1 | ชื่อว่า ยมก เพราะอรรถว่า เป็นคู่กัน ด้วยอำนาจของยมก 10 อย่าง (อ.มูลยมก) 82/18ข./382/18ข./3 82/16/3 |
2 | ธรรมชาติใดย่อมเป็นไป เพื่อยังผลของตนให้สำเร็จ เหตุนั้น ธรรมชาตินั้น ชื่อว่า เหตุธรรมชาติใดย่อมให้ซึ่งผลของตน ราวกะแสดงอยู่ว่า เชิญท่านถือเอาผลนั้น เหตุนั้นธรรมชาตินั้น ชื่อว่า นิทาน (อ.มูลยมก) 82/18ฉ./1282/18ฉ./12 82/19/6 |
3 | [๖] มูลมี 3 เท่านั้น ชื่อว่า กุศลมูล , กุศลธรรมที่เหลือ นอกนั้น ไม่ชื่อว่า กุศลมูลรูปที่มีกุศลเป็นสมุฏฐาน มีมูลเป็นอันเดียวกันกับกุศลมูล แต่ไม่ใช่เป็นกุศล.(มูลวารนิทเทสในกุสลบท) 82/19/6 82/20/6 |
4 | [๑๐] อกุศลที่เป็น อเหตุกะ ไม่มีมูลเป็นอันเดียวกันกับอกุศลมูล , อกุศลที่เป็นสเหตุกะ มีมูลเป็นอันเดียวกันกับอกุศลมูล. รูปที่มีอกุศลเป็นสมุฏฐาน มีมูลเป็นอันเดียวกันกับอกุศลมูลแต่ไม่ใช่เป็นอกุศล (มูลวารนิทเทสในอกุสลบท) 82/26/14 82/25/14 |
5 | [๑๔] อัพยากตะที่เป็นอเหตุกะ ไม่มีมูลเป็นอันเดียวกันกับอัพยากตมูล, อัพยากตะที่เป็นสเหตุกะ มีมูลเป็นอันเดียวกันกับอัพยากตมูล. (มูลวารนิทเทสในอัพยากตบท) 82/33/14 82/31/1 |
6 | [๑๘] มูลมี 9 เท่านั้น (กุศลมูล 3 , อกุศลมูล 3 , อัพยากตมูล 3) ชื่อว่า นามมูลนามธรรมที่เป็นอเหตุกะ ไม่มีมูลเป็นอันเดียวกันกับนามมูล , นามธรรมที่เป็นสเหตุกะ มีมูลเป็นอันเดียวกันกับนามมูล (มูลวารนิทเทสในนามบท) 82/40/6 82/35/16 |
7 | [๓๒-๓๖] ปิยรูป (รูปที่น่ารัก) สาตรูป (รูปที่น่าพอใจ) ชื่อว่า รูป แต่ไม่ชื่อว่า รูปขันธ์,ทิฏฐิสัญญา ชื่อว่าสัญญา แต่ไม่ชื่อว่าสัญญาขันธ์ , ยกเว้นสังขารเสียแล้ว สังขารที่เหลือนอกนั้นชื่อว่าสังขาร แต่ไม่ชื่อว่า สังขารขันธ์ (นิทเทสวาระ) 82/80/3 82/66/3 |
8 | [๑๑๗] บุคคลเหล่าใด กำลังเกิดในอสัญญสัตตภูมิ รูปขันธ์กำลังเกิด แต่เวทนาขันธ์ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น , ในอรูปภูมิ เวทนาขันธ์กำลังเกิด แต่รูปขันธ์ไม่ใช่กำลังเกิด , ในปัญจโวการภูมิ ทั้งรูปขันธ์ และเวทนาขันธ์ ก็กำลังเกิดแก่บุคคลเกิด , ใเหล่านั้น (ปวัตติวาระ) 82/121/9 82/97/7 |
9 | [๑๓๕] เมื่อบุคคลทั้งหมดกำลังตายก็ดี บุคคลที่กำลังเกิดในอรูปภูมิก็ดี เวทนา-ขันธ์เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่รูปขันธ์ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น เมื่อบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดในปัญจโวการภูมิก็ดี ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี เวทนาขันธ์เคยเกิด และรูปขันธ์กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น. (ปวัตติวาระ) 82/140/10 82/115/10 |
10 | [๑๓๖] เมื่อบุคคลทั้งหมดกำลังตายก็ดี บุคคลที่กำลังเกิดในอสัญญสัตตภูมิก็ดี สัญญาขันธ์เคยเกิด แต่เวทนาขันธ์ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น , เมื่อบุคคลกำลังเกิดในจตุโวการภูมิก็ดี ในปัญจโวการภูมิก็ดี สัญญาขันธ์เคยเกิด และเวทนาขันธ์ก็กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น. (ปวัตติวาระ) 82/141/8 82/116/8 |
11 | [๑๘๒] บุคคลที่เกิดอยู่ในสุทธาวาสภูมิ รูปขันธ์ และเวทนาขันธ์ ไม่ใช่เคยดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น (ปวัตติวาระ) 82/184/15 82/158/8 |
12 | [๑๘๙] บุคคลทั้งหมดที่กำลังเกิด เวทนาขันธ์เคยดับแก่บุคคลเหล่านั้น แต่รูปขันธ์ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น , บุคคลที่กำลังตายในปัญจโวการภูมิก็ดี บุคคลที่กำลังตายในอสัญญสัตตภูมก็ดี เวทนาขันธ์เคยดับ และรูปขันธ์ก็กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น (ปวัตติวาระ) 82/192/10 82/165/10 |
13 | [๒๐๓] บุคคลที่กำลังปรินิพพานในปัญจโวการภูมิก็ดี บุคคลที่กำลังตาย ในอสัญ-ญสัตตภูมิก็ดี รูปขันธ์กำลังดับ แก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่เวลาขันธ์ ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น , บุคคลนอกจากนี้ที่กำลังตายในปัญจโวการภูมิรูปขันธ์กำลังดับ และเวทนาขันธ์ก็จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น ในภูมินั้น.(ปวัตติวาระ) 82/204/12 82/177/12 |
14 | [๒๑๔] บุคคลที่กำลังเกิดในสุทธาวาสภูมิ สัญญาขันธ์จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่เวทนาขันธ์ไม่ใช่เคยดับ แก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น , บุคคลที่เกิดอยู่ในจตุโวการภูมิก็ดีในปัญจโวการภูมิก็ดี สัญญาขันธ์จักดับ และเวทนาขันธ์ก็เคยดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น (ปวัตติวาระ) 82/214/11 82/186/11 |
15 | [๒๗๓] บุคคลใดกำลังรู้แจ้งรูปขันธ์ บุคคลนั้นก็กำลังรู้แจ้งเวทนาขันธ์ ด้วย. (ปริญญาวาระ) 82/286/5 82/245/5 |
16 | [๒๗๖] พระอรหันต์ไม่ใช่กำลังรู้แจ้งรูปขันธ์ แต่เคยรู้แจ้งเวทนาขันธ์ , เว้นบุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยอรหัตมรรคก็ดี พระอรหันต์ก็ดี บุคคลที่เหลือไม่ใช่กำลังรู้แจ้งรูปขันธ์ และไม่ใช่เคยรู้แจ้งเวทนาขันธ์ (ปริญญาวาระ) 82/293/6 82/252/6 |
17 | บุคคลใดกำลังรอบรู้ซึ่งรูปขันธ์ บุคคลนั้นก็จักรอบรู้ซึ่งเวทนาขันธ์ หรือ ? อธิบายว่าเพราะบุคคลผู้ดำรงอยู่ในมรรคเป็นผู้มีขณะจิตเดียว (คือ มรรคจิตเกิดขณะเดียว)ฉะนั้นบุคคลนั้น ย่อมไม่ถึงซึ่งความนับว่า จักรอบรู้ เพราะเหตุนั้น พระองค์จึงตรัสว่า ไม่ใช่ (อ.ปริญญาวาระ) 82/301/11 82/259/16 |
18 | [๒๘๘] ทิพพจักขุ ปัญญาจักขุ ชื่อว่า จักขุ แต่ไม่ชื่อว่า จักขายตนะ , จักขายตนะชื่อว่า จักขุด้วย ชื่อว่า จักขายตนะด้วย (นิทเทสวาระ) 82/319/4 82/270/4 |
19 | [๒๘๘] ยกเว้นกายายตนะเสียแล้ว กายที่เหลือนอกนั้น ชื่อว่า กาย แต่ไม่ชื่อว่า กายายตนะ, ยกเว้นรูปายตนะเสียแล้ว รูปที่เหลือนอกนั้น ชื่อว่า รูป แต่ไม่ชื่อว่ารูปายตนะ (นิทเทสวาระ) 82/320/6 82/270/22 |
20 | [๒๘๘] สีลคันธะ สมาธิคันธะ ปัญญาคันธะ ชื่อว่า คันธะ แต่ไม่ชื่อว่า คันธา-ยตนะ , อรรถรส ธรรมรส วิมุตติรส ชื่อว่า รส แต่ไม่ชื่อว่า รสายตนะ, ยกเว้น ธัมมายตนะเสียแล้ว ธรรมที่เหลือนอกนั้น ชื่อว่า ธัมมะ แต่ไม่ชื่อว่า ธัมมายตนะ.(นิทเทสวาระ) 82/321/1 82/271/11 |
21 | [๒๙๘] บุคคลที่มีรูปเกิดได้ จักขุเกิดไม่ได้เหล่านั้น กำลังเกิด รูปายตนะกำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่จักขายตนะ ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น , บุคคลที่มีจักขุเกิดได้เหล่านั้นกำลังเกิด รูปายตนะกำลังเกิด และจักขายตนะก็กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น (ปวัตติวาระ) 82/340/4 82/284/21 |
22 | [๓๐๘] ในรูปาวจรภูมินั้น จักขายตนะกำลังเกิดในภูมินั้น แต่ฆานายตะไม่ใช่กำลังเกิดในภูมินั้น, ในกามาวจรภูมินั้น จักขายตนะกำลังเกิด และฆานายตนะก็กำลังเกิดในภูมินั้น (ปวัตติวาระ) 82/347/4 82/290/14 |
23 | [๓๑๐] ในอรูปภูมินั้น มนายตนะกำลังเกิดแต่จักขายตนะ ไม่ใช่กำลังเกิดในภูมินั้น,ในปัญจโวการภูมินั้น มนายตนะกำลังเกิด และจักขายตนะก็กำลังเกิดในภูมินั้น...(ปวัตติวาระ) 82/348/11 82/291/17 |
24 | [๓๑๕] ในปัญจโวการภูมิ ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี ธัมมายตนะกำลังเกิด และรูปา-ยตนะ ก็กำลังเกิดในภูมินั้น, ในอรูปภูมินั้น ธัมมายตนะกำลังเกิดในภูมินั้น แต่รูปา-ยตนะไม่ใช่กำลังเกิดในภูมินั้น (ปวัตติวาระ) 82/352/4 82/294/12 |
25 | [๓๖๒] บุคคลที่เกิดอยู่ในสุทธาวาสภูมิ อสัญญสัตว์ภูมิ อรูปภูมิ ก็ดี ฆานายตนะไม่ใช่เคยเกิดและจักขายตนะ ก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น..(ปวัตติวาระ) 82/388/1 82/323/17 |
26 | [๓๙๒] ปัจฉิมภวิกบุคคล(ผู้เกิดในภพสุดท้าย) เกิดอยู่ก็ดี บุคคลเหล่าใดจักเกิดในอรูปภูมิ แล้วจักปรินิพพานก็ดี ฆานายตนะไม่ใช่จักเกิด และจักขายตนะก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น. (ปวัตติวาระ) 82/410/3 82/343/18 |
27 | [๔๘๕] เมื่อบุคคลเหล่านั้น กำลังปรินิพพานในปัญจโวการภูมิก็ดี ปัจฉิมภวิกบุคคลในอรูปภูมิก็ดี รูปายตนะไม่ใช่กำลังเกิด และธัมมายตนะก็ไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น. (ปวัตติวาระ) 82/495/6 82/415/6 |
28 | [๖๒๑] เมื่อบุคคลเหล่านั้นกำลังปรินิพพาน มนายตนะกำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้นแต่ธัมมายตนะ ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น , บุคคลนอกจากนั้นที่มีจิตเกิดได้เหล่านั้นกำลังตาย มนายตนะกำลังดับ และธัมมายตนะก็จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น..(ปวัตติวาระ) 82/611/15 82/507/9 |
29 | [๗๘๘] บุคคลใดกำลังรู้แจ้งจักขายตนะ , บุคคลนั้นก็กำลังรู้แจ้งโสตายตนะด้วย..(ปริญญาวาระ) 82/758/5 82/619/5 |
30 | จักขุอายตนะ รูปายตนะ โสตายตนะ มนายตนะ ธัมมายตนะ ย่อมปรากฏในอุปัตติขณะแห่งรูปธาตุ (อ.อายตนยมก) 82/777/18 82/632/3 |
31 | [๘๐๔] เว้นจักขุ และจักขุธาตุเสียแล้ว ธาตุที่เหลือไม่ชื่อว่า จักขุ และไม่ชื่อว่า จักขุธาตุ, เว้นมโน และมโนธาตุเสียแล้ว มโนที่เหลือไม่ชื่อว่า มโน และไม่ชื่อว่า มโนธาตุ ธรรมที่ไม่ชื่อว่า มโนวิญญาณ , ไม่ชื่อว่า มโนริวิญญาณธาตุ ด้วย (ปัณณัตติวาระ) 82/794/6 82/646/6 |
32 | [๘๑๔] บุคคลที่มีจิตเกิดได้ จักขุเกิดไม่ได้เหล่านั้น กำลังเกิด มโนวิญญาณธาตุกำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่จักขุธาตุไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น.(ปวัตติวาระ) 82/809/15 82/657/7 |
33 | [๘๑๖] บุคคลใดกำลังรู้แจ้งจักขุธาตุ บุคคลนั้นก็กำลังรู้แจ้งโสตธาตุ ด้วย.(ปริญญาวาระ) 82/811/5 82/658/5 |
34 | [๘๒๕] ยกเว้นทุกข์ทางกาย ทุกข์ทางใจเสียแล้ว ธรรมที่เหลือนอกนั้น ชื่อว่า ทุกข---สัจจะ แต่ไม่ชื่อว่า ทุกข์ , ยกเว้นสมุทยสัจจะเสียแล้ว ธรรมที่เหลือนอกนั้น ชื่อว่าสมุทัย แต่ไม่ชื่อว่า สุมทยสัจจะ (ปัณณัตติวาระ) 82/825/7 82/668/7 |
35 | [๘๒๕] ยกเว้นนิโรธสัจจะเสียแล้ว ธรรมที่เหลือนอกนั้น ชื่อว่า นิโรธ แต่ไม่ชื่อว่านิโรธสัจจะ (ปัณณัตติวาระ) 82/826/3 82/669/3 |
36 | [๘๓๓] บุคคลทั้งหมดกำลังเกิดก็ดี ในอุปปาทขณะแห่งตัณหาวิปปยุตตจิตในปวัตติกาลก็ดี ทุกขสัจจะกำลังเกิด แต่สมุทยสัจจะไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น(ปวัตติวาระ) 82/852/9 82/690/9 |
37 | [๘๓๗] ในอบายภูมิ ในอสัญญสัตตภูมิ ทุกขสัจจะกำลังเกิดในภูมินั้น แต่มัคคสัจจะไม่ใช่กำลังเกิดในภูมินั้น. (ปวัตติวาระ) 82/855/11 82/693/4 |
38 | [๘๔๑] บุคคลทั้งหมดกำลังตายก็ดี ในภังคขณะ (ดับ) แห่งจิตในปวัตติกาลก็ดีในอุปปาทขณะ (ขณะบังเกิด) แห่งผลจิต ในอรูปภูมิก็ดี มัคคสัจจะไม่ใช่กำลังเกิดแลทุกขสัจจะก็ไม่ใช่กำลังเกิด แก่บุคคลเหล่านั้น (ปวัตติวาระ) 82/859/13 82/696/7 |
39 | [๘๔๘] ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมดก็ดี ในอุปปาทขณะแห่งตัณหาวิป-ปยุตตจิตและมัคควิปปยุตตจิตก็ดี บุคคลที่กำลังเข้านิโรธสมบัติอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอรูปภูมิก็ดี สมุทยสัจจะไม่ใช่กำลังเกิด และมัคคสัจจะก็ไม่ใช่กำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น. (ปวัตติวาระ) 82/865/13 82/701/7 |
40 | [๘๙๑] ในอุปปาทขณะแห่งอรหัตมัคคจิตก็ดี ในอุปปาทขณะแห่งจิตของพระอร-หันต์ทั้งหลายก็ดี บุคคลเหล่าใดจะได้อรหัตมรรคในลำดับแห่งจิตใดในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้นก็ดี ทุกขสัจจะกำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น แต่สมุทยสัจจะไม่ใช่จักเกิดแก่บุคคลเหล่านั้น (ปวัตติวาระ) 82/909/7 82/732/7 |
41 | [๑๐๑๗] บุคคลใด กำลังรู้แจ้งทุกขสัจจะ บุคคลนั้นกำลังละสมุทยสัจจะ ด้วย.(ปริญญาวาระ) 82/1047/5 82/839/5 |
42 | สมุทยสัจจะ และมัคคสัจจะ บุคคลย่อมได้ในปวัตติกาลโดยส่วนเดียวเท่านั้น.ทุกขสัจจะบุคคลย่อมได้ในจุติ และปฏิสนธิบ้าง ในปวัตติกาลบ้าง (อ.สัจจยมก) 82/1060/13 82/852/7 |
43 | [๑๐๒๓] สังขาร 3 : ลมหายใจเข้า - ออก ชื่อว่า กายสังขาร , วิตกและวิจาร ชื่อว่าวจีสังขาร , สัญญาเวทนา และ ธรรมที่สัมปยุตตด้วยจิตแม้ทั้งหมด (เว้นวิตกและวิจาร) ชื่อว่า จิตตสังขาร (ปัณณัตติวระ) 82/1063/3 82/854/3 |
44 | [๑๐๓๙] ในทุติยฌาน ในตติยฌาน กายสังขารกำลังเกิดในภูมินั้น แต่วจีสังขารไม่ใช่กำลังเกิดในภูมินั้น , ในปฐมฌาน ในกามาวจรภูมิ กายสังขารกำลังเกิดและวจีสังขารก็กำลังเกิดในภูมินั้น (ปวัตติวาระ) 82/1082/6 82/867/6 |
45 | [๑๐๕๔] บุคคลที่กำลังเข้าทุติยฌาน ตติยฌาน จตุตถฌานอยู่ก็ดี เมื่อทุติยจิตเกิดขึ้นแก่บุคคลที่เกิดอยู่ในสุทธาวาสภูมิก็ดี จิตตสังขารเคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่วจีสังขารไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น. (ปวัตติวาระ) 82/1096/4 82/880/8 |
46 | [๑๐๘๗] บุคคลที่กำลังเกิดในสุทธาวาสภูมิก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี วจีสังขารไม่ใช่กำลังเกิด และจิตตสังขารก็ไม่ใช่เคยเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น. (ปวัตติวาระ) 82/1127/8 82/906/7 |
47 | [๑๑๕๖] ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมด เว้นลมหายใจเข้าออกเสียแล้ว ในภังคขณะแห่งจิตก็ดี บุคคลที่กำลังเข้านิโรธสมาบัติอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี จิตตสังขารจักดับแก่บุคคลเหล่านั้น แต่กายสังขารไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้น. (ปวัตติวาระ) 82/1195/7 82/960/7 |
48 | [๑๒๒๐] บุคคลใดย่อมรู้แจ้งกายสังขาร บุคคลนั้นย่อมรู้แจ้งวจีสังขารด้วย. (ปริญญาวาระ) 82/1258/2 82/1015/2 |
49 | สภาวะใดอันปัจจัยย่อมกระทำพร้อม คือ ปรุงแต่งเหตุนั้นสภาวะนั้น ชื่อว่า สังขาร.(อ.สังขารยมก) 82/1260/2 82/1016/22 |
50 | รูปที่มีจิตเป็นสมุฏฐานย่อมดับไปในอุปาทขณะแห่งจิตดวงที่ 17 (อ.สังขารยมก) 82/1267/14 82/1022/17 |