1 | [๑๓] ผลแห่งการถวายราชอาสน์ทองคำ (สีหาสนทายกเถราปทาน) 71/1/1071/1/10 71/1/9 |
2 | เมื่อพระสิทธัตถพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ท่านเกิดเป็นมนุษย์ เห็นเจดีย์บรรจุพระธาตุ จึงสร้างอาสนะสีหะบนธรรมาสน์ที่สำเร็จด้วยแก้วทุกชนิด และทำเรือนยอดไว้บนธรรมาสน์นั้น และสร้างตั่งรองเท้า , ครั้งพระกัสสปพุทธเจ้าท่านได้บวชบำเพ็ญสมณธรรม ,ในกาลนี้ได้ฟังธรรม บวชเรียนกรรมฐาน ไม่นานก็บรรลุ พระอรหันต์. (อ.สีหาสนทายกเถราปทาน) 71/3/971/3/9 71/4/10 |
3 | [๑๔] ในกัปที่ 94 ท่านเป็นคนดูแลป่าไม้ ได้ถวายเสาต้นหนึ่ง เพื่อทำศาลาแด่พระสิทธัตถพุทธเจ้า และทำทานอื่นอีก , ในกาลนี้ ได้ไปฟังธรรมพร้อมกับบิดามารดา มีศรัทธาบวชแล้ว เล่าเรียนกรรมฐาน ไม่นานก็ได้เป็นพระอรหัต.(เอกถัมภิกเถราปทาน) 71/6/1771/6/17 71/8/3 |
4 | [๑๕] ผลแห่งการถวายผ้า (นันทเถราปทาน) 71/11/371/11/3 71/12/3 |
5 | ท่านได้ถวายมหาทาน ตั้งความปรารถนาเป็นเลิศภิกษุผู้คุ้มครองทวารในอินทรีย์ทั้งหลาย ต่อพระปทุมุตตรพุทธเจ้า , ครั้งพระอัตถทัสสีพุทธเจ้า ท่านเกิดเป็นเต่าใหญ่ ได้พาพระพุทธเจ้าข้ามฝั่งแม่น้ำ , ในกาลนี้ เกิดเป็นโอรสในครรภ์ของพระมหาปชาบดีโคตมี (อ.นันทเถราปทาน) 71/12/871/12/8 71/13/14 |
6 | [๑๖] ท่านเป็นดาบสได้ประคองฉัตรดอกไม้ด้วยมือ ถวายแด่พระปทุมุตตรพุทธเจ้า , ในกาลนี้ ได้บรรพชา เมื่ออายุ 18 ปี แล้วไม่สามารถเรียนจำคาถาได้ พระศาสดาให้ลูบผ้าเช็ดธุลี และตรัสพระคาถาจบ ท่านได้บรรลุพระอรหัต เป็นเลิศภิกษุผู้เนรมิตกายที่สำเร็จด้วยใจ และผู้ฉลาดในการเปลี่ยนแปลงใจ.(จุลลปันถกเถราปทาน) 71/18/371/18/3 71/18/11 |
7 | ท่านได้ถวายทานฟังธรรม ทำบุญตลอดชีวิต ตั้งความปรารถนาเป็นเลิศภิกษุผู้เป็นที่รักที่ชอบใจของเทวดาทั้งหลายต่อพระปทุมุตตรพุทธเจ้า , เมื่อพระสุเมธพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ท่านได้บูชาพระสถูปบำเพ็ญทานในพระสงฆ์ , ครั้งเป็นพระเจ้าจักร-พรรดิ พามหาชนตั้งอยู่ในศีล 5 ได้มีสวรรค์ เป็นที่ไปในเบื้องหน้า.ในกาลนี้ท่านบวชเป็นปริพาชกมีวิชชา ชื่อว่า จูฬคันธาระ เมื่อพระศาสดาเสด็จกรุงราชคฤห์ วิชชานั้นก็ไม่ให้ผล ท่านจึงบวชหวังได้วิชชามหาคันธาระ พระศาสดาทรงให้กรรมฐานที่เหมาะแก่จริต ไม่นาน ท่านเริ่มตั้งวิปัสสนาบรรลุพระอรหัต (อ.ปิลินทวัจฉเถราปทาน) 71/29/1671/29/16 71/29/21 |
8 | [๑๘] ท่านได้ถวายเครื่องลาด และชำระเสนาสนะทำให้สว่างไสว ตั้งความปรารถนาตำแหน่งเลิศภิกษุผู้ใคร่ต่อการศึกษา , ในกาลนี้จึงบังเกิดในพระครรภ์ของพระนางยโสธราเทวี เมื่อบรรพชาแล้วท่านรับโอวาท เป็นอันมากในสำนักพระศาสดา มีญาณแก่กล้า เจริญวิปัสสนาบรรลุพระอรหันต์.(ราหุลเถราปทาน) 71/33/371/33/3 71/33/3 |
9 | [๑๙] ท่านนำดอกกรรณิการ์มาประดับฉัตร ยกขึ้นกั้นถวายแด่พระปทุมุตตรพุทธเจ้า และถวายข้าวปรุงด้วยน้ำนมแด่พระพุทธเจ้า กับภิกษุอีก 8 รูป ทำบุญตลอดชีวิต ปรารถนาตำแหน่งเลิศภิกษุผู้น่าเลื่อมใส , ในกาลนี้เป็นน้องชายพระสารีบุตร ได้ฟังธรรมแล้วบวช ถูกพระศาสดาตำหนิเรื่องบริษัท ครั้นท่านบรรลุพระอรหัตแล้ว สมาทานธุดงค์และสอนลูกศิษย์ให้ถือตาม (อุปเสนวังคันตปุตตเถราปทาน) 71/39/371/39/3 71/39/5 |
10 | ก่อนพระปทุมุตตรพุทธเจ้าจะอุบัติ ท่านได้ให้มหาทานแก่คนกำพร้าและคนเดินทาง ดาบสผู้มีอภิญญารูปหนึ่งได้ชักชวนในความเป็นใหญ่ในเทวโลก ท่านจึงไปเกิดเป็นท้าวสักกะ จากนั้นก็มาเกิดในตระกูลผู้สามารถ(ค้ำจุน) ดำรงรัฐที่แตกไป. สมัยนั้น พระปทุมุตตรพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นในโลก ท่านจึงถวายมหาทาน แล้วปรารถนาตำแหน่งเลิศภิกษุผู้บวชด้วยศรัทธา , ในกัปที่ 92 ได้เป็นสหายในบุญกิริยา ที่ราชบุตรทั้ง 3 ผู้เป็นน้องต่างมารดาของพระผุสสพุทธเจ้า ทำการอุปัฏฐากพระศาสดา ,ในกาลนี้ ได้ศรัทธาแล้วยอมอดอาหาร 7 วัน เพื่อขอบิดามารดาบวชครั้นบวชแล้ว เจริญวิปัสสนาบรรลุพระอรหัต. (อ.รัฐปาลเถราปทาน) 71/45/471/45/4 71/46/5 |
11 | ท่านได้ถวายผลมะงั่วแด่พระสิทธัตถพุทธเจ้า และถวายภัตเจือน้ำนมตลอดอายุแก่ภิกษุ 3 รูป , กาลหนึ่งได้ถวายภัตเจือน้ำนมแก่พระปัจเจกพุทธเจ้ารูปหนึ่ง ,ในกาลนี้เกิดในท้องหญิงเข็ญใจ ครั้นครบกำหนดคลอด นางคลอดยากจึงสลบไป ญาติเข้าใจว่าตาย จึงเอาไปป่าช้า เทวดาช่วยทำคลอด แล้วนำเด็กไปให้คนเฝ้าป่าช้าเลี้ยงไว้ ต่อมาพระศาสดาเสด็จไปป่าช้านั้น แสดงธรรม ท่านจึงได้บรรพชา พระศาสดาแนะนำด้วยเมตตาภาวนาเจริญวิปัสสนาบรรลุพระอรหัต.(อ.โสปากเถราปทาน) 71/55/1371/55/13 71/56/5 |
12 | [๒๒] ท่านสั่งให้จัดเตรียมอาหาร แล้วได้นิมนต์ด้วยใจ ต่อพระปิยทัสสีพุทธเจ้าและภิกษุ 1,000 รูป ซึ่งกำลังเสด็จดำเนินไปในถนน เมื่อพระศาสดาเสด็จมาก็จัดการถวายทาน (สุมังคลเถราปทาน) 71/60/371/60/3 71/60/5 |
13 | ครั้งท่านเป็นรุกขเทวดา ได้เห็นพระปิยทัสสีพุทธเจ้า ทรงสรงสนานแล้วยืนอยู่ จึงถึงความโสมนัสปรบมือในกาลนี้ ท่านเกิดในตระกูลเข็ญใจ เมื่อพระเจ้าปเสน-ทิโกศลบำเพ็ญมหาทาน ท่านเห็นภิกษุผู้อยู่ดีกินดีก็เลยบวช อยู่ไม่นานก็เบื่อ ขณะกำลังจะไปสึกเห็นชาวนากำลังไถนาอยู่ เกิดสังเวช จึงเข้าทำกรรมฐานที่โคนไม้ ได้บรรลุพระอรหัต (อ.สุมังคลเถราปทาน) 71/62/471/62/4 71/62/11 |
14 | [๒๓] ผลแห่งการเจริญพุทธานุสสติ (สุภูติเถราปทาน) 71/70/1571/70/15 71/70/18 |
15 | ท่านเป็นดาบสชื่อนันทะ มีบริวาร 44,000 ได้ถวายอาสนะดอกไม้ และยืนกั้นฉัตรแด่พระปทุมุตตรพุทธเจ้า พระศาสดาดำริว่า ขอสักการะนี้ของดาบสทั้งหลายจงมีผลมาก แล้วเข้านิโรธสมาบัติตลอด 7 วัน ภิกษุหนึ่งแสนก็เข้านิโรธสมาบัติ ท่านตั้งความปรารถนาตำแหน่งเลิศภิกษุผู้เป็นทักขิไณยบุคคล และผู้อยู่โดยไม่มีกิเลส ,ได้บวชอีก 500 ชาติ แม้ในสมัยพระกัสสปพุทธเจ้า ท่านก็ได้บวช อยู่ป่าบำเพ็ญคตปัจจาคตวัตร (อ.สุภูติเถราปทาน) 71/73/571/73/5 71/73/5 |
16 | ในกาลนี้ เกิดเป็นน้องชายของอนาถบิณฑิกเศรษฐี ท่านไปพร้อมพี่ชายฟังธรรมแล้วบวช มีเมตตาฌานเป็นบาท บรรลุพระอรหันต์แล้ว เมื่อเที่ยวบิณฑบาต ท่านก็เข้าฌานแผ่เมตตาไปทุกๆ บ้าน ออกจากฌานแล้วจึงรับอาหาร.(อ.สุภูติเถราปทาน) 71/78/1771/78/17 71/78/6 |
17 | [๒๔] พระปทุมุตตรพุทธเจ้า ปรินิพพานแล้ว มนุษย์ เทวดา นาค ครุฑ กุมภัณฑ์ยักษ์ คนธรรพ์ ได้สร้างพระเจดีย์ สูง 7 โยชน์ ท่านเป็นบุรุษเข็ญใจ ได้ทำผ้าห่มให้เป็นธงบูชาเจดีย์ ยักษ์ชื่อ อภิสัมมตะ นำธงลอยขึ้นไปบูชาในอากาศทำประทัก-ษิณเจดีย์ 3 รอบ (อุปวาณเถราปทาน) 71/84/371/84/3 71/83/3 |
18 | ในกาลนี้ ท่านเกิดในตระกูลพราหมณ์ ได้เห็นพุทธานุภาพในคราวรับมอบ พระเชตวันวิหาร จึงบวชเจริญวิปัสสนาบรรลุพระอรหัตแล้ว ในกาลใดความไม่ผาสุกได้มีแก่พระศาสดา พระเถระได้น้อมนำน้ำร้อน น้ำปานะและเภสัช เข้าไปถวาย พระโรคของพระศาสดาจึงสงบ (อ.อุปวาณเถราปทาน) 71/90/1571/90/15 71/89/15 |
19 | [๒๕] ท่านต้องเลี้ยงดู มารดาบิดา ผู้ตาบอด จึงไม่ได้บวช แต่ท่านตั้งใจรับสรณะ 3รักษาให้บริบูรณ์ตลอดแสนปี ดังนั้น เมื่อเกิดที่ใด ย่อมได้เหตุ 8 ประการ มีผู้อื่นบูชาทุกทิศ เป็นต้น. ภพสุดท้ายมีอายุ 7 ขวบ ได้บรรลุพระอรหัต.(ตีณิสรณาคมนิยเถราปทาน) 71/92/371/92/3 71/91/3 |
20 | [๒๖] ท่านเป็นคนเข็ญใจทำงานรับจ้าง จึงไม่ได้บวช แต่รักษาศีล 5 ตลอดแสนปีให้บริบูรณ์ ในครั้งพระอโนมทัสสีพุทธเจ้า ในภพสุดท้าย ท่านมีอายุ 5 ขวบ เห็นบิดามารดารับศีล จึงระลึกศีลของตนได้ นั่งบนอาสนะนั้น บรรลุพระอรหัต พระศาสดาประทานอุปสมบทให้ (ปัญจสีลสมาทานิยเถราปทาน) 71/97/371/97/3 71/95/12 |
21 | [๒๖] รักษาศีล 5 แล้ว ย่อมได้เหตุ 3 ประการ คือ เป็นผู้มีอายุยืนนาน มีโภคสมบัติมาก มีปัญญาคมกล้า (ปัญจสีลสมาทานิยเถราปทาน) 71/98/1271/98/12 71/96/26 |
22 | [๒๗] ท่านได้นิมนต์ พระสิทธัตถะพุทธเจ้า ผู้เสด็จเที่ยวบิณฑบาต ให้บริโภคด้วยข้าวน้ำอันประเสริฐ ด้วยจิตเลื่อมใส , ในกาลนี้ เกิดในตระกูลหนึ่ง มีจิตเลื่อมใสในพระศาสนาบวชแล้วเจริญวิปัสสนา บรรลุพระอรหัตแล้ว.(อันนสังสาวกเถราปทาน) 71/101/371/101/3 71/100/3 |
23 | [๒๘] ท่านมีจิตเลื่อมใส กระทำการบูชาด้วยธูป ที่ทำด้วยไม้จันทน์ กฤษณาและกระลำพัก เป็นต้น ไว้ในพระคันธกุฎีของพระสิทธัตถพุทธเจ้า , ในกาลนี้ได้บวชในพระศาสนา ด้วยอานุภาพแห่งกุศล เจริญวิปัสสนาบรรลุพระอรหัต.(ธูปทายกเถราปทาน) 71/104/371/104/3 71/102/13 |
24 | [๒๙] ผลแห่งการเกลี่ยทราย เก่าที่ โพธิมณฑลออก แล้วนำทรายใหม่มาใส่.(ปุลินปูชกเถราปทาน) 71/106/371/106/3 71/104/12 |
25 | [๓๐] ท่านเกิดเป็นจระเข้ใหญ่ อยู่ในแม่น้ำจันทภาคา ได้นำส่งพระสิทธัตถพุทธเจ้า ข้ามฝั่งแม่น้ำ เมื่อตายจากนั้น ได้ไปสู่เทวโลก (อุตติยเถราปทาน) 71/109/371/109/3 71/106/10 |
26 | เพราะไม่ชำระศีล และทิฏฐิให้หมดจด จึงไม่อาจให้คุณวิเศษบังเกิดได้.(อ.อุตติยเถราปทาน) 71/111/871/111/8 71/108/20 |
27 | [๓๑] ผลแห่งการยืนประนมอัญชลีไหว้ พระพุทธเจ้าผู้กำลังเสด็จดำเนินอยู่.(เอกัญชลิกเถราปทาน) 71/113/371/113/3 71/110/10 |
28 | [๓๒] ท่านได้ถวายผ้าโขมะ ผืนหนึ่งแด่ พระวิปัสสีพุทธเจ้า , ในกาลนี้ เกิดในเรือนมีตระกูล ฟังธรรมพระศาสดาแล้วได้ศรัทธา บรรพชา เจริญวิปัสสนา ไม่นานนักก็บรรลุพระอรหัต (โขมทายกเถราปทาน) 71/116/371/116/3 71/113/9 |
29 | ท่านได้ตั้งความปรารถนาตำแหน่งเลิศภิกษุผู้จับสลากก่อน วันหนึ่งได้ถวายเครือกล้วย แด่พระพุทธเจ้าผู้ออกจากนิโรธสมาบัติ, พระวิปัสสีพุทธเจ้า ได้มีอุโบสถทุก 6 ปี , ในกาลพระกัสสปพุทธเจ้ามีอุโบสถทุก 6 เดือน ท่านเป็นภุมม-เทวดาได้ทำภิกษุ 2 รูป ผู้สามัคคีกันให้แตกกันจึงต้องตกนรกอยู่พุทธันดรหนึ่ง.(อ.กุณฑธานเถราปทาน) 71/121/571/121/5 71/118/8 |
30 | ในกาลนี้ ตั้งแต่ท่านอุปสมบท จะปรากฏหญิงผู้หนึ่งติดตามท่านตลอด ท่านจึงถูกภิกษุ และผู้คนเยาะเย้ย จนท่านทนไม่ได้ จึงได้กล่าวคำหยาบแก่ภิกษุสามเณรพระศาสดาทรงตำหนิท่าน ที่ไม่อดทนในกรรมเก่าที่ทำไว้ ภายหลังท่านได้พระเจ้าปเสนทิโกศลอุปถัมภ์ ได้อาหารอันสัปปายะ จึงบรรลุพระอรหัต.(อ.กุณฑธานเถราปทาน) 71/124/571/124/5 71/120/25 |
31 | [๓๔] ท่านเป็นพราหมณ์ชื่อ โสภิตะ ได้สรรเสริญพระปทุมุตตรพุทธเจ้า จึงได้รื่นรมย์อยู่ในเทวโลกตลอดแสนกัป (สาคตเถราปทาน) 71/129/371/129/3 71/125/3 |
32 | ท่านตั้งความปรารถนาตำแหน่งเลิศภิกษุผู้จำแนกอรรถที่ทรงกล่าวโดยย่อให้พิสดาร ต่อพระปทุมุตตรพุทธเจ้า , สมัยพระสุเมธพุทธเจ้าท่านเป็นวิทยาธรเหาะไปโดยทางอากาศ ได้กระทำการบูชาพระศาสดาด้วยดอกกรรณิการ์, เมื่อสมัย-พระกัสสปพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ท่านได้บูชาด้วยแผ่นอิฐทองที่ฐานของพระเจดีย์ปรารถนาให้มีสรีระดังทอง , ในกาลนี้ เป็นปุโรหิตของพระเจ้าจัณฑปัชโชต ได้มานิมนต์พระพุทธเจ้า พร้อมกับพราหมณ์ 7 คน ได้ฟังธรรมแล้วบรรลุพระอรหัตพระศาสดาจึงให้ท่านและคณะ กลับไปกรุงอุชเชนี ทำพระราชาให้เลื่อมใส.(อ.มหากัจจายนเถราปทาน) 71/135/471/135/4 71/130/13 |
33 | ท่านตั้งความปรารถนาตำแหน่งเลิศภิกษุผู้ยังสกุลให้เลื่อมใส ต่อพระปทุมุตตรพุทธเจ้า , ในกาลนี้ท่านเกิดในวันเดียวกันกับพระโพธิสัตว์ได้ชื่อว่า อุทายี เพราะมีผิวดำ จึงเรียก กาฬุทายี พระเจ้าสุทโธทนมหาราช ส่งท่านมาพร้อมกับบุรุษ1,000 คน เพื่อทูลเชิญพระศาสดาเสด็จกรุงกบิลพัสดุ์ ท่านได้ฟังธรรม พระศาสดาบรรลุพระอรหัตแล้ว. (อ.กาฬุทายีเถราปทาน) 71/140/471/140/4 71/135/4 |
34 | ท่านตั้งความปรารถนาตำแหน่งเลิศภิกษุผู้ทรงจีวรเศร้าหมอง ต่อพระปทุมุตตรพุทธเจ้า , ครั้งพระอัตถทัสสีพุทธเจ้า ท่านได้ถวายบังคมประคองอัญชลีเหนือเศียรเกล้าชมเชยพระศาสดาด้วยอาการ 6 แล้วถวายน้ำผึ้ง , ครั้งพระกัสสปพุทธเจ้า ท่านเป็นอำมาตย์ของพระราชา กัฏฐวาหนะ ถูกพระราชาส่งไปนำพระศาสดามา ได้ฟังธรรมแล้วบวชบำเพ็ญสมณธรรมสิ้น 20,000 ปี, ในกาลนี้เป็นศิษย์พาวรีพราหมณ์ มีบริวาร 1,000 ไปฟังธรรมพร้อมกับคณะศิษย์ ได้บรรลุอรหัต เป็นภิกษุผู้เลิศแห่งผู้มีจีวรเศร้าหมอง 3 ประการ คือ ด้วยศาตรา ด้วยด้าย ด้วยน้ำย้อม.(อ.โมฆราชเถราปทาน) 71/151/1671/151/16 71/145/13 |
35 | [๓๘] ผลแห่งการถวายอ้อย (อธิมุตตกเถราปทาน) 71/154/371/154/3 71/147/8 |
36 | ในกัปที่ 91 ท่านเป็นดาบสได้ปลูกกระเทียมเป็นอันมาก ท่านนำกระเทียมมาถวายเพื่อเป็นยาแก่ภิกษุสงฆ์ มีพระวิปัสสีพุทธเจ้าเป็นประธาน , ในกาลนี้ ท่านได้ศรัทธาบวชแล้ว เจริญวิปัสสนา ไม่นานก็บรรลุพระอรหัต .(อ.ลสุณทายกเถราปทาน) 71/157/471/157/4 71/150/4 |
37 | [๔๐] ยาพิษย่อมไม่กล้ำกราย ศาสตราไม่กระทบกาย ไม่ตายในน้ำ ปรารถนาฝนเมื่อใด ฝนย่อมตกเมื่อนั้น นี้เป็นผลแห่งการสร้างศาลาโรงฉัน..(อายาตทายกเถราปทาน) 71/159/371/159/3 71/151/16 |
38 | ในกาลแห่งพระสิทธัตถพุทธเจ้า ท่านเลื่อมใสในพระรัตนตรัย ได้สร้างธรรมจักรสำเร็จด้วยรัตนะบูชาข้างหลัง ธรรมาสน์ในธรรมสภา, ในกาลนี้ เกิดในเรือนตระกูลแห่งหนึ่ง เกิดศรัทธา บวชแล้วเจริญวิปัสสนาไม่นานก็บรรลุพระอรหัต.(อ.ธัมมจักกิกเถราปทาน) 71/163/471/163/4 71/155/15 |
39 | ท่านให้สร้างต้นกัลปพฤกษ์ อันสำเร็จด้วยทอง วิจิตรด้วยรัตนะ 7 วางบูชาไว้ตรงหน้าพระเจดีย์ ของพระสิทธัตถพุทธเจ้า, ในกาลนี้เกิดในเรือนมีตระกูล ดำรงการครองเรือน เลื่อมใสในพระรัตนตรัย ฟังธรรมได้ศรัทธา บวชแล้วไม่นานนักก็บรรลุพระอรหัต. (อ.กัปปรุกขิยเถราปทาน) 71/166/471/166/4 71/158/5 |
40 | ท่านเป็นฤๅษี ได้อภิญญา 5 สมาบัติ 8 ได้ถวายบังคม และกล่าวชมเชยพระปทุมุตตรพุทธเจ้า , ในกาลนี้เกิดเป็นหลานของพระอุบาลีเถระ ในกรุงกบิลพัสดุ์ บวชแล้วในสำนักของลุง ได้เป็นเลิศภิกษุผู้มีปัญญาเฉียบแหลมในปัญหาพระวินัย.(อ.อุปาลิเถราปทาน) 71/171/571/171/5 71/163/6 |
41 | [๔๔] ท่านได้ทำที่จงกรมฉาบด้วยปูนขาว ทำเพดาน สร้างศาลารี(ยาว) ถวายพระอโนมทัสสีพุทธเจ้า , ท่านเคยเกิดเป็นพระเจ้าโอกกากราช ต้นวงษ์ศากยราช..(โสณโกฏิยเวสสเถราปทาน) 71/173/371/173/3 71/165/3 |
42 | [๔๕] ท่านได้จัดตั้งอาสนะอันควรค่ามาก ปูลาดด้วยเครื่องลาดมีขนยาว เป็นต้นถวายทานแด่พระปทุมุตตรพุทธเจ้า และภิกษุสงฆ์ ทำบุญจนตลอดอายุ, ในกาลนี้ เกิดเป็นบุตรของพระนางกาฬิโคธา เมื่อบวชแล้วไม่นานนักก็ได้พระอรหันต์. .(ภัททิยกาฬิโคธายปุตตเถราปทาน) 71/179/371/179/3 71/170/13 |
43 | [๔๖] ท่านเป็นดาบสทำกระท่อมไว้ในป่าอยู่ในระหว่างภูเขา ได้ปูลาดเครื่องลาดหญ้าถวายแด่พระปทุมุตตรพุทธเจ้า และภิกษุหนึ่งแสน , ในกาลนี้ ถึงพร้อมด้วยศรัทธา บวชแล้ว เจริญวิปัสสนา ไม่นานนักก็ได้เป็นพระอรหันต์.(สันนิฏฐาปกเถราปทาน) 71/183/371/183/3 71/174/15 |
44 | [๔๗] ท่านได้บูชาพระสุเมธพุทธเจ้า ด้วยดอกอุบล 5 กำ ดอกอุบลเหล่านั้นได้ลอยไปเป็นเพดานทำเป็นร่มอยู่ในอากาศเหนือพระศาสดา , ในกาลนี้ เกิดในเรือนมีตระกูล แล้วมีศรัทธาบวชแล้ว เจริญวิปัสสนาไม่นานนักก็บรรลุพระอรหันต์..(ปัญจหัตถิยเถราปทาน) 71/186/371/186/3 71/177/6 |
45 | [๔๘] กัปที่ 91 พระวิปัสสีพุทธเจ้าปรินิพพาน ท่านเอาดอกปทุมยกขึ้นบูชาที่จิตกาธารและได้ทำร่มไว้ในอากาศ กั้นไว้ที่จิตกาธาร ด้วยกรรมนั้นท่านไม่ได้ไปทุคติ ,ในกาลนี้ ได้บวช บรรลุพระอรหัต เมื่อท่านพักอยู่ในที่ใด วิหารได้ฉาบ(มุง)ไปด้วยดอกปทุมทั้งหลาย (ปทุมัจฉทนิยเถราปทาน) 71/189/371/189/3 71/179/13 |
46 | [๔๙] ท่านได้ถวายที่นอนอย่างดีเลิศ ลาดด้วยผ้า แด่พระสิทธัตถพุทธเจ้า พระองค์ทรงรับ แล้วเสด็จลุกจากที่นอนนั้นเหาะขึ้นสู่อากาศ , ในกาลนี้ท่านเลื่อมใส ในพระศาสนานี้ บวชแล้วเจริญวิปัสสนาไม่นานนัก ก็บรรลุพระอรหัต.(สยนทายกเถราปทาน) 71/192/371/192/3 71/181/17 |
47 | [๕๐] ท่านได้ทำที่จงกรมก่อด้วยอิฐ ลาดด้วยทราย ถวายแด่พระอัตถทัสสีพุทธเจ้า , ในกาลนี้เจริญวัยแล้ว เพียบพร้อมด้วยศรัทธา บวชไม่นานนักก็บรรลุพระอรหัต (จังกมทายกเถราปทาน) 71/194/371/194/3 71/183/13 |
48 | [๕๑] เมื่อพระปทุมุตตรพุทธเจ้า ทรงบรรทมบนพระแท่นที่ปรินิพพาน ท่านได้เอากฤษณา และดอกมะลิซ้อน ใส่ผอบไม้จันทน์บูชาพระพุทธเจ้า, ในกาลนี้ ได้พบพระศาสดาตอนบรรทมอยู่พระแท่นที่ปรินิพพาน บวชแล้วบรรลุพระอรหัต.(สุภัททเถราปทาน) 71/197/371/197/3 71/186/3 |
49 | [๕๒] ท่านได้ให้ทำดอกไม้อันเป็นวัตถุ ควรบูชา ถวายแด่พระสิทธัตถพุทธเจ้า ,ในกาลนี้ เกิดเป็นน้องชายพระสารีบุตร ได้บรรลุพระอรหัต ตั้งแต่ยังเป็นสามเณร.(จุนทเถราปทาน) 71/204/371/204/3 71/193/3 |
50 | [๕๓] ท่านถวายพัดเล่มหนึ่ง แด่พระปทุมุตตรพุทธเจ้า ไม่ได้ไปสู่วินิบาตตลอดแสนกัป (วิธูปนทายกเถราปทาน) 71/209/471/209/4 71/198/4 |
51 | [๕๔] ท่านเป็นพราหมณ์ผู้เรียนจบไตรเพท แล้วบวชเป็นฤๅษี ได้เห็นพระปทุมุตตรพุทธเจ้า แล้วประคองอัญชลี ชมเชยพระศาสดา , ในกาลนี้ มีอายุ 7 ขวบ เท่านั้นบรรพชาบรรลุพระอรหัต. (สตรังสิยเถราปทาน) 71/212/371/212/3 71/200/14 |
52 | [๕๕] ผลแห่งการถวายที่นอน (สยนทายกเถราปทาน) 71/216/371/216/3 71/204/3 |
53 | [๕๖] เมื่อพระปทุมุตตรพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ท่านเอาหม้อน้ำหอมเจือด้วยจันทน์ การบูร กลัมพัก รดต้นโพธิ์ ขณะนั้นฝนตก ฟ้าก็ผ่าท่านตาย ไปเกิดอยู่ในเทวโลก , ในกาลนี้ เมื่อบรรลุนิติภาวะแล้ว เลื่อมใสในพระศาสดาบวชแล้วเจริญวิปัสสนา ไม่นานนักก็บรรลุพระอรหัต (คันโธทกทายกเถราปทาน) 71/218/371/218/3 71/206/7 |
54 | [๕๗] ท่านได้ถวายม้าอาชาไนย บูชาพระปทุมุตตรพุทธเจ้า แล้วตีราคาม้าจัดหากัปปิยภัณฑ์อันควรค่าด้วยราคานั้น มาถวายแทน , ในกาลนี้ ท่านเพียบพร้อมด้วยศรัทธาบวชในพระศาสนา เรียนกรรมฐาน เจริญวิปัสสนา ตั้งอยู่ในพระอรหัต.(โอปวุยหเถราปทาน) 71/221/371/221/3 71/209/3 |
55 | [๕๘] ท่านได้ถวายอาหารบิณฑบาต และตกแต่งอาสนะที่นั่งฉันด้วยดอกมะลิแด่พระปทุมุตตรพุทธเจ้า , ในกาลนี้ เกิดในตระกูลที่สมบูรณ์ด้วยทรัพย์ มีศรัทธาเลื่อมใส บรรพชาแล้ว ไม่นานนักก็ได้เป็นพระอรหันต์ (สปริวาราสนเถราปทาน) 71/224/371/224/3 71/212/3 |
56 | [๕๙] ท่านเชื่อสนิทในพระสัทธรรม ของพระปทุมุตตรพุทธเจ้า จึงบูชาด้วยประทีปที่ต้นโพธิ์ ด้วยผลนั้นท่านเกิดในภพใด เทวดาทั้งหลายย่อมทรงดวงไฟไว้ในอากาศ ย่อมมองเห็นได้ภายในฝาเรือน ภายในหินล้วน ตลอดล่วงภูเขาในที่ร้อยโยชน์โดยรอบ (ปัญจทีปกเถราปทาน) 71/227/371/227/3 71/214/12 |
57 | [๖๐] ท่านมีจิตร่าเริง ได้ยกธงขึ้นปักไว้ที่ไม้โพธิ์ แห่งพระปทุมุตตรพุทธเจ้า เก็บใบไม้เก่าออก ไหว้ต้นโพธิ์ดังไหว้ถวายบังคมพระพุทธเจ้า ท่านไม่ได้ไปสู่ทุคติตลอดแสนกัป (ธชทายกเถราปทาน) 71/230/371/230/3 71/217/3 |
58 | [๖๑] พระปทุมุตตรพุทธเจ้า กำลังทรงประกาศสัจจะ 4 ท่านอยู่ในที่ห่างออกไป250 ชั่วธนู ได้เอาดอกปทุม และธงโยนขึ้นไปในอากาศ บูชาพระพุทธเจ้า พระองค์ทรงรับไว้ , ในกาลนี้ ท่านมีอายุ 5 ขวบ ได้บรรลุพระอรหันต์.(ปทุมเถราปทาน) 71/233/371/233/3 71/220/3 |
59 | [๖๒] ท่านได้ผลจากต้นโพธิ์พฤกษ์ มาปลูก ถวายแด่พระติสสพุทธเจ้า และบำรุงรักษาอยู่ 5 ปี จึงออกดอก , ในกาลนี้ ท่านได้บรรลุพระอรหัตขณะปลงผม.(อสนโพธิยเถราปทาน) 71/236/371/236/3 71/223/3 |
60 | [๖๓] ในกัปที่ 91 เมื่อพระวิปัสสีพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ท่านจึงเข้าป่าบวชเป็นฤๅษี ได้เอาไม้ไผ่มาทำสถูป บูชาด้วยดอกไม้ เอาใจใส่ดังพระธาตุของพระองค์เที่ยวนมัสการอยู่ ดุจถวายบังคมพระพุทธเจ้าด้วยกรรมนั้น ท่านจึงท่องเที่ยวในเทวดาและมนุษย์ (สกจิตตนิยเถราปทาน) 71/241/471/241/4 71/228/4 |
61 | [๖๔] พระสิขีพุทธเจ้า เสด็จออกจากวิหาร ขึ้นสู่ทางจงกรม ประกาศสัจจะ 4ท่านฟังพระสุรเสียงแล้ว ได้จับดอกไม้ต่างๆ ด้วยมือทั้งสองแล้วโยนขึ้นไปในอากาศบูชา , ในกาลนี้ เจริญวัยแล้ว บวชไม่นานนักก็ได้เป็นพระอรหันต์.(อาโปปุปผิยเถราปทาน) 71/244/371/244/3 71/231/3 |
62 | [๖๕] ท่านเกิดเป็นนกจักรพราก กินสาหร่ายเป็นอาหาร ได้เห็นพระวิปัสสีพุทธเจ้าเสด็จไปในอากาศ จึงเอาปากคาบดอกสาหร่าย มาบูชา ด้วยจิตเลื่อมใส ด้วยกรรมนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (ปัจจาคมนิยเถราปทาน) 71/247/371/247/3 71/234/3 |
63 | [๖๖] ท่านเป็นพราหมณ์ชื่อ โสนะ ได้สรรเสริญพระสิทธัตถพุทธเจ้า ด้วย 4 คาถาแล้วไม่ได้เข้าถึงทุคติเลย ตลอด 94 กัป , ในกาลนี้ เกิดในเรือนที่มีทรัพย์ เลื่อมใสในพระศาสดา บวชแล้วไม่นาน ก็บรรลุปฏิสัมภิทา 4 อภิญญา 6 .(ปรัปปสาทกเถราปทาน) 71/250/371/250/3 71/237/3 |
64 | " แม้พระพุทธเจ้า พึงกล่าวสรรเสริญพระพุทธเจ้า หากแม้สรรเสริญอยู่ กัปอื่นๆพึงสิ้นไปในระหว่างอายุกาลนาน การสรรเสริญพระตถาคตหาสิ้นไปไม่".(อ.ปรัปปสาทกเถราปทาน) 71/252/1671/252/16 71/239/15 |
65 | ท่านเกิดเป็นช้าง ได้เห็นพระเวสสภูพุทธเจ้า ประสงค์วิเวก ในหิมวันตประเทศจึงมีจิตเลื่อมใส ถือเหง้ามันไปถวาย , ในกาลนี้ เกิดในตระกูลมีโภคมาก ด้วยกำลังแห่งวาสนาในกาลก่อน บวชแล้วไม่นานนักก็ได้เป็นพระอรหันต์.(อ.ภิสทายกเถราปทาน) 71/255/1071/255/10 71/241/14 |
66 | [๖๘] ท่านเป็นนายพราน ได้เลือกเนื้อดีๆ ถวายเป็นอาหาร แด่พระอัตถทัสสี-พุทธเจ้า ด้วยจิตเลื่อมใสนั้น ท่านเข้าไปตายในระหว่างภูเขา รื่นรมย์อยู่ในเทวโลกตลอด 1,500 กัป (สุจินติตเถราปทาน) 71/257/371/257/3 71/243/8 |
67 | [๖๙] ท่านเกิดเป็นพระยาครุฑสุบรรณ เห็นพระอัตถทัสสีพุทธเจ้าแล้ว จึงละเพศนกครุฑแล้ว แปลงเป็นมาณพเข้าไปถวายผ้าผืนหนึ่ง เมื่อตายจากครุฑแล้วได้เกิดเป็นเทวดา , ในกาลนี้ เกิดในตระกูลหนึ่ง เลื่อมใสในพระศาสดา บวชแล้วไม่นานนักก็ได้บรรลุอภิญญา 6 (วัตถทายกเถราปทาน) 71/260/371/260/3 71/246/3 |
68 | [๗๐] ท่านเกิดเป็นพญาวานร ได้ถวายผลมะม่วง และน้ำผึ้งแด่พระอโนมทัสสี-พุทธเจ้า ได้รื่นรมย์อยู่เทวโลก 57 กัป (อัมพทายกเถราปทาน) 71/263/371/263/3 71/248/14 |
69 | [๗๑] ท่านเกิดเป็นนายมาลาการมีชื่อว่า สุมนะ ได้บูชาพระสิขีพุทธเจ้า ด้วยดอกมะลิ ด้วยการบูชานั้น จึงไม่รู้จักทุคติเลยตลอด 31 กัป , ในกาลนี้ ก็มีชื่อว่าสุมนเจริญด้วยบุตร และภรรยา เลื่อมใสในพระศาสดาบวชแล้วไม่นานก็ได้เป็นพระอรหันต์ (สุมนเถราปทาน) 71/266/371/266/3 71/251/7 |
70 | [๗๒] ท่านได้นำดอกอังกาบใส่ผอบ ถวายบูชาพระสิขีพุทธเจ้าตั้งความปรารถนาขอให้เป็นผู้มีผิวดังทองคำเป็นผู้ควรบูชาในที่ตนเกิดแล้ว และพึงบรรลุพระนิพพาน ,ในกาลนี้ เกิดในตระกูลมีทรัพย์ เจริญวัยแล้ว เลื่อมใสในพระศาสดา บวชแล้วเจริญวิปัสสนาไม่นานก็ได้เป็นพระอรหันต์(ปุปผจังโกฏิยเถราปทาน) 71/269/371/269/3 71/253/15 |
71 | [๗๓] ท่านถือเอาดอกแคฝอยไปบูชาที่พระสถูปของพระสิขีพุทธเจ้า ด้วยกรรมนั้นจึงไม่รู้จักทุคติตลอด 31 กัป ในกาลนี้ เกิดมามารดาบิดาตั้งชื่อว่า นาคสมาละเพราะมีร่างกายเสมือนกับใบอ่อนแห่งไม้กากะทิง , เลื่อมใสในพระศาสดา บวชไม่นานนักก็ได้เป็นพระอรหันต์ (นาคสมาลเถราปทาน) 71/273/371/273/3 71/257/4 |
72 | [๗๔] ท่านเห็นรอยพระพุทธบาท ของพระติสสพุทธเจ้า แล้วเลื่อมใส ทำการไหว้และบูชาด้วยสัญญานั้น ไม่ได้ไปทุคติเลย (ปทสัญญกเถราปทาน) 71/276/371/276/3 71/259/8 |
73 | [๗๕] ท่านเห็นผ้าบังสุกุลจีวรของพระติสสพุทธเจ้าห้อยอยู่บนยอดไม้ แล้วได้ประนมอัญชลีไหว้ผ้าบังสุกุลจีวรด้วยกรรมนั้น จึงไม่รู้จักทุคติเลย , ในกาลนี้ ได้บวชบรรลุพระอรหันต์ (สุสัญญกเถราปทาน) 71/279/371/279/3 71/261/5 |
74 | [๗๖] ท่านอยู่ในป่าใหญ่ ได้ถวายเหง้ามัน ผลไม้และน้ำล้างพระหัตถ์ แด่พระวิปัสสีพุทธเจ้า , ในกาลนี้ได้สละสมบัติแล้วบวชในศาสนา ไม่นานนักก็ได้บรรลุพระอรหันต์ (ภิสาลุวทายกเถราปทาน) 71/281/371/281/3 71/263/6 |
75 | [๗๗] ท่านได้ถวายภิกษาทัพพีหนึ่ง แด่พระอัครสาวกของพระวิปัสสีพุทธเจ้ามีชื่อว่า ขัณฑะ จึงไม่รู้จักทุคติเลย (เอกสัญญกเถราปทาน) 71/283/371/283/3 71/265/3 |
76 | [๗๘] ท่านเป็นดาบสอยู่หิมวันตประเทศ ได้เห็นพระติสสพุทธเจ้าเหาะมาทางอากาศ จึงเกี่ยวหญ้ามาลาดถวายเป็นที่ประทับนั่ง พระองค์ทรงลงมาประทับนั่งที่นั้น. ท่านถวายบังคมแล้วนั่งดู ไม่กระพริบตา ด้วยจิตเลื่อมใสนั้น เข้าถึงภพชั้นนิมมานรดี ไม่รู้จักทุคติเลย (ติณสันถารทายกเถราปทาน) 71/285/371/285/3 71/267/3 |
77 | [๗๙] ท่านได้ถวายเข็ม 5 เล่ม แด่พระสุเมธพุทธเจ้า ด้วยบุญนั้น ญาณเป็นเครื่องเห็นแจ้งอรรถอันละเอียดคมกล้า รวดเร็วและสะดวก เกิดขึ้นแก่ท่าน ในกาลนี้ได้บรรลุพระอรหัตในขณะปลงผม นั่นเอง (สูจิทายกเถราปทาน) 71/288/371/288/3 71/270/3 |
78 | [๘๐] ท่านเป็นเศรษฐี ได้บูชาพระติสสพุทธเจ้า ด้วยดอกแคฝอย , ในกาลนี้ เจริญวัยแล้ว เลื่อมใสในพระศาสดาบวชแล้วไม่นานนักก็ได้เป็นพระอรหันต์.(ปาฏลิปุปผิยเถราปทาน) 71/290/371/290/3 71/272/3 |
79 | [๘๑] ในกัปที่ 92 ท่านเป็นนายพราน ได้พบพระติสสพุทธเจ้าแล้วประนมอัญชลีด้วยความโสมนัสนอบน้อมขณะที่กำลังนั่งอยู่ ฟ้าก็ผ่าบนกระหม่อมของท่าน แต่ในเวลาใกล้ตายท่านก็กระทำอัญชลีอีก ด้วยบุญนั้นห้ามอกุศลวิบาก เพราะทำกุศลในเขตดี จึงบังเกิดในสวรรค์ (ฐิตัญชลิยเถราปทาน) 71/292/371/292/3 71/274/3 |
80 | [๘๒] ท่านเป็นช่างดอกไม้ ได้ถือดอกปทุม 3 ดอก เพื่อไปถวายพระราชา แต่พบพระปทุมุตตรพุทธเจ้า เสด็จดำเนินอยู่ จึงนำดอกไม้นั้นโยนขึ้นบนอากาศบูชาดอกไม้เหล่านั้น กั้นลาดเหนือพระเศียรพระศาสดา มนุษย์และเทวดาพากันสาธุ-การ ด้วยผลนั้นท่านได้รื่นรมย์อยู่ในเทวโลกตลอด 30,000 กัป. .(ตีณิปทุมิยเถราปทาน) 71/295/371/295/3 71/277/3 |
81 | [๘๓] ท่านเป็นดาบส เที่ยวไปตามฝั่งแม่น้ำจันทภาคา ได้เห็นพระสิทธัตถพุทธเจ้าจึงได้ถือดอกดีหมี มาโปรยเบื้องบนพระเศียรแห่งพระพุทธเจ้า ทำประทักษิณถวายบังคมพระบาทแล้วหลีกไปไม่นาน พญาเนื้อได้เบียดเบียนท่านตกเหวตายด้วยการบูชานั้น จึงไม่รู้จักทุคติเลย (ติมิรปุปผิยเถราปทาน) 71/300/471/300/4 71/282/4 |
82 | [๘๔] ในกัปที่ 92 ท่านได้เป็นสามเณรอายุ 7 ขวบ มีใจเลื่อมใส ถวายบังคมพระบาทของพระติสสพุทธเจ้า ได้โยนดอกกรรณิการ์ 7 ดอกโยนไปในอากาศอุทิศเฉพาะพระศาสดา ท่านบำเพ็ญสมณธรรมจนตลอดอายุ , ในกาลนี้ บังเกิดในเรือนมีตระกูล เลื่อมใสในพระศาสดา บวชแล้วไม่นานก็ได้เป็นพระอรหันต์.(คตสัญญกเถราปทาน) 71/304/371/304/3 71/286/3 |
83 | [๘๕] ในกัปที่ 92 ท่านบวชบำเพ็ญรุกขมูลิกังคธุดงค์อยู่ในป่า สมัยนั้นอาพาธกล้าเกิดขึ้น พระติสสพุทธเจ้า เสด็จไปด้วยกรุณา ท่านนอนประคองอัญชลีเหนือเศียรแล้วตายไปเกิดในภพดุสิต , ในกาลนี้ เจริญวัยแล้ว เลื่อมใสพระศาสดา บวชแล้วไม่นานนักก็ได้เป็นพระอรหันต์ (นิปันนัญชลิกเถราปทาน) 71/307/371/307/3 71/288/6 |
84 | [๘๖] ในกัปที่ 31 ท่านเป็นฤๅษีได้อภิญญา 5 สมาบัติ 8 ได้เห็นพระอัครสาวก ของพระสิขีพุทธเจ้า ชื่อว่า อภิภู จึงถือเอาดอกไม้ 7 ดอก โปรยลงเบื้องบนของพระเถระเพื่อบูชาแล้วกลับสู่อาศรม ท่านถูกงูเหลือมรัด จึงระลึกถึงบุรพกรรมแล้วตาย ณที่นั้น , ในกาลนี้ ได้ฟังธรรมพระศาสดา มีใจเลื่อมใสบวชแล้ว ไม่นานก็ได้เป็นพระอรหันต์ (อโธปุปผิยเถราปทาน) 71/310/371/310/3 71/290/16 |
85 | [๘๗] ท่านเป็นดาบสนุ่งห่มหนังเสือเหลือง ได้เห็นพระวิปัสสีพุทธเจ้า จึงเลื่อมใสในพระรัศมี แล้วนั่งกระโหย่งประนมอัญชลี , ในกาลนี้ ได้เห็นโทษในการอยู่ครองเรือนแล้ว ละเรือนบวช ไม่นานก็ได้เป็นพระอรหันต์ (รังสิสัญญกเถราปทาน) 71/313/371/313/3 71/293/10 |
86 | [๘๘] ท่านเป็นดาบสนุ่งห่มเปลือกปอ อยู่หิมวันตบรรพต ได้เห็นพระผุสสพุทธเจ้าเสด็จไปที่นั้น จึงประนมอัญชลี ทำจิตเลื่อมใสในพระรัศมี ตายด้วยปีติโสมนัสนั่นเอง ไปเกิดอยู่ภพดุสิต เจริญวัยแล้วบวชไม่นานก็ได้เป็นพระอรหันต์.(รังสิสัญญิกเถราปทาน) 71/316/371/316/3 71/295/14 |
87 | [๘๙] ในกัปที่ 92 ท่านเป็นดาบส นุ่งหนังสัตว์กระด้างอยู่ ได้ถวายผลไม้แด่พระผุสสพุทธเจ้า , ในกาลนี้ เจริญวัยแล้ว เลื่อมใสในพระศาสดาบวชแล้วไม่นานก็ได้เป็นพระอรหัต. (ผลทายกเถราปทาน) 71/318/371/318/3 71/297/10 |
88 | [๙๐] ในกัปที่ 92 ท่านเป็นดาบส อยู่ป่าหิมวันต์ พระผุสสพุทธเจ้าเสด็จไปแสดงธรรมเพื่ออนุเคราะห์ท่านยังจิตให้เลื่อมใสในพระสุรเสียง ดำรงอยู่จนตลอดอายุ ตายแล้วไปเสวยสมบัติในสวรรค์ 6 ชั้น , ในกาลนี้ เกิดศรัทธาบวชแล้ว เจริญวิปัสสนาบรรลุพระอรหัตแล้ว. (สัททสัญญกเถราปทาน) 71/320/371/320/3 71/299/3 |
89 | [๙๑] ในกัปที่ 91 ท่านบวชในพระศาสนา ของพระวิปัสสีพุทธเจ้า เมื่อมีการฉลองพระมหาโพธิ์ ท่านได้ถือเอาดอกโกสุมเข้าไปบูชา แล้วเอาน้ำเข้าไปรดที่โพธิพฤกษ์ด้วยบุญนั้น ท่านบังเกิดในเทวโลก , ในกาลนี้ เกิดศรัทธา บวชแล้วไม่นานก็ได้เป็นพระอรหันต์ (โพธิสิญจกเถราปทาน) 71/322/371/322/3 71/300/14 |
90 | [๙๒] ในกัปที่ 92 ท่านเข้าไปสู่สระบัว บริโภคเหง้าบัวอยู่ ได้เห็นพระผุสสพุทธเจ้าจึงเก็บดอกบัวโยนขึ้นไปในอากาศบูชา ดอกไม้เหล่านั้นได้เป็นเพดานในอากาศท่านมีใจเลื่อมใสจึงบวชบำเพ็ญสมณธรรม ตายจากนั้นไปเกิดในภพดุสิต. ในกาลนี้ เจริญวัยแล้ว เกิดศรัทธาบวชแล้วไม่นานก็ได้เป็นพระอรหัต .(ปทุมปุปผิยเถราปทาน) 71/325/371/325/3 71/303/3 |
91 | [๙๓] ใครๆ ไม่อาจจะนับบุญของบุคคลผู้บูชาพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้าหรือพระสาวก ผู้สมควรบูชา ผู้ล่วงธรรมเครื่องให้เนิ่นช้า ผู้ข้ามความโศกและความร่ำไรแล้ว ว่าบุญนี้มีประมาณเท่านี้ได้ (สุธาปิณฑิยเถราปทาน) 71/328/471/328/4 71/306/7 |
92 | [๙๔] ในกัปที่ 92 ท่านได้ถวายตั่งอันสวยงามแด่พระติสสพุทธเจ้า , ในกาลนี้ เจริญวัยแล้วเลื่อมใสในพระศาสดา บวชแล้วไม่นานก็ได้เป็นพระอรหันต์.(สุปีฐิยเถราปทาน) 71/332/371/332/3 71/309/7 |
93 | [๙๕] ในกัปที่ 92 ท่านเป็นคนเข็ญใจ ได้ถวายผ้าครึ่งท่อนแด่พระติสสพุทธเจ้า , ในกาลนี้ เกิดในสกุลมั่งคั่งเจริญวัยแล้ว ฟังพระธรรมเทสนาของพระศาสดามีใจเลื่อมใส บวชแล้วไม่นาน ก็ได้เป็นพระอรหันต์ (อัฑฒเจลกเถราปทาน) 71/334/371/334/3 71/311/3 |
94 | [๙๖] ในกัปที่ 91 ท่านเป็นช่างทอง ได้ถวายเข็มแด่พระวิปัสสีพุทธเจ้า ภายหลังท่านเกิดในภพใด ก็เป็นผู้มีปัญญาหลักแหลม มีญาณดังเพชรในภพที่ตนเกิดแล้วๆในกาลนี้ วันหนึ่งท่านฟังพระธรรมเทศนาของพระศาสดา ส่งญาณไปตามกระแสแห่งธรรม ได้เป็นพระอรหันต์บนอาสนะที่ตนนั่งนั่นเอง (สูจิทายกเถราปทาน) 71/336/371/336/3 71/313/3 |
95 | [๙๗] ในกัปที่ 94 ท่านได้ทำสถูปไม้หอมคลุมด้วยดอกมะลิ ถวายแด่พระสิทธัตถ-พุทธเจ้า , ในกาลนี้เกิดในเรือนอันสมบูรณ์ด้วยทรัพย์ เจริญวัยแล้วเลื่อมใสในพระศาสดา บวชแล้วไม่นาน ก็ได้เป็นพระอรหันต์ (คันธมาลิยเถราปทาน) 71/338/371/338/3 71/315/3 |
96 | [๙๘] ในกัปที่ 91 ท่านเป็นนายพรานเนื้ออยู่ในป่าชัฏใหญ่ ได้เห็นไม้แคฝอย อันเป็นไม้โพธิ์ ของพระวิปัสสีพุทธเจ้าจึงบูชาด้วยดอกไม้ 3 ดอก เก็บใบเก่าๆ ออกทิ้งกราบไหว้ไม้แคฝอย เหมือนถวายบังคมพระสัมพุทธเจ้า เฉพาะพระพักตร์ แล้วทำกาละ ณ ที่นั้นเอง ไปเกิดอยู่เทวโลก , ในกาลนี้ ได้ฟังธรรมพระศาสดา ละเรือนออกบวชแล้วไม่นานก็ได้เป็นพระอรหันต์ (ติปุปผิยเถราปทาน) 71/340/371/340/3 71/317/3 |
97 | [๙๙] ในกัปที่ 92 ท่านเป็นนายพราน ได้ถวายน้ำผึ้ง แด่พระสิทธัตถพุทธเจ้า ผู้ออกจากสมาธิ , ในกาลนี้ เจริญวัยแล้ว เลื่อมใสในพระศาสดา บวชแล้วไม่นานก็ได้เป็นพระอรหันต์ (มธุปิณฑิกเถราปทาน) 71/343/371/343/3 71/319/7 |
98 | [๑๐๐] ท่านได้ถวายเครื่องลาดใบไม้ แด่พระสิทธัตถพุทธเจ้า ได้กระทำการบูชาด้วยดอกไม้ , ในกาลนี้ เจริญวัยแล้ว เลื่อมใสในพระศาสดา บวชแล้วไม่นานก็ได้เป็นพระอรหันต์ (เสนาสนทายกเถราปทาน) 71/346/371/346/3 71/322/3 |
99 | [๑๐๑] ในกัปที่ 91 ท่านเป็นไวยาวัจกรผู้รับใช้ในกิจทุกอย่าง ในการประชุมใหญ่แห่งพระวิปัสสีพุทธเจ้าด้วยกรรมนั้น จึงไม่รู้จักทุคติเลย (เวยยาวัจจกเถราปทาน) 71/348/371/348/3 71/324/3 |
100 | [๑๐๒] ท่านเป็นผู้เป่าสังข์ ถวายพระวิปัสสีพุทธเจ้า ตลอดกาลเป็นนิตย์ แล้วบูชาด้วยเสียงสังข์ ด้วยบุญนั้น. ท่านท่องเที่ยวไปในเทวดา และมนุษย์ทั้งหลาย ได้มีชื่อเสียงกึกก้องบันลือลั่นปรากฏไปทั่วทุกสถาน , ในกาลนี้เจริญวัยแล้ว เลื่อมใสในพระศาสดา บวชแล้วไม่นานนักก็ได้เป็นพระอรหันต์ (พุทธุปัฏฐากเถราปทาน) 71/350/371/350/3 71/325/10 |
101 | [๑๐๓] ในกัปที่ 94 ท่านได้ถวายอาหารแด่ พระสิทธัตถพุทธเจ้า , ในกาลนี้ เจริญวัยแล้ว เกิดศรัทธาบวชแล้วไม่นานก็ได้เป็นพระอรหันต์ (ภิกขทายกเถราปทาน) 71/353/471/353/4 71/329/4 |
102 | [๑๐๔] ท่านได้ฟังพระสัทธรรม ของพระสิทธัตถพุทธเจ้า เลื่อมใสในพระญาณ เพราะความที่ตนเป็นผู้หนักในเสียง ในกาลนี้ เกิดในตระกูลอันสมบูรณ์ด้วยทรัพย์เจริญวัยแล้ว เลื่อมใสในพระศาสดา บวชแล้วไม่นานก็ได้เป็นพระอรหันต์.(ญาณสัญญิกเถราปทาน) 71/356/371/356/3 71/332/3 |
103 | [๑๐๕] ท่านเป็นช่างดอกไม้ ได้มีจิตเลื่อมใสโสมนัส ถวายดอกอุบลกำมือหนึ่ง แด่พระสิทธัตถพุทธเจ้า , ในกาลนี้เจริญวัยแล้ว เกิดศรัทธา บวชแล้วไม่นานก็ได้เป็นพระอรหันต์ (อุปปลหัตถิยเถราปทาน) 71/359/371/359/3 71/334/7 |
104 | [๑๐๖] ในกัปที่ 94 ท่านได้ถวายดอกมะลิแด่พระสิทธัตถพุทธเจ้า แล้วโปรยดอกมะลิ 7 ดอกลงที่ใกล้พระบาทด้วยความยินดี ด้วยกรรมนั้น จึงไม่รู้จักทุคติเลย.(ปทปูชกเถราปทาน) 71/361/371/361/3 71/336/11 |
105 | [๑๐๗] ท่านเป็นนายมาลาการมีชื่อว่า สุทัสสนะ ได้ถือดอกมะลิไปบูชา พระปทุ-มุตตรพุทธเจ้า ด้วยพุทธบูชานี้ และด้วยการตั้งจิตไว้ ท่านไม่เข้าถึงทุคติเลย ตลอดแสนกัป (มุฏฐิปุปผิยเถราปทาน) 71/363/371/363/3 71/338/14 |
106 | [๑๐๘] ท่านเห็นพระปทุมุตตรพุทธเจ้าเสด็จไปในอากาศ เกิดความเลื่อมใสในพระรัศมี จึงกอบน้ำด้วยมือทั้งสองแล้วโยนขึ้นไปในอากาศ เกิดปีติโสมนัส ด้วยกรรมนั้นจึงไม่เข้าถึงทุคติเลยในแสนกัป (อุทกปูชกเถราปทาน) 71/365/371/365/3 71/340/12 |
107 | [๑๐๙] ท่านเป็นดาบสอยู่ในป่าหิมวันต์ ได้ลาดเครื่องลาดหญ้าถวายพระปทุมุตตรพุทธเจ้า และทำพัดด้วยดอกอ้อถวาย ด้วยกรรมนี้ ท่านไม่เข้าถึงทุคติในแสนกัป.(นฬมาลิยเถราปทาน) 71/368/371/368/3 71/343/3 |
108 | [๑๑๐] ท่านเป็นดาบส ได้ถวายอาสนะทอง แด่พระอัตถทัสสีพุทธเจ้าผู้เสด็จไปที่นั้นและบูชาด้วยดอกไม้ ทำประทักษิณ แล้วหลีกไป ด้วยกรรมนั้นท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(อาสนุปัฏฐายกเถราปทาน) 71/371/371/371/3 71/345/17 |
109 | [๑๑๑] ท่านบวชเป็นดาบส อยู่ในที่ไม่ไกลภูเขาหิมวันต์ ได้ถวายมันมือเสือ แด่พระปทุมุตตรพุทธเจ้า ด้วยกรรมนั้น ท่านไม่ได้เข้าถึงทุคติตลอดแสนกัป..(พิฬาลิทายกเถราปทาน) 71/373/371/373/3 71/347/16 |
110 | [๑๑๒] ในกัปที่ 91 ท่านได้บูชาพระวิปัสสีพุทธเจ้า ด้วยดอกกระถินพิมาน , ในกาลนี้ได้เลื่อมใสในพระศาสดาบวชในศาสนาไม่นาน ก็ได้เป็นพระอรหันต์.(เรณุปูชกเถราปทาน) 71/376/371/376/3 71/350/3 |
111 | [๑๑๓] ในกัปที่ 91 ท่านเป็นยักษ์มีบริวาร 84,000 อยู่บนเกาะเล็กๆ แห่งหนึ่ง ได้เห็นพระวิปัสสีพุทธเจ้าเสด็จไปที่นั้น จึงถวายผ้าทิพย์ แล้วยังจิตให้เลื่อมใส พร้อมทั้งบริวารยอมนับถือพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ ด้วยกรรมนั้นจึงไม่ไปสู่ทุคติเลย.(มหาปริวารเถราปทาน) 71/379/471/379/4 71/353/4 |
112 | [๑๑๔] ท่านเกิดเป็นรุกขเทวดาอยู่ใกล้สระแห่งหนึ่ง เห็นพระอัตถทัสสีพุทธเจ้าทรงสรงสนานเสร็จแล้วประทับยืนอยู่ จึงเกิดร่าเริงโสมนัส ปรบมือ ประกอบการฟ้อนขับร้อง และดนตรีเครื่อง 5 ถวายพระศาสดา , ในกาลนี้ พอบรรลุนิติภาวะแล้วจึงได้บวช ไม่นานก็ได้เป็นพระอรหันต์ (สุมังคลเถราปทาน) 71/383/371/383/3 71/356/11 |
113 | [๑๑๕] ท่านเป็นจอมเทพประจำป่าหิมวันต์ สมัยหนึ่ง ได้เตรียมการรบระหว่างยักษ์กับจอมเทพอื่น พระปทุมุตตรพุทธเจ้า เสด็จไปแสดงธรรมในอากาศ เบื้องบนของกองทัพทั้งสองฝ่าย สงครามจึงระงับต่างประชุมกันนับถือ พระพุทธเจ้าเป็นสรณะ ท่านถือสรณะก่อนใครๆ จึงไม่ได้เข้าถึงทุคติตลอดแสนกัป.(สรณคมนิยเถราปทาน) 71/386/371/386/3 71/359/7 |
114 | [๑๑๖] ท่านเป็นเทวราช ชื่อว่า วรุณะ พาบริวาร บำรุงพระอัตถทัสสีพุทธเจ้า เมื่อพระศาสดาปรินิพพานแล้ว ก็ถือเอาดนตรี ไปประโคมที่ไม้โพธิ์ บำรุงไม้โพธิ์ดังบำรุงพระพุทธเจ้า ครั้นจุติจากนั้น ท่านไปเกิดในชั้นนิมมานรดี (เอกาสนิยเถราปทาน) 71/390/371/390/3 71/362/9 |
115 | [๑๑๗] ในกัปที่ 91 ท่านเกิดเป็นภุมัฏฐกเทพบุตร ฟังธรรม พระวิปัสสีพุทธเจ้าแล้วได้โปรยดอกไม้ทอง 4 ดอก บูชา ดอกไม้นั้นได้เป็นหลังคาทองบังร่มตลอดทั่วบริษัท รัศมีของพระพุทธเจ้า และรัศมีทองรวมเป็นแสงสว่างอันไพบูลย์ ท่านเกิดโสมนัส ครั้นกลับภพของตน ก็ยังระลึกถึงพระพุทธเจ้าอยู่ ด้วยจิตอันเลื่อมใสนั้นท่านได้เข้าถึงชั้นดุสิต (สุวรรณปุปผิยเถราปทาน) 71/393/371/393/3 71/365/3 |
116 | [๑๑๘] ในกัปที่ 31 ท่านเกิดเป็นรุกขเทวดาประจำไม้เกด ได้ฟังธรรมเลื่อมใสในพระสิขีพุทธเจ้า เมื่อพระองค์ปรินิพพานแล้ว ท่านได้ไปพร้อมบริวารไปที่จิตกาธารประโคมดนตรี โปรยของหอมและดอกไม้บูชา ถึงแม้ตนเองกลับไปยังที่อยู่แล้ว ยังคงระลึกถึงพระพุทธเจ้าเหมือนเดิม ด้วยบุญนั้น ท่านจุติจากต้นเกดไปเกิดยังภพดุสิต (จิตกปูชกเถราปทาน) 71/396/371/396/3 71/367/12 |
117 | [๑๑๙] ในกัปที่ 91 ท่านเป็นภุมัฏฐกเทพบุตรอยู่วิมานแห่งหนึ่ง เมื่อพระวิปัสสี-พุทธเจ้าทรงปลงอายุสังขาร หมื่นจักรวาลได้หวั่นไหวแล้ว ภพของท่านก็หวั่นไหวท่านถึงความสะดุ้งกลัว ท้าวเวสวัณมาปลอบให้หายจากความกลัว และความเศร้าโศกและประกาศพุทธานุภาพ ท่านได้ทำกุศลแล้ว ด้วยสัญญานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (พุทธสัญญกเถราปทาน) 71/399/371/399/3 71/370/7 |
118 | [๑๒๐] ท่านเกิดเป็นเทพบุตรประจำอยู่หิมวันตประเทศ ได้ชี้ทางออกจากป่าแก่พระสาวกของพระปทุมุตตรพุทธเจ้า ผู้หลงทางอยู่ในป่าและได้ถวายอาหาร ด้วยบุญนั้นท่านเกิดภพใด ไม่เคยหลง มีสัญญาแม่นยำ ในกาลนี้ ได้บรรลุพระอรหัตแต่อายุ 7 ปี โดยกำเนิด. (มัคคสัญญกเถราปทาน) 71/402/371/402/3 71/373/3 |
119 | [๑๒๑] ท่านเป็นยักษ์ ได้สร้างสถูปบรรจุพระธาตุ ของพระอัตถทัสสีพุทธเจ้า แล้วบำรุงพระสถูปอยู่ 5 ปี (ปัจจุปัฏฐานสัญญกเถราปทาน) 71/405/371/405/3 71/375/3 |
120 | [๑๒๑] ผู้ใดพึงบูชาพระสัมพุทธเจ้าผู้เป็นผู้นำของโลก ยังดำรงพระชนม์อยู่ก็ดีพึงบูชาพระธาตุแม้ประมาณเท่าเมล็ดผักกาดของพระพุทธเจ้า แม้นิพพานแล้วก็ดี เมื่อจิตอันเลื่อมใสของผู้นั้นเสมอกัน บุญก็มีผลมาก (ปัจจุปัฏฐานสัญญกเถราปทาน) 71/405/1571/405/15 71/375/15 |
121 | [๑๒๒] ท่านได้ยิน พวกหมอดู ทำนายพระวิปัสสีโพธิสัตว์ ว่าจะได้เป็นพระพุทธเจ้า ท่านจึงเริ่มทำการบูชาอย่างใหญ่ ตั้งแต่เวลาเป็นเด็กคล้ายกับทำการบูชาแด่พระพุทธเจ้า บูชาในคราวเป็นพระราชกุมาร และบูชาในคราวที่ได้ครองราชสมบัติพอจุติจากอัตภาพนั้น ได้บังเกิดในสวรรค์ชั้นดุสิต (ชาติปูชกเถราปทาน) 71/409/371/409/3 71/378/3 |
122 | [๑๒๓] ท่านเป็นพราหมณ์ ผู้เล่าเรียน ทรงจำมนต์รู้จบไตรเพท ได้เห็นพระวิปัสสี-พุทธเจ้า จึงหยิบเอาดอกหงอนไก่ โยนขึ้นไปบูชาในอากาศ ดอกหงอนไก่กลายเป็นเพดานบนอากาศ ตลอด 7 วัน และอันตรธานหายไป ท่านได้เห็นความอัศจรรย์นั้นแล้ว มีจิตเลื่อมใสยิ่งนัก ตายไปในขณะที่มีปีติ และโสมนัสนั่นเองได้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นดุสิต.(เสเรยยกเถราปทาน) 71/412/471/412/4 71/381/4 |
123 | [๑๒๔] ในกัปที่ 91 ท่านเป็นพราหมณ์ มีศิษย์ 5,000 อยู่ใกล้ภูเขากุกกุระ ทำอภิญญา 5 สมาบัติ 8 ให้เกิดขึ้นแล้ว ได้ทราบว่าพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นแล้ว ประสงค์จะไปเข้าเฝ้าพร้อมกับศิษย์ แต่ป่วยหนักอยู่กลางทาง จึงให้ศิษย์เอาดอกไม้มาทำสถูปบูชาดุจบูชาพระพุทธเจ้า ตายแล้วไปเกิดพรหมโลก. .(ปุปผถูปิยเถราปทาน) 71/415/371/415/3 71/384/3 |
124 | [๑๒๕] ในกัปที่ 91 ท่านเป็นเศรษฐี ต้องการบวงสรวงบูชายัญ จึงคดข้าวปายาสใส่ในถาดสำริด แล้วไปสู่ป่าไม้งิ้ว ได้เห็นพระวิปัสสีพุทธเจ้า เสด็จจงกรมอยู่ในอากาศ จึงถวายบังคมแล้วนิมนต์พระศาสดา และภิกษุสงฆ์ ฉันข้าวปายาสนั้น ,ในกาลนี้ เกิดในเรือนอันมีสกุล ได้มีศรัทธาบวชแล้ว ไม่นานก็ได้เป็นพระอรหันต์. (ปายาสทายกเถราปทาน) 71/419/371/419/3 71/387/11 |
125 | [๑๒๖] ในกัปที่ 91 ท่านเป็นเศรษฐีนั่งอยู่บนปราสาท ได้เห็นพระวิปัสสีพุทธเจ้าเสด็จดำเนินไปตามถนน แล้วมีจิตเลื่อมใส เข้าไปถวายบังคมประคองน้ำหอมอย่างดี ประพรมบูชา พระพุทธเจ้า ด้วยกรรมนั้นจึงไม่รู้จักทุคติเลย.(คันโธทกิยเถราปทาน) 71/423/371/423/3 71/390/18 |
126 | [๑๒๗] ในกัปที่ 91 ท่านเกิดในตระกูลพราหมณ์ ขณะมีอายุ 7 ปีเท่านั้น ก็ได้ศึกษาศิลปะประจำตัวสำเร็จแล้ว เมื่อพระวิปัสสีโพธิสัตว์ อุบัติขึ้นแล้ว ท่านได้พยากรณ์ลักษณะความเป็นพระพุทธเจ้าของพระโพธิสัตว์ และชมเชยไว้มากมาย ด้วยกุศลกรรมนั้น จึงได้เสวยสมบัติในสวรรค์ 6 ชั้น และจักรพรรดิสมบัติในหมู่มนุษย์.(สัมมุขาถวิกเถราปทาน) 71/426/371/426/3 71/393/3 |
127 | [๑๒๘] ในกัปที่ 91 ท่านเป็นพราหมณ์เรียนจบศิลปะศาสตร์ชั้นสูงของพราหมณ์มีความประสงค์จะบูชามารดา บิดา ได้เห็นพระวิปัสสีพุทธเจ้า แวดล้อมด้วยภิกษุสงฆ์ จึงนิมนต์เข้ามายังเรือนตน ถวายของควรเคี้ยวและควรบริโภคที่ตระเตรียมไว้เพื่อมารดาบิดาแด่พระพุทธเจ้า และภิกษุสงฆ์ แล้วถวายดอกอุบลอีกกำมือหนึ่งด้วยกรรมนั้นจึงไม่รู้จักทุคติเลย. (กุสุมาสนิยเถราปทาน) 71/431/371/431/3 71/397/10 |
128 | [๑๒๙] ท่านเป็นพราหมณ์ เป็นอาจารย์ของพวกพราหมณ์หลายพันคน ต่อมามองไม่เห็นสาระในศิลปะนั้น จึงละเพศฆราวาสบวชเป็นฤๅษี อยู่ร่วมกับพวกศิษย์ไม่ไกลจากหิมวันตประเทศนัก พระปทุมุตตรพุทธเจ้าทรงเสด็จมาเพื่ออนุเคราะห์ท่านจึงถวายเมล็ดบัว พร้อมกับน้ำผึ้ง ด้วยกรรมนั้น จึงไม่ไปสู่ทุคติตลอดแสนกัปในกาลนี้ เพียงอายุ 7 ปี ก็บรรลุพระอรหัต. (ผลทายกเถราปทาน) 71/435/371/435/3 71/401/3 |
129 | [๑๓๐] ในกาลแห่งพระวิปัสสีพุทธเจ้า ท่านบวชเป็นดาบส มีอภิญญา 5 สมาบัติ 8วันหนึ่งเห็นกองทรายอันบริสุทธิ์ขาวสะอาด จึงนึกชมเชยพระพุทธเจ้าผู้บริสุทธิ์ชมเชยพระญาณ อันบริสุทธิ์ เปรียบเช่นกองทรายอันขาวนั้นท่านยังจิตให้เลื่อมใส จึงบันเทิงอยู่ในสวรรค์ ตลอดกัป (ญาณสัญญกเถราปทาน) 71/439/371/439/3 71/404/3 |
130 | [๑๓๑] ในกัปที่ 91 ท่านได้บูชาพระวิปัสสีพุทธเจ้า ด้วยดอกไม้และข้าวตอก ด้วยการบูชานั้น จึงไม่รู้จักทุคติเลย (คันธปุปผิยเถราปทาน) 71/442/371/442/3 71/406/9 |
131 | [๑๓๒] ท่านบวชเป็นฤๅษี มีอภิญญา 5 สมาบัติ 8 สั่งสอนศิษย์ อยู่ที่ภูเขาชื่อโคตมกะ ได้บูชาพระปทุมุตตรพุทธเจ้า ด้วยดอกปทุม, ในกาลนี้เกิดในกรุงสาวัตถีมีศรัทธาเลื่อมใสได้บวชแล้ว ไม่นานนักก็ได้เป็นพระอรหันต์ .(ปทุมปูชกเถราปทาน) 71/444/371/444/3 71/408/13 |
132 | [๑๓๓] เมื่อพระปทุมุตตรพุทธเจ้า แสดงธรรมอยู่ ท่านมีใจเลื่อมใสด้วยความโสมนัสจึงชมเชย พระพุทธญาณโดยประการต่างๆ ด้วยกรรมนั้น จึงไม่ไปสู่ทุคติแสนกัป ,ในกาลนี้ มีอายุได้เพียง 7 ปีเท่านั้นก็บวช ไม่นานนักก็ได้เป็นพระอรหันต์ มีอภิญญา 6 (โสภิตเถราปทาน) 71/448/471/448/4 71/412/4 |
133 | [๑๓๔] ในกัปที่ 31 ท่านได้เห็นพระสิขีพุทธเจ้า ประทับนั่งใกล้ฝั่งแม่น้ำ จึงมีจิตเลื่อมใส เด็ดดอกการะเกด มาบูชาพระญาณของพระพุทธเจ้า ด้วยการบูชานั้นจึงไม่รู้จักทุคติเลย (สุทัสสนเถราปทาน) 71/451/371/451/3 71/414/14 |
134 | [๑๓๕] ท่านเกิดเป็นกินนร มีดอกไม้เป็นอาหาร ได้เห็นพระอัตถทัสสีพุทธเจ้าเหาะไปบนยอดไม้ในป่าจึงกล่าว นอบน้อมต่อพระองค์ เมื่อพระองค์เสด็จลงจากอากาศแล้วได้บูชาด้วยแก่นจันทน์หอม ด้วยการบูชานั้น จึงไม่รู้จักทุคติเลย..(จันทนปูชกเถราปทาน) 71/454/371/454/3 71/417/9 |
135 | [๑๓๖] ท่านเป็นพราหมณ์ ชื่อ สุนันทะ เป็นผู้มีโภคะ มียศยิ่งใหญ่ ยินดียิ่งในการบริจาคทาน วันหนึ่งท่านสละทาน ในกาลนั้น พระปทุมุตตรพุทธเจ้าได้เสด็จไปทางอากาศพร้อมด้วยบริวาร พราหมณ์เห็นแล้วจึงให้พวกศิษย์นำดอกไม้มา โยนขึ้นบูชาในอากาศ ดอกไม้เหล่านั้นได้ปกคลุมนครทั้งสิ้น ตลอด 7 วัน , ในกาลนี้ท่านมีศรัทธาบวช พอจรดปลายมีดโกนเท่านั้นก็บรรลุพระอรหัตแล้ว.(ปุปผฉทนิยเถราปทาน) 71/457/371/457/3 71/420/3 |
136 | [๑๓๗] ในกาลที่ว่างจากพระพุทธเจ้า ท่านบวชเป็นฤๅษี สอนศิษย์ 3,000 คน อยู่ที่ภูเขาชื่อ วสภะ ท่านนั่งคู้บัลลังก์ ระลึกถึงพระญาณของพระพุทธเจ้า ทำความสำคัญว่านั่งอยู่เบื้องพระพักตร์พระพุทธเจ้า เกิดความปีติมีพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์นั่งกระทำกาละแล้วไปเกิดพรหมโลก , ในกาลนี้ พอมีอายุได้ 7 ปี ก็บวชพอปลายมีดโกนจรดที่ผมเท่านั้น ก็ได้บรรลุพระอรหัต เป็นผู้ได้อภิญญา 6.(รโหสัญญิกเถราปทาน) 71/460/371/460/3 71/422/7 |
137 | [๑๓๘] ท่านบวชเป็นฤๅษีอยู่ในป่า เห็นพระเวสสภูพุทธเจ้า ประทับนั่งอยู่ จึงเอาดอกจำปาที่ลูกศิษย์หามาเข้าไปบูชาพระพุทธเจ้า ด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย(จัมปกปุปผิยเถราปทาน) 71/463/371/463/3 71/424/15 |
138 | [๑๓๙] ท่านเป็นพราหมณ์ได้ชมเชยพระพุทธเจ้าด้วย 3 คาถา แล้วไม่ได้เข้าถึงทุคติตลอดแสนกัป (อรรถกถาอัตถสันทัสสกเถราปทาน) 71/466/371/466/3 71/427/3 |
139 | [๑๔๐] ท่านเกิดในตระกูลพราหมณ์ ชนทั้งหลายเรียกว่า เกสวะ ได้ละเพศฆราวาสออกบวช วันหนึ่งได้ฟังธรรมของพระอัตถทัสสีพุทธเจ้า มีใจเลื่อมใสประคองอัญชลี เกิดปีติโสมนัสอย่างเหลือล้นแล้วหลีกไป , ในกาลนี้ พอเจริญวัยแล้ว ได้บวชไม่นานก็ได้เป็นพระอรหันต์ (เอกรังสนิยเถราปทาน) 71/469/371/469/3 71/429/10 |
140 | [๑๔๑] ท่านเป็นราชสีห์ ได้หักกิ่งรัง นำเอาดอกมาบูชาพระสิขีพุทธเจ้า ด้วยการบูชานั้นท่านไม่รู้จักทุคติเลย (สาลทายกเถราปทาน) 71/472/371/472/3 71/431/12 |
141 | [๑๔๒] ท่านเป็นนายพรานเที่ยวฆ่าสัตว์เลี้ยงชีพ อยู่ในป่าได้เห็นพระสิขีพุทธเจ้าเสด็จไปในที่นั้นแล้วมีใจเลื่อมใสมนัสการอยู่ทั้งเย็น และเช้า มองไม่เห็นไทยธรรมอะไรๆ จึงได้เก็บเอาผลมะหาดไปถวายพระองค์ พระพุทธเจ้าทรงเสวยแล้ว นายพรานเกิดปีติ มีจิตอันงดเว้นจากบาปกรรม มีเหง้าไม้และผลไม้เป็นอาหาร ไม่นานนักก็ได้ตายไปเกิดในเทวโลก (ผลทายกเถราปทาน) 71/475/371/475/3 71/433/17 |
142 | [๑๔๓] ท่านไม่ได้เห็นพระอัตถทัสสีพุทธเจ้าขณะยังทรงพระชนม์อยู่ ในกาลที่ทรงปรินิพพานแล้วจึงให้ช่างทำฉัตรซ้อนกันเป็นชั้นๆ บูชาไว้ที่พระสถูป และได้ทำหลังคาดอกไม้บูชาไว้ที่ฉัตร , ในกาลนี้ มีความเลื่อมใสในพระศาสดา บวชแล้วเรียนกรรมฐาน พยายามอยู่ไม่นานนัก ก็ได้บรรลุพระอรหัต (อธิฉัตติยเถราปทาน) 71/478/471/478/4 71/437/4 |
143 | [๑๔๔] เมื่อพระธัมมทัสสีพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ท่านได้ยกเสาธงขึ้นไว้ที่เจดีย์ ให้นายช่างสร้างบันไดสำหรับประชาชน จะได้ขึ้นสู่สถูป แล้วถือเอาดอกมะลิไปโปรยบูชาที่พระสถูป ด้วยการบูชานี้ ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (ถัมภาโรปกเถราปทาน) 71/481/371/481/3 71/439/13 |
144 | [๑๔๕] เมื่อพระปิยทัสสีพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ท่านได้กระทำที่บูชาด้วยแก้วมณีแวดล้อมพระเจดีย์ด้วยจิตเลื่อมใสยินดี ครั้นทำการฉลองที่บูชาแล้ว ก็ตาย ณที่นั้น ด้วยบุญนั้นจึงได้ท่องเที่ยวไปเทวโลก และมนุษย์โลก ในหลายแสนชาติที่ผ่านมา เป็นผู้ควรแก่การบูชา มีทรัพย์มาก มีโภคสมบัติมาก. .(เวทิการกเถราปทาน) 71/484/371/484/3 71/442/3 |
145 | [๑๔๖] เมื่อพระปทุมุตตรพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ท่านได้ทำแท่นบูชาด้วยไม้จันทน์อันหนึ่ง ถวายธูปและของหอม ด้วยผลแห่งบุญนั้น ท่านเกิดในภพใด ไม่เห็นความเป็นผู้ต่ำทรามเลย (สปริวาริยเถราปทาน) 71/487/371/487/3 71/444/15 |
146 | [๑๔๗] เมื่อมีการฉลองพระสถูป ของพระสิทธัตถพุทธเจ้า ท่านได้เอาดอกผักตบไปบูชาที่สถูป ด้วยการบูชานั้นท่านไม่รู้จักทุคติเลย (อุมมาปุปผิยเถราปทาน) 71/489/371/489/3 71/446/16 |
147 | [๑๔๘] ท่านได้ทำแท่นบูชาที่ต้นโพธิ์แห่งพระอโนมทัสสีพุทธเจ้า และทำการโบกฉาบด้วยปูนขาว พระศาสดาเห็นแล้ว พยากรณ์ว่า ด้วยกรรมคือการใส่ปูนขาวนี้และด้วยการตั้งเจตนาไว้ นี้จะได้เสวยสมบัติและจะทำที่สุดทุกข์ได้.(อนุโลมทายกเถราปทาน) 71/492/371/492/3 71/449/3 |
148 | [๑๔๙] ท่านได้ถือจอบ และปุ้งกี๋มาทำหนทางที่พระพุทธเจ้าจะเสด็จผ่านมาให้ราบเรียบเสมอ เกลี่ยทรายลงแล้ว ก็ไปไหว้ที่พระบาท ตั้งความปรารถนา ให้เป็นผู้ควรแก่การบูชาในทุกๆ ที่ที่ได้ไปเกิด และขอให้ได้บรรลุนิพพานเถิด พระศาสดาตรัสว่า เธอปรารถนาอย่างใด ขอจงสำเร็จอย่างนั้นเถิด. (มัคคทายกเถราปทาน) 71/495/371/495/3 71/451/10 |
149 | [๑๕๐] ท่านเป็นนายช่างทำยานอยู่ในเมือง ได้ถวายแผ่นกระดานไม้จันทน์ แด่พระสิทธัตถพุทธเจ้าด้วยกรรมนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (ผลกทายกเถราปทาน) 71/498/371/498/3 71/454/3 |
150 | [๑๕๑] ท่านเป็นฤๅษีอยู่ป่า ได้เห็นพระสุเมธพุทธเจ้า จึงเก็บเอาดอกช้างน้าวที่กำลังบาน มาร้อยเป็นมาลัยบูชาแทบบาทมูลพระพุทธเจ้า ด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (วฏังสกิยเถราปทาน) 71/501/371/501/3 71/456/8 |
151 | [๑๕๒] ท่านได้ฟังธรรมของพระสุเมธพุทธเจ้า แล้วให้คนทำบัลลังก์อันสำเร็จด้วยรัตนะ 7 ประการ ถวายแด่พระศาสดา ด้วยกรรมนั้นจึงไม่รู้จักทุคติเลย.(ปัลลังกทายกเถราปทาน) 71/504/371/504/3 71/458/10 |
152 | [๑๕๓] ท่านได้เก็บเอาดอกชบาหลายดอกร้อยไว้ด้วยเส้นด้ายแล้ว นำไปบูชาพระสิขีพุทธเจ้า ด้วยกรรมนั้นท่านไม่รู้จักทุคติเลย (พันธุชีวกเถราปทาน) 71/507/471/507/4 71/462/4 |
153 | [๑๕๔] ในกัปที่ 91 ท่านเกิดเป็นคนเข็ญใจ ได้ทำความผิดกับคนอื่น จึงหนีการติดตามของคนเหล่านั้นเข้าป่า พอเห็นต้นแคฝอยอันเป็นไม้โพธิ์จึงไหว้แล้ว กวาดเก็บดอกไม้มาบูชา แล้วนั่งคู้บัลลังก์ทำจิตให้เลื่อมใสอยู่ ณ ที่นั้น ขณะนั้นพวกมนุษย์เหล่านั้นติดตามมาทัน ท่านจึงวิ่งหนีรำพึงถึงต้นโพธิ์ แล้วตกลงไปตายในเหวลึกได้ไปเกิดอยู่ดาวดึงส์ (ตัมพปุปผิยเถราปทาน) 71/510/371/510/3 71/465/11 |
154 | [๑๕๕] ท่านเห็นพระพุทธเจ้าเสด็จดำเนินไป มีภิกษุขีณาสพ 68,000 แวดล้อม จึงกวาดถนนนั้น แล้วยกธงขึ้นที่ถนนนั้นด้วยจิตเลื่อมใส ด้วยกรรมนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย. (วีถิสัมมัชชกเถราปทาน) 71/513/371/513/3 71/468/3 |
155 | [๑๕๖] ในกัปที่ 31 ท่านเป็นเทพบุตร ได้บูชาพระสิขีพุทธเจ้าด้วยดอกฟักทิพย์ด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (กักการุปูชกเถราปทาน) 71/516/371/516/3 71/470/3 |
156 | [๑๕๗] ในกัปที่ 31 ท่านเป็นเทพบุตร ได้บูชาพระสิขีพุทธเจ้าด้วยดอกมณฑารพพวงมาลัยทิพย์ได้เป็นหลังคาบังร่มให้พระตถาคต ตลอด 7 วัน ด้วยการบูชานั้น จึงไม่รู้จักทุคติเลย. (มันทารวปุปผปูชกเถราปทาน) 71/518/371/518/3 71/472/3 |
157 | [๑๕๘] ท่านเป็นดาบส สร้างอาศรมอยู่ที่ภูเขาชื่อว่า กุกกุฏะ ใกล้ภูเขาหิมวันต์ได้พบพระปัจเจกพุทธเจ้า 7 พระองค์ แล้วมีจิตเลื่อมใส เลือกเก็บเอาดอกกระทุ่มที่บานแล้วมาบูชาพระปัจเจกพุทธเจ้าเหล่านั้น ด้วยการบูชานั้น จึงไม่รู้จักทุคติเลย (กทัมพปุปผิยเถราปทาน) 71/520/371/520/3 71/473/15 |
158 | [๑๕๙] ท่านบวชเป็นดาบสได้พบพระพุทธเจ้า ประทับอยู่พระองค์เดียวที่ภูเขาชื่อภูตคณะ จึงถือเอาดอกมะลิซ้อนไปบูชาแด่พระพุทธเจ้า ท่านจึงไม่ตกลงในอบาย4 ตลอด 99,999 กัป (ติณสูลกเถราปทาน) 71/523/371/523/3 71/476/5 |
159 | [๑๖๐] ท่านเป็นพราหมณ์ ชื่อสุวัจจะ เป็นผู้จบมนตร์ แวดล้อมพวกศิษย์ของตนอยู่ระหว่างภูเขา พระปทุมุตตรพุทธเจ้าเสด็จไปเดินจงกรมในอากาศ ณ ที่นั้นเพื่ออนุเคราะห์ ครั้นพราหมณ์เห็นแล้วพระองค์ก็เสด็จหลีกไปทางอากาศ พราหมณ์มีจิตเลื่อมใส ได้เก็บเอาดอกสารภีโปรยลงที่ทิศทางพระพุทธเจ้าเสด็จไปนั้นเองด้วยจิตอันเลื่อมใสนั้น ท่านไม่เข้าถึงทุคติเลย. (นาคปุปผิยเถราปทาน) 71/526/371/526/3 71/478/8 |
160 | [๑๖๑] ในกัปที่ 92 กาลแห่งพระผุสสพุทธเจ้า ท่านเกิดเป็นนายพรานอยู่ป่าใหญ่ได้เห็นดอกบุนนาคกำลังบาน จึงระลึกถึงพระพุทธเจ้า เก็บดอกบุญนาคอันมีกลิ่นหอม แล้วก่อสถูปที่กองทราย บูชาด้วยดอกไม้ มีพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์ ด้วยการบูชานั้น จึงไม่รู้จักทุคติเลย (ปุนนาคปุปผิยเถราปทาน) 71/529/371/529/3 71/481/3 |
161 | [๑๖๒] ท่านเป็นนกมีนามว่า กุกกุฏะ อาศัยอยู่ใกล้สระแห่งหนึ่งเป็นผู้มีศีลสมบูรณ์ด้วยวัตร ฉลาดในบุญและมิใช่บุญ ได้เห็นพระปทุมุตตรพุทธเจ้า เสด็จไปในที่นั้นจึงบินไปหักดอกบัวโกมุทน้อมถวายแด่พระพุทธเจ้า ครั้นถวายทานนั้นแล้ว อันกุศลมูลตักเตือน ท่านไม่ได้เข้าถึงทุคติเลยตลอดแสนกัป (กุมุททายกเถราปทาน) 71/531/371/531/3 71/483/3 |
162 | [๑๖๓] ท่านเกิดเป็นยักษ์ ไปยังที่ประชุมแห่งเทวดาในที่ไม่ไกลจากที่พระปทุมุตตรพุทธเจ้าแสดงธรรมอยู่ ท่านได้ยินพระสุรเสียง มีจิตเลื่อมในโสมนัส ปรบมือนมัสการแล้วเข้าไปบำรุง ด้วยผลแห่งการบำรุงพระศาสดา ใน 30,000 กัป ท่านไม่เข้าถึงทุคติเลย (สุปาริจริยเถราปทาน) 71/535/471/535/4 71/486/4 |
163 | [๑๖๔] ท่านเป็นผู้รักษาความปลอดภัยภายในพระราชวัง ได้เห็นพระสิทธัตถพุทธเจ้า แวดล้อมด้วยพระสาวกทั้งหลายเสด็จดำเนินไปสู่พระนคร จึงได้บูชาด้วยดอกชบา แล้วยืนนมัสการอยู่ ด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย .(กณเวรปุปผิยเถราปทาน) 71/538/371/538/3 71/488/15 |
164 | [๑๖๕] ในกัปที่ 92 ท่านได้ถวายผลไม้ ถวายมะพร้าว แด่พระติสสพุทธเจ้า ครั้นถวายแล้วย่อมบันเทิง มีความประสงค์สิ่งที่ต้องการ ก็เข้าถึงได้ตามปรารถนา และไม่รู้จักทุคติเลย (ขัชชทายกเถราปทาน) 71/541/371/541/3 71/490/16 |
165 | [๑๖๖] ท่านเห็นพระอัตถทัสสีพุทธเจ้า มีหมู่ภิกษุสงฆ์แวดล้อมเสด็จไปทางอากาศท่านมีจิตเลื่อมใสได้ประนมมือบูชาไปในทิศทางที่ทรงเสด็จไป ด้วยการเห็นนั้นท่านไม่รู้จักทุคติเลย (เทสปูชกเถราปทาน) 71/544/371/544/3 71/493/4 |
166 | [๑๖๗] ในกัปที่ 31 ท่านได้เห็นพระเวสสภูพุทธเจ้าอยู่ในป่า จึงได้เก็บเอาดอกกรรณิการ์มาทำเป็นเพดานดอกไม้ บูชา พระองค์ทรงนั่งเข้านิโรธสมาบัติ ณ ที่นั้น ดอกไม้นั้นก็ไม่เหี่ยวแห้งตลอด 7 วัน ด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(กณิการฉทนิยเถราปทาน) 71/547/371/547/3 71/495/6 |
167 | [๑๖๘] ในกัปที่ 92 ท่านได้ถวายเนยใสและน้ำมัน แด่พระผุสสพุทธเจ้า ด้วยบุญนั้นจึงได้เกิดในเทวโลกและในทุกๆ ภพที่เกิดในหมู่มนุษย์ ก็ได้เสวยแต่ความสุขเพียบพร้อมไปด้วยอาหารมีรสอร่อยเช่นเนยใส น้ำมัน น้ำผึ้ง น้ำอ้อย เป็นต้น.(สัปปิทายกเถราปทาน) 71/550/371/550/3 71/497/17 |
168 | [๑๖๙] ท่านเกิดในตระกูลศูทร เที่ยวไปตามกระแสน้ำใกล้ฝั่งแม่น้ำจันทภาคา ได้เห็นพระพุทธเจ้าซึ่งประสงค์จะสรงสนาน ณ ที่นั้น จึงเก็บเอาดอกเข็มไปบูชาพระพุทธเจ้า ด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (ยุธิกปุปผิยเถราปทาน) 71/553/371/553/3 71/500/3 |
169 | [๑๗๐] ในกัปที่ 94 ท่านได้เป็นพระราชโอรสอยู่ในนครชื่อว่า ติวรา ได้ถวายผ้าแด่พระสิทธัตถพุทธเจ้า พระองค์ทรงรับแล้วเอาพระหัตถ์ลูบผ้านั้น แล้วเหาะไปในอากาศ ผ้านั้นก็ลอยตามหลังพระองค์ไปวิหาร ด้วยการถวายผ้านั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (ทุสสทายกเถราปทาน) 71/555/371/555/3 71/502/3 |
170 | [๑๗๑] ในกัปที่ 91 ท่านเป็นหัวหน้าอุบาสก ได้ประชุมกันสร้างเรือนยอดเดียว แด่พระวิปัสสีพุทธเจ้า ในกาลนี้ เกิดในเรือนมีสกุล ได้ฟังธรรมแล้ว เกิดศรัทธาบวชแล้วสมบูรณ์ด้วยศีล ถึงพร้อมด้วยวัตรปฏิบัติไม่นานนักก็ได้บรรลุพระอรหัต.(สมาทปกเถราปทาน) 71/558/371/558/3 71/504/13 |
171 | [๑๗๒] ในกัปที่ 92 ท่านได้ถือของหอม และพวงดอกไม้ เข้าไปบูชาพระติสสพุทธเจ้า ซึ่งกำลังเสด็จเข้าพระคันธกุฎี เอานิ้วทั้ง 5 แตะเครื่องลูบไล้ แล้วลูบทาที่พระสรีระของพระพุทธเจ้า ถวายบังคมแล้วหลีกไป ด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (ปัญจังคุลิยเถราปทาน) 71/561/371/561/3 71/507/3 |
172 | [๑๗๓] ท่านเกิดเป็นผีเสื้อน้ำอยู่ในที่สระใหญ่ ใกล้กับภูเขาหิมวันต์ ได้บูชาพระอัตถทัสสีพุทธเจ้าด้วยดอกโกมุท ด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(กุมุทมาลิยเถราปทาน) 71/564/371/564/3 71/510/4 |
173 | [๑๗๔] ท่านเป็นช่างไม้ได้สร้างบันไดทำด้วยไม้แก่น เพื่อสำหรับขึ้นไปยังปราสาทที่ประทับของพระโกณฑัญญพุทธเจ้า จึงได้เสวยสมบัติในเทวโลก เมื่อจะเกิดในหมู่มนุษย์ ก็ได้เกิดในตระกูลอันสูงส่ง เพราะผลที่ได้สร้างบันได .(นิสเสณีทายกเถราปทาน) 71/567/371/567/3 71/513/3 |
174 | [๑๗๕] ในกัปที่ 91 ท่านเป็นนายพรานเนื้ออยู่ในป่าใหญ่ ได้เห็นพระวิปัสสีพุทธเจ้าจึงเก็บดอกอัญชันเขียวน้อมเข้าไปถวาย ด้วยการถวายนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(รัตติยปุปผิยเถราปทาน) 71/569/371/569/3 71/515/3 |
175 | [๑๗๖] ในกัปที่ 91 ท่านได้สร้างบ่อน้ำ และถวายบิณฑบาต แด่พระวิปัสสีพุทธเจ้า ด้วยกรรมนั้นทุกๆที่ ที่ท่านเกิดแล้ว ก็มีสระโบกขรณี บ่อน้ำ และน้ำดื่ม เป็นต้น เพียบพร้อมบริบูรณ์ (อุทปานทายกเถราปทาน) 71/572/371/572/3 71/517/8 |
176 | [๑๗๗] ท่านได้ฟังธรรมเทศนาของพระปทุมุตตรพุทธเจ้า เลื่อมใสในพระรัตนตรัยเมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้วท่านได้ถวายอาสนะทอง บูชาด้วยของหอม ดอก-ไม้ มีจิตเลื่อมใสไหว้โพธิพฤกษ์ แล้วไม่ได้เข้าถึงทุคติเลย ตลอดแสนกัป.(สีหาสนทายกเถราปทาน) 71/574/371/574/3 71/519/3 |
177 | [๑๗๘] ท่านได้พบเห็นพระอโนมทัสสีพุทธเจ้า กำลังเสด็จจงกรมท่ามกลางอากาศและในที่ที่ย่างพระบาทจงกรม จะเรี่ยรายไปด้วยดอกไม้มากมาย ท่านมีใจเลื่อมใสโยนดอกไม้ทั้งหลายขึ้นไปบนอากาศ ดอกไม้เหล่านั้น ก็ได้กลายเป็นเพดานปรากฏแล้ว ด้วยบุญนั้นจึงได้ท่องเที่ยวไปเฉพาะสุคติเท่านั้น ได้รับแต่การบูชาในที่ทั้งปวง.(มัคคทัตติกเถราปทาน) 71/577/371/577/3 71/521/5 |
178 | [๑๗๙] ท่านได้บูชาด้วยประทีปดวงหนึ่งไว้ที่ไม้สนอันเป็นโพธิพฤกษ์ของพระปทุมุตตรพุทธเจ้า ด้วยบุญนั้นจึงได้ท่องเที่ยวไปในเทวโลกและมนุษยโลก เป็นผู้รุ่งเรืองในที่ทุกแห่ง มีดวงตาแจ่มใสดี (เอกทีปิยเถราปทาน) 71/580/371/580/3 71/523/9 |
179 | [๑๘๐] ท่านเป็นดาบส สร้างบรรณศาลาอยู่ใกล้แม่น้ำแห่งหนึ่งได้พบพระปทุมุตตรพุทธเจ้า ซึ่งเสด็จไปที่นั้นเพื่ออนุเคราะห์ ท่านมีใจเลื่อมใส เอาบัลลังก์แก้วมณีบูชาพระศาสดา กระทำความปรารถนาเพื่อบรรลุพระนิพพาน , ในกาลนี้ วันหนึ่งได้ฟังธรรมเทศนาของพระศาสดาแล้ว ได้มีศรัทธาบวช ไม่นานก็ได้เป็นพระอรหันต์.(มณิปูชกเถราปทาน) 71/582/371/582/3 71/525/3 |
180 | [๑๘๑] ในกัปที่ 91 ท่านเป็นหมอได้ทำการรักษาพระอโสกเถระ ผู้เป็นอุปัฏฐากของพระวิปัสสีพุทธเจ้า ด้วยบุญนั้น จึงได้เสวย แต่ความสุข ไปๆ มาๆ ในเทวโลกและมนุษยโลก ทุกๆ ภพที่เกิดได้เป็นผู้ไม่มีโรค มีอายุยืน มีสรีระร่างกายงามดังทองคำ.(ติกิจฉกเถราปทาน) 71/585/371/585/3 71/528/3 |
181 | [๑๘๒] ท่านเป็นคนรักษาอาราม ในพระเวสสภูพุทธเจ้า มีจิตเลื่อมใส มีใจโสมนัสได้อุปัฏฐากพระสงฆ์ผู้อุดม ด้วยกรรมนั้นจึงไม่รู้จักทุคติเลย .(สังฆุปัฏฐากเถราปทาน) 71/587/371/587/3 71/530/3 |
182 | [๑๘๓] ในกัปที่ 92 ท่านเห็นพระผุสสพุทธเจ้า เสด็จไปในอากาศ จึงเลือกเก็บดอกโมกหลวง ที่บาน ทั้งดอกใหญ่และดอกเล็ก มาบูชาพระองค์ ด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (กุฏชปุปผิยเถราปทาน) 71/590/471/590/4 71/533/4 |
183 | [๑๘๔] ท่านได้บูชาพระโสภิตพุทธเจ้าด้วยดอกชบา เพราะเอาดอกไม้บูชา ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (พันธุชีวกเถราปทาน) 71/591/371/591/3 71/534/3 |
184 | [๑๘๕] ท่านได้ถือเอาดอกไม้ 7 ดอก และผ้าขนสัตว์อย่างดี เข้าไปบูชาพระสิขี-พุทธเจ้า ด้วยกรรมนั้นท่านไม่รู้จักทุคติเลย (โกตุมพริยเถราปทาน) 71/592/371/592/3 71/535/5 |
185 | [๑๘๖] ท่านได้เอาดอกอุบล 5 ดอก บูชาพระติสสพุทธเจ้า ซึ่งกำลังเสด็จดำเนินอยู่แวดล้อมด้วยพระสาวก ด้วยกรรมนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(ปัญจหัตถิยเถราปทาน) 71/593/371/593/3 71/536/3 |
186 | [๑๘๗] ท่านได้ถวายถั่วฤๅษี บดผสมน้ำผึ้ง แด่พระปทุมุตตรพุทธเจ้า และเอาน้ำ-ผึ้งใส่บาตรของพระสาวกประมาณแปดแสนรูป ท่านอันความเลื่อมใสแห่งจิตนั้นตักเตือน ไม่เข้าถึงทุคติเลยตลอดแสนกัป (อิสิมุคคทายกเถราปทาน) 71/594/371/594/3 71/537/3 |
187 | [๑๘๘] ท่านเป็นคนตีตะโพน เป็นผู้ไปประกอบการบำรุงไม้โพธิ์อันอุดม ทั้งเย็นเช้าท่านอันกุศลมูลตักเตือนแล้ว ไม่เข้าถึงทุคติเลยตลอด 1,800 กัป.(โพธิอุปัฏฐายกเถราปทาน) 71/595/371/595/3 71/538/3 |
188 | [๑๘๙] คำเตือนของเหล่าเทวดาที่เตือนเทวดาผู้กำลังจะจุติ.(เอกจินติกเถราปทาน) 71/596/371/596/3 71/538/18 |
189 | [๑๙๐] ท่านเป็นเทวดาแวดล้อมด้วยนางอัปสร ระลึกถึงบุพกรรมได้ จึงระลึกถึงพระพุทธเจ้า แล้วถือดอกเจตพังคี 3 ดอก ไปบูชาพระวิปัสสีพุทธเจ้า เพราะการบูชานั้น ท่านจึงไม่รู้จักทุคติเลย (ติกัณณิปุปผิยเถราปทาน) 71/598/371/598/3 71/540/9 |
190 | [๑๙๑] ท่านเป็นเทวดา เมื่อได้ยินเสียงประกาศกึกก้องในชั้นดาวดึงส์ว่า พระพุทธเจ้าจะเสด็จนิพพานในโลก เทวดาอื่นเกิดความโศก ท่านเป็นผู้มีใจแข็ง ได้ไปบูชาพระพุทธเจ้าด้วยดอกมณฑารพในเวลาที่พระองค์ใกล้จะปรินิพพานในกาลนั้นเทวดาและนางอัปสรทั้งปวงอนุโมทนาต่อท่าน ท่านไม่เข้าถึงทุคติเลยตลอดแสนกัป (เอกจาริยเถราปทาน) 71/599/371/599/3 71/541/7 |
191 | [๑๙๒] ท่านได้ประชุมกัน เข้าไปเพ่งโทษพระอภิภูเถระ จึงมีความเร่าร้อน ขณะนั้นพระสาวกของพระธรรมทัสสีพุทธเจ้า ชื่อว่า สุนันทะ ไปในสำนักท่านจึงได้เอาดอกไม้บูชาพระสาวกทั้งหลาย ท่านตาย ณ ที่นั้นแล้วก็เกิดขึ้นอีก ไม่ได้ไปสู่วินิบาตตลอด 1,800 กัป (ติวัณฏิปุปผิยเถราปทาน) 71/600/371/600/3 71/542/5 |
192 | [๑๙๓] ท่านอยู่วิมานอันบุญเนรมิตให้ มีเสาทองคำ 84,000 เสา มีจิตผ่องใส ถือเอาดอกคูนไปบูชาพระสิขีพุทธเจ้า ด้วยกรรมนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(ตมาลปุปผิยเถราปทาน) 71/602/471/602/4 71/544/4 |
193 | [๑๙๔] ท่านเป็นฤๅษีอยู่ในป่า ได้เกี่ยวหญ้านำมาลาดลงที่แผ่นดินดอนๆ และนำเอาใบตาล 3 ใบมาทำเป็นหลังคาถวายแด่พระสิทธัตถพุทธเจ้า เทวดาและมนุษย์ ณ ที่นั้น ได้บูชาพระศาสดาตลอด 7 วัน ด้วยกรรมนั้นท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(ติณสันถารทายกเถราปทาน) 71/604/371/604/3 71/545/7 |
194 | [๑๙๕] เมื่อพระสถูปของพระผุสสพุทธเจ้า ในป่ามหาวัน มีต้นไม้งอกขึ้น ณ ที่นั้นท่านได้ทำที่ขรุขระให้ราบเรียบ แล้วปฏิสังขรณ์สถูปด้วยปูนขาว ด้วยกรรมนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (ขัณฑผุลลิยเถราปทาน) 71/606/371/606/3 71/547/3 |
195 | [๑๙๖] ท่านเป็นคนรักษาพระราชอุทยาน เห็นพระปทุมุตตรพุทธเจ้า ทรงประทับนั่งบนดอกบัวขาว จึงหักดอกอโศกไปบูชา ด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(อโสกปูชกเถราปทาน) 71/608/371/608/3 71/548/15 |
196 | [๑๙๗] ท่านได้เก็บดอกปรู ไปสู่สำนักของพระสิทธัตถพุทธเจ้าผู้หลีกเร้นอยู่ แล้วบูชาด้วยเครื่องบูชาแล้วโปรยดอกไม้ลงในถ้ำ ด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(อังโกลกเถราปทาน) 71/610/371/610/3 71/550/5 |
197 | [๑๙๘] ท่านเห็นพระสิทธัตถพุทธเจ้า เสด็จไปในอากาศ จึงเด็ดใบอ่อนของต้นอโศก โยนขึ้นไปบูชาในอากาศก้านขั้วใบอ่อนเหล่านั้น ได้ลอยตามหลังพระศาสดาไป ด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (กิสลยปูชกเถราปทาน) 71/611/371/611/3 71/551/3 |
198 | [๑๙๙] ท่านเป็นลิงมีกำลังแข็งแรง ได้เห็นต้นมะพลับออกผล จึงระลึกถึงพระพุทธเจ้าแล้วออกค้นหาพระสิทธัตถพุทธเจ้า อยู่ 2-3 วัน พระศาสดาทรงทราบความดำรินั้น จึงเสด็จมาพร้อมด้วยพระขีณาสพหลายพัน ท่านเกิดความปราโมทย์ถือผลมะพลับเข้าไปถวายพระศาสดา ด้วยการถวายนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(ตินทุกทายกเถราปทาน) 71/613/371/613/3 71/552/13 |
199 | [๒๐๐] ท่านได้บูชา พระสุเมธพุทธเจ้า ด้วยดอกไม้หลายกำ ด้วยจิตเลื่อมใส จึงไม่ได้เข้าถึงทุคติเลยตลอด 3 หมื่นกัป (คิริเนลมุฏฐิปูชกเถราปทาน) 71/614/771/614/7 71/554/3 |
200 | [๒๐๑] ท่านได้บูชาพระสุมังคลพุทธเจ้า ด้วยดอกคล้า 3 ดอก ด้วยการบูชานั้นท่านไม่รู้จักทุคติเลย (ติกัณฑิปุปผิยเถราปทาน) 71/615/671/615/6 71/555/3 |
201 | [๒๐๒] ท่านได้บูชาพระปทุมุตตรพุทธเจ้า ด้วยดอกคัดเค้า ด้วยจิตเลื่อมใสนั้นท่านไม่ได้เข้าถึงทุคติเลยตลอดแสนกัป(ยูถิกปุปผิยเถราปทาน) 71/616/671/616/6 71/556/3 |
202 | [๒๐๓] ท่านได้บูชา พระติสสพุทธเจ้า ด้วยดอกกรรณิการ์ ด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (กณิการปุปผิยเถราปทาน) 71/618/471/618/4 71/558/4 |
203 | [๒๐๔] ในกัปที่ 31 ท่านเห็นพระสิขีพุทธเจ้าเสด็จขึ้นจงกรม ท่านมีจิตเลื่อมใสจึงชมเชยพระญาณและถือดอกเทียนขาวไปบูชา ด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (มิเนลปุปผิยเถราปทาน) 71/619/371/619/3 71/559/3 |
204 | [๒๐๕] เมื่อพระวิปัสสีพุทธเจ้า ลงสรงสนานอยู่ ท่านมีจิตเบิกบาน มีใจโสมนัส ได้ถือเอาดอกหงอนไก่ไปบูชาพระศาสดา ด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(กิงกณิกปุปผิยเถราปทาน) 71/620/371/620/3 71/560/3 |
205 | [๒๐๖] ท่านนำส่งพระอัตถทัสสีพุทธเจ้า และภิกษุสงฆ์ ข้ามฝั่งแม่น้ำคงคา ด้วยกรรมนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (ตรณิยเถราปทาน) 71/621/371/621/3 71/561/3 |
206 | [๒๐๗] ท่านเป็นคนเฝ้าพระอารามของพระวิปัสสีพุทธเจ้า ได้ถือเอาดอกไม้ย่างทราย ไปบูชาแด่พระพุทธเจ้าด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(นิคคุณฑิปุปผิยเถราปทาน) 71/622/371/622/3 71/562/3 |
207 | [๒๐๘] ท่านเห็นพระสิทธัตถพุทธเจ้า กำลังบริโภคอยู่ จึงได้เอาน้ำในหม้อถวายด้วยการถวายน้ำนั้นท่านไม่รู้จักทุคติเลย (อุทกทายกเถราปทาน) 71/622/1871/622/18 71/563/3 |
208 | [๒๐๙] ท่านได้ยิงลูกธนูไปตัดดอกไม้พร้อมทั้งขั้ว นำไปบูชาพระสิทธัตถพุทธเจ้าด้วยการบูชานั้นท่านไม่รู้จักทุคติเลย (สลฬมาลิยเถราปทาน) 71/623/1571/623/15 71/564/3 |
209 | [๒๑๐] ท่านได้นำดอกหงอนไก่ บูชารอยพระพุทธบาท ของพระวิปัสสีพุทธเจ้าด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (โกรัณฑปุปผิยเถราปทาน) 71/624/1571/624/15 71/565/3 |
210 | [๒๑๑] ท่านได้ถวายเชิงรองบาตรแด่พระสิขีพุทธเจ้า (อาธารทายกเถราปทาน) 71/625/1571/625/15 71/566/3 |
211 | [๒๑๒] ท่านมีใจผ่องใส ถวายร่มคันหนึ่งแด่พระติสสพุทธเจ้า ด้วยการถวายร่มนั้นท่านไม่รู้จักทุคติเลย (ปาปนิวาริยเถราปทาน) 71/626/1171/626/11 71/567/3 |
212 | [๒๑๓] ท่านได้ถวายช้างตัวประเสริฐ มีงาอันงอนงาม เจริญด้วยกำลังเร็วและกล้าแข็ง แด่พระสิทธัตถพุทธเจ้า ด้วยการถวายช้างนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(หัตถิทายกเถราปทาน) 71/628/471/628/4 71/569/4 |
213 | [๒๑๔] ท่านได้ถวายรองเท้าแด่พระพุทธเจ้าผู้เพ่งฌานอยู่ในป่า ด้วยกรรมนั้น จึงได้เสวยยานทิพย์ไม่รู้จักทุคติเลย (ปานธิทายกเถราปทาน) 71/629/371/629/3 71/570/3 |
214 | [๒๑๕] เมื่อพระเวสสภูพุทธเจ้าแวดล้อมด้วยภิกษุสงฆ์ แสดงอริยสัจ อยู่ท่านได้ไปสู่ที่ประชุมนั่งฟังธรรมแล้วได้ไปสู่เทวโลก อยู่ในเทพบุรีนั้นตลอด 30 กัป ด้วยการได้สัญญานั้นท่านไม่รู้จักทุคติเลย (สัจจสัญญกเถราปทาน) 71/630/371/630/3 71/571/3 |
215 | [๒๑๖] ในกัปที่ 31 ท่านได้เห็นผ้าบังสุกุลของพระศาสดาห้อยอยู่บนยอดไม้ จึงได้ประนมอัญชลีไหว้ผ้าบังสุกุล ด้วยการได้สัญญานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(เอกสัญญกเถราปทาน) 71/631/371/631/3 71/572/3 |
216 | [๒๑๗] ใน 30,000 กัปแต่กัปนี้ ท่านได้เห็นพระพุทธเจ้าสว่างจ้าดังพระอาทิตย์อานุภาพของพระองค์รุ่งเรืองอยู่ในระหว่างภูเขา จึงมีจิตเลื่อมใสในพระรัศมีแล้วบันเทิงอยู่ในสวรรค์ตลอดกัป ในกัปที่เหลือได้ก่อสร้างกุศล ด้วยจิตเลื่อมใสนั้นและด้วยการระลึกถึงพระพุทธเจ้า ด้วยการได้สัญญานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(รังสิสัญญกเถราปทาน) 71/631/1871/631/18 71/573/3 |
217 | [๒๑๘] ท่านมีสติเกิดขึ้นเฉพาะหน้า ได้สัญญาอันไปในพระพุทธเจ้าอย่างหนึ่ง ที่ไม้อัสสัตถพฤกษ์ อันมีรัศมีเขียวสดงดงามดี เพราะการได้สัญญานั้นเป็นเหตุนำมา ให้ท่านได้บรรลุความสิ้นอาสวะ (สันธิตเถราปทาน) 71/632/1971/632/19 71/574/3 |
218 | [๒๑๙] ในกัปที่ 92 ท่านได้ถวายพัดใบตาล แด่พระติสสพุทธเจ้า เพื่อต้องการให้ระงับร้อนในฤดูร้อน ท่านดับได้สนิทซึ่งไฟ คือ ราคะ ไฟ คือ โทสะ และดับไฟได้สนิทซึ่งไฟ คือ โมหะ อันยิ่งกว่าความร้อนนั้น นี้เป็นผลของการถวายพัดใบตาล.(ตาลวัณฏทายกเถราปทาน) 71/633/1471/633/14 71/575/3 |
219 | [๒๒๐] ท่านได้ลาดผ้าสาฎกผืนน้อยให้พระติสสพุทธเจ้าทรงเหยียบ แล้วถวายบังคมพระบาทของพระศาสดา ด้วยการถวายผ้าสาฎกนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(อักกันตสัญญกเถราปทาน) 71/634/1671/634/16 71/576/3 |
220 | [๒๒๑] ท่านได้ถวายเนย และน้ำมันแด่พระสิทธัตถพุทธเจ้า ผู้ทรงประชวร ด้วยทานนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (สัปปิทายกเถราปทาน) 71/635/1971/635/19 71/577/3 |
221 | [๒๒๒] ท่านแผ้วถางที่จงกรมของพระปิยทัสสีพุทธเจ้า มุงบังด้วยไม้อ้อ ป้องกันลมและแดด ก่อสร้างกุศลเพื่อต้องการเว้นบาป ตั้งความเพียรในศาสนาของพระศาสดา เพื่อละกิเลสทั้งหลาย (ปาปนิวาริยเถราปทาน) 71/637/371/637/3 71/578/3 |
222 | [๒๒๓] ท่านได้ถวายที่หน่วงเหนี่ยว (ราวสะพาน) แด่พระอัตถทัสสีพุทธเจ้า.(อาลัมพนทายกเถราปทาน) 71/638/471/638/4 71/580/4 |
223 | [๒๒๔] ในกัปที่ 31 ท่านเป็นคนคอยต้อนรับหมู่คณะ ได้ถวายท่อนหนังแด่พระสิขีพุทธเจ้า เพราะกรรมนั้นท่านได้เสวยสมบัติแล้ว เผากิเลสทั้งหลายแล้ว.(อชินทายกเถราปทาน) 71/639/371/639/3 71/581/3 |
224 | [๒๒๕] ในกัปที่ 91 ท่านเป็นนายพรานเนื้อ ได้ถวายเนื้อแด่พระวิปัสสีพุทธเจ้า แล้วได้เสวยอิสริยยศในโลกนี้ พร้อมทั้งเทวโลก รัตนะ 2 ประการ เกิดแก่ท่านเพื่อบรรลุธรรมในปัจจุบัน ตัวของท่านอ่อนและปัญญารู้ได้ละเอียดลออ.(เทวรัตนิยเถราปทาน) 71/640/371/640/3 71/582/3 |
225 | [๒๒๖] ในกัปที่ 94 ท่านได้สร้างไพรทีถวายแด่พระสิทธัตถพุทธเจ้า และได้ถวายอารักขา ด้วยกรรมพิเศษนั้นท่านไม่เห็นภัยที่น่าหวาดเสียวเลย ความสะดุ้งกลัวไม่มีเกิดแก่ท่านในภพไหนๆ (อารักขทายกเถราปทาน) 71/641/371/641/3 71/583/3 |
226 | [๒๒๗] ในกัปที่ 91 ท่านได้ถวายโรงไฟ แด่พระวิปัสสีพุทธเจ้า ได้ถวายอาวาส และเครื่องรองรับน้ำร้อนแด่ภิกษุอาพาธ ด้วยกรรมนั้น อัตภาพของท่านอันผู้มีฤทธิ์นิรมิตดีแล้ว ท่านไม่รู้จักป่วยไข้เลย (อพยาธิกเถราปทาน) 71/642/371/642/3 71/584/3 |
227 | [๒๒๘] ในกัปที่ 91 ท่านได้ถือเอาดอกพิกุลไปบูชา พระวิปัสสีพุทธเจ้า ด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (วกุลปุปผิยเถราปทาน) 71/643/371/643/3 71/585/3 |
228 | [๒๒๙] ในกัปที่ 31 ท่านได้ถือมาลัยประดับศีรษะที่ทำด้วยทอง ขึ้นคอช้างไปอย่างรีบด่วน บูชาแด่พระสิขีพุทธเจ้า ด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย. .(โสวัณณวฏังสกิยเถราปทาน) 71/644/371/644/3 71/586/3 |
229 | [๒๓๐] ในกัปที่ 31 เมื่อพระสิขีพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ท่านได้ทำการบูชาโพธิ-พฤกษ์ อันเกลื่อนกล่นด้วยมาลัย ประดับศีรษะ (มิญชวฏังสกิยเถราปทาน) 71/645/371/645/3 71/587/3 |
230 | [๒๓๑] ในกัปที่ 31 ท่านเป็นนายมาลาการ ชื่อว่า อสิตะ ได้ถือเอาพวงมาลัยไปเพื่อน้อมเกล้าถวายแด่พระราชายังไม่ทันถึงพระราชา ได้พบพระสิขีพุทธเจ้า จึงร่าเริงโสมนัส นำดอกไม้นั้นบูชาพระศาสดา ด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(สุกตาเวฬิยเถราปทาน) 71/646/371/646/3 71/588/3 |
231 | [๒๓๒] ในกัปที่ 31 ท่านมีจิตเลื่อมใส มีใจโสมนัส ได้ถวายบังคมพระเวสสภูพุทธเจ้า ด้วยกรรมนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (เอกวันทนิยเถราปทาน)ย 71/647/371/647/3 71/589/3 |
232 | [๒๓๓] ในกัปที่ 31 ท่านออกจากประตูอารามแล้ว ได้ลาดแผ่นกระดานสำหรับนั่งไว้ และได้ตั้งน้ำฉันน้ำใช้ไว้ เพื่อบรรลุประโยชน์อันสูงสุด ด้วยกรรมนั้นท่านไม่รู้จักทุคติเลย (อุทกาสนทายกเถราปทาน) 71/649/471/649/4 71/591/4 |
233 | [๒๓๔] ในกัปที่ 91 ท่านเป็นช่างหม้ออยู่ในนครพันธุมดี ได้แบ่งภาชนะถวายแด่ภิกษุสงฆ์ในนครนั้นเสมอ ๆ ด้วยกรรมนั้นท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(ภาชนทายกเถราปทาน) 71/650/371/650/3 71/592/3 |
234 | [๒๓๕] ในกัปที่ 31 ท่านเป็นคนทำขนมขายอยู่ในนครอรุณวดี ได้เห็นพระสิขีพุทธเจ้า เสด็จไปทางประตูบ้านของท่าน จึงมีใจผ่องใสรับบาตร แล้วได้ถวายดอกรังแด่พระองค์ ด้วยการถวายดอกไม้นั้นท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(สาลปุปผิยเถราปทาน) 71/651/371/651/3 71/593/3 |
235 | [๒๓๖] ในกัปที่ 94 ท่านเป็นช่างสานอยู่ในนครติวรา เมื่อมหาชนเที่ยวแสวงหาเสื่อลำแพน เพื่อบูชาพระสิทธัตถพุทธเจ้า ท่านได้ให้เสื่อลำแพนแด่ชนทั้งหลาย ผู้ทำพุทธบูชา ด้วยกรรมนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (กิลัญชทายกเถราปทาน) 71/653/371/653/3 71/595/3 |
236 | [๒๓๗] ในกัปที่ 91 ท่านมีจิตเลื่อมใส มีใจโสมนัส ได้ให้ช่างก่อสร้างไพรที ไว้ที่ไม้โพธิพฤกษ์ ของพระวิปัสสีพุทธเจ้า ด้วยกรรมนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(เวทิทายกเถราปทาน) 71/655/371/655/3 71/596/12 |
237 | [๒๓๘] ในกัปที่ 31 ท่านเป็นช่างย้อมอยู่ในนครอรุณวดี ได้ย้อมภัณฑะ คือผ้าที่พระเจดีย์ให้มีสีต่างๆ ด้วยการย้อมนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(วัณณการกเถราปทาน) 71/656/371/656/3 71/597/9 |
238 | [๒๓๙] ในกัปที่ 91 ท่านเป็นพรานเนื้ออยู่ในป่าชัฏ เห็นต้นมะหาดมีดอกบาน จึงเก็บมาโยน โรยลงที่ทางเดินมีใจผ่องใส รับบาตรของพระพุทธเจ้าซึ่งกำลังเสด็จดำเนินอยู่ที่ทาง แล้วได้ถวายดอกมะหาดแด่พระองค์ ด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (ปิยาลปุปผิยเถราปทาน) 71/657/371/657/3 71/598/10 |
239 | [๒๔๐] ในกัปที่ 91 ท่านเป็นผู้ฉลาดในศิลปะของตน ได้ถวายผลมะม่วงแด่พระวิปัสสีพุทธเจ้า ด้วยทานนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (อัมพยาคทายกเถราปทาน) 71/658/371/658/3 71/599/13 |
240 | [๒๔๑] เมื่อพระอัตถทัสสีพุทธเจ้า ปรินิพพานแล้ว ท่านได้ให้สร้างลานดินไว้ที่พระสถูปอันอุดมของพระพุทธเจ้า ด้วยกรรมนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(ชคติการกเถราปทาน) 71/659/371/659/3 71/601/3 |
241 | [๒๔๒] ในกัปที่ 94 ท่านเป็นช่างทองอยู่ในติวรานคร ได้ถวายมีดเล่มหนึ่งแด่พระพุทธเจ้า ด้วยการถวายมีดนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย .(วาสิทายกเถราปทาน) 71/660/371/660/3 71/602/3 |
242 | [๒๔๓] ในกัปที่ 91 ท่านเป็นนายพรานเนื้อเที่ยวอยู่ในป่าใหญ่ ได้เห็นดินแดง จึงถือเอามาถวายแก่สงฆ์ด้วยทานนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(ตุวรัฏฐิทายกเถราปทาน) 71/661/471/661/4 71/603/4 |
243 | [๒๔๔] ในกัปที่ 92 ท่านเข้าไปยังท่ามกลางป่า ได้เห็นต้นบุนนาคมีดอกเป็นพวงจึงประคองด้วยมือทั้งสอง ประนมกรอัญชลีบนเศียรเกล้า บูชาแด่พระติสสพุทธเจ้าด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (นาคเกสริยเถราปทาน) 71/662/371/662/3 71/604/10 |
244 | [๒๔๕] ในกัปที่ 92 ท่านเป็นนกกาน้ำ เที่ยวอยู่ในท่ามกลางชาตสระ ได้เห็นพระติสสพุทธเจ้า เสด็จไปในอากาศจึงเอาจะงอยปากคาบดอกบัว ไปบูชาแด่พระศาสดา ด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย(นฬินเกสริยเถราปทาน) 71/664/371/664/3 71/606/3 |
245 | [๒๔๖] ในกัปที่ 91 ท่านได้บูชาพระสิทธัตถพุทธเจ้า ด้วยดอกเท้ายายม่อม ด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (วิรวิปุปผิยเถราปทาน) 71/666/371/666/3 71/607/10 |
246 | [๒๔๗] ในกัปที่ 94 ท่านเป็นคนรักษาพระคันธกุฎี ของพระสิทธัตถพุทธเจ้า ได้มีจิตเลื่อมใส อบพระคันธกุฎีให้หอมด้วยมือทั้งสองของตน ตามกาลอันควร ด้วยกรรมนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (กุฏิธูปกเถราปทาน) 71/667/371/667/3 71/608/10 |
247 | [๒๔๘] ในกัปที่ 94 ท่านได้ถวายบาตรแด่พระสิทธัตถพุทธเจ้า ด้วยทานนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (ปัตตทายกเถราปทาน) 71/668/371/668/3 71/609/15 |
248 | [๒๔๙] ในกัปที่ 94 เมื่อพระสิทธัตถพุทธเจ้า ปรินิพพานแล้ว ท่านได้พระธาตุองค์หนึ่งของพระผู้มีพระภาคเจ้าจอมสัตว์ ผู้คงที่ จึงเก็บพระธาตุนั้นไว้บูชาตลอด 5 ปีดังพระองค์ผู้สูงสุดกว่านระยังดำรงอยู่ ด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(ธาตุปูชกเถราปทาน) 71/668/1671/668/16 71/610/12 |
249 | [๒๕๐] ในกัปที่ 31 ท่านได้วางดอกมะลิซ้อน 7 ดอกไว้บนศีรษะ บูชาแด่พระเวสสภู-พุทธเจ้า ด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (สัตตสัตตลิปุปผปูชกเถราปทาน) 71/670/371/670/3 71/611/9 |
250 | [๒๕๑] พระปทุมุตตรพุทธเจ้า ทรงประกาศสัจจะ 4 ทรงแสดงอมตบท ในกาลนั้นท่านทำดอกมะกล่ำหลวงให้แน่น บูชาแด่พระพุทธเจ้า.(พิมพิชาลปุปผิยเถราปทาน) 71/671/371/671/3 71/612/9 |
251 | [๒๕๒] เมื่อพระสยัมภูผู้ไม่ทรงแพ้อะไรๆ มีพระนามว่า กุกกุธะ(กกุสันธะ)เสด็จออกจากป่าชัฏ เสด็จไปถึงแม่น้ำใหญ่ ในกาลนั้น ท่านมีใจเลื่อมใส ถือเอาดอกคูนมาบูชาแด่พระสยัมภู ด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (อุททาลทายกเถราปทาน) 71/672/371/672/3 71/613/10 |
252 | [๒๕๓] ในกัปที่ 91 ท่านอยู่ในเทวโลก ได้ฟังธรรมของพระวิปัสสีพุทธเจ้า แล้วได้กล่าววาจาสรรเสริญ ด้วยการกล่าววาจานี้ ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(โถมกเถราปทาน) 71/674/471/674/4 71/615/4 |
253 | [๒๕๔] ท่านกับภริยา ต้องการจะสร้างกุศลในพุทธศาสนา จึงละเพศเทวดามาในมนุษย์โลกนี้ถวายอาหารบิณฑบาตแด่พระเทวลเถระผู้เป็นสาวกของพระปทุมุตตรพุทธเจ้า ด้วยกรรมนั้นจึงไม่รู้จักทุคติเลย (เอกาสนทายกเถราปทาน) 71/675/371/675/3 71/616/5 |
254 | [๒๕๕] ในกัปที่ 91 ท่านเป็นเทวดา ได้ลงมาสู่โลกมนุษย์ ทำจิตกาธาร ถวายพระเพลิงพระสรีระ และทำสักการะ แด่พระสยัมภูสัมพุทธเจ้า พระนามว่าอานันทะผู้เสด็จปรินิพพานอยู่ในป่าชัฏ ด้วยกรรมนั้นจึงไม่รู้ทุคติเลย.(จิตกปูชกเถราปทาน) 71/677/371/677/3 71/617/15 |
255 | [๒๕๖] ในกัปที่ 91 ท่านได้ถือเอาดอกจำปา 3 ดอกโปรยลงบูชา พระสมณเจ้า ผู้มีอินทรีย์อันอบรมแล้ว ประทับนั่งอยู่ ณ ท่ามกล่างภูเขาชื่อ วิกนะ ด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (จัมปกปุปผิยเถราปทาน) 71/679/371/679/3 71/619/3 |
256 | [๒๕๗] ท่านได้เห็นพระพุทธเจ้า ผู้รุ่งเรืองโชติช่วงดังดอกกรรณิการ์ ประทับนั่งอยู่ที่ระหว่างภูเขา จึงได้เก็บดอกแคฝอยมาบูชาแด่พระพุทธเจ้า ด้วยการบูชานั้นท่านไม่รู้จักทุคติเลย (สัตตปาฏลิยเถราปทาน) 71/679/1871/679/18 71/620/3 |
257 | [๒๕๘] ในกัปที่ 91 ท่านมีชื่อว่า จันทนะ เป็นบุตรของพระปัจเจกพุทธเจ้า ได้ถวายรองเท้าคู่หนึ่ง เพื่อปรารถนาความตรัสรู้ ด้วยการถวายรองเท้านั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (อุปาหนทายกเถราปทาน) 71/681/371/681/3 71/621/3 |
258 | [๒๕๙] ในกัปที่ 92 ท่านทำพุ่มดอกไม้ เดินไปในถนน ได้เห็นพระพุทธเจ้า แวดล้อมด้วยภิกษุสงฆ์ จึงมีจิตเลื่อมใส มีปีติอย่างยิ่ง ประคองดอกไม้ด้วยมือทั้งสอง บูชาแด่พระพุทธเจ้า ด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย(มัญชริปูชกเถราปทาน) 71/682/371/682/3 71/622/8 |
259 | [๒๖๐] ในกัปที่ 94 ท่านเป็นผู้นุ่งห่มผ้าเปลือกไม้กรอง อยู่ที่ภูเขาหิมวันต์ มีของไม่เค็มและใบไม้เป็นอาหาร สำรวมในศีล เมื่อถึงเวลาอาหารเช้า พระสิทธัตถพุทธเจ้าเสด็จไปที่นั้น ท่านจึงได้ถวายอาหารนั้นแด่พระองค์ ด้วยมือทั้งสอง ด้วยทานนั้นท่านไม่รู้จักทุคติเลย (ปัณณทายกเถราปทาน) 71/684/371/684/3 71/624/3 |
260 | [๒๖๑] ในกัปที่ 91 ท่านได้สร้างบรรณศาลาถวายแด่ พระพุทธเจ้าผู้เสด็จเที่ยวไปสู่ป่า ด้วยการถวายกุฎีใบไม้นั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (กุฏิทายกเถราปทาน) 71/686/371/686/3 71/626/3 |
261 | [๒๖๒] ในกัปที่ 31 ท่านถือเอาดอกคันทรง เข้าไปเฝ้า พระสิขีพุทธเจ้าซึ่งประทับนั่งอยู่ในระหว่างภูเขามีจิตเลื่อมใสโสมนัส บูชาแด่พระองค์ ด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (อัคคปุปผิยเถราปทาน) 71/687/371/687/3 71/627/3 |
262 | [๒๖๓] ในกัปที่ 94 ท่านได้เห็นพระสิทธัตถพุทธเจ้า จึงถือดอกบัวงาม 2 ดอก เข้าไปเฝ้า วางดอกหนึ่งไว้แทบพระบาท อีกดอกหนึ่งโยนขึ้นไปในอากาศ.(อากาสุกขิปิยเถราปทาน) 71/689/471/689/4 71/629/4 |
263 | [๒๖๔] ในกัปที่ 94 เมื่อพระสิทธัตถพุทธเจ้า ปรินิพพานแล้ว ท่านเอาน้ำมันทาที่ไพรทีแห่งโพธิพฤกษ์ ด้วยกรรมนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(เตลมักขิยเถราปทาน) 71/691/371/691/3 71/630/13 |
264 | [๒๖๕] ในกัปที่ 92 ท่านได้ถวายอัฒจันทร์ไว้ที่ไม้โพธิพฤกษ์ แห่งพระติสสพุทธเจ้าด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้ทุคติเลย (อัฑฒจันทิยเถราปทาน) 71/692/371/692/3 71/631/14 |
265 | [๒๖๖] ในกัปที่ 64 ท่านเป็นเทพบุตร ลงมาสู่แผ่นดิน มีใจเลื่อมใส ถวายประทีป5 ดวง ด้วยมือทั้งสองของตน ด้วยการถวายประทีปนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(ทีปทายกเถราปทาน) 71/694/371/694/3 71/633/3 |
266 | [๒๖๗] ในกัปที่ 94 ท่านถือเอามันมือเสือไปถวายแด่พระสมณเจ้าผู้มีอินทรีย์อันอบรมแล้ว อยู่ที่เชิงเขาชื่อว่าโรมสะ ด้วยทานนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย..(วิฬาลิทายกเถราปทาน) 71/695/371/695/3 71/634/3 |
267 | [๒๖๘] ในกัปที่ 94 ท่านเป็นนกออกอยู่ที่ฝั่งแม่น้ำจันทภาคา ได้คาบปลาตัวใหญ่มาถวายแด่พระสิทธัตถพุทธเจ้า ด้วยทานนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(มัจฉทายกเถราปทาน) 71/697/371/697/3 71/635/17 |
268 | [๒๖๙] ในกัปที่ 94 ท่านเป็นพรานป่า ได้เห็นพระสิทธัตถพุทธเจ้า เสด็จไปในอากาศ จึงประนมมืออัญชลีแลดูพระมหามุนีอยู่ ได้ยังจิตของตนให้เลื่อมใสแล้วถวายบังคมพระผู้นำโลก ด้วยการถวายบังคมนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(ชวหังสกเถราปทาน) 71/697/1571/697/15 71/636/10 |
269 | [๒๗๐] ในกัปที่ 91 ท่านเป็นกินนรอยู่ที่ใกล้ฝั่งแม่น้ำจันทภาคา ได้เห็นพระวิปัสสี-พุทธเจ้า จึงมีจิตเลื่อมใสโสมนัส และมีปีติอย่างยิ่ง ถือเอาดอกสนมาโปรยลงบูชาพระพุทธเจ้า ด้วยการบูชานั้นจึงไม่รู้จักทุคติเลย (สลฬปุปผิยเถราปทาน) 71/698/1171/698/11 71/637/3 |
270 | [๒๗๑] ในกัปที่ 91 ท่านเป็นผีเสื้อน้ำมีศีรษะ อยู่เบื้องล่างน่ากลัว อยู่ในสระที่ท่ามกลางภูเขาหิมวันต์ พระวิปัสสีพุทธเจ้าประสงค์จะอนุเคราะห์จึงเสด็จไปที่นั้น ท่านเห็นแล้วจึงออกจากที่อยู่มาถวายบังคมแด่พระศาสดา ด้วยการถวายบังคมนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (อุปาคตหาสนิยเถราปทาน) 71/699/871/699/8 71/638/3 |
271 | [๒๗๒] ในกัปที่ 91 พระวิปัสสีพุทธเจ้าแวดล้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์ ประทับยืนอยู่ที่ฝั่งแม่น้ำ เรือสำหรับจะข้ามก็ไม่มี ท่านจึงออกจากแม่น้ำ ข้ามส่งพระศาสดาด้วยการข้ามส่งนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (ตรณิยเถราปทาน) 71/700/671/700/6 71/639/3 |
272 | [๒๗๓] ในกัปที่ 91 ท่านมีจิตเลื่อมใส ถวายอาสนะหนึ่งอาสนะ และได้ถวายหมอนด้วยมือทั้งสองของตน เพื่อบรรลุประโยชน์อันสูงสุด ด้วยทานนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (สุวัณณพิพโพหนิยเถราปทาน) 71/702/471/702/4 71/641/4 |
273 | [๒๗๔] ในกัปที่ 91 พระศาสดาอัครนายกของโลก ทรงทราบความดำริของท่านเสด็จมาด้วยฤทธิ์ ท่านมีจิตเลื่อมใสโสมนัส ถวายบังคมพระศาสดาผู้อุดมบุรุษซึ่งเสด็จเข้ามาแล้วได้ถวายงากำมือหนึ่ง ด้วยทานนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(ติลมุฏฐิยเถราปทาน) 71/704/371/704/3 71/642/3 |
274 | [๒๗๕] ในกัปที่ 94 พระสิทธัตถพุทธเจ้า ประทับอยู่ในระหว่างภูเขาใกล้มหาสมุทรท่านเข้าไปเฝ้าแล้วทำบุญมีการกราบไหว้ เป็นต้น ถวายผอบดอกไม้ ครั้นถวายผอบดอกไม้แล้ว บันเทิงอยู่ในสวรรค์ตลอดหนึ่งกัป ด้วยทานนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (จังโกฏกิยเถราปทาน) 71/706/371/706/3 71/643/3 |
275 | [๒๗๖] ท่านได้ถวายยาหยอดตา แด่พระโกณฑัญญพุทธเจ้า ด้วยทานนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (อัพภัญชนทายกเถราปทาน) 71/708/371/708/3 71/644/14 |
276 | [๒๗๗] ในกัปที่ 92 ท่านได้มอบถวายเครื่องลาดใบไม้ แล้วถวายโอกาสที่อยู่ อันสงัดแด่ พระติสสพุทธเจ้าด้วยกรรมนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (เอกัญชลิยเถราปทาน) 71/710/371/710/3 71/645/16 |
277 | [๒๗๘] ในกัปที่ 91 ท่านปรารภพระศาสดา พระธรรม พระสงฆ์ ถวายผ้าเปลือกไม้แด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้แสวงหาคุณอันใหญ่หลวง เป็นทักขิเณยยบุคคลผู้เลิศด้วยกรรมนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (โปตถทายกเถราปทาน) 71/712/371/712/3 71/647/3 |
278 | [๒๗๙] ท่านเที่ยวไปตามกระแสน้ำ ใกล้ฝั่งแม่น้ำจันทภาคา ได้เก็บดอกย่างทราย7 ดอก มาบูชาจิตกาธาร ด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(จิตกปูชกเถราปทาน) 71/714/371/714/3 71/648/3 |
279 | [๒๘๐] ในกัปที่ 31 ท่านได้เห็นพระอรหันต์ผู้ปราศจากราคะ มีรัศมีสุกใสน่าทัศนามีใจชื่นบาน เลื่อมใส ได้ถวายเหง้ามันแก่ท่านด้วยมือทั้งสองของตน ด้วยทานนั้นท่านไม่รู้จักทุคติเลย (อาลุวทายกเถราปทาน) 71/716/371/716/3 71/649/9 |
280 | [๒๘๑] ในกัปที่ 94 ท่านมีจิตผ่องใส ได้ถวายดอกบัวขาว แด่พระสยัมภูผู้มีรัศมีมีพระนามว่า โรมสะ ด้วยทานนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (ปุณฑรีกเถราปทาน) 71/718/371/718/3 71/651/3 |
281 | [๒๘๒] ในกัปที่ 91 ท่านมีใจเลื่อมใส ได้ทำสะพานด้วยมือทั้งสองของตนไว้ ที่ทางใหญ่อันไม่ราบเรียบ เพื่อต้องการให้ชาวโลกข้าม ด้วยกรรมนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (ตรณิยเถราปทาน) 71/718/1571/718/15 71/652/4 |
282 | [๒๘๓] ในกัปที่ 94 ท่านได้ถวายผัก แด่พระสิทธัตถพุทธเจ้า ผู้เสด็จมาที่บรรณ-ศาลา ประทับนั่งบนเครื่องลาดใบไม้ ด้วยทานนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(ปัณณทายกเถราปทาน) 71/720/471/720/4 71/654/4 |
283 | [๒๘๔] ในกัปที่ 94 ท่านมีใจผ่องใส ได้ถวายผลสมอ มะขามป้อม มะม่วง ชมพู่สมอพิเภก กระเบา กระบาก มะตูม และผลมะปราง ทั้งหมดแด่พระสิทธัตถ-พุทธเจ้า ซึ่งเสด็จออกจากสมาธิ เข้ามาเพื่อภิกษาด้วยทานนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (ผลทายกเถราปทาน) 71/722/371/722/3 71/655/17 |
284 | [๒๘๕] ในกัปที่ 94 ท่านมีใจผ่องใส ได้ทำการต้อนรับพระสิทธัตถพุทธเจ้า เสด็จเที่ยวอยู่ในป่าซึ่งกำลังเสด็จมา ด้วยกรรมนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(ปัจจุคคมนิยเถราปทาน) 71/724/371/724/3 71/657/12 |
285 | [๒๘๖] ในกัปที่ 91 ท่านเป็นปีศาจอยู่ที่ประตูเมืองด้านทิศทักษิณ ได้เห็นพระวิปัสสีพุทธเจ้า จึงถวายดอกไม้ดอกหนึ่ง ด้วยทานนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(เอกปุปผิยเถราปทาน) 71/726/371/726/3 71/659/5 |
286 | [๒๘๗] ในกัปที่ 91 ท่านเห็นพระสยัมภู ผู้เข้าสมาธิอยู่ในที่ใกล้ฝั่งแม่น้ำนัมมทานทีเกิดเลื่อมใสโสมนัส ได้บูชาพระสยัมภูด้วยดอกดีหมี ด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (มฆวปุปผิยเถราปทาน) 71/727/371/727/3 71/660/3 |
287 | [๒๘๘] ในกัปที่ 94 ท่านได้ถวายคนอุปัฏฐากแด่พระสิทธัตถพุทธเจ้า พระองค์ทรงรับแล้วมอบคืนให้ ด้วยกรรมนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(อุปัฏฐายิกเถราปทาน) 71/727/1971/727/19 71/661/3 |
288 | [๒๘๙] ในกัปที่ 92 ท่านมีใจเลื่อมใส ได้สรรเสริญบุพจรรยา ของพระสุคตทั้งหลายและได้ถวายบังคมพระบาทด้วยเศียรเกล้า ด้วยกรรมนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(อปทานิยเถราปทาน) 71/729/371/729/3 71/662/3 |
289 | [๒๙๐] ในกัปที่ 91 ท่านถึงความวิบัติแตกจากญาติ ด้วยความใคร่ในสัตถุศาสนาของพระวิปัสสีพุทธเจ้า จึงเข้าบวชในศาสนาเพื่อระงับความวิบัติ ยินดีอยู่ในการบวช 7 วัน ด้วยการบวชนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (สัตตาหปัพพชิตเถราปทาน) 71/729/1771/729/17 71/662/18 |
290 | [๒๙๑] ในกัปที่ 31 ท่านชื่อว่า เวธัมภินี บิดาของท่านพาท่านไปมอบถวายพระมหามุนี ท่านมีจิตเลื่อมใส บำรุงพระพุทธเจ้าเหล่านั้นโดยเคารพด้วยมือของตนด้วยกรรมนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (พุทธปัฏฐายิกเถราปทาน) 71/730/1371/730/13 71/663/15 |
291 | [๒๙๒] ในกัปที่ 94 ท่านเป็นหัวหน้าคณะ 84,000 คน ไม่มีความกังวลออกบวชยังมีราคะ และโมหะ แต่จิตผ่องใสไม่ขุ่นมัว พวกท่านบำรุงพระสัมพุทธเจ้าทั้ง-หลาย เป็นผู้มีสติตายแล้วได้ไปสู่ความเป็นเทวดา ด้วยการรักษาศีลนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (ปุพพังคมนิยเถราปทาน) 71/731/1171/731/11 71/664/13 |
292 | [๒๙๓] ในกัปที่ 31 ท่านเป็นพราหมณ์ ชื่อว่า อชิตะ ประสงค์จะบูชา จึงรวบรวมดอกไม้ต่างๆ ไว้ ได้เห็นจิตกาธารของพระสิขีพุทธเจ้า จึงนำเอาดอกไม้นั้นมาบูชาที่จิตกาธาร ด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (จิตกปูชกเถราปทาน) 71/733/471/733/4 71/666/4 |
293 | [๒๙๔] ในกัปที่ 91 ท่านเป็นผู้นุ่งเปลือกไม้กรอง ห่มหนังสัตว์เฉวียงบ่า ยังอภิญญา5 ให้บังเกิด แล้วเป็นผู้ลูบคลำพระจันทร์ได้ พระวิปัสสีพุทธเจ้า เสด็จมาถึงสำนักท่าน ท่านจึงยกดอกแคฝอยขึ้นบูชาแด่พระองค์ ด้วยกรรมนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (ปุปผธารกเถราปทาน) 71/735/371/735/3 71/667/17 |
294 | [๒๘๕] ในกัปที่ 94 บุตรของท่าน บวชแล้วบรรลุถึงความเป็นพระพุทธะ อันโลกบูชาได้นิพพานแล้ว ท่านค้นหาบุตร ได้ไปถึงจิตกาธาร ท่านจึงประนมอัญชลีไหว้จิตกาธาร และยกฉัตรขาวขึ้นตั้งประดิษฐานไว้ ด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (ฉัตตทายกเถราปทาน) 71/737/371/737/3 71/669/11 |
295 | [๒๙๖] ในกัปที่ 94 ท่านได้ฟังเสียงในความปรากฏแห่งพระพุทธเจ้าแล้ว แต่ไม่ได้เห็นพระชินเจ้า เมื่อใกล้ตาย จึงระลึกถึงความจำหมายในพระพุทธเจ้าด้วยสัญญานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (สัททสัญญกเถราปทาน) 71/739/371/739/3 71/671/16 |
296 | [๒๙๗] ในกัปที่ 94 ท่านได้ลาดไม้จันทน์ขาวไว้ที่ประตูทางออกอาราม เพื่อไม่ให้พระพุทธเจ้าและภิกษุสงฆ์เหยียบโคลน ด้วยกรรมนั้น จึงได้เสวยผล มีม้าสินธพอาชาไนย เป็นพาหนะ และไม่รู้จักทุคติเลย (โคสีสนิกเขปกเถราปทาน) 71/741/371/741/3 71/673/8 |
297 | [๒๙๘] ในกัปที่ 91 ท่านเป็นกินนร ได้เอาน้ำแก่นจันทน์ และกฤษณารดลงที่พระบาทของพระวิปัสสีพุทธเจ้าด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(ปทปูชกเถราปทาน) 71/743/371/743/3 71/675/8 |
298 | [๒๙๙] ในกัปที่ 92 ท่านเป็นพราหมณ์มีชื่อว่า อุปสาลหกะ ได้เข้าไปยังป่าชัฏ เห็นพระพุทธเจ้าแล้วถวายบังคมแทบพระบาท พระองค์ทรงทราบว่าท่านมีจิตเลื่อมใสแล้วก็หายไป ท่านออกจากป่าแล้ว ระลึกถึงพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุด สรรเสริญสถานที่นั้นแล้ว บันเทิงอยู่ในสวรรค์ตลอดกัป ด้วยการสรรเสริญนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (เทสกิตติกเถราปทาน) 71/744/371/744/3 71/676/3 |
299 | [๓๐๐] ในกัปที่ 91 ท่านเป็นพรานอยู่ใกล้ภูเขาหิมวันต์ ได้เห็นพระวิปัสสีพุทธเจ้าได้เข้าเฝ้าแล้วทำหน้าที่ไวยาวัจกร ได้ถึงพระองค์เป็นสรณะ ด้วยการถึงสรณะนั้นท่านไม่รู้จักทุคติเลย (สรณคมนิยเถราปทาน) 71/745/371/745/3 71/677/3 |
300 | [๓๐๑] ในกัปที่ 91 ท่านเป็นทานพ (อสูร) มีชื่อว่า โรมสะ ได้ถวายผลมะม่วงแด่พระวิปัสสีพุทธเจ้า ด้วยทานนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (อัมพปิณฑิยเถราปทาน) 71/745/1871/745/18 71/678/3 |
301 | [๓๐๒] ในกัปที่ 91 ท่านได้ถวายภิกษาทัพพีหนึ่ง แด่พระวิปัสสีพุทธเจ้า ซึ่งกำลังเสด็จเที่ยวบิณฑบาตได้ถวายบังคม และได้ประกาศพระพุทธเจ้าให้มหาชนทราบ เพื่อบรรลุประโยชน์อันสูงสุด ด้วยกรรมนั้นท่านไม่รู้จักทุคติเลย (อนุสังสาวกเถราปทาน) 71/746/1271/746/12 71/679/3 |
302 | [๓๐๓] ในกัปที่ 91 ท่านเป็นช้างพลายมาตังคะ อยู่ในที่ใกล้หมู่พระปัจเจกพุทธเจ้าได้มีความเลื่อมใสเอาเกสรดอกบัว โปรยลงบูชาแด่พระปัจเจกพุทธเจ้าเหล่านั้นบันเทิงอยู่ในสวรรค์ตลอดกัป ด้วยกรรมนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(ปทุมเกสริยเถราปทาน) 71/749/471/749/4 71/681/4 |
303 | [๓๐๔] ในกัปที่ 91 ท่านได้ถวายของหอมดอกไม้ และผ้าโกไสยอย่างดี แด่พระวิปัสสีพุทธเจ้า ด้วยทานนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (สัพพคันธิยเถราปทาน) 71/751/371/751/3 71/683/3 |
304 | [๓๐๕] ในกัปที่ 91 ท่านได้ประนมกรอัญชลีแล้ว นำเสด็จพระวิปัสสีพุทธเจ้า มาสู่เรือนของตน ได้ถวายข้าวอย่างดีเยี่ยม ด้วยทานนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(ปรมันนทายกเถราปทาน) 71/752/371/752/3 71/684/3 |
305 | [๓๐๖] ในกัปที่ 91 ได้มีการฉลองพระมหาโพธิ์แห่งพระวิปัสสีพุทธเจ้า พระองค์ทรงแสดงอริยสัจ 4 ท่านได้ฟังธรรม ณ ที่นั้น จึงไม่รู้จักทุคติเลย.(ธัมมสัญญกเถราปทาน) 71/753/371/753/3 71/685/3 |
306 | [๓๐๗] ในกัปที่ 91 ท่านมีอาศรมอยู่ในที่ฝั่งแม่น้ำภาคีรสี ได้ถือผลไม้เดินมาสู่อาศรม พบพระวิปัสสีพุทธเจ้า จึงถวายผลไม้ทั้งหมดที่มีอยู่ แด่พระศาสดา ด้วยทานนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (ผลทายกเถราปทาน) 71/755/371/755/3 71/687/3 |
307 | [๓๐๘] ในกัปที่ 94 พระสิทธัตถพุทธเจ้าทรงสอนท่านให้ยังจิตเลื่อมใสในพระผู้ปราศจากธุลี ผู้เป็นนาบุญ ที่ให้ผลไม่สิ้นสุด ทรงพร่ำสอนแล้วเสด็จเหาะไป เมื่อเสด็จไปไม่นาน ท่านก็ตายแล้วอุบัติยังชั้นดุสิต ด้วยความเลื่อมใสนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (สัมปสาทิกเถราปทาน) 71/756/371/756/3 71/688/3 |
308 | [๓๐๙] ในกัปที่ 94 ท่านได้ปลูกสร้างอาราม ถวายพระสิทธัตถพุทธเจ้า ด้วยทานนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (อารามทายกเถราปทาน) 71/757/671/757/6 71/689/7 |
309 | [๓๑๐] ท่านเห็นพระสาวกของพระอัตถทัสสีพุทธเจ้า ซึ่งกำลังทำนวกรรมอยู่ที่สีมาได้มีจิตเลื่อมใสให้สีสำหรับทา ด้วยกรรมนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(อนุเลปทายกเถราปทาน) 71/759/371/759/3 71/690/9 |
310 | [๓๑๑] ในกัปที่ 94 ท่านฝันเห็นพระสิทธัตถพุทธเจ้า กำลังเสด็จดำเนินไปในป่าจึงยังจิตให้เลื่อมใส ในพระองค์แล้ว ได้เข้าถึงสุคติ ด้วยสัญญานั้นท่านไม่รู้จักทุคติเลย (พุทธสัญญิกเถราปทาน) 71/760/371/760/3 71/691/10 |
311 | [๓๑๒] ท่านได้ชำระ กวาดล้าง ถู ถ้ำของพระปิยทัสสีพุทธเจ้า ได้ตั้งหม้อน้ำสำหรับฉันไว้ ครั้นได้ถวายทานและชำระถ้ำแล้ว บันเทิงอยู่ในสวรรค์ตลอดกัป.(ปัพภารทายกเถราปทาน) 71/761/371/761/3 71/692/6 |
312 | [๓๑๓] ท่านได้ให้ทำรั้วถวายแด่พระธัมมทัสสีพุทธเจ้า และได้ถวายอารักขา ด้วยผลกรรมที่เหลือนั้น ท่านได้บรรลุถึงความสิ้นอาสวะ (อารักขทายกเถราปทาน) 71/763/471/763/4 71/694/4 |
313 | [๓๑๔] ในกัปที่ 31 ท่านได้ถวายโภชนะแด่พระเวสสภูพุทธเจ้า ด้วยทานนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (โภชนทายกเถราปทาน) 71/763/1671/763/16 71/695/3 |
314 | [๓๑๕] ในกัปที่ 94 ท่านได้เห็นพระสิทธัตถพุทธเจ้า เสด็จไปสู่หมู่ไตรทิพย์ทางอากาศ มีความปลื้มใจมาก เพราะได้เห็นจีวรของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สะบัดชายพลิ้วด้วยลม ด้วยสัญญานั้นท่านไม่รู้จักทุคติเลย (คตสัญญกเถราปทาน) 71/764/1471/764/14 71/696/3 |
315 | [๓๑๖] ในกัปที่ 94 ท่านเป็นพราหมณ์ ชื่อว่า เนสาทะ อยู่ใกล้ฝั่งแม่น้ำ ได้เห็นพระสิทธัตถพุทธเจ้า เสด็จไปทางป่า เกิดความชื่นชม ต้อนรับพระองค์และนำมาสู่อาศรม บูชาด้วยดอกบัวอันสวยงาม ด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(สัตตปทุมิยเถราปทาน) 71/766/371/766/3 71/697/3 |
316 | [๓๑๗] ในกัปที่ 94 ท่านได้ต้อนรับ พระสิทธัตถพุทธเจ้า เชิญเสด็จเข้ามายังอาศรมได้ถวายอาสนะดอกไม้ ประนมกรอัญชลี เกิดความปลื้มใจ ยังจิตให้เลื่อมใสในพระพุทธเจ้า แล้วน้อมกรรมนั้นไปด้วยความปรารถนาให้เป็นผู้ปราศจากมลทิลในศาสนา(ปุปผาสนทายกเถราปทาน) 71/768/371/768/3 71/698/8 |
317 | [๓๑๘] ในกัปที่ 31 ท่านเที่ยวค้นหาพระเจดีย์ อันชื่อว่า อุตตมะของพระสิขีพุทธเจ้าในป่าใหญ่ ออกจากป่าใหญ่ จึงได้พบพระที่นั่งทองคำจึงประนมกรอัญชลี สรรเสริญพระพุทธเจ้า ทำนิมิตกราบไหว้อาสนะ แล้วหลีกไป ด้วยการสรรเสริญนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (อาสนถวิกเถราปทาน) 71/769/371/769/3 71/699/9 |
318 | [๓๑๙] ในกัปที่ 94 ท่านได้ยินเสียง พระสิทธัตถพุทธเจ้าแสดงอมตบท สงเคราะห์มหาชนด้วยพระสุรเสียงกึกก้องแผ่ไปกว้างขวาง แผ่ไปในเทวดา และมนุษย์ แล้วยังจิตให้เลื่อมใสได้ถวายบังคมพระองค์ ด้วยสัญญานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(สัททสัญญกเถราปทาน) 71/772/371/772/3 71/701/18 |
319 | [๓๒๐] ในกัปที่ 94 ท่านเห็นพระสิทธัตถพุทธเจ้า แล้วเกิดปีติได้สรรเสริญคุณของพระพุทธเจ้า เป็นผู้ส่องแสงสว่างบรรเทาความมืดของโลก แล้วบันเทิงอยู่ในสวรรค์ตลอดกัป ด้วยการสรรเสริญนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (ติรังสิยเถราปทาน) 71/774/371/774/3 71/703/3 |
320 | [๓๒๑] ในกัปที่ 94 ท่านเป็นชาวนา ได้เห็นพระสิทธัตถพุทธเจ้านั่งสมาธิอยู่ จึงได้เด็ดดอกบัว 7 ดอก ที่ขั้วโปรยบูชาที่พระเศียรของพระองค์ ประนมกรอัญชลีถวายบังคมแด่พระศาสดา ด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (นาลิปุปผิยเถราปทาน) 71/775/871/775/8 71/704/7 |
321 | [๓๒๒] ในกัปที่ 91 ท่านได้บูชา พระวิปัสสีพุทธเจ้า ซึ่งเสด็จดำเนินอยู่ในถนน ด้วยพวงดอกโกมุท ด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (กุมุทมาลิยเถราปทาน) 71/776/971/776/9 71/705/10 |
322 | [๓๒๓] ในกัปที่ 94 ท่านได้ถือเอาดอกผักตบไปบูชาพระสิทธัตถพุทธเจ้า ผู้กำลังเข้าสมาธิอยู่ ดอกผักตบทั้งหมดมีขั้วชี้ขึ้นข้างบน มีหน้าลงล่าง เป็นเครื่องลาดดอกไม้อยู่ในอากาศ ด้วยความเลื่อมใสแห่งจิตนั้น ท่านได้เข้าถึงชั้นดุสิต ไม่รู้จักทุคติเลย(อุมมาปุปผิยเถราปทาน) 71/778/471/778/4 71/707/4 |
323 | [๓๒๔] ในกัปที่ 91 ท่านได้เห็นพระวิปัสสีพุทธเจ้า จึงได้ประนมกรอัญชลี ถวายบังคมสรรเสริญพระศาสดายินดีอยู่ด้วยกรรมของตน มีใจผ่องใส เอาทรายขาวบริสุทธิ์กำมือหนึ่ง ห่อพกมาโปรยลงที่ทางเสด็จดำเนินและเอาทรายครึ่งหนึ่งโปรยลงในที่พักกลางวันของพระศาสดา ด้วยกรรมนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(ปุฬินปูชกเถราปทาน) 71/779/371/779/3 71/708/3 |
324 | [๓๒๕] ในกัปที่ 91 ท่านได้เห็นผ้าบังสุกุลของพระศาสดาห้อยอยู่ที่ยอดไม้ จึงประนมกรอัญชลี แล้วเปล่งวาจาดังๆ ความยินดีเกิดขึ้นยังจิตให้เลื่อมใสโดยยิ่งด้วยสัญญานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (หาสชนกเถราปทาน) 71/780/371/780/3 71/709/3 |
325 | [๓๒๖] ในกัปที่ 94 ท่านมีอายุ 7 ปี เป็นผู้รู้จบมนต์ ตระเตรียมพิธีบูชายัญ ด้วยการจะฆ่าสัตว์เลี้ยง 84,000 ตัว พระสิทธัตถพุทธเจ้า ทรงเสด็จไปพร่ำสอนถึงศีล 5แล้วเสด็จเหาะไป ท่านชำระจิตให้บริสุทธิ์ก่อนแล้วยังจิตให้เลื่อมใส ได้เข้าถึงชั้นดุสิต ไม่รู้จักทุคติเลย (ยัญญสามิกเถราปทาน) 71/780/1871/780/18 71/710/3 |
326 | [๓๒๗] ในกัปที่ 94 ท่านอยู่ในอาศรมใกล้ฝั่งแม่น้ำจันทภาคา ได้เห็นกวางทองกำลังเที่ยวเดินอยู่ในป่า จึงยังจิตให้เลื่อมใสในกวางทอง แล้วระลึกถึงพระพุทธเจ้าในอดีต ในปัจจุบันและในอนาคต นั้นย่อมไพโรจน์ดังพญาเนื้อ ด้วยสัญญานั้นท่านไม่รู้จักทุคติเลย (นิมิตตสัญญกเถราปทาน) 71/782/971/782/9 71/711/16 |
327 | [๓๒๘] ในกัปที่ 94 ท่านได้นิมนต์ พระสิทธัตถพุทธเจ้าให้เสวยโภชนาหาร ยังจิตให้เลื่อมใสในพระพุทธเจ้าแล้วบันเทิงอยู่ในสวรรค์ตลอดกัป ไม่รู้จักทุคติเลย.(อันนสังสาวกเถราปทาน) 71/783/971/783/9 71/712/16 |
328 | [๓๒๙] ท่านเป็นเทวดาเมื่อใกล้จะจุติ เกิดความสลดใจ ไม่รู้ว่าจะได้เกิดที่ไหน ได้พระสุมนะสาวกของพระปทุมุตตรพุทธเจ้าไปแสดงธรรมให้เบาใจ , ในกาลนี้ท่านมีอายุ 7 ขวบ ได้ฟังธรรมของพระอานนท์ระลึกถึงบุรพกรรมอยู่ในที่นั้นเองได้บรรลุอรหัต. (นิคคุณฑิปุปผิยเถราปทาน) 71/785/371/785/3 71/714/3 |
329 | [๓๓๐] ในกัปที่ 31 เมื่อชนทั้งปวงมาประชุมกันทำการบูชาใหญ่ แด่พระเวสสภู-พุทธเจ้า ท่านได้ใส่ก้อนปูนขาวแล้ววาง พวงมาลัยดอกมะลิไว้บูชา ข้างหน้าแห่งอาสนะทอง (สุมนาเวฬิยเถราปทาน) 71/789/371/789/3 71/717/12 |
330 | [๓๓๑] ในกัปที่ 94 ท่านได้นำดอกบัวมาทำเป็นฉัตรดอกไม้ บูชาแด่พระสิทธัตถ -พุทธเจ้า พระองค์พยากรณ์ว่า จะไม่ไปสู่ทุคติเลย แล้วทรงเสด็จไปทางอากาศฉัตรขาวก็ตั้งขึ้นไปข้างหน้าแห่งพระองค์ (ปุปผฉัตติยเถราปทาน) 71/790/1271/790/12 71/719/3 |
331 | [๓๓๒] ท่านได้ฟังธรรมพระปทุมุตตรพุทธเจ้าแล้ว กลับไปทำฉัตรขาวมาบูชาพระพุทธเจ้า จึงไม่ไปสู่ทุคติเลยตลอดแสนกัป , ในกาลนี้ มีอายุ 7 ขวบ ออกบวชเป็นบรรพชิต เมื่อพราหมณ์สุนันทะ นำฉัตรขาวมา ถวายแด่พระสารีบุตร พระเถระอนุโมทนาอยู่ท่านระลึกกรรมเก่าได้แล้วบรรลุพระอรหัต..(สปริวารฉัตตทายกเถราปทาน) 71/792/371/792/3 71/720/8 |
332 | [๓๓๓] ในกัปที่ 94 ท่านได้ถวายธูปหอมอันหุ้มด้วยดอกมะลิ แด่พระสิทธัตถพุทธเจ้า ด้วยทานนั้นท่านไม่รู้จักทุคติเลย (คันธธูปิยเถราปทาน) 71/796/471/796/4 71/724/4 |
333 | [๓๓๔] ท่านเห็นพระปทุมุตตรพุทธเจ้าเสด็จไปในอากาศ จึงเอาฝ่ามือกอบน้ำโยนขึ้นไปในอากาศ พระองค์ทรงรับไว้ แล้วพยากรณ์ว่า จะไม่ได้เข้าถึงทุคติตลอดแสนกัป (อุทกปูชกเถราปทาน) 71/797/371/797/3 71/725/7 |
334 | [๓๓๕] ในกัปที่ 92 ท่านเป็นนายพราน เข้าไปยังป่าใหญ่ ได้พบต้นบุนนาคมีดอกบาน จึงระลึกถึงพระพุทธเจ้า ได้เลือกเก็บดอกที่มีกลิ่นหอมแล้วก่อสถูปเนินทรายบูชาแด่พระพุทธเจ้า ด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (ปุนนาคปุปผิยเถราปทาน) 71/798/671/798/6 71/726/11 |
335 | [๓๓๖] ท่านเป็นคนเกี่ยวหญ้าขาย เลี้ยงชีวิต และเลี้ยงภรรยา ได้ถวายผ้าสาฎกผืนหนึ่ง แด่พระปทุมุตตรพุทธเจ้า แล้วได้ประกาศก้องขึ้นว่า ถ้าพระองค์เป็นพระพุทธเจ้า ขอได้ทรงโปรดช่วยข้าพระองค์ให้ข้ามฝั่งได้เถิด พระศาสดาทรงพยากรณ์ว่า ด้วยการถวายผ้าผืนเดียวนี้ และด้วยการตั้งจิตมั่น ผู้นี้จะไม่ไปสู่ทุคติเลยตลอดแสนกัป (เอกทุสสทายกเถราปทาน) 71/799/671/799/6 71/727/7 |
336 | [๓๓๗] ท่านเป็นดาบสนุ่งหนังสัตว์ ห่มผ้าเปลือกไม้กรอง ได้ตักเอาน้ำในบึงแล้วเข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้ายังจิตให้เลื่อมใส เกิดโสมนัส ประนมกรอัญชลี เอาน้ำไปประพรมพระพุทธเจ้า เมื่อเป็นพระราชา ชื่อว่าผุสสิตะ กลิ่นหอมซ่านออกจากสรีระฟุ้งไป 250 ชั่วธนู (ผุสสิตกัมมิยเถราปทาน) 71/801/1771/801/17 71/729/17 |
337 | [๓๓๘] ท่านได้แผ้วถาง เจดีย์ของพระปทุมุตตรพุทธเจ้า ที่รกร้างอยู่ในป่าชัฏ ด้วยกรรมนั้น เมื่อท่านเข้าป่า ป่านั้นย่อมสำเร็จเป็นที่พักได้ ไม่มีตอและหนาม ไม่เป็นโรคผิวหนัง มีผิวดังทอง ได้สิ่งที่ชอบใจ จิตมีอารมณ์เป็นหนึ่ง นั่งบนอาสนะเดียวได้บรรลุพระอรหันต์ (ปภังกรเถราปทาน) 71/803/1671/803/16 71/731/15 |
338 | [๓๓๙] ในกัปที่ 91 ท่านเป็นคนทำงานรับจ้าง ได้หยุดงานหนึ่งวัน ไปขนเอาหญ้าและเถาวัลย์ตั้งเสา 3 เสาทำกุฎีหญ้า มอบถวายเพื่อประโยชน์แก่สงฆ์ ด้วยกรรมนั้น ความกลัว สะดุ้งหวาดเสียว ท่านไม่รู้สึกเลย สัตว์ร้ายไม่เข้าใกล้ สัตว์เสือก-คลาน ภูตผี ปีศาจ ย่อมละเว้น สติก็ตั้งมั่น (ติณกุฏิทายกเถราปทาน) 71/806/971/806/9 71/734/3 |
339 | [๓๔๐] ท่านเป็นพราหมณ์ รู้จบไตรเพท แวดล้อมด้วยพวกศิษย์ของตน ครั้นเห็นพระปทุมุตตรพุทธเจ้า แวดล้อมด้วยภิกษุสงฆ์ จึงได้น้อมผ้าสาฎกเข้าไปถวาย ผ้านั้นได้กั้นเป็นหลังคาบังแดดทั่วพุทธบริษัท ด้วยกรรมนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(อุตตเรยยทายกเถราปทาน) 71/808/1171/808/11 71/736/3 |
340 | [๓๔๑] ท่านเป็นชฏิลเหาะไปในอากาศ ไม่อาจไปเบื้องบนบริเวณที่พระปทุมุตตรพุทธเจ้า นั่งแสดงธรรมอยู่ได้ ท่านจึงลงมาฟังธรรม ได้เรียน อนิจจสัญญาไว้,ในกาลนี้ มีอายุเพียง 7 ปี ได้ยินพระสมณแสดงอนิจจตาแก่บิดา ท่านระลึกถึงบุรพกรรมได้ นั่งอยู่บนอาสนะเดียวนั่นเอง ได้บรรลุพระอรหัต พระศาสดาให้ท่านอุปสมบท (ธัมมสวนิยเถราปทาน) 71/811/371/811/3 71/738/11 |
341 | [๓๔๒] ท่านเป็นช่างดอกไม้ กำลังเก็บดอกบัวอยู่ในสระ ได้เห็นพระปทุมุตตรพุทธเจ้า และภิกษุแสนรูปเสด็จมา ท่านจึงเก็บดอกบัวดอกหนึ่งโยนขึ้นไปในอากาศดอกบัวนั้นได้ตั้งอยู่เหนือพระเศียรด้วยพุทธานุภาพ ด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (อุกขิตตปทุมิยเถราปทาน) 71/813/371/813/3 71/740/13 |
342 | [๓๔๓] ท่านเป็นพญาหงส์ กำลังเล่นน้ำอยู่ ได้เห็นพระปทุมุตตรพุทธเจ้า เหาะมาเหนือสระนั้น จึงเอาจะงอยปากหักดอกบัวหลวงแล้วโยนไปในอากาศบูชา พระศาสดาทรงพยากรณ์ว่า ด้วยดอกปทุมดอกเดียวนี้ และด้วยการตั้งจิตมั่น ท่านจะไม่ต้องไปสู่วินิบาตตลอดแสนกัป (เอกปทุมิยเถราปทาน) 71/816/471/816/4 71/743/4 |
343 | [๓๔๔] ในกัปที่ 91 ท่านเป็นวานร ได้เห็นพระวิปัสสีพุทธเจ้าประทับนั่งอยู่ ณระหว่างภูเขา เกิดความดีใจร่าเริงด้วยปีติ โปรยดอกอุบล 3 ดอก เหนือพระเศียรเมื่อกำลังเดินกลับด้วยใจผ่องใส ได้ตกลงในระหว่างภูเขาหิน ถึงความสิ้นชีวิตด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (ตีณุปปลมาลิยเถราปทาน) 71/817/1171/817/11 71/744/16 |
344 | [๓๔๕] ในกัปที่ 92 ท่านได้ยกธงขึ้นบูชา พระติสสพุทธเจ้า ด้วยกุศลนั้น และด้วยการตั้งจิตมั่น ได้ไปสู่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ (ธชทายกเถราปทาน) 71/819/371/819/3 71/746/3 |
345 | [๓๔๖] ในกัปที่ 31 ท่านได้เห็นผ้าบังสุกุลแขวนห้อยอยู่บนยอดไม้ จึงได้เก็บเอาดอกหงอนไก่ 3 ดอกมาบูชาผ้าบังสุกุลด้วยจิตโสมนัสยินดี ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(ตีณิกิงกณิปูชกเถราปทาน) 71/820/371/820/3 71/747/3 |
346 | [๓๔๗] ท่านเห็นพระภิกษุมีนามสยัมภู อยู่ที่โคนไม้ จึงได้ทำเรือนไม้อ้อ (ไม้รวก)มุงบังด้วยหญ้าแผ้วถางที่จงกรมแล้ว ได้ถวายแด่พระสยัมภู ท่านรื่นรมย์อยู่ในเทวโลก มีวิมานเสาพันต้น มีสีเลื่อมประภัสสร. (นฬาคาริกเถราปทาน) 71/820/1771/820/17 71/748/3 |
347 | [๓๔๘] ท่านเหาะไปทางอากาศ ได้เห็นพระพุทธเจ้าพระนามว่า สุทัสสนะ ประทับอยู่ในระหว่างภูเขาจึงวางดอกจำปา 7 ดอก ไว้บนศีรษะ บูชาแด่พระพุทธเจ้าผู้สยัมภู ด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (จัมปกปุปผิยเถราปทาน) 71/822/371/822/3 71/749/7 |
348 | [๓๔๙] ในกัปที่ 91 ท่านออกจากที่อยู่มากั้นดอกบัวหลวง บังแดดถวาย พระพุทธเจ้าพระนามว่า โสภิตะ ซึ่งประทับอยู่ ณ ที่แจ้ง ด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(ปทุมปูชกเถราปทาน) 71/823/371/823/3 71/750/3 |
349 | [๓๕๐] ในกัปที่ 94 ท่านเป็นนายพรานเนื้อ ได้พบพระพุทธเจ้าพระนามว่า อุปติสสะเสด็จจงกรมอยู่ในที่แจ้ง ขณะนั้น ท่านมีจิตเลื่อมใสได้ถวายหญ้ากำมือหนึ่ง สำ-หรับประทับนั่ง พอหลีกไปแล้วท่านถูกสีหะฆ่าตายไปเกิดในเทวโลก ด้วยทานนั้นท่านไม่รู้จักทุคติเลย (ติณมุฏฐิทายกมณิเถราปทาน) 71/824/371/824/3 71/751/3 |
350 | [๓๕๑] ท่านได้ถวายผลมะพลับ แด่พระพุทธเจ้าพระนามว่า เวสสภู ซึ่งประทับนั่งในระหว่างภูเขาด้วยทานนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (ตินทุกผลทายกเถราปทาน) 71/825/1671/825/16 71/752/13 |
351 | [๓๕๒] ท่านเห็นพระสัมพุทธเจ้าพระนามว่า เรวตะ ประทับนั่งอยู่ใกล้ฝั่งแม่น้ำมีรัศมีรุ่งเรืองดังพระจันทร์จึงได้ประนมกรอัญชลี ด้วยกรรมนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (เอกัญชลิยเถราปทาน) 71/826/1571/826/15 71/753/8 |
352 | [๓๕๓] ในกัปที่ 31 ท่านเป็นนายพรานเนื้อ เที่ยวอยู่ในป่า ได้พบพระสิขีพุทธเจ้าแวดล้อมด้วยสงฆ์สองฝ่ายซึ่งกำลังทรงประกาศสัจจะ 4 ด้วยพระสำเนียงดังพรหมท่านยังจิตให้เลื่อมใสในพระสำเนียงด้วยกรรมนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(สัททสัญญิกเถราปทาน) 71/828/471/828/4 71/755/4 |
353 | [๓๕๔] ในกัปที่ 31 ท่านเป็นคนเกี่ยวหญ้าอยู่ในนครอรุณวดี ได้เห็นพระสิขีพุทธเจ้าที่หนทาง จึงลาดกำหญ้าถวายให้ประทับ พระองค์ทรงอนุเคราะห์ประทับนั่งแล้วท่านเกิดความปราโมทย์แล้วตาย ณ ที่นั้น ด้วยกรรมนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(ยวกลาปิยเถราปทาน) 71/829/371/829/3 71/756/7 |
354 | [๓๕๕] ในกัปที่ 94 ท่านได้เห็นต้นทองกวาวกำลังมีดอกบาน จึงประนมกรอัญชลีระลึกถึงพระสิทธัตถพุทธเจ้า แล้วบูชาในอากาศ ด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (กิงสุกปูชกเถราปทาน) 71/830/371/830/3 71/757/5 |
355 | [๓๕๖] ในกัปที่ 31 ท่านได้พบรอยพระบาท ที่พระสิขีพุทธเจ้าทรงเหยียบไว้ จึงห่มหนังเสือเฉวียงบ่าข้างหนึ่ง ไหว้รอยพระพุทธบาท และบูชาลายจักรที่รอยพระบาทด้วยดอกหงอนไก่ (สโกฏกโกรัณฑทายกเถราปทาน) 71/830/1771/830/17 71/758/3 |
356 | [๓๕๗] ในกัปที่ 94 ท่านเข้าไปสู่ป่าใหญ่ ตัดไม้ไผ่ ได้ถือเอาไม้ขอสำหรับห้อยสิ่งของมาถวายแด่สงฆ์ เรากราบไหว้ภิกษุทั้งหลายผู้มีวัตรงาม ด้วยทานนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (ทัณฑทายกเถราปทาน) 71/831/1371/831/13 71/759/3 |
357 | [๓๕๘] ในกัปที่ 94 ท่านได้มีจิตเลื่อมใส เอามะม่วงและข้าวยาคูไปถวาย พระสตรังสีปัจเจกพุทธเจ้า ผู้ออกจากสมาธิแล้ว เข้ามาหาเพื่อภิกษา ด้วยกรรมนั้น ท่านไม้รู้จักทุคติ (อัมพยาคุทายกเถราปทาน) 71/832/1171/832/11 71/760/3 |
358 | [๓๕๙] ในกัปที่ 91 ท่านได้ถวายกระเทียมห่อหนึ่ง แด่พระวิปัสสีพุทธเจ้า แล้วบัน-เทิงอยู่ในสวรรค์ตลอดกัป ด้วยทานนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(ปุฏกปูชกเถราปทาน) 71/833/971/833/9 71/761/3 |
359 | [๓๖๐] ในกัปที่ 91 ท่านมีจิตเลื่อมใส ได้ถวายลูกวัวตัวหนึ่ง แด่พระวิปัสสีพุทธเจ้าด้วยทานนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (วัจฉทายกเถราปทาน) 71/834/971/834/9 71/762/3 |
360 | [๓๖๑] ในกาลนั้น พระภิกษุ และท่านผู้เป็นอาชีวก ขึ้นเรือไปด้วยกัน เมื่อเรือกำลังจะแตก พระภิกษุได้ให้สรณะแก่ท่าน ด้วยสรณะนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(สรณาคมนิยเถราปทาน) 71/835/671/835/6 71/763/3 |
361 | [๓๖๒] ในกัปที่ 92 กาลนั้น พระติสสพุทธเจ้า ประทับอยู่ในป่าใหญ่ ท่านมาจากดุสิตพิภพ มาในมนุษยโลกได้ถวายบิณฑบาต ถวายบังคมพระศาสดา ยังจิตให้เลื่อมใสแล้ว กลับไปยังภพดุสิต ด้วยทานนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(ปิณฑปาติกเถราปทาน) 71/836/371/836/3 71/763/17 |
362 | [๓๖๓] ในกัปที่ 91 ท่านแปลงเพศเป็นมาณพชื่อมงคล มาจากดาวดึงส์ ถือเอาดอกมณทารพมากั้นแดดลมไว้เหนือพระเศียรแห่งพระวิปัสสีพุทธเจ้าซึ่งนั่งสมาธิอยู่ตลอด 7 วัน แล้วกลับสู่เทวโลก ด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย. (มันทารวิยเถราปทาน) 71/838/471/838/4 71/765/4 |
363 | [๓๖๔] ในกัปที่ 92 ท่านมาจากเทวโลกชั้นยามา ถือเอาดอกฟักทิพย์มาบูชา พระพุทธเจ้าพระนามว่าโคดม ด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(กักการุปุปผิยเถราปทาน) 71/839/371/839/3 71/766/3 |
364 | [๓๖๕] ในกัปที่ 92 ท่านได้ถวายเหง้ามันและรากบัว แด่พระผุสสพุทธเจ้า ด้วยทานนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (ภิสมุฬาลทายกเถราปทาน) 71/839/1771/839/17 71/766/17 |
365 | [๓๖๖] ในกัปที่ 31 ท่านเป็นวิทยาธร อยู่ที่ภูเขาหิมวันต์ ได้พบพระเวสสภูพุทธเจ้ากำลังเสด็จจงกรมอยู่จึงวางดอกบัว 3 ดอก ไว้บนศีรษะ แล้วเข้าไปเฝ้าพระองค์และบูชา ด้วยกรรมนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (เกสรปุปผิยเถราปทาน) 71/840/1371/840/13 71/767/13 |
366 | [๓๖๗] ในกัปที่ 31 ท่านเห็นพระสัมพุทธเจ้าพระนามว่า ปทุมะ ประทับอยู่ที่ภูเขาจิตกูฏ จึงเก็บดอกปรู เอาเข้าไปบูชา พระชินสัมพุทธเจ้า ด้วยกรรมนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (อังโกลปุปผิยเถราปทาน) 71/841/971/841/9 71/768/8 |
367 | [๓๖๘] ในกัปที่ 91 ท่านได้ถือเอาดอกกระทุ่มไปบูชา พระวิปัสสีพุทธเจ้า ด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (กทัมพปุปผิยเถราปทาน) 71/842/671/842/6 71/769/6 |
368 | [๓๖๙] ในกัปที่ 57 ท่านได้ถือเอาดอกคูณไปบูชา พระสัมพุทธเจ้า พระนามว่าสุชาตะ ซึ่งประทับอยู่ใกล้ฝั่งแม่น้ำคงคา (อุททาลกปุปผิยเถราปทาน) 71/843/371/843/3 71/770/3 |
369 | [๓๗๐] ในกัปที่ 31 ท่านมีจิตเลื่อมใสโสมนัส ประคองดอกจำปาด้วยมือทั้งสองบูชาพระปัจเจกพุทธเจ้าผู้อาศัยอยู่ในระหว่างภูเขา (เอกจัมปกปุปผิยเถราปทาน) 71/843/1771/843/17 71/770/17 |
370 | [๓๗๑] ในกัปที่ 91 ท่านมีจิตเลื่อมใสโสมนัส ถือเอาดอกดีหมีมาโปรยลงเหนือศีรษะ บูชาพระปัจเจกพุทธเจ้าผู้เป็นมุนีอันอุดม ด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (ติมิรปุปผิยเถราปทาน) 71/844/1271/844/12 71/771/13 |
371 | [๓๗๒] ในกัปที่ 91 ท่านเป็นกินนร อยู่ใกล้ฝั่งแม่น้ำจันทภาคา ได้เห็นพระวิปัสสี-พุทธเจ้า เสด็จจงกรมอยู่จึงเก็บดอกช้างน้าวมาถวาย พระองค์รับแล้ว ทรงสูดกลิ่นท่านมีจิตเลื่อมใสโสมนัส ถวายบังคมแล้วกลับไปด้วยการบูชานั้น ท่านไม่จักทุคติเลย (สลฬปุปผิยเถราปทาน) 71/845/971/845/9 71/772/9 |
372 | [๓๗๓] ในกัปที่ 91 ท่านตั้งใจเคารพไหว้ต้นแคฝอย เปรียบเหมือนว่าได้ถวายบังคมเฉพาะพระพักตร์พระวิปัสสีพุทธเจ้า ผู้บริสุทธิ์ ด้วยกรรมนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย. (โพธิวันทกเถราปทาน) 71/847/471/847/4 71/774/4 |
373 | [๓๗๔] ในกัปที่ 91 ท่านได้เห็นพระวิปัสสีพุทธเจ้าแวดล้อมด้วยภิกษุสงฆ์ เสด็จออกจากนครพันธุมดีจึงถือเอาดอกแคฝอย 3 ดอก บูชาพระพุทธเจ้า ด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (ปาฏลิปุปผิยเถราปทาน) 71/848/371/848/3 71/775/3 |
374 | [๓๗๕] ในกัปที่ 92 ท่านเป็นวานร ได้เห็นพระผุสสพุทธเจ้า ประทับนั่งอยู่ในระหว่างภูเขายังทิศทั้งปวงให้สว่างไสว จึงโปรยดอกอุบล 3 ดอกลงเบื้องบนพระเศียรบูชา เมื่อท่านกลับไปด้วยใจอันเลื่อมใสยิ่งนัก ได้ตกลงในระหว่างซอกหิน ตายไปเกิดชั้นดาวดึงส์ (ตีณุปปลมาลิยเถราปทาน) 71/849/371/849/3 71/776/3 |
375 | [๓๗๖] ในกาลที่พระปทุมุตตรพุทธเจ้า เสด็จปรินิพพานแล้ว คนทั้งปวงประชุมกันนำเอาพระสรีระไป ท่านมีจิตเลื่อมใสโสมนัส ได้บูชาด้วยดอกประดู่ ด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (ปัตติปุปผิยเถราปทาน) 71/850/671/850/6 71/777/6 |
376 | [๓๗๗] เมื่อพระสัมพุทธเจ้า พระนามว่าสุมนะ เสด็จอุบัติแล้ว ท่านมีจิตเลื่อมใสโสมนัส ได้บูชาต้นตีนเป็ด (อันเป็นไม้โพธิ์) ด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทคุติเลย.(สัตตปัณณิยเถราปทาน) 71/851/671/851/6 71/778/5 |
377 | [๓๗๘] ในกัปที่ แสนแต่กัปนี้ เมื่อมหาชนช่วยกันทำจิตกาธารอยู่ เมื่อมีการรวบรวมของหอมต่างๆ กันแล้วท่านมีจิตเลื่อมใสโสมนัส ได้บูชาจิตกาธาร ด้วยของหอมกำมือหนึ่ง ด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (คันธมุฏฐิยเถราปทาน) 71/852/371/852/3 71/779/3 |
378 | [๓๗๙] เมื่อพระปทุมุตตรพุทธเจ้า ปรินิพพานแล้ว มหาชนช่วยกันยกขึ้นบนจิตกา-ธาร ท่านบูชาด้วยดอกรัง ด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(จิตกปูชกเถราปทาน) 71/853/371/853/3 71/780/3 |
379 | [๓๘๐] ในกัปที่ 94 ท่านได้ถวายพัดใบตาลอันหุ้มห่อด้วยดอกมะลิ แด่พระสิทธัตถ-พุทธเจ้าผู้บริสุทธิ์ ด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(สุมนตาลวัณฏิยเถราปทาน) 71/854/371/854/3 71/781/3 |
380 | [๓๘๑] ในกัปที่ 94 ท่านได้ร้อยพวงมาลัยดอกมะลิแล้ว ยืนถือไว้ตรงพระพักตร์ของพระสิทธัตถพุทธเจ้าผู้บริสุทธิ์ ด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(สุมนทามิยเถราปทาน) 71/855/371/855/3 71/782/3 |
381 | [๓๘๒] ในกัปที่ 31 ท่านเห็นพระพุทธเจ้า ประทับอยู่ในระหว่างภูเขา จึงมีจิตเลื่อมใส ประนมกรอัญชลีแล้ว ถือผลมะรื่นไปถวายแด่พระองค์ ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(กาสุมาริผลทายกเถราปทาน) 71/856/371/856/3 71/783/3 |
382 | [๓๘๓] ในกัปที่ 94 ท่านได้ถวายผลมะกอกแด่ พระสัมพุทธเจ้าพระนามว่า สตรังสีผู้เสด็จออกบิณฑบาตด้วยทานนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (อัมพฏผลทายกเถราปทาน) 71/858/471/858/4 71/785/4 |
383 | [๓๘๔] ในกัปที่ 91 ท่านเป็นคนรักษาสวนอยู่ในพระนครพันธุมดี ได้เห็นพระพุทธเจ้า กำลังเสด็จเหาะไปในอากาศ จึงถือเอาผลขนุนสำมะลอไปถวาย พระองค์ประทับยืนอยู่ในอากาศทรงรับทานนั้น ด้วยทานนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(ลพุชทายกเถราปทาน) 71/859/371/859/3 71/786/7 |
384 | [๓๘๕] ในกัปที่ 91 ท่านมีใจเลื่อมใส ถือเอาผลมะเดื่อไปถวายแด่พระพุทธเจ้า ซึ่งประทับอยู่ ใกล้ฝั่งแม่น้ำนินนคานที ด้วยทานนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย. (อุทุมพรทายกเถราปทาน) 71/860/371/860/3 71/787/13 |
385 | [๓๘๖] ท่านมีจิตเลื่อมใส ได้ถวายผลไม้ป่าแด่พระอัตถทัสสีพุทธเจ้า ด้วยทานนั้นท่านไม่รู้จักทุคติเลย (มิลักขุผลทายกเถราปทาน) 71/861/371/861/3 71/788/14 |
386 | [๓๘๗] ในกัปที่ 91 ท่านได้เห็นพระสัมพุทธเจ้า เสด็จดำเนินอยู่ในถนน จึงได้ถวายผลมะปรางแด่พระองค์ด้วยทานนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(ผารุสผลทายกเถราปทาน) 71/862/371/862/3 71/789/12 |
387 | [๓๘๘] ในกัปที่ 31 ท่านได้ถวายผลวัลลิ แด่พระสัมพุทธเจ้าผู้สยัมภูไม่แพ้อะไรๆด้วยทานนั้นท่านไม่รู้จักทุคติเลย (วัลลิผลทายกเถราปทาน) 71/863/371/863/3 71/790/10 |
388 | [๓๘๙] ในกัปที่ 31 ท่านมีจิตเลื่อมใสโสมนัส ได้ถือเอาผลกล้วยไปถวายแด่พระศาสดา ถวายบังคมแล้วกลับไป ด้วยทานนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(กทลิผลทายกเถราปทาน) 71/864/371/864/3 71/791/10 |
389 | [๓๙๐] ในกัปที่ 91 ท่านถือเอาผลขนุนอันสุกสด โตประมาณเท่าหม้อ ถวายแด่พระสัมพุทธเจ้าพระนามว่าอัชชุนะ ผู้ฉลาดในสมาธิ ประทับอยู่ที่ภูเขาหิมวันต์ ด้วยทานนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (ปนสผลทายกเถราปทาน) 71/865/371/865/3 71/792/10 |
390 | [๓๙๑] ในกัปที่ 91 ท่านได้สร้างถ้ำ ถวายแด่สงฆ์ผู้มาจากทิศทั้ง 4 และได้ลาดผ้าไว้ที่พื้นถ้ำ ปรารถนาได้พบพระพุทธเจ้า ได้บรรพชาและพึงบรรลุนิพพานอันยอด-เยี่ยม, ในกาลหลังจากพระกัสสปพุทธเจ้าท่านได้บำรุงพระปัจเจกพุทธเจ้าองค์ หนึ่งด้วยปัจจัย 4 ตลอด 3 เดือน , ในกาลนี้ เป็นบุตรเศรษฐี ในนครจัมปา ที่ฝ่าเท้ามีขนขึ้นเป็นวงกลม ครั้นบวชแล้ว ได้ทำความเพียรมากเกินไป พระศาสดาจึงทรงโอวาทอุปมาด้วยพิณ 3 สาย ท่านจึงทำความเพียรสม่ำเสมอ ได้บรรลุพระอรหันต์ .(โสณโกฏิวิสเถราปทาน) 71/867/371/867/3 71/793/13 |
391 | [๓๙๒] พระพุทธเจ้าของเราทั้งหลาย ได้ถวายผ้าเก่าแด่ภิกษุผู้ถือการอยู่ป่าเป็นวัตรรูปหนึ่งแล้วได้ตั้งความปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าครั้งแรก และอกุศลกรรมอื่นที่เคยกระทำมาอีก 13 ประการ มีการห้ามโคไม่ให้กินน้ำที่ขุ่น เป็นต้น.(พุทธาปทาน ชื่อปุพพกัมมปิโลติ) 71/873/371/873/3 71/798/13 |
392 | [๓๙๓] ท่านเป็นนายประตูผู้มีทรัพย์มากอยู่ที่นครหังสวดี ได้ถวายมหาทานและบริขารทุกอย่าง แด่พระปทุมุตตรพุทธเจ้า และภิกษุแสนรูป (ปิลินทวัจฉเถราปทาน) 71/880/471/880/4 71/805/4 |
393 | [๓๙๓] อานิสงส์ 8 ประการ จากการถวายฉัตร การถวายผ้า (ปิลินทวัจฉเถราปทาน) 71/889/1571/889/15 71/814/12 |
394 | [๓๙๓] อานิสงส์ การถวายบาตร มีดโกน พร้า เข็ม มีดตัดเล็บ พัดใบตาล พัดจามรี (ปิลินทวัจฉเถราปทาน) 71/890/1571/890/15 71/815/10 |
395 | [๓๙๓] อานิสงส์ การถวายผ้ากรองน้ำ และธมกรก ภาชนะน้ำมัน กล่องเข็มผ้าอังสะ ประคตเอว เชิงรองบาตร ภาชนะและเครื่องบริโภค.(ปิลินทวัจฉเถราปทาน) 71/893/171/893/1 71/817/17 |
396 | [๓๙๓] อานิสงส์ การถวายขัน เภสัช รองเท้า ผ้าเช็ดหน้า ไม้เท้าคนแก่ ยา-หยอดตา ลูกกุญแจ แม่กุญแจ (ปิลินทวัจฉเถราปทาน) 71/895/171/895/1 71/819/15 |
397 | [๓๙๓] อานิสงส์ การถวายสายโยก กล้องเป่าควัน ตะเกียงตั้ง คนโทน้ำและผอบผ้าสำหรับเช็ดสนิม มีดบางอันลับคมดี และกรรไกร คีม ยานัตถุ์ ตั่ง ที่นอนหมอน ตั่งแผ่นกระดาน (ปิลินทวัจฉเถราปทาน) 71/897/771/897/7 71/821/23 |
398 | [๓๙๓] อานิสงส์ การถวายตั่งรองเท้า น้ำมันสำหรับทาเท้า เนยใสและน้ำมันน้ำบ้วนปาก นมส้ม น้ำผึ้ง ข้าวและน้ำ ธูป (ปิลินทวัจฉเถราปทาน) 71/901/171/901/1 71/825/11 |
399 | [๓๙๔] ท่านได้ชักชวนญาติร่วมกันกับบุรุษ 300 คน สร้างศาลาโรงฉัน ถวายสงฆ์ มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข (เสลเถราปทาน) 71/906/371/906/3 71/829/16 |
400 | [๓๙๔] อานิสงส์แห่งการถวายไม้กลอน ถวายเสา บัลลังก์ (เสลเถราปทาน) 71/915/871/915/8 71/838/18 |
401 | [๓๙๕] ท่านเป็นพราหมณ์ ผู้ทรงชฏาและหนังสัตว์ ได้เห็นพระปทุมุตตรพุทธเจ้าแล้วจึงถือเอาผ้าเปลือกไม้กรองลาดลง ณ ที่ใกล้พระบาท เอากลัมพักมาชโลมทาพระตถาคต แล้วได้สรรเสริญ พระองค์ ด้วยคาถา 10 คาถา ด้วยกรรมนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย ตลอดแสนกัป (สัพพกิตติกเถราปทาน) 71/918/971/918/9 71/841/16 |
402 | [๓๙๖] อานิสงส์การถวายน้ำผึ้ง และเครื่องลาดหญ้า (มธุทายกเถราปทาน) 71/923/171/923/1 71/845/23 |
403 | [๓๙๗] ท่านเป็นนายพราน ได้สร้างเรือนมียอด (ปราสาท) แล้วมุงบังด้วยดอกปทุม ถวายแด่พระปิยทัสสีพุทธเจ้า พระองค์ทรงอนุเคราะห์ประทับอยู่ 7 คืน 7 วันครั้นออกจากสมาธิแล้วภิกษุสงฆ์ 8 หมื่น เทวดา ยักษ์ กุมภัณฑ์ ผีเสื้อน้ำ มาพร้อมกันฟังพระศาสดาพยากรณ์ (ปทุมกูฏาคาริกเถราปทาน) 71/925/371/925/3 71/847/12 |
404 | [๓๙๘] ท่านได้ถวายยาระงับโรคลม แด่พระอโนมทัสสีพุทธเจ้า ซึ่งประชวรด้วยโรคลมอยู่ที่อาศรมของท่าน (พักกุลเถราปทาน) 71/929/371/929/3 71/851/4 |
405 | ท่านได้ตั้งความปรารถนาตำแหน่งเลิศภิกษุผู้มีอาพาธน้อย ต่อพระปทุมุตตรพุทธเจ้า , ในกัปที่ 91 ท่านเป็นฤๅษี ตั้งอยู่ในไตรสรณะ และได้รักษาโรคอันเกิดจากหญ้า แก่ภิกษุทั้งหลาย, สมัยพระกัสสปพุทธเจ้าท่านได้ปรับปรุงมหาวิหารซึ่งชำรุดทรุดโทรม สร้างที่อยู่ โรงอุโบสถ ถวายเภสัชทุกชนิด , ในกาลนี้ ได้บวชตอนอายุ 80 ปี พยายามอยู่ 7 วัน วันที่ 8 ได้บรรลุพระอรหัตแล้ว เป็นผู้มีอายุ 160 ปีจึงได้ปรินิพพาน (อ.พักกุลเถราปทาน) 71/933/571/933/5 71/855/5 |
406 | [๓๙๙] ท่านถูกความโศกจากการตายของบุตรภริยา บิดามารดา และพี่ชาย จึงเข้าไปอยู่ป่ากินผลไม้ที่หล่นเป็นอาหาร พระสุเมธพุทธเจ้า เสด็จไปแสดงธรรมให้หายความโศก แล้วได้บูชา และสรรเสริญพระองค์ ด้วยการบูชานั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย (คิริมานันทเถราปทาน) 71/936/371/936/3 71/857/14 |
407 | พระคิริมานันทเถระไม่ได้ เสนาสนะอยู่กลางแจ้ง เทวดาจึงห้ามฝนไม่ให้ตก.(อ.คิริมานันทเถราปทาน) 71/941/671/941/6 71/861/24 |
408 | [๔๐๐] เมื่อพระกกุสันธพุทธเจ้า ปรินิพพานแล้ว ท่านได้เก็บเอาพวงดอกสนมาทำเป็นมณฑป เมื่อท่านเดินจงกรมแล้วยืนอยู่ ในเวลากลางวัน หรือกลางคืน เป็นผู้อันดอกสนกำบังไว้ นี้เป็นผลแห่งบุญ (สลฬมัณฑปิยเถราปทาน) 71/942/371/942/3 71/863/3 |
409 | [๔๐๑] ท่านได้นิมนต์ พระสุเมธพุทธเจ้า และภิกษุสงฆ์ หนึ่งแสน ไปสู่ภพของตนอันหยั่งลงถึงมหาสมุทร ได้ถวายข้าวน้ำและผ้า จึงได้รื่นรมย์อยู่ในเทวโลกตลอด1,800 กัป (สัพพทายกเถราปทาน) 71/943/371/943/3 71/864/3 |
410 | [๔๐๒] ท่านเป็นดาบสอยู่ภูเขาหิมวันต์ ได้เห็นพระปทุมุตตรพุทธเจ้า นั่งเข้านิโรธ-สมาบัติอยู่ จึงกลับไปอาศรม ถือเอาน้ำผึ้ง น้ำมัน และหม้อ มาเข้าเฝ้า แล้วนำไม้3 ท่อนไปวางไว้กลางแจ้ง ก่อไฟให้ลุกโพลงอยู่ตลอด 7 คืน 7 วัน ครั้นพระศาสดาออกจากสมาบัติแล้ว พวกนาค ครุฑ และพระอรหันต์หลายแสนมาสู่พื้นที่นั้นพระศาสดาทรงพยากรณ์ผลจากการตามประทีปนี้. (อชิตเถราปทาน) 71/946/1171/946/11 71/867/7 |
411 | [๔๐๓] ท่านเป็นดาบสบำเรอไฟอยู่ พระปทุมุตตรพุทธเจ้า เสด็จไปที่อาศรมนั้น แล้วแสดงการบูชาของพระองค์มี 3 ประการ คือ เพื่อดับธรรมอันเป็นเหตุ , เพื่อเผากิเลส, เพื่อละความริษยา และความตระหนี่, ท่านจึงได้ลาดหนังสัตว์ถวาย เป็นที่ประทับนั่ง และหาเก็บผลมะพลับมาถวายพระศาสดา. พระศาสดาทรงเสวยแล้ว พยากรณ์ผลที่ท่านจะได้รับ. (ติสสเมตเตยยเถราปทาน) 71/952/471/952/4 71/873/4 |
412 | [๔๐๔] ในกัปที่ 91 ท่านได้นำเอาหญ้าและไม้ มากองทำจิตกาธาร ถวายพระเพลิงพระสรีระ ของพระปัจเจกพุทธเจ้าผู้สยัมภู ด้วยกรรมนั้น ท่านไม่รู้จักทุคติเลย.(ปุณณกเถราปทาน) 71/956/1271/956/12 71/877/12 |
413 | [๔๐๕] ท่านเป็นดาบสอยู่ อาศรมที่วิสสุกรรมเทพบุตร นิรมิตให้ที่ภูเขาชื่อว่า อโศก เมื่อพระสุเมธพุทธเจ้าเสด็จไปในที่นั้น ท่านได้รับบาตรแล้วเอาเนยใส และน้ำมันใส่ให้เต็มบาตรถวาย พระศาสดาทรงพยากรณ์ว่า ท่านจะบรรลุถึงพระอรหัต.(เมตตคูเถราปทาน) 71/959/371/959/3 71/880/3 |
414 | [๔๐๖] ท่านเป็นพราหมณ์ชื่อ ฉฬังคะ ได้ให้ทำสะพานใหญ่ ข้ามแม่น้ำคงคา ชื่อว่าภาคีรสี ถวายแด่พระปทุมุตตรพุทธเจ้า พระองค์ทรงพยากรณ์ ผลแห่งการให้สะพาน (โธตกเถราปทาน) 71/963/371/963/3 71/883/13 |
415 | [๔๐๗] ท่านเป็นฤๅษีอยู่ในอาศรมที่สมบูรณ์กับหมู่ฤๅษี เมื่อพระปทุมุตตรพุทธเจ้าเสด็จไปในที่นั้น ท่านได้ปูลาดเครื่องลาดหญ้าให้ทรงประทับนั่ง แล้วรีบขึ้นภูเขาเก็บเอาขนุน มาถวายแล้วไล้ทากฤษณา แด่พระศาสดา พระองค์ประทับนั่งในท่ามกลางฤๅษีแล้วพยากรณ์ผลบุญแก่ท่าน (อุปสีวเถราปทาน) 71/968/371/968/3 71/887/13 |
416 | [๔๐๘] ท่านได้เป็นนายพรานเนื้อ เที่ยวอยู่ในป่าใหญ่ ได้พบพระสยัมภูสัมพุทธเจ้าพระนามว่า อนุรุทธะ ทรงประสงค์วิเวก ท่านจึงทำมณฑป มุงบังด้วยดอกบัวใหญ่แล้วตนเองก็บวชเป็นบรรพชิต เมื่อบวชได้ไม่นานก็ตาย ไปเกิดในชั้นดุสิต.(นันทกเถราปทาน) 71/976/671/976/6 71/894/16 |
417 | [๔๐๙] ท่านเป็นดาบสชื่อ อโนมะ มีฤทธิ์มาก ได้นิรมิตตั่งอันสำเร็จด้วยแก้วล้วนๆถวายแด่พระปิยทัสสีพุทธเจ้า และถวายผลหว้าโตเท่าหม้อ พระศาสดาทรงเสวยผลหว้าแล้ว ก็พยากรณ์ผลบุญแก่ท่าน (เหมกเถราปทาน) 71/980/371/980/3 71/898/3 |
418 | [๔๐๙] พระปิยทัสสีพุทธเจ้า ทรงพิจารณาเห็นคนผู้ควรตรัสรู้ แล้วก็เสด็จไปประทานโอวาทในพันแห่งจักรวาล (เหมกเถราปทาน) 71/980/1671/980/16 71/898/17 |
419 | [๔๑๐] ท่านเป็นพระราชาพระนามว่า วิชิตชัย, เมื่อชนะสงครามแล้วสั่งเสียบหลาวศัตรู จากนั้นท่านนอนไม่หลับเห็นไฟนรกและคำขู่ของนายนิรยบาล จึงสละราชสมบัติออกบวชอยู่หิมวันตประเทศ เทวดาที่บริเวณอาศรมได้บอกท่านถึงการอุบัติของพระสุเมธพุทธเจ้า ท่านจึงเดินทางมาเข้าเฝ้า แล้วสรรเสริญ และบูชาพระศาสดาด้วยแก่นจันทน์ (โตเทยยเถราปทาน) 71/986/371/986/3 71/903/3 |
420 | [๔๑๑] ท่านเป็นบุตรเศรษฐี อยู่ในปราสาท 3 หลัง เพียบพร้อมด้วยกามคุณ 5 คบหาสมาคมกับคนในเมืองทุกคน ได้ถวายข้าวน้ำ และบำรุงด้วยดนตรี แด่พระปทุมุตตรพุทธเจ้า (ชตุกัณณิกเถราปทาน) 71/993/1171/993/11 71/909/14 |
421 | [๔๑๒] ท่านบวชเป็นฤๅษี สร้างบรรณศาลาอันน่ารื่นรมย์อยู่ใกล้ภูเขาปทุม มีฤๅษี84,000 ตน ประชุมกันทุก 5 วัน เป็นผู้แน่นแฟ้นตักเตือนกันและกันอยู่. เมื่อพระปทุมุตตรพุทธเจ้าอุบัติแล้ว ยักษ์ได้มาบอกข่าวนั้นแก่ท่าน ท่านจึงเดินทางไปเข้า-เฝ้าถือเอาดอกปทุมไปบูชา ถวายบังคมพระศาสดาทำหนังสัตว์เฉวียงบ่า แล้วสรรเสริญพระญาณของพระองค์ ด้วยกรรมนั้น ท่านได้รื่นรมย์อยู่ในเทวโลกตลอด 30,000 กัป (อุเทนเถราปทาน) 71/1000/871/1000/8 71/916/3 |