็นสาธารณะ มีผู้ใช้มากไม่ควรเหลือน้ำไว้ สถานที่ใช้คนเดียวในวัด หรือเป็นของส่วนบุคคล จะเหลือน้ำไว้ในขันชำระก็ได้ (วัตตักขันธกวรรณนา) 9/396/199/396/19 9/390/3 |
371 | [๔๕๗-๔๖๔] ความอัศจรรย์ไม่เคยมีในธรรมวินัย 8 ประการ (ปาติโมกขฐปนขันธกะ) 9/402/199/402/19 9/395/15 |
372 | [๔๖๖] ภิกษุมีอาบัติไม่พึงฟังปาติโมกข์ รูปใดฟังต้องอาบัติทุกกฏ ทรงอนุญาต ให้งดปาติโมกข์ แก่ภิกษุผู้มีอาบัติติดตัว ฟังปาติโมกข์ (ปาติโมกขฐปนขันธกะ) 9/406/159/406/15 9/399/6 |
373 | [๔๖๗] ภิกษุไม่พึงงดปาติโมกข์แก่ภิกษุที่บริสุทธิ์ ไม่มีอาบัติ ในเพราะ เรื่องอัน ไม่ควร รูปใดงด ต้องอาบัติทุกกฏ (ปาติโมกขฐปนขันธกะ) 9/407/199/407/19 9/400/15 |
374 | [๔๘๘] การงดปาติโมกข์เป็นธรรม มีมูล 10 อย่าง (ปาติโมกขฐปนขันธกะ) 9/415/99/415/9 9/407/4 |
375 | [๔๙๙] ภิกษุจะรับอธิกรณ์ พึงพิจารณา 5 ประการ (ปาติโมกขฐปนขันธกะ) 9/422/149/422/14 9/414/14 |
376 | [๕๐๐-๕๐๔] ภิกษุผู้ปรารถนาจะโจทผู้อื่น พึงพิจารณาธรรม 5 ประการในตน . (ปาติโมกขฐปนขันธกะ) 9/424/109/424/10 9/416/7 |
377 | [๕๐๕] ภิกษุผู้โจทพึงตั้งธรรม 5 ประการไว้ในตน (ปาติโมกขฐปนขันธกะ) 9/426/59/426/5 9/418/6 |
378 | [๕๐๖] ภิกษุผู้โจทโดยไม่เป็นธรรม พึงถึงความเดือดร้อน ด้วยอาการ 5 (ปาติโมกขฐปนขันธกะ) 9/426/189/426/18 9/418/17 |
379 | [๕๑๐] ภิกษุผู้โจทพึงมนสิการธรรม 5 อย่างไว้ในตน (ปาติโมกขฐปนขันธกะ) 9/429/189/429/18 9/421/17 |
380 | [๕๑๑] ภิกษุผู้ถูกโจท พึงตั้งอยู่ในธรรม 2 ประการ คือ ความจริง และความ ไม่ขุ่นเคือง (ปาติโมกขฐปนขันธกะ) 9/430/69/430/6 9/422/7 |
381 | เมื่อต้องอาบัติแล้วปกปิดไว้ ชื่อว่าต้องอาบัติใหม่อื่น (ปาฏิโมกขัฏฐปนักขันธกวรรณนา) 9/434/129/434/12 9/426/2 |
382 | เมื่อสังฆกรรมอันสงฆ์กระทำอยู่ ภิกษุไม่มา ไม่มอบฉันทะ และอยู่พร้อมหน้า คัดค้าน เพราะความเป็นผู้ประสงค์ จะยังกรรมให้กำเริบ ด้วยเหตุนั้นเธอต้อง ทุกกฏ (ปาฏิโมกขัฏฐปนักขันธกวรรณนา) 9/435/89/435/8 9/427/1 |
383 | การที่ฟ้องคดีแล้ว ให้จำเลยให้การ อ้างเอาคำปฏิญญา ทำตามที่ปฏิญญา อย่างไรชื่อว่า ความเป็นผู้ทำพระวินัยให้เป็นที่เคารพ . (ปาฏิโมกขัฏฐปนักขันธกวรรณนา) 9/439/189/439/18 9/431/9 |
384 | [๕๑๖] ครุธรรม 8 ประการ (ภิกขุนีขันธกะ) 9/444/179/444/17 9/435/16 |
385 | [๕๑๘] สตรีบวชในธรรมวินัยนี้ ทำให้สัทธรรม จะตั้งอยู่ได้เพียง 500 ปี พระพุทธองค์ทรงบัญญัติ ครุธรรม 8 ประการ เพื่อให้สัทธรรมอยู่ได้ 1000 ปี (ภิกขุนีขันธกะ) 9/447/119/447/11 9/438/3 |
386 | [๕๑๙] ทรงอนุญาต ให้ภิกษุทั้งหลายอุปสมบทภิกษุณี (ภิกขุนีขันธกะ) 9/448/189/448/18 9/439/11 |
387 | [๕๒๐] พระมหาปชาบดีโคตมี รับครุธรรม 8 ประการแล้วในกาลใด พระนาง ชื่อว่าอุปสมบทแล้วในกาลนั้นทีเดียว (ภิกขุนีขันธกะ) 9/449/99/449/9 9/440/1 |
388 | [๕๒๑] ภิกษุไม่พึงทำการ กราบไหว้ การลุกรับ อัญชลีกรรม สามีจิกรรมแก่ มาตุคาม รูปใดทำต้องอาบัติทุกกฏ (ภิกขุนีขันธกะ) 9/450/99/450/9 9/440/23 |
389 | [๕๒๓] ลักษณะวินิจฉัย พระธรรมวินัย 8 ประการ (ภิกขุนีขันธกะ) 9/451/29/451/2 9/441/17 |
390 | [๕๒๕] ภิกษุไม่พึงแสดงปาติโมกข์แก่ ภิกษุณี รูปใดแสดง ต้องอาบัติทุกกฏ ทรงอนุญาตให้ภิกษุณี แสดงปาติโมกข์แก่ภิกษุณีด้วยกัน (ภิกขุนีขันธกะ) 9/452/139/452/13 9/443/7 |
391 | [๕๒๖] ภิกษุณีจะไม่ทำคืนอาบัติไม่ได้ รูปใดไม่ทำคืน ต้องอาบัติทุกกฏ (ภิกขุนีขันธกะ) 9/452/209/452/20 9/443/16 |
392 | [๕๒๗] ภิกษุไม่พึงรับอาบัติของภิกษุณีทั้งหลาย รูปใดรับ ต้องอาบัติทุกกฏ ทรงอนุญาตให้ภิกษุณีรับอาบัติของภิกษุณีด้วยกัน (ภิกขุนีขันธกะ) 9/453/139/453/13 9/444/7 |
393 | [๕๒๙] ภิกษุไม่พึงทำกรรมแก่ภิกษุณีทั้งหลาย รูปใดทำต้องอาบัติทุกกฏ ทรงอนุญาตให้ภิกษุณีทำกรรมแก่ภิกษุณีด้วยกัน (ภิกขุนีขันธกะ) 9/454/109/454/10 9/445/5 |
394 | [๕๓๐-๕๓๑] ทรงอนุญาต ให้ภิกษุระงับอธิกรณ์ของภิกษุณี ทั้งหลาย ทรง อนุญาตให้ภิกษุยกกรรมของพวกภิกษุณี มอบให้แก่พวกภิกษุณี เพื่อให้พวก ภิกษุณีทำกรรมแก่พวกภิกษุณี ให้ภิกษุยกอาบัติของพวกภิกษุณีมอบให้แก่ พวกภิกษุณี ให้พวกภิกษุณีรับอาบัติของพวกภิกษุณี (ภิกขุนีขันธกะ) 9/454/199/454/19 9/445/15 |
395 | [๕๓๒] ทรงอนุญาตให้ภิกษุสอนวินัย แก่พวกภิกษุณี (ภิกขุนีขันธกะ) 9/455/169/455/16 9/446/10 |
396 | [๕๓๓] ภิกษุไม่พึงใช้น้ำโคลนรดนางภิกษุณี รูปใดรดต้องอาบัติทุกกฏ ทรง อนุญาตให้ลงทัณฑกรรมแก่ภิกษุนั้น ภิกษุณีสงฆ์พึงทำภิกษุนั้นให้เป็นผู้ไม่ควร ไหว้ (ภิกขุนีขันธกะ) 9/456/39/456/3 9/446/20 |
397 | [๕๓๔] ภิกษุไม่พึงเปิดกายอวดนางภิกษุณี ไม่พึงเปิดขาอ่อน ไม่พึงเปิดองค์ กำเนิดอวดนางภิกษุณี ไม่พึงพูดเกี้ยวนางภิกษุณี ไม่พึงชักจูงบุรุษให้สมสู่กับ นางภิกษุณี รูปใดชักจูง ต้องอาบัติทุกกฏ (ภิกขุนีขันธกะ) 9/456/139/456/13 9/447/5 |
398 | [๕๓๕] ภิกษุณีไม่พึงใช้น้ำโคลนรดภิกษุ รูปใดรดต้องอาบัติทุกกฏ ทรงอนุญาต ให้ลงทัณฑกรรมแก่ ภิกษุณีนั้นโดยให้ทำการห้ามปราม ถ้าไม่เชื่อฟัง ให้งดโอวาท (ภิกขุนีขันธกะ) 9/456/219/456/21 9/447/14 |
399 | [๕๓๖] ภิกษุณีไม่พึงเปิดกายอวดภิกษุ ไม่พึงเปิดถันอวดภิกษุ ไม่พึงเปิด ขาอ่อนอวดภิกษุ ไม่พึงเปิดอวัยวะเพศอวดภิกษุ ไม่พึงพูดเกี้ยวภิกษุ ไม่พึง ชักจูงสตรีให้สมสู่กับภิกษุ รูปใดชักจูง ต้องอาบัติทุกกฏ ทรงอนุญาตให้ลง ทัณฑกรรมกับภิกษุณีนั้น (ภิกขุนีขันธกะ) 9/457/129/457/12 9/448/4 |
400 | [๕๓๗] ภิกษุไม่พึงทำอุโบสถ ร่วมกับภิกษุณี ที่ถูกงดโอวาทแล้ว จนกว่า อธิกรณ์นั้น จะระงับ (ภิกขุนีขันธกะ) 9/458/39/458/3 9/448/17 |
401 | [๕๓๘] ภิกษุงดโอวาทแล้วไม่พึงหลีกไปสู่จาริก รูปใดหลีกไป ต้องอาบัติทุกกฏ (ภิกขุนีขันธกะ) 9/458/99/458/9 9/448/22 |
402 | [๕๓๙] ภิกษุผู้เขลาไม่ฉลาด ไม่พึงงดโอวาท รูปใดงดต้องอาบัติทุกกฏ (ภิกขุนีขันธกะ) 9/458/139/458/13 9/449/2 |
403 | [๕๔๐] ภิกษุไม่พึงงดโอวาท ในเพราะเรื่องไม่สมควร ในเพราะเหตุไม่สมควร รูปใดงด ต้องอาบัติทุกกฏ (ภิกขุนีขันธกะ) 9/458/169/458/16 9/449/5 |
404 | [๕๔๑] ภิกษุงดโอวาทแล้ว จะไม่ให้คำวินิจฉัยไม่ได้ รูปใดไม่ให้ ต้องอาบัติทุกกฏ (ภิกขุนีขันธกะ) 9/458/209/458/20 9/449/8 |
405 | [๕๔๒] ภิกษุณี จะไม่ไปรับโอวาทไม่ได้ รูปใดไม่ไป พึงปรับตามธรรม (ภิกขุนีขันธกะ) 9/459/29/459/2 9/449/12 |
406 | [๕๔๓-๕๔๔] ภิกษุณีสงฆ์ ไม่พึงไปรับโอวาททั้งหมด ถ้าไปต้องอาบัติทุกกฏ ทรงอนุญาตให้ภิกษุณี 2-3 รูป ไปรับโอวาท (ภิกขุนีขันธกะ) 9/459/89/459/8 9/449/18 |
407 | [๕๔๕] ภิกษุจะไม่รับให้โอวาทไม่ได้ รูปใดไม่รับ ต้องอาบัติทุกกฏ (ภิกขุนีขันธกะ) 9/460/119/460/11 9/450/20 |
408 | [๕๔๖-๕๔๘] เว้นภิกษุผู้เขลา ผู้อาพาธ และภิกษุผู้เตรียมจะไป ทรงอนุญาต ให้ภิกษุทั้งหลายนอกนั้นรับให้โอวาท (ภิกขุนีขันธกะ) 9/460/199/460/19 9/451/2 |
409 | [๕๔๙] ทรงอนุญาตให้ภิกษุผู้ถืออยู่ป่ารับให้โอวาท และทำการนัดหมายว่าเรา จะกลับในที่นั้น (ภิกขุนีขันธกะ) 9/461/199/461/19 9/451/26 |
410 | [๕๕๐] ภิกษุที่รับให้โอวาทแล้ว ต้องบอกภิกษุผู้แสดงปาติโมกข์ เพื่อให้โอวาท รูปใดไม่บอก ต้องอาบัติทุกกฏ (ภิกขุนีขันธกะ) 9/461/219/461/21 9/452/3 |
411 | [๕๕๑] ภิกษุจะไม่กลับมาบอกการให้โอวาทไม่ได้ รูปใดไม่กลับมาบอก ต้องอาบัติทุกกฏ (ภิกขุนีขันธกะ) 9/462/59/462/5 9/452/9 |
412 | [๕๕๒] ภิกษุณีจะไม่ไป ที่นัดหมายไม่ได้ รูปใดไม่ไปต้องอาบัติทุกกฏ (ภิกขุนีขันธกะ) 9/462/99/462/9 9/452/12 |
413 | [๕๕๓] ภิกษุณี ไม่พึงใช้ผ้ากายพันธน์ยาว รูปใดใช้ต้องอาบัติทุกกฏ ทรง อนุญาตผ้ากายพันธน์ที่รัดได้ รอบเดียวแก่ภิกษุณี แต่อย่ารัดสีข้างด้วยผ้านั้น รูปใดรัด ต้องอาบัติทุกกฏ (ภิกขุนีขันธกะ) 9/462/139/462/13 9/452/18 |
414 | [๕๕๔] ภิกษุณีไม่พึงรัดสีข้างด้วยแผ่นไม้สาน ด้วยแผ่นหนัง ด้วยแผ่นผ้าขาว ด้วยช้องผ้า ด้วยเกลียวผ้า ด้วยผ้าผืนน้อย ด้วยช้องผ้าผืนน้อย ด้วยช้องถัก ด้วยด้าย ด้วยเกลียวด้าย รูปใดรัดต้องอาบัติทุกกฏ (ภิกขุนีขันธกะ) 9/463/19/463/1 9/453/7 |
415 | [๕๕๕] ภิกษุณีไม่พึงให้สีตะโพก ด้วยกระดูกแข้งโค ไม่พึงให้นวดตะโพก ไม่พึงให้นวดมือ ไม่พึงให้นวดหลังมือ ไม่พึงให้นวดเท้า ไม่พึงให้นวด หลังเท้า ไม่พึงให้นวดขาอ่อน ไม่พึงให้นวดหน้า ไม่พึงให้นวดริมฝีปาก ด้วยไม้มีสัณฐานดุจคางโค รูปใดให้นวดต้องอาบัติทุกกฏ (ภิกขุนีขันธกะ) 9/463/109/463/10 9/453/16 |
416 | [๕๕๖] ภิกษุณีไม่พึงทาหน้า ไม่พึงถูหน้า ไม่พึงผัดหน้า ไม่พึงเจิมหน้าด้วย มโนศิลาไม่พึงย้อมตัว ไม่พึงย้อมหน้า ไม่พึงย้อมทั้งตัว ทั้งหน้า รูปใดทำ ต้องอาบัติทุกกฏ (ภิกขุนีขันธกะ) 9/463/209/463/20 9/454/5 |
417 | [๕๕๗] ภิกษุณีไม่พึงแต้มหน้า ไม่พึงทาแก้ม ไม่พึงเยี่ยมหน้าต่าง ไม่พึงยืน แอบประตู ไม่พึงให้ผู้อื่นทำการฟ้อนรำ ไม่พึงตั้งสำนักหญิงแพศยา ไม่พึงตั้ง ร้านขายสุรา... ไม่พึงขายของสด และของสุก ไม่พึงใช้สันถัตขนเจียมหล่อ รูปใดใช้ต้องอาบัติทุกกฏ (ภิกขุนีขันธกะ) 9/464/89/464/8 9/454/16 |
418 | [๕๕๘] ภิกษุณีไม่พึงใช้จีวรสีครามล้วน สีเหลืองล้วน สีแดงล้วน สีบานเย็น ล้วน...ไม่พึงสวมเสื้อ ไม่พึงสวมหมวก รูปใดใช้ต้องอาบัติทุกกฏ (ภิกขุนีขันธกะ) 9/464/229/464/22 9/455/8 |
419 | [๕๕๙] ถ้าเมื่อจะมรณภาพภิกษุณี สิกขมานา สามเณรี กล่าวว่าถ้าฉันตาย แล้ว บริขารของฉัน จงเป็นของสงฆ์ ภิกษุสงฆ์ไม่เป็นใหญ่ในบริขารนั้น บริขาร นั้นเป็นของภิกษุณีสงฆ์ฝ่ายเดียว (ภิกขุนีขันธกะ) 9/465/109/465/10 9/455/19 |
420 | [๕๕๙] ถ้าภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา หรือใครคนอื่นๆ ก่อนตายพูดว่า เมื่อฉันตายบริขารของฉัน จงเป็นของสงฆ์ บริขารนั้น เป็นของภิกษุสงฆ์ ฝ่ายเดียว (ภิกขุนีขันธกะ) 9/465/179/465/17 9/456/3 |
421 | [๕๖๐] ภิกษุณีไม่พึงให้ประหารแก่ภิกษุ รูปใดประหารต้องอาบัติทุกกฏ ทรงอนุญาตให้ภิกษุณี เห็นภิกษุแล้วหลีกทางให้แต่ไกลเทียว (ภิกขุนีขันธกะ) 9/466/99/466/9 9/456/17 |
422 | [๕๖๑] ภิกษุณีไม่พึง นำทารกไปด้วยบาตร รูปใดนำไปต้องอาบัติทุกกฏ ทรงอนุญาตให้ภิกษุณี พบภิกษุแล้วนำบาตรออกแสดง (ภิกขุนีขันธกะ) 9/467/89/467/8 9/457/21 |
423 | [๕๖๒] ภิกษุณีพบภิกษุแล้ว ไม่พึงพลิกกลับแสดงก้นบาตร รูปใดแสดงต้อง อาบัติทุกกฏ ทรงอนุญาตให้ภิกษุณีพบภิกษุแล้วหงายบาตร แสดง และอามิส ใดมีในบาตร พึงนิมนต์ภิกษุ ด้วยอามิสนั้น (ภิกขุนีขันธกะ) 9/467/159/467/15 9/458/5 |
424 | [๕๖๓] ภิกษุณีไม่พึงเพ่งดูนิมิตบุรุษ รูปใดเพ่งต้องอาบัติทุกกฏ (ภิกขุนีขันธกะ) 9/468/49/468/4 9/458/15 |
425 | [๕๖๔] ภิกษุไม่พึงให้อามิส (อาหารหรือสิ่งของ) ที่เขาถวายแก่ตนเพื่อประโยชน์ บริโภคแก่ผู้อื่น รูปใดให้ต้องอาบัติทุกกฏ (ภิกขุนีขันธกะ) 9/468/119/468/11 9/459/1 |
426 | [๕๖๕] เมื่ออามิสมีมาก ทรงอนุญาตเพื่อให้แก่สงฆ์ ถ้าอามิสเหลือเฟือ ทรง อนุญาตให้เพื่อเป็นส่วนบุคคล (ภิกขุนีขันธกะ) 9/468/139/468/13 9/459/6 |
427 | [๕๖๖] ทรงอนุญาตให้ภิกษุ ยังภิกษุณีให้รับอามิสที่เป็นสันนิธิ(รับประเคนเก็บ ไว้ค้างคืน) ของภิกษุแล้วฉันได้ (ภิกขุนีขันธกะ) 9/468/199/468/19 9/459/11 |
428 | [๕๖๗-๕๖๘] ภิกษุณีไม่พึงให้อามิสที่เขาถวายแก่ตน เพื่อประโยชน์บริโภคแก่ ผู้อื่น รูปใดให้ต้องอาบัติทุกกฏ ถ้าอามิสมีมาก ทรงอนุญาตให้ถวายแก่สงฆ์ ถ้าอามิสมีมากเหลือเฟือ ทรงอนุญาตให้เป็นส่วนบุคคล (ภิกขุนีขันธกะ) 9/469/29/469/2 9/459/17 |
429 | [๕๖๙] ทรงอนุญาตให้ภิกษุณี ยังภิกษุให้รับอามิสที่เป็นสันนิธิของภิกษุณี แล้วฉันได้ (ภิกขุนีขันธกะ) 9/469/119/469/11 9/460/1 |
430 | [๕๗๐] ทรงอนุญาตเพื่อให้เสนาสนะ แก่ภิกษุณีทั้งหลายเพื่ออาศัยชั่วคราว 9/469/179/469/17 9/460/8 |
431 | [๕๗๑] ภิกษุณีไม่พึงขึ้นนั่ง หรือนอนบนเตียงที่บุ บนตั่งที่บุ รูปใดขึ้นนั่ง หรือนอนต้องอาบัติทุกกฏ ทรงอนุญาตผ้าในที่พัก ผ้าซับใน ให้ใช้เชือก ผูกไว้ที่ขาอ่อน ทรงอนุญาตเชือกฟั่นผูกสะเอว (ภิกขุนีขันธกะ) 9/469/219/469/21 9/460/13 |
432 | [๕๗๒] ภิกษุณีไม่พึงใช้เชือกผูกเอวตลอดกาล รูปใดใช้ต้องอาบัติทุกกฏ ทรงอนุญาตให้ใช้เชือกผูกเอวเมื่อมีระดู (ภิกขุนีขันธกะ) 9/470/119/470/11 9/461/4 |
433 | [๕๗๓] ทรงอนุญาตให้ถามอันตรายิกธรรม 24 ประการ แก่ภิกษุณีผู้จะ อุปสมบท (ภิกขุนีขันธกะ) 9/470/209/470/20 9/461/14 |
434 | [๕๗๔] ทรงอนุญาตให้หญิงที่จะบวช อุปสมบทในสงฆ์ฝ่ายเดียว บริสุทธิ์ใน ภิกษุณีสงฆ์ แล้วอุปสมบทในภิกษุสงฆ์ (ภิกขุนีขันธกะ) 9/472/69/472/6 9/462/23 |
435 | [๕๗๕] ทรงอนุญาตให้สอนซ้อมก่อนแล้วถามอันตรายิกธรรมภายหลัง ทรง อนุญาตให้สอนซ้อม ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง (ภิกขุนีขันธกะ) 9/472/129/472/12 9/463/3 |
436 | [๕๗๕-๕๗๗] ภิกษุณีผู้เขลา ภิกษุณีมิได้สมมติ ไม่พึงสอนซ้อม รูปใดสอน ซ้อมต้องอาบัติทุกกฏ ตนเองพึงสมมติตนเองหรือผู้อื่น พึงสมมติผู้อื่น ก็ได้. 9/473/89/473/8 9/463/24 |
437 | [๕๘๓] ในโรงภัตร ทรงอนุญาตภิกษุณี 8 รูปตามลำดับพรรษา นอกนั้นตาม ลำดับที่มา ในที่อื่นไม่พึงห้ามตามลำดับพรรษา รูปใดห้ามต้องอาบัติทุกกฏ 9/481/19/481/1 9/471/16 |
438 | [๕๘๔] ภิกษุณีจะไม่ปวารณาไม่ได้ รูปใดไม่ปวารณาพึงปรับตามธรรม 9/481/69/481/6 9/471/22 |
439 | [๕๘๕] ภิกษุณีปวารณาด้วยตนเอง ไม่ปวารณาต่อสงฆ์ไม่ได้ รูปใดไม่ปวารณา พึงปรับตามธรรม (ภิกขุนีขันธกะ) 9/481/119/481/11 9/472/6 |
440 | [๕๘๖] ภิกษุณีไม่พึงปวารณา พร้อมกับภิกษุทั้งหลาย รูปใดปวารณา ต้องอาบัติทุกกฏ (ภิกขุนีขันธกะ) 9/481/179/481/17 9/472/12 |
441 | [๕๘๗] ทรงอนุญาตให้ภิกษุณี ปวารณาในการหลังภัตร. ให้ภิกษุณีปวารณาต่อ ภิกษุณีสงฆ์ในวันนี้ แล้วปวารณาต่อภิกษุสงฆ์ในวันรุ่งขึ้น (ภิกขุนีขันธกะ) 9/482/49/482/4 9/472/17 |
442 | [๕๘๘] ทรงอนุญาตให้สมมติภิกษุณีผู้ฉลาด ผู้สามารถรูปหนึ่งให้ปวารณาต่อ สงฆ์แทนภิกษุณีสงฆ์ (ภิกขุนีขันธกะ) 9/482/129/482/12 9/473/6 |
443 | [๕๙๐] ภิกษุณีไม่พึงงดอุโบสถแก่ภิกษุ แม้งดก็ไม่เป็นอันงด ภิกษุณีผู้งด ต้องอาบัติทุกกฏ (ภิกขุนีขันธกะ) 9/483/209/483/20 9/474/21 |
444 | [๕๙๐] ภิกษุณีไม่พึงงดปวารณา ไม่พึงทำการสืบสวน ไม่พึงเริ่มอนุวาทาธิกรณ์ ไม่พึงให้ภิกษุทำโอกาส ไม่พึงโจทภิกษุ ไม่พึงสืบพยานภิกษุ แม้สืบก็ไม่เป็น อันสืบ ภิกษุณีผู้สืบพยานต้องอาบัติทุกกฏ (ภิกขุนีขันธกะ) 9/484/19/484/1 9/475/1 |
445 | [๕๙๑] ทรงอนุญาตให้ภิกษุงดอุโบสถ งดปวารณา... ให้สืบพยานแก่ภิกษุณี ภิกษุผู้ให้สืบ ไม่ต้องอาบัติ (ภิกขุนีขันธกะ) 9/484/169/484/16 9/475/16 |
446 | [๕๙๒-๕๙๔] ภิกษุณีไม่พึงไปด้วยยาน รูปใดไปพึง ปรับตามธรรม ทรงอนุญาต ภิกษุณีอาพาธไปด้วยยานได้ ทรงอนุญาตยานที่เทียมด้วยโคตัวเมีย หรือตัวผู้ ยานที่ลากด้วยมือ ทรงอนุญาตคานหามมีตั่งนั่ง เปลผ้า ที่เข้าผูกติดกับไม้คาน 9/485/69/485/6 9/476/7 |
447 | [๕๙๕] ทรงอนุญาตให้ภิกษุณีอุปสมบท แม้โดยทูต (ภิกขุนีขันธกะ) 9/486/79/486/7 9/477/9 |
448 | [๕๙๕] ภิกษุไม่พึงให้ภิกษุณี อุปสมบท โดยมีภิกษุเป็นทูต... สิกขมานา... สามเณร... สามเณรี... หรือภิกษุณีผู้เขลาเป็นทูต รูปใดให้อุปสมบทต้องอาบัติทุกกฏ 9/486/99/486/9 9/477/12 |
449 | ถ้าอามิสนั้นไม่เป็นที่สบายจะเสียสละทั้งหมดก็ควร หรือจะบริโภคจีวร 1-2 วัน แล้วให้ก็ควร (ภิกขุนิกขันธกวรรณนา)9/504/21 9/479/23 |
450 | [๕๙๘] ทรงอนุญาตโรงเก็บของ ทรงอนุญาตที่อยู่ ทรงอนุญาตนวกรรม ทรงอนุญาตให้ทำแม้เป็นส่วนบุคคล (ภิกขุนีขันธกะ) 9/489/19/489/1 9/480/3 |
451 | [๕๙๙] ภิกษุณีคลอดลูก ทรงอนุญาตให้เลี้ยงดู จนกว่าเด็กนั้นจะรู้เดียงสา ทรงอนุญาตให้สมมติภิกษุณีรูปหนึ่งให้เป็นเพื่อนของภิกษุณีนั้น (ภิกขุนีขันธกะ) 9/489/89/489/8 9/480/12 |
452 | [๕๙๙] ภิกษุณีผู้อยู่เป็นเพื่อน ให้ปฏิบัติในเด็กชายนั้น เหมือนปฏิบัติในบุรุษอื่น เว้นการนอนร่วมเรือนเดียวกัน (ภิกขุนีขันธกะ) 9/490/139/490/13 9/481/17 |
453 | [๖๐๐] ทรงอนุญาตให้สมมติ ภิกษุณีรูปหนึ่งให้เป็นเพื่อนของภิกษุณี ผู้กำลัง ประพฤติมานัต (ภิกขุนีขันธกะ) 9/490/189/490/18 9/481/22 |
454 | [๖๐๑] ภิกษุณีไม่ต้องบอกลาสิกขา นางสึกแล้วเมื่อใด ไม่เป็นภิกษุณีเมื่อนั้น 9/491/189/491/18 9/482/20 |
455 | [๖๐๒] ภิกษุณีรูปใด ครองผ้ากาสาวะไปเข้ารีตเดียรถีย์ นางนั้นมาแล้ว ไม่พึง ให้อุปสมบท (ภิกขุนีขันธกะ) 9/492/49/492/4 9/483/4 |
456 | [๖๐๓] ทรงอนุญาตให้ภิกษุณียินดี การอภิวาท การปลงผม การตัดเล็บ การรักษาแผลจากบุรุษทั้งหลาย (ภิกขุนีขันธกะ) 9/492/69/492/6 9/483/7 |
457 | [๖๐๔-๖๐๕] ภิกษุณีไม่พึงนั่งขัดสมาธิ รูปใดนั่งต้องอาบัติทุกกฏ ทรงอนุญาต ให้นั่งพับเพียบได้ (ภิกขุนีขันธกะ) 9/492/139/492/13 9/483/14 |
458 | [๖๐๖] ภิกษุณีไม่พึงถ่ายอุจจาระในส้วม รูปใดถ่ายต้องอาบัติทุกกฏ ทรงอนุญาต ให้ถ่ายในที่ซึ่งเปิดข้างล่าง ปิดข้างบน (ภิกขุนีขันธกะ) 9/492/209/492/20 9/484/3 |
459 | [๖๐๗] ภิกษุณีไม่พึงอาบน้ำด้วยจุณ รูปใดอาบต้องอาบัติทุกกฏ ทรงอนุญาต รำ ดินเหนียว (ภิกขุนีขันธกะ) 9/493/49/493/4 9/484/10 |
460 | [๖๐๘] ภิกษุณีไม่พึงอาบน้ำด้วยดินเหนียว ที่อบกลิ่น รูปใดอาบต้องอาบัติ ทุกกฏ ทรงอนุญาตดินเหนียวธรรมดา (ภิกขุนีขันธกะ) 9/493/99/493/9 9/484/15 |
461 | [๖๐๙-๖๑๑] ภิกษุณีไม่พึงอาบน้ำในเรือนไฟ ไม่พึงอาบน้ำทวนกระแส ไม่พึง อาบน้ำในที่มิใช่ท่าอาบน้ำ รูปใดอาบต้องอาบัติทุกกฏ (ภิกขุนีขันธกะ) 9/493/139/493/13 9/484/20 |
462 | [๖๑๒] ภิกษุณีไม่พึงอาบน้ำที่ท่าสำหรับชายอาบ รูปใดอาบต้องอาบัติทุกกฏ ทรงอนุญาตให้อาบที่ท่าสำหรับหญิงอาบ (ภิกขุนีขันธกะ) 9/494/29/494/2 9/485/9 |
463 | พุทธศาสนา จะดำรงอยู่ 5000 ปี (ภิกขุนิกขันธกวรรณนา) 9/499/119/499/11 9/490/8 |
464 | เมื่อปริยัติไม่มี ปฏิเวธจะมีไม่ได้เลย เมื่อปริยัติมี ปฏิเวธจะไม่มีก็ไม่ได้ 9/499/179/499/17 9/490/15 |
465 | ภิกษุผู้รดนางภิกษุณี แม้ด้วยน้ำใส น้ำย้อม และตม ก็เป็นทุกกฏเหมือนกัน 9/500/199/500/19 9/491/20 |
466 | ภิกษุณีไม่พึงไหว้สามเณร (ภิกขุนิกขันธกวรรณนา) 9/501/49/501/4 9/492/6 |
467 | ในสหธรรมิกทั้ง 5 เมื่อจะตายสั่งว่า ถ้าข้าพเจ้าตาย บริขารของข้าพเจ้าจงเป็น ของพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์...หรือเป็นของใครๆ อื่น เมื่อเขาตายบริขารไม่ เป็นของชนเหล่านั้น คงเป็นของสงฆ์ (ภิกขุนิกขันธกวรรณนา) 9/504/19/504/1 9/495/5 |
468 | อามิส(อาหารหรือสิ่งของ) ที่เขาถวายเจาะจงเฉพาะตน เมื่อภิกษุให้อามิสนั้นแก่ ผู้อื่นเป็นทุกกฏ แต่ถือเอาส่วนดีเสียก่อนแล้ว จึงให้ควรอยู่ (ภิกขุนิกขันธกวรรณนา) 9/504/189/504/18 9/495/22 |
469 | ถ้าอามิสนั้นไม่เป็นที่สบายจะเสียสละทั้งหมดก็ควร หรือจะบริโภคจีวร 1-2 วัน แล้วให้ก็ควร (ภิกขุนิกขันธกวรรณนา) 9/504/219/504/21 9/496/2 |
470 | การอุปสมบทด้วยทูต เมื่อจบกรรมวาจา อันภิกษุณีนั้น จะอยู่ในอิริยาบทใด ย่อมเป็นการอุปสมบทแล้ว (ภิกขุนิกขันธกวรรณนา) 9/506/59/506/5 9/497/12 |
471 | ภิกษุณีที่ไม่ได้การลาสิกขา สึกแล้วนุ่งผ้าขาวด้วยความพอใจของตน เมื่อนาง กลับมาย่อมไม่ได้อุปสมบทอีก ย่อมไม่ได้ซึ่งบรรพชา ฝ่ายนางผู้นุ่งผ้าขาวสึก ไปย่อมได้เพียงบรรพชา (ภิกขุนิกขันธกวรรณนา) 9/507/59/507/5 9/498/12 |
472 | [๖๑๔] พระมหากัสสป ได้ยินคำของพระสุภัททวุฑฒ บรรพชิตจึงได้คิดทำ สังคายานา (ปัญจสติกขันธกะ) 9/510/19/510/1 9/500/22 |
473 | [๖๑๗] พระอานนท์สำเร็จพระอรหันต์ (ปัญจสติกขันธกะ) 9/512/69/512/6 9/503/2 |
474 | [๖๒๐] ความเห็นของพระเถระที่ทำสังคายนา ในเรื่องอาบัติเล็กน้อย 6 พวก (ปัญจสติกขันธกะ) 9/516/59/516/5 9/506/21 |
475 | [๖๒๑] พระมหากัสสป ได้ประกาศด้วยญัติทุติยกรรมวาจา เรื่องไม่บัญญัติ และไม่ถอนพระบัญญัติที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้แล้วต่อสงฆ์ (ปัญจสติกขันธกะ) 9/517/59/517/5 9/507/22 |
476 | [๖๒๒] พระเถระทั้งหลายปรับอาบัติทุกกฏ 5 ตัวแก่พระอานนท์ (ปัญจสติกขันธกะ) 9/518/169/518/16 9/509/4 |
477 | [๖๒๓] พระปุราณะไม่ทำตามที่พระเถระทั้งหลาย สังคายนาแต่จะทำตามที่ตน ได้ฟังได้รับมาต่อหน้าพระพุทธเจ้า (ปัญจสติกขันธกะ) 9/521/79/521/7 9/511/12 |
478 | [๖๒๔] พรหมทัณฑ์ที่สงฆ์ลงแก่พระฉันนะ (ปัญจสติกขันธกะ) 9/521/189/521/18 9/511/17 |
479 | [๖๒๗] หลังจากที่พระฉันนะ ถูกสงฆ์ลงพรหมทัณฑ์ แล้วด้วยความอึดอัดระอา จึงหลีกออกทำความเพียร บรรลุอรหันต์ (ปัญจสติกขันธกะ) 9/525/49/525/4 9/515/4 |
480 | [๖๓๐] หลังจากพระศาสดาปรินิพพานได้ 100 ปี พวกวัชชีบุตร ชาวเวสาลี แสดงวัตถุ 10 ประการ (สัตตสติกขันธกะ) 9/530/39/530/3 9/519/3 |
481 | [๖๓๒] พวกพระวัชชีบุตรเรี่ยไร เงินชาวบ้าน (สัตตสติกขันธกะ) 9/531/19/531/1 9/519/22 |
482 | [๖๓๔-๖๓๖] เครื่องเศร้าหมองของสมณะ 4 ประการ คือ ดื่มสุราเมรัย เสพเมถุน ยินดีทองเงิน เลี้ยงชีวิตโดยมิจฉาชีพ (สัตตสติกขันธกะ) 9/533/89/533/8 9/522/2 |
483 | [๖๓๗] ผู้ยินดีทองและเงิน ไม่ใช่สมณะเชื้อสายพระศากยบุตร (สัตตสติกขันธกะ) 9/536/119/536/11 9/523/22 |
484 | [๖๔๕] พระอุตตรเถระมีพรรษา 20 ปี ยังถือนิสัยในพระเรวตเถระ (สัตตสติกขันธกะ) 9/547/39/547/3 9/535/1 |
485 | [๖๔๖] อธิกรณ์เกิดขึ้น ณ ที่ใดสงฆ์พึงระงับอธิกรณ์ ณ ที่นั้น (สัตตสติกขันธกะ) 9/547/99/547/9 9/535/4 |
486 | [๖๔๖] พระสัพพกามีเถระมีพรรษา 120 เป็นลูกศิษย์พระอานนท์ อาศัยอยู่ใน เมืองเวสาลี (สัตตสติกขันธกะ) 9/547/149/547/14 9/535/13 |
487 | [๖๕๒] การเก็บเกลือไว้ในเขนง โดยตั้งใจว่าจักปรุงอาหาร ที่จืดฉัน ต้องอาบัติ ปาจิตตีย์ ในเพราะอาหารที่ทำการสั่งสม (สัตตสติกขันธกะ) 9/553/29/553/2 9/540/16 |
488 | [๖๕๗] การประพฤติวัตรตาม พระอุปัชฌาย์ และพระอาจารย์ เคยประพฤติ มานั้นบางอย่างควร บางอย่างไม่ควร (สัตตสติกขันธกะ) 9/555/199/555/19 9/543/2 |
489 | [๖๖๐] ผ้าปูนั่งไม่มีชาย ไม่ควร ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ที่ต้องตัดเสีย (สัตตสติกขันธกะ) 9/557/99/557/9 9/544/11 |
490 | วัตถุเป็นยาวชีวิก ภิกษุรับประเคนในวันนั้น พร้อมกับวัตถุ เป็นยาวกาลิก ควรในกาล ไม่ควรในวิกาล หมายเอารสที่ระคนกัน (สัตตสติกขันธกวรรณนา) 9/561/189/561/18 9/548/3 |