1 | [๔๑] " ผู้ใดบุคคลกล่าวสอนอยู่ ไม่ทำตามคำสอนของผู้ปรารถนาประโยชน์ผู้อนุเคราะห์ด้วยประโยชน์เกื้อกูล ผู้นั้นย่อมเศร้าโศก เหมือนมิตตพินทุกะจับเท้าแพะเศร้าโศกอยู่ฉะนั้น" (โลสกชาดก) 56/1/956/1/9 56/1/9 |
2 | พระอรหันต์อดอยาก (อ.โลสกชาดก) 56/5/156/5/1 56/4/19 |
3 | ผลของภิกษุผู้ตระหนี่อาวาส และทำลายลาภของพระขีณาสพ (อ.โลสกชาดก) 56/10/356/10/3 56/8/14 |
4 | [๔๒] " ผู้ใดบุคคลกล่าวสอนอยู่ ไม่ทำตามคำสอนของผู้ปรารถนาประโยชน์ผู้อนุเคราะห์ด้วยประโยชน์เกื้อกูล ผู้นั้นย่อมถึงความฉิบหายเศร้าโศกอยู่เหมือนกาไม่เชื่อฟังคำของนกพิราบตกอยู่ในเงื้อมมือของข้าศึก ฉะนั้น".(กโปตกชาดก) 56/16/356/16/3 56/12/14 |
5 | ทรงปรารภภิกษุโลเลรูปหนึ่ง จึงตรัสอดีตครั้งภิกษุนั้นเป็นกา ไม่เชื่อฟังคำของนกพิราบผู้โพธิสัตว์ จึงต้องถูกถอนขนประสบความฉิบหาย เพราะแอบจะกินอาหารของมนุษย์ (อ.กโปตกชาดก) 56/16/1056/16/10 56/13/2 |
6 | ทรงปรารภภิกษุผู้ว่ายากรูปหนึ่ง จึงตรัสอดีตครั้งพระโพธิสัตว์เป็นฤๅษี สอนลูก-ศิษย์ผู้หนึ่ง ไม่ให้เลี้ยงอสรพิษ แต่ดาบสนั้นไม่เชื่อ วันหนึ่งจึงถึงความตายเพราะ อสรพิษนั้น. (อ.เวฬุกชาดก) 56/22/956/22/9 56/17/9 |
7 | [๔๔] " มีศัตรูผู้ประกอบด้วยปัญญา ยังดีกว่ามิตรผู้ไม่มีปัญญา จะดีอะไรเหมือนบุตรของช่างไม้ผู้โง่เขลาคิดว่าจะตียุง ได้ตีศีรษะของบิดา แตกสองเสี่ยงฉะนั้น.".(มกสชาดก) 56/26/256/26/2 56/19/18 |
8 | ทรงปรารภพวกมนุษย์ชาวบ้านที่เป็นอันธพาล พากันถืออาวุธเพื่อไปรบกับยุงในป่า แต่ต้องบาดเจ็บกลับมา เพราะทิ่มแทงกันเอง แล้วตรัสอดีตนิทานช่างไม้ต้องตายเพราะลูกของเขาฆ่ายุงด้วยขวาน (อ.มกสชาดก) 56/26/1256/26/12 56/20/5 |
9 | ทรงปรารภทาสีของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีคนหนึ่ง ได้ไล่แมลงวันให้แก่มารดาของนาง ด้วยสากตำข้าว ทำมารดาของนางตายคาที่ พระศาสดาทรงแสดงอดีตที่นางทาสีก็ไล่แมลงวันให้แก่มารดาแบบนี้เหมือนกัน .(อ.โรหิณีชาดก) 56/30/1156/30/11 56/23/5 |
10 | [๔๖] " ผู้ฉลาดในสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ ถึงจะทำความเจริญ ก็ไม่สามารถจะนำความสุขมาให้ ผู้มีปัญญาทราม ย่อมทำประโยชน์ให้เสีย เหมือนลิงผู้รักษาสวนฉันนั้น." (อารามทูสกชาดก) 56/33/356/33/3 56/25/3 |
11 | ทรงปรารภเด็กชาวบ้านคนหนึ่งก่อนจะรดน้ำต้นไม้ ก็ถอนต้นไม้ขึ้นมาดูก่อนว่ารากลึกหรือตื้น แล้วตรัสอดีตครั้งเด็กคนนั้นเป็นลิงจ่าฝูง พาบริวารทำแบบเดียวกันนี้ (อ.อารามทูสกชาดก) 56/33/1256/33/12 56/25/13 |
12 | [๔๗] ผู้มีปัญญาทราม ย่อมทำให้เสียประโยชน์ (วารุณิทูสกชาดก) 56/38/356/38/3 56/28/14 |
13 | ทรงปรารภคนทำลายเหล้า จึงตรัสอดีตคนผู้นี้ ก็เคยทำลายเหล้า ด้วยการใส่เกลือผสมลงไปในเหล้าเช่นกันนี้ เพราะความโง่ หวังจะทำประโยชน์ กลับทำเสีย. (อ.วารุณิทูสกชาดก) 56/38/1256/38/12 56/29/6 |
14 | [๔๘] " ผู้ใดปรารถนาประโยชน์ โดยอุบายอันไม่แยบคาย ผู้นั้นย่อมเดือดร้อนเหมือนพวกโจรเจติรัฐ ฆ่าเวทัพพพรามหณ์ แล้วพากันถึงความพินาศหมดสิ้น ฉะนั้น" (เวทัพพชาดก) 56/41/356/41/3 56/31/4 |
15 | ทรงปรารภภิกษุผู้ว่ายาก ตรัสอดีตภิกษุนั้นเป็นพราหมณ์ ผู้รู้มนตร์ชื่อ เวทัพพะเมื่อได้เวลาฤกษ์แล้วร่ายมนตร์ แหงนดูอากาศ ฝนแก้ว 7 ประการจะตกลงมาแต่พราหมณ์นั้นไม่ทำตามคำของบัณฑิต ต้องถูกฟันขาดสองท่อน และโจรอีก1,000คน ก็ตายหมด พระโพธิสัตว์เป็นลูกศิษย์ของพราหมณ์นั้น..(อ.เวทัพพชาดก) 56/41/1256/41/12 56/31/13 |
16 | [๔๙] " ประโยชน์ได้ล่วงเลยคนโง่เขลา ผู้มัวคอยฤกษ์อยู่ ประโยชน์เป็นฤกษ์ของประโยชน์ ดวงดาวจักทำอะไรได้" (นักขัตตชาดก) 56/49/356/49/3 56/36/16 |
17 | ทรงปรารภอาชีวกคนหนึ่ง ซึ่งทำลายงานมงคลของชาวบ้านนอก กับชาวสาวัตถี โดยการบอกว่าไม่ใช่ฤกษ์ที่จะทำงานมงคล ชาวสาวัตถีจึงยกธิดาให้ผู้อื่น แม้ในอดีตอาชีวกนี้ก็ได้ทำลาย งานมงคลของทั้ง 2 ตระกูลนี้เช่นกัน.(อ.นักขัตตชาดก) 56/49/1156/49/11 56/37/5 |
18 | ทรงปรารภการบำเพ็ญประโยชน์แก่โลก จึงตรัสอดีต พระโพธิสัตว์เป็นโอรสของพระเจ้าพาราณสี ได้เห็นประชาชนต่างนับถือเทวดา ทำการฆ่าสัตว์บูชาเป็นอันมาก จึงทำอุบายให้คนเหล่านั้นรักษาศีล ยึดมั่นในกุศลกรรมบถ 10 เมื่อทรงได้ครองราชสมบัติ จึงตรัสจะทำพลีกรรมด้วยเครื่องในของคนทุศีล ทำประชาชนให้เกิดอยู่ในสวรรค์ (อ.ทุมเมธชาดก) 56/54/1156/54/11 56/40/11 |
19 | [๕๑] " บุรุษผู้เป็นบัณฑิต ควรมุ่งหมายไปกว่าจะสำเร็จผล ไม่ควรท้อถอย ดูเราเป็นตัวอย่าง เราปรารถนาอย่างใดก็ได้อย่างนั้น" (มหาสีลวชาดก) 56/60/456/60/4 56/45/4 |
20 | ทรงปรารภภิกษุผู้มีความเพียรย่อหย่อน ตรัสอดีตครั้งพระโพธิสัตว์เป็นพระเจ้า-สีลวะ ครองเมืองพาราณสี ไม่ย่อหย่อนความเพียร ทำพระองค์และหมู่อำมาตย์ให้รอดพ้นจากฝูงสุนัขจิ้งจอกในป่าช้า พร้อมกับได้ราชสมบัติคืนจากพระเจ้าโกศล.(อ.มหาสีลวชาดก) 56/60/1056/60/10 56/45/13 |
21 | [๕๒] "บุรุษผู้เป็นบัณฑิต ควรมุ่งหมายไปจนกว่าจะสำเร็จผล ไม่ควรท้อถอย ดูเราขึ้นจากน้ำสู่บกได้เป็นตัวอย่างเถิด" (จูฬชนกชาดก) 56/73/356/73/3 56/54/18 |
22 | ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี จับพิรุธพวกนักเลง ที่ใส่ยาเบื่อในเหล้า เพื่อจะปล้นทรัพย์ตนๆ จึงข่มขู่ให้พวกนักเลงหนีไปแล้ว ไปกราบทูลพระศาสดา พระองค์ทรงแสดงอดีต ที่พวกนักเลงเหล้า เหล่านี้ ก็เคยทำแบบเดียวกันนี้ตอนพระโพธิสัตว์เป็นเศรษฐีชาวเมืองพาราณสี (อ.ปุณณปาติชาดก) 56/75/1156/75/11 56/56/11 |
23 | กุฎุมพีชาวสาวัตถีคนหนึ่ง นิมนต์ภิกษุสงฆ์ มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข ให้นั่งในสวนแล้วถวายทาน คนเฝ้าสวนพาภิกษุไปเที่ยวชมสวน เขารู้จักผลไม้ด้วยความชำนาญว่าผลนั้นดิบ ผลนั้นยังไม่สุกดี เป็นต้น ภิกษุทั้งหลายไปกราบทูลพระศาสดา พระองค์ทรงแสดงอดีต ครั้งที่ทรงเป็นพ่อค้าก็สามารถรู้ผลไม้ชนิดหนึ่งซึ่งเหมือนมะม่วงทุกอย่างแต่มีพิษ ทำให้บริวารรอดชีวิตได้.(อ.ผลชาดก) 56/79/1156/79/11 56/59/10 |
24 | [๕๕] " นรชนใดมีจิตไม่ท้อถอย มีใจไม่หดหู่ เจริญกุศลกรรม เพื่อบรรลุธรรมอันเป็นแดนเกษมจากโยคะ นรชนนั้นพึงบรรลุธรรมเป็นที่สิ้นสังโยชน์ทั้งปวงโดยลำดับ".(ปัญจาวุธชาดก) 56/83/356/83/3 56/62/6 |
25 | ทรงปรารภภิกษุผู้มีความเพียรย่อหย่อนรูปหนึ่ง จึงตรัสถึง ความเพียรของพระองค์ครั้งเป็นปัญจาวุธกุมาร ได้สู้กับยักษ์ตัวมีขนเหนียวในดงแห่งหนึ่งด้วยอาวุธทั้ง 5 ไม่มีแม้ว่าความสะทกสะท้านเกรงกลัวจนยักษ์นั้นกลัวตายปล่อยพระองค์ไปยักษ์นั้นคือ พระองคุลิมาลในกาลนี้ (อ.ปัญจาวุธชาดก) 56/83/1256/83/12 56/62/15 |
26 | ภิกษุรูปหนึ่งบวชใหม่ เมื่ออาจารย์ และอุปัชฌาย์สอนศีลแก่เขาเป็นอันมากเขาจึงอยากสึก พระศาสดาตรัสให้ภิกษุนั้นรักษาศีล 3 คือ ไม่กระทำกรรมชั่วด้วยกายด้วยวาจา และด้วยใจ ภิกษุนั้นรักษาศีล 3 แล้วโดย 2-3 วัน ก็บรรลุพระอรหัตพระองค์ทรงตรัสอดีตที่พระโพธิสัตว์เป็นชาวนา ได้แบ่งทองเป็นส่วนๆ และนำไปใช้ประโยชน์ได้ (อ.กัญจนขันธชาดก) 56/90/1256/90/12 56/67/15 |
27 | [๕๗] " ผู้ใดมีธรรม 4 ประการ คือ สัจจะ ธรรมะ คือ วิจารณปัญญา ธิติ คือความเพียรจาคะ ผู้นั้นย่อมล่วงพ้นศัตรูได้ " (วานรินทชาดก) 56/95/356/95/3 56/71/3 |
28 | [๕๘] ผู้ใดมีธรรม 3 ประการ คือ ความขยัน ความแกล้วกล้าและปัญญา ผู้นั้นย่อมล่วงพ้นศัตรูได้ (ตโยธรรมชาดก) 56/100/356/100/3 56/75/3 |
29 | พระเทวทัตเป็นวานรจ่าฝูง คอยกัดอัณฑะของลูกวานร เพราะกลัวถูกแย่งตำแหน่งพระโพธิสัตว์เป็นลูกวานรมีกำลังเท่าช้างสาร ได้นำดอกไม้มาจากสระที่มีรากษสหวงแหนมาได้ด้วยปัญญา แล้วให้รากษสถือมาให้ เมื่อวานรจ่าฝูงเห็นดังนั้นจึงหัวใจแตกตาย (อ.ตโยธรรมชาดก) 56/100/1256/100/12 56/75/13 |
30 | ทรงปรารภภิกษุผู้ว่ายากรูปหนึ่ง จึงตรัสอดีตครั้งพระโพธิสัตว์เป็นคนตีกลอง เมื่อได้ทรัพย์จากการตีกลองงานมหรสพ แล้วเดินทางกลับบ้าน ลูกชายได้ตีกลองเกินประมาณ ห้ามก็ไม่ฟัง จึงถูกโจรมาแย่งเอาทรัพย์ไป ลูกชายนั้นเป็นภิกษุผู้ว่ายากนี้ (อ.เภริวาทชาดก) 56/105/956/105/9 56/78/14 |
31 | ทรงปรารภภิกษุผู้ว่ายาก จึงตรัสอดีตคนเป่าสังข์ ได้ทรัพย์มาแล้ว เป่าสังข์เกินประมาณลูกชายเตือนก็ไม่ฟัง โจรจึงมาแย่งเอาทรัพย์ไป พระโพธิสัตว์เป็นลูกชายของคนเป่าสังข์นั้น (อ.สังขธมนชาดก) 56/108/1256/108/12 56/81/5 |
32 | [๖๑] " ขึ้นชื่อว่าหญิงในโลกนี้เลวทราม เพราะหญิงเหล่านั้น ไม่มีเขตแดน มีแต่ความกำหนัดยินดี คึกคะนองไม่มีเลือก เหมือนไฟที่ไหม้ไม่เลือกฉะนั้น เราจักละทิ้งหญิงเหล่านั้นไปบวชเพิ่มพูนวิเวก" (อสาตมันตชาดก) 56/110/456/110/4 56/83/4 |
33 | ทรงปรารภภิกษุผู้กระสัน จึงตรัสอดีตที่พระโพธิสัตว์เป็นอาจารย์ทิศาปาโมกข์สอนมาณพที่เป็นศิษย์ให้รู้จักโทษของสตรี โดยให้ปรนนิบัติ มารดาของอาจารย์ที่มีอายุ 120 ปี เมื่อมาณพรู้โทษนั้นแล้วก็ไม่ปรารถนาครองเรือน.(อ.อสาตมันตชาดก) 56/110/1256/110/12 56/83/11 |
34 | ทรงปรารภภิกษุผู้กระสัน จึงตรัสอดีตครั้งพระโพธิสัตว์เป็นพระเจ้ากรุงพาราณสีต้องการเล่นสกาพนันให้ชนะพราหมณ์ปุโรหิต จึงใช้ให้นักเลงไปทำลายตบะโดยเป็นชู้กับเมียพราหมณ์ปุโรหิต ซึ่งพราหมณ์ให้การรักษาดูแลหญิงผู้เป็นเมีย ตั้งแต่ออกจากครรภ์ (อ.อัณฑภูตชาดก) 56/119/856/119/8 56/90/9 |
35 | [๖๓] " ธรรมดาว่าหญิงเป็นคนมักโกรธ ไม่รู้จักคุณ ชอบส่อเสียด ชอบยุยงให้แตกกัน ดูก่อนภิกษุ เธอจงประพฤติพรหมจรรย์เถิด เธอจักไม่เสื่อมจากสุข" .(ตักกชาดก) 56/130/356/130/3 56/98/3 |
36 | ทรงปรารภภิกษุผู้กระสัน จึงตรัสอดีต พระโพธิสัตว์เป็นดาบสอยู่ในป่า ได้ช่วยธิดาเศรษฐีที่ลอยตามกระแสน้ำมา ถูกนางเล้าโลมทำลายศีล ต้องไปขายเปรียงเลี้ยงนาง เมื่อโจรมาปล้นบ้านนั้น นายโจรได้นำนางไปเป็นภรรยา นางนั้นหวังจะฆ่าพระโพธิสัตว์ จึงส่งจดหมายไปบอกให้มารับตน พระโพธิสัตว์ถูกนายโจรโบยตีก็ไม่พูดอย่างอื่นพูดแค่ 4 คำ เมื่อนายโจรรู้ความจริงก็ฆ่านางนั้นตาย พระโพธิสัตว์และนายโจรจึงบวชได้อภิญญา 5 สมาบัติ 8 ตายแล้วไปพรหมโลก(อ.ตักกชาดก) 56/130/956/130/9 56/98/9 |
37 | [๖๔] " ท่านอย่าดีใจว่า หญิงปรารถนาเรา อย่าเศร้าโศก ว่าหญิงนี้ไม่ปรารถนา เรา ภาวะของหญิงทั้งหลายรู้ได้ยาก เหมือนทางไปของปลาในน้ำ ฉะนั้น".(ทุรานชาดก) 56/137/356/137/3 56/103/3 |
38 | อุบาสก ชาวสาวัตถีผู้หนึ่ง ถึงสรณะ และศีล แต่เมียเขาทุศีล วันไหนมีชู้วันนั้นอารมณ์ดี วันไหนไม่ได้นอกใจก็จะดุร้าย หยาบคาย อุบาสกนั้นไม่รู้อาการของนางจึงไปเล่าให้พระศาสดาฟัง จึงทรงตรัสอดีตครั้งพระโพธิสัตว์เป็นอาจารย์ ก็เคยบอกอาการของเมียนอกใจแก่มาณพผู้เป็นศิษย์.(อ.ทุรานชาดก) 56/137/1256/137/12 56/103/11 |
39 | [๖๕] " ขึ้นชื่อว่าหญิงทั้งหลายในโลก มีอุปมาเหมือนแม่น้ำ หนทาง โรงน้ำดื่มที่ประชุมและบ่อน้ำ บัณฑิตทั้งหลาย ย่อมไม่ถือโกรธหญิงเหล่านั้น".(อนภิรติชาดก) 56/142/356/142/3 56/106/11 |
40 | อุบาสกผู้หนึ่งคอยจับตาดู เมียมีชู้เมื่อรู้แล้วก็ขุ่นมัว วันหนึ่งไปเข้าเฝ้ากราบทูลพระศาสดา จึงทรงตรัสให้วางใจเป็นกลางในสตรี เพราะเปรียบเหมือนของ5 อย่าง แล้วแสดงอดีตครั้งพระโพธิสัตว์เป็นอาจารย์สอนผัวเมียที่เป็นศิษย์นี้ ฝ่ายเมียของอุบาสกรู้ว่าพระศาสดาทราบก็เลิกกระทำชั่วนั้น.(อ.อนภิรติชาดก) 56/142/1256/142/12 56/107/1 |
41 | ชาวสาวัตถีผู้หนึ่ง บวชถวายชีวิต ปฏิบัติเคร่งครัด พอเห็นหญิงคนหนึ่งแต่งตัวงดงามกิเลสก็ฟูขึ้น ไม่ยินดีประพฤติพรหมจรรย์ พระศาสดาตรัสอดีตแม้พระโพธิสัตว์เป็นดาบสมีอภิญญา 5 สมาบัติ 8 ได้เห็นพระนางมุทุลักขณาผ้าหลุดก็เสื่อมจากฌาน อยากได้นางอย่างเดียว เมื่อถูกนางทรมานด้วยประการต่างๆ จึงได้สติ ทำฌานให้เกิดแล้วไปอยู่ในป่าไม่กลับมาถิ่นมนุษย์อีก. (อ.มุทุลักขณชาดก) 56/146/1156/146/11 56/109/15 |
42 | ในแคว้นโกศล มีคน 3 คน ไถนาอยู่ที่ปากดง พวกมนุษย์สืบหาโจร ได้จับคนทั้ง 3ไป ด้วยคิดว่าพวกนี้เป็นโจร เมื่อหญิงผู้อยู่ทางบ้านรู้ข่าวจึงไปเข้าเฝ้าพระราชาด้วยอุบาย พระราชาทรงพอใจให้นางเลือกคนหนึ่งใน 3 คนนั้น นางเลือกพี่ชายแล้วให้เหตุผล คนทั้ง 3 จึงถูกปล่อยตัวหมด พระศาสดาแสดงอดีตที่พระโพธิสัตว์เป็นพระราชา คนทั้ง 3 นี้ ก็ได้รับการปล่อยตัวเหมือนกัน(อ.อุจฉังคชาดก) 56/154/1356/154/13 56/115/14 |
43 | [๖๘] " ใจจดจ่ออยู่ในผู้ใด แม้จิตเลื่อมใสในผู้ใด บุคคลพึงคุ้นเคยสนิทสนมแม้ในผู้นั้น ทั้งๆ ที่ไม่เคยเห็นกันมาก่อน" (สาเกตชาดก) 56/159/356/159/3 56/119/3 |
44 | พราหมณ์ และพราหมณี ชาวสาเกต เคยเป็นพ่อ เป็นปู่ เป็นอา ของพระโพธิสัตว์อย่างละ 500 ชาติ ติดต่อกัน เคยเป็นแม่ เป็นย่า และเป็นน้า อย่างละ 500 ชาติติดต่อกัน (อ.สาเกตชาดก) 56/159/1156/159/11 56/119/11 |
45 | พระสารีบุตรได้ฉันของขบเคี้ยวด้วยแป้งอันเป็นส่วนของลูกศิษย์ แล้วบอกแก่ภิกษุนั้น เขากลับกล่าวว่าธรรมดาของอร่อยใครจะไม่ชอบเล่า พระเถระสลดใจ จึงไม่ฉันของเคี้ยวที่ทำด้วยแป้งอีกเลย พระศาสดาทรงตรัสอดีตที่พระเถระเป็นงู แม้ถูกบังคับให้ดูดพิษที่กัดคนออก ก็ไม่ยอมดูด ยอมเข้ากองไฟดีกว่า พระโพธิสัตว์เป็นหมองู ในครั้งนั้น. (อ.วิสวันตชาดก) 56/162/1156/162/11 56/122/5 |
46 | พระจิตหัตถสารีบุตร บวชแล้วสึก 6 ครั้งๆ ที่ 7 ได้เป็นผู้ทรงอภิธรรม 7 คัมภีร์ บอกธรรมแก่ภิกษุเป็นอันมาก ได้บำเพ็ญวิปัสสนาบรรลุพระอรหัต.(อ.กุททาลชาดก) 56/166/1256/166/12 56/124/17 |
47 | บัณฑิตจอบเหี้ยน (อ.กุททาลชาดก) 56/168/656/168/6 56/126/4 |
48 | [๗๑] " ผู้ใดปรารถนาจะทำกิจที่ควรทำก่อนในตอนหลัง ผู้นั้นย่อมเดือดร้อนในภายหลัง เหมือนมาณพหักไม้กุ่ม ฉะนั้น" (วรุณชาดก) 56/175/456/175/4 56/131/4 |
49 | กุลบุตรชาวสาวัตถี ประมาณ 30 คน บวชแล้วอยู่ในสำนักอุปัชฌาย์ และอาจารย์5 พรรษา เรียนกรรมฐานแล้วไปบำเพ็ญสมณธรรม มีรูปหนึ่งไม่ไปกับพวก ครั้นออกพรรษาพวกที่ไปบำเพ็ญนั้นบรรลุพระอรหัต แล้วมาเข้าเฝ้าพระศาสดา ส่วนภิกษุรูปที่ไม่ได้ไปในตอนต้นนั้น เห็นภิกษุเหล่านั้นมาจึงคิดจะทำความเพียร แต่พลาด กระดูกขาแตก พวกภิกษุเหล่านั้นต้องพยาบาลเขา จึงต้องพลาดจากการเดินทาง พระศาสดาตรัสอดีตภิกษุนี้ก็ทำให้พวกเธอไม่ได้เดินทางเหมือนกัน .(อ.วรุณชาดก) 56/175/1356/175/13 56/131/13 |
50 | [๗๒] " ถ้าใครๆ จะพึงให้สมบัติในแผ่นดินทั้งหมด แก่คนอกตัญญู ผู้มีปกติมองหาโทษอยู่เป็นนิตย์ ก็ทำให้เขาพอใจไม่ได้" (สีลวนาคชาดก) 56/182/356/182/3 56/136/11 |
51 | ทรงปรารภพระเทวทัตว่าเป็นคนอกตัญญู ตรัสอดีตพระโพธิสัตว์เป็นพญา ช้าง พระเทวทัตเป็นนายพรานเที่ยวมาของา ตัดไปขายหลายเที่ยว จนสุดท้ายถูกแผ่นดินสูบเอานายพรานลงในอเวจี พระสารีบุตรเป็นรุกขเทวดาที่เห็นเหตุการณ์.(อ.สีลวนาคชาดก) 56/182/1156/182/11 56/137/1 |
52 | คนหวงทรัพย์ ตายไปเป็นสัตว์มาเฝ้าทรัพย์ (อ.สัจจังกิรชาดก) 56/191/656/191/6 56/143/4 |
53 | ทรงปรารภการทะเลาะกันของหมู่พระญาติ ตรัสอดีตครั้งท้าวสักกะ ตั้งท้าว-เวสวัณองค์ใหม่ ท้าวเวสวัณได้ประกาศให้รุกขเทวดาจับจองพื้นที่ พระโพธิสัตว์เป็นรุกขเทวดา ที่ป่ารังในหิมวันตประเทศ ได้บอกเทพที่เป็นญาติให้จับจองพื้นที่ใกล้ๆ ตน อย่าไปอยู่บนเนิน บางพวกไปอยู่ต้นไม้บนเนินใกล้บ้าน เมื่อเกิดลมฝนใหญ่ ต้นไม้ใหญ่นั้นถูกลมพัดโค่น เทวดาพวกนั้นต่างพากันจูงมือเด็กๆ กระเซอะ-กระเซิงไปป่าหิมพานต์ (อ.รุกขธัมมชาดก) 56/199/956/199/9 56/148/14 |
54 | สมัยหนึ่ง ในแคว้นโกศลขาดน้ำ แม้สระในเชตวันวิหารก็มีแต่เปือกตม พระศาสดาทรงนุ่งผ้าอาบน้ำด้วยปลายข้างหนึ่ง คลุมกายด้วยปลายข้างหนึ่ง ยืนอยู่ที่ริมสระท้าวสักกะจึงสั่งวลาหกเทวราชให้ทำฝนให้ตก. .(อ.มัจฉชาดก) 56/204/1256/204/12 56/152/11 |
55 | พระโพธิสัตว์เกิดเป็นพญาปลา สั่งท้าวปัชชุนนเทวราชให้ทำฝนให้ตก.(อ.มัจฉชาดก) 56/207/1656/207/16 56/154/19 |
56 | ท้าวปัชชุนนะ เป็นเทวราชของเทพวลาหก (อ.มัจฉชาดก) 56/209/156/209/1 56/155/17 |
57 | [๗๖] " เราไม่มีความระแวงในบ้าน ไม่มีภัยในป่า เราได้ขึ้นเดินทางตรง ด้วยเมตตาและกรุณาแล้ว" (อสังกิยชาดก) 56/211/356/211/3 56/157/3 |
58 | ผู้รักษาตนชื่อว่า รักษาผู้อื่น รักษาผู้อื่นก็ชื่อว่ารักษาตน (อ.อสังกิยชาดก) 56/212/856/212/8 56/158/3 |
59 | เมื่อพระราชาไม่ครองราชย์โดยธรรม หมู่มนุษย์ไม่ตั้งอยู่ในธรรม เมื่ออกุศล-ธรรมหนาแน่น ฝนจักแล้ง และเกิดทุพภิกขภัย (อ.มหาสุบินชาดก) 56/221/556/221/5 56/164/11 |
60 | ในกาลที่โลกเสื่อม มนุษย์มีราคะกล้า กุมารีมีวัยยังไม่สมบูรณ์ จะสมสู่กับชายมีลูกตั้งแต่อายุน้อยๆ (อ.มหาสุบินชาดก) 56/222/656/222/6 56/165/4 |
61 | ในอนาคตมนุษย์ทั้งหลาย จะพากันละทิ้งเชษฐาปจายิกกรรม คือ ความเป็นผู้ประพฤติอ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่ (อ.มหาสุบินชาดก) 56/222/1756/222/17 56/165/14 |
62 | ในอนาคต สมัยของพระราชาผู้ไม่ตั้งอยู่ในธรรม จะไม่พระราชทานยศแก่มหา-อำมาตย์ แต่กลับพระราชทานยศแก่คนหนุ่มๆ เปรียบเหมือนนำโคหนุ่มที่ยังไม่ได้รับการฝึกมาเทียมแอก (อ.มหาสุบินชาดก) 56/223/1256/223/12 56/166/3 |
63 | ในอนาคต หมู่สตรี จะพากันเหลาะแหละโลเลในบุรุษ ลุ่มหลงในสุรา เอาแต่แต่งตัว ทุศีล คบชู้ เปรียบเหมือนนางหมาจิ้งจอกโซ ที่นอนใต้ตั่ง คอยกัดกินเชือกที่เขาฟั่นแล้ว (อ.มหาสุบินชาดก) 56/226/356/226/3 56/167/24 |
64 | เมื่อพระราชา ข้าราชการ พราหมณ์ และคฤหบดี ชาวนิคม ชาวชนบท นับแต่สมณะ และพราหมณ์ไม่ตั้งอยู่ในธรรมแม้เทวดาทั้งหลายก็จะไม่ทรงธรรมทำให้ฝนฟ้าแปรปรวน (อ.มหาสุบินชาดก) 56/229/656/229/6 56/170/6 |
65 | ในอนาคต ภิกษุอลัชชี เห็นแก่ปัจจัย จะนำธรรมที่แสดงแลกปัจจัย 4 บางพวกพากันนั่งที่ท้องถนน สี่แยก ประตูวัง แสดงธรรมแลกรูปิยะ.(อ.มหาสุบินชาดก) 56/230/956/230/9 56/171/1 |
66 | ภิกษุผู้ชั่วช้าจะคบกับคนชาติชั่ว พากันเบียดเบียนภิกษุผู้มีศีลเป็นที่รัก.(อ.มหาสุบินชาดก) 56/235/1856/235/18 56/174/20 |
67 | ทรงปรารภเศรษฐีขี้ตระหนี่ ชื่อ มัจฉริโกสิยะ ผู้อยากกินขนมเบื้อง พระศาสดาให้พระมหาโมคคัลลานะ ไปทรมานแล้วนำมาพระเชตวัน ถวายทานแก่ภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข ฟังธรรมแล้ว เศรษฐีและภรรยาได้โสดาปัตติผล.(อ.อิลลีสชาดก) 56/242/1156/242/11 56/179/11 |
68 | ทรงตรัสอดีต ครั้งพระมหาโมคคัลลานะ เป็นท้าวสักกะ ก็ได้ทรมาน อิลลีสเศรษฐีขี้ตระหนี่ เป็นคนกระจอก คนง่อย ตาเหล่ 2 ข้าง มีปุ่มที่หัว.(อ.อิลลีสชาดก) 56/251/956/251/9 56/186/2 |
69 | ทรงปรารภอำมาตย์ของพระเจ้าโกศล ไปร่วมกับพวกโจรในปัจจันตคาม ทำทีเข้าป่าให้พวกโจรปล้นชาวบ้านมาแบ่งกับตน เสร็จแล้วก็ค่อยกลับเข้าบ้าน เมื่อการกระทำปรากฏเขาจึงถูกลงโทษ พระศาสดาทรงแสดงอดีตอำมาตย์นี้ก็ทำอย่างนี้กในครั้งพระโพธิสัตว์เป็นพ่อค้าบัณฑิต. (อ.ขรัสสรชาดก) 56/260/956/260/9 56/192/12 |
70 | ทรงปรารภภิกษุผู้มักโอ้อวดรูปหนึ่ง ตรัสอดีต พระโพธิสัตว์เป็นจูฬธนุคคหบัณฑิตเป็นนายขมังธนูเจนจบการรบ แต่เป็นคนเตี้ยค่อม ได้อาศัยภีมเสนช่างหูก ให้ออกหน้าแทนด้วยอุบายของตน ภีมเสนจึงได้ยศใหญ่โต ต่อมามีการรบ ภีมเสนกลัวจนอุจจาระรดหลังช้าง พระโพธิสัตว์จึงแสดงตนเองเอาชนะสงครามได้ มีชื่อดังทั้งชมพูทวีป ภีมเสนนั้นเป็นภิกษุที่มักคุยโอ้อวดนี้. (ภีมเสนชาดก) 56/264/956/264/9 56/195/9 |
71 | ทรงปรารภพระสาคตะ ตรัสอดีตฤๅษีครั้งก่อนพากันอยู่ในอุทยาน พระราชาถวายสุรา ดื่มเข้าไปแล้วพากันแสดงอาการ แปลกต่างๆ เมื่อหายเมาจึงสลดใจพากันกลับหิมวันตประเทศ อยู่กับพระโพธิสัตว์ผู้เป็นอาจารย์ (อ.สุราปานชาดก) 56/273/1056/273/10 56/202/11 |
72 | [๘๒] " ท่านเลยปราสาทแก้วผลึก ปราสาทเงิน และปราสาทแก้วมณีมาแล้ว มาถูกจักรกรดสำเร็จด้วยหินพัดผันอยู่ ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ ก็จักไม่พ้นจากจักรกรดตราบนั้น (มิตตวินทกชาดก) 56/280/356/280/3 56/207/13 |
73 | สหายเล่นฝุ่น และเรียนศิลปะร่วมกันกับอนาถบิณฑิกเศรษฐี เกิดตกยาก ได้มาอาศัยเศรษฐี เขาชื่อว่า กาฬกรรณี คนทั้งหลายบอกเศรษฐีไม่ให้คบ แต่เศรษฐีไม่ถือประมาณ วันหนึ่ง นายกาฬกรรณี ได้รักษาสมบัติของเศรษฐีจากโจรไว้ได้พระศาสดาทรงตรัสครั้งอดีตก็มีคนชื่อ กาฬกรรณี รักษาทรัพย์ของมิตรไว้เช่นกัน.(กาฬกัณณิชาดก) 56/283/1556/283/15 56/210/6 |
74 | [๘๔] ประตูด่านแรกแห่งประโยชน์ 6 ประการ คือ 1. ความไม่มีโรค 2. ศีล 3. ความคล้อยตามผู้รู้ 4. การสดับตรับฟัง 5. ความประพฤติตามธรรม 6. ความไม่ท้อถอย(อัตถัสสทวารชาดก) 56/288/356/288/3 56/213/3 |
75 | บุตรเศรษฐีคนหนึ่ง ในกรุงสาวัตถี มีอายุ 7 ขวบ เป็นผู้ฉลาดถามปัญหา ด้วยประตูแห่งประโยชน์แก่บิดา บิดาจึงพาบุตรไปถามต่อพระศาสดา พระองค์แสดงอดีตเด็กนี้เป็นลูกเศรษฐีผู้เป็นพระโพธิสัตว์ ก็เคยถามปัญหาแบบนี้มาแล้ว.(อ.อัตถัสสทวารชาดก) 56/288/1356/288/13 56/213/14 |
76 | ทรงปรารภภิกษุผู้กระสัน ตรัสโทษของกามว่า น่ารื่นรมย์ในเวลาบริโภค แต่การบริโภคนั้นเหมือนการบริโภคผลไม้มีพิษ ทรงแสดงอดีตพระโพธิสัตว์เป็นนายกองเกวียน คุมกองเกวียน 500 เล่ม เข้าดง แล้วได้บอกให้บริวารอย่ากินผลกิมปักกะลูกเท่าผลมะม่วง เมื่อกินแล้วกัดไส้ทำให้สิ้นชีวิต (อ.กิมปักกชาดก) 56/293/856/293/8 56/217/8 |
77 | พราหมณ์คนหนึ่งอาศัยพระเจ้าโกศลเลี้ยงชีวิต เป็นผู้ถึงไตรสรณคมน์ มีศีล 5 ไม่ขาด พราหมณ์ได้ทดลองพระราชาว่ายกย่องตนด้วยชาติ หรือศีล ครั้นทราบแล้วก็ขออนุญาตไปบวช แล้วได้บรรลุพระอรหัต พระศาสดาทรงแสดงอดีต พระโพธิสัตว์ ก็เคยทดลองแบบนี้ (อ.สีลวีมังสนชาดก) 56/297/1156/297/11 56/220/11 |
78 | [๘๗] " ผู้ใดไม่ถือมงคลตื่นข่าว ไม่ถืออุกกาบาต ไม่ถือความฝัน ไม่ถือลักษณะดีหรือชั่ว ผู้นั้นชื่อว่าล่วงพ้นโทษแห่งการถือมงคลตื่นข่าว ครอบงำกิเลสเครื่องประกอบสัตว์ไว้ในภพที่เป็นคูกั้น ย่อมไม่กลับมาเกิดอีก" (มังคลชาดก) 56/303/356/303/3 56/224/12 |
79 | ชื่อว่า การถือมงคลตื่นข่าวนี้ พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระโพธิสัตว์ทั้งหลาย ไม่สรรเสริญเลย (อ.มังคลชาดก) 56/307/556/307/5 56/227/19 |
80 | [๘๘] " พึงเปล่งแต่วาจาดี เท่านั้น ไม่พึงเปล่งวาจาชั่วเลย การเปล่งวาจาดีสำเร็จประโยชน์ได้ เปล่งวาจาชั่วย่อมเดือดร้อน"(สารัมภชาดก) 56/310/356/310/3 56/229/18 |
81 | ทรงปรารภภิกษุผู้หลอกลวงรูปหนึ่ง ตรัสอดีตภิกษุนี้เป็นชฎิลโกงขโมยทอง 100แท่ง ของกุฎุมพี ผู้สร้างศาลาให้ แถมเมื่อหลีกไปยังลวงทำเป็นเอาหญ้าที่ติดไปกับชฎามาคืน พระโพธิสัตว์เป็นผู้มาอาศัยพักแรมในบ้านกุฎุมพี ท่านฟังคำของชฎิลนั้นแล้วรู้ว่าเขาขโมยทองไป จึงช่วยกุฎุมพีนำทองกลับมา (อ.กุหกชาดก) 56/312/956/312/9 56/231/12 |
82 | [๙๐] " ผู้ใดอันท่านทำดีให้ก่อน ทำประโยชน์ให้ก่อน แต่ไม่รู้จักคุณผู้นั้น เมื่อมีกิจการเกิดขึ้น ภายหลัง ย่อมไม่ได้ผู้ช่วยเหลือ" (อกตัญญูชาดก) 56/316/356/316/3 56/234/10 |
83 | ภิกษุผู้ไม่ได้พิจารณาปัจจัย 4 แล้วบริโภค โดยมากจะไม่พ้นจากนรก และกำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน (อ.ลิตตชาดก) 56/321/1456/321/14 56/238/14 |
84 | [๙๒] " ยามคับขันย่อมปรารถนาผู้กล้าหาญ ยามปรึกษาการงาน ย่อมปรารถนาคนไม่พูดพล่าม ยามมีข้าวน้ำย่อมปรารถนาคนอันเป็นที่รักแห่งตน ยามต้องการเหตุผล ย่อมปรารถนาบัณฑิต " (มหาสารชาดก) 56/325/356/325/3 56/241/3 |
85 | ทรงปรารภพระอานนท์เถระ ทำอุบายให้พระเจ้าปเสนทิโกศล ได้แก้วมณี คืน แล้วตรัสอดีตพระโพธิสัตว์ ทำอุบายให้นางลิงในอุทยาน คืนเครื่องประดับของพระเทวีทำให้คน 5 คนพ้นข้อกล่าวหา (อ.มหาสารชาดก) 56/325/1356/325/13 56/241/12 |
86 | [๙๓] " บุคคลไม่ควรไว้วางใจ ในผู้ที่ยังไม่คุ้นเคยกัน แม้ผู้ที่คุ้นเคยกันแล้ว ก็ไม่ควรไว้วางใจ ภัยย่อมมาจากผู้ที่คุ้นเคยกัน เหมือนภัยของราชสีห์ เกิดจาก แม่เนื้อ ฉะนั้น" (วิสสาสโภชนชาดก) 56/339/356/339/3 56/251/15 |
87 | ภิกษุที่ไม่พิจารณาแล้วบริโภค เมื่อตาย ย่อมไม่พ้นจากอัตภาพแห่งยักษ์ และเปรต (อ.วิสสาสโภชนชาดก) 56/340/156/340/1 56/252/14 |
88 | พระโพธิสัตว์ทดลองเป็นชีเปลือย (อ.โลมหังสชาดก) 56/345/1256/345/12 56/256/13 |
89 | [๙๕] " สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงหนอ มีความเกิดขึ้น และความเสื่อมไปเป็นธรรมดาเกิดขึ้นแล้วย่อมดับไป ความที่สังขารเหล่านั้นสงบระงับเป็นสุข" (มหาสุทัสสนชาดก) 56/348/356/348/3 56/258/5 |
90 | [๙๖] " บุคคลพึงประคอง ภาชนะอันเต็มเปี่ยมด้วยน้ำมัน ฉันใด บัณฑิตผู้ปรารถนาจะไปสู่ทิศที่ยังไม่เคยไป ก็พึงตามรักษาจิตของตนไว้ ด้วยสติฉันนั้น" .(เตลปัตตชาดก) 56/353/356/353/3 56/262/3 |
91 | ความงามของนางชนบทกัลยาณี (อ.เตลปัตตชาดก) 56/354/1756/354/17 56/263/10 |
92 | พระปัจเจกพุทธเจ้าทำพระปริตร(อ.เตลปัตตชาดก) 56/359/1456/359/14 56/266/21 |
93 | " ท่านผู้มีปัญญา พึงรักษาจิตที่เห็นได้ยากแท้ ละเอียดลออ พลันตกไปในอารมณ์ที่น่าปรารถนา จิตที่คุ้มครองไว้ได้แล้ว นำความสุขมาให้" (อ.เตลปัตตชาดก) 56/366/1556/366/15 56/271/25 |
94 | เปลี่ยนชื่อดีจริงหรือ (อ.นามสิทธิชาดก) 56/370/856/370/8 56/274/7 |
95 | ทรงแสดงพ่อค้าโกงผู้หนึ่ง เมื่อครั้งอดีตก็โกงพระโพธิสัตว์ เช่นกัน โดยให้พ่อของตนเข้าไปอยู่ในโพรงไม้ ทำทีวินิจฉัยในการแบ่งรายได้จากการค้าให้ตน 2 ส่วนพระโพธิสัตว์ส่วนเดียว พระโพธิสัตว์จึงเอาฟางอุดโพรงไม้แล้วจุดไฟใส่ .(อ.กูฏวาณิชชาดก) 56/375/856/375/8 56/277/14 |
96 | ทรงแสดงอดีต ที่พระสารีบุตรก็พยากรณ์ปัญหา ที่พระองค์ทรงกล่าวอย่างย่อได้โดยพิสดาร ครั้งที่พระโพธิสัตว์เป็นฤๅษี พระสารีบุตรเป็นลูกศิษย์ผู้ใหญ่ของโดสท่านท่าน (อ.ปโรสหัสสชาดก) 56/379/956/379/9 56/281/2 |
97 | [๑๐๐] " สิ่งที่ไม่เป็นที่พอใจ สิ่งที่ไม่เป็นที่รัก สิ่งที่เป็นทุกข์ ย่อมครอบงำผู้ประมาทด้วยสิ่งเป็นที่พอใจ สิ่งเป็นที่รักและสิ่งที่เป็นสุข " (อสาตรูปชาดก) 56/383/356/383/3 56/283/18 |
98 | ทรงแสดงบุรพกรรมที่พระนางสุปปวาสาต้องตั้งครรภ์พระสีวลี อยู่ 7 ปี และครรภ์หลงอีก 7 วัน (อ.อสาตรูปชาดก) 56/383/1256/383/12 56/284/6 |
99 | [๑๐๑] " คนโง่เขลามาประชุมกัน แม้ตั้งร้อยคนขึ้นไป พวกเขาไม่มีปัญญา พึงเพ่งดูอยู่ตั้งร้อยปี ผู้ใดรู้แจ้งเนื้อความแห่งภาษิต ผู้นั้นเป็นบุรุษมีปัญญา คนเดียวเท่านั้น ประเสริฐกว่า" (ปโรสตชาดก) 56/390/456/390/4 56/289/4 |
100 | [๑๐๒] " ยามเมื่อฉันมีทุกข์ ผู้ใดเล่าเป็นที่พึ่ง ท่านผู้นั้นคือ บิดาของฉัน กำลังประทุษร้ายฉันในป่า ฉันจะร้องหาใครในกลางป่า ท่านผู้จะช่วยได้กลับทำกรรมอันสาหัสเสียเอง" (ปัณณิกชาดก) 56/392/356/392/3 56/290/10 |
101 | [๑๐๓] " ไพรีอาศัยอยู่ในที่ใด บัณฑิตไม่พึงอยู่ในที่นั้น บุคคลอยู่ในพวกไพรี คืนหนึ่งหรือสองคืนย่อมอยู่เป็นทุกข์" (เวริชาดก) 56/396/356/396/3 56/293/3 |
102 | [๑๐๔] " ผู้ที่มีความปรารถนาเกินส่วน มีอยู่ 4 ก็ต้องการ 8 มี 8 ก็ต้องการ 16 มี16 ก็ต้องการ 32 บัดนี้มาได้รับกงจักรกรด กงจักรกรดพัดอยู่เหนือศีรษะ ของคนผู้ลุอำนาจความปรารถนา" (มิตตวินทชาดก) 56/399/356/399/3 56/295/3 |
103 | ทรงปรารภภิกษุผู้กลัวตายรูปหนึ่ง ได้ยินเสียงอะไรก็ร้องลั่นวิ่งหนี จึงตรัสอดีตภิกษุนี้เป็นช้างถูกฝึกก็กลัวหนีเข้าป่า มีการหวาดกลัว แม้แต่เสียงลม พระโพธิ-สัตว์เป็นรุกขเทวดาสงสาร จึงให้โอวาทช้างนั้น ช้างจึงหายกลัว (อ.ทุพพลกัฏฐชาดก) 56/402/956/402/9 56/297/8 |
104 | ทรงปรารภภิกษุผู้กระสัน เพราะมีจิตปฏิพัทธ์ในหญิงสาวเจ้าเนื้อนางหนึ่ง ตรัสอดีตภิกษุนี่เป็นดาบสบุตรของพระโพธิสัตว์ อยู่ในป่าก็ถูกนางทำให้เสียศีล และนำไปอยู่ด้วยในถิ่นมนุษย์ เมื่อถูกนางเคี่ยวเข็ญ ให้หาสิ่งนั้นสิ่งนี้มาให้ เขาก็หนีกลับไปอยู่ป่ากับพระโพธิสัตว์ตามเดิม (อ.อุทัญจนีชาดก) 56/405/956/405/9 56/299/17 |
105 | ทรงปรารภภิกษุผู้นำก้อนกรวดฆ่าหงส์รูปหนึ่ง ตรัสอดีตภิกษุนี้เป็นบุรุษง่อย ผู้ดีดขี้แพะทะนานหนึ่งเข้าปากพราหมณ์ปุโรหิตของพระเจ้าพาราณสี ทำให้เป็นคนพูดน้อยลงได้ แล้วพระราชาพระราชทานบ้านส่วยแก่บุรุษง่อยนั้น..(อ.สาลิตตกชาดก) 56/409/956/409/9 56/302/13 |
106 | ทรงปรารภเจ้าลิจฉวีองค์หนึ่ง มีพระเทวีอ้วน ตรัสอดีตทั้งสองก็เป็นคู่ครองกันลูกในท้องของนางได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ พระราชาทรงพอพระทัยที่เห็นนางนั่งคลุมหัวถ่ายอุจจาระ ที่พระลานหลวง พระโพธิสัตว์เป็นอำมาตย์ (อ.พาหิยชาดก) 56/414/1056/414/10 56/306/14 |
107 | พระศาสดา ตรัสให้มหาทุคตบุรุษรับทรัพย์ แล้วให้ส่วนบุญ (อ.กุณฑกปูวชาดก) 56/419/2056/419/20 56/310/14 |
108 | [๑๑๐] " กลิ่นเครื่องอบทั้งปวงไม่มี มีแต่กลิ่นดอกประยงค์ ล้วนฟุ้งไป หญิงนักเลงคนนี้ ย่อมกล่าวคำเหลาะแหละ หญิงผู้ใหญ่กล่าวคำจริง" (อ.สัพพสังหารกปัญหา) 56/423/356/423/3 56/313/3 |
109 | [๑๑๑] " ข้าแต่พระราชาผู้ประเสริฐ ถ้าพระองค์ทรงสำคัญอย่างนี้ว่า บิดาประเสริฐกว่าบุตรไซร้ ถ้าเช่นนั้นลาตัวนี้ ก็ประเสริฐกว่าม้าอัสดรของพระองค์เพราะลาเป็นพ่อม้าอัสดร" (คัทรภปัญหา) 56/425/456/425/4 56/314/4 |
110 | [๑๑๒] " ร้านขายข้าวสัตตู ร้านขายน้ำส้มพะอูม และต้นทองหลางใบมน ซึ่งมีดอกบานแล้ว มีอยู่ ณ ที่ใดท่านจงไป ณ ที่นั้นเถิด ฉันให้ของด้วยมือใด ฉันย่อมกล่าวด้วยมือนั้น ฉันไม่ได้ให้ของด้วยมือใด ฉันไม่กล่าวด้วยมือนั้น นี่เป็นหนทางของบ้าน ชื่อว่า ยวมัชฌกคาม ท่านจงรู้ทางที่ฉันกล่าวปกปิด นี้เองเถิด".(อมราเทวีปัญหา) 56/426/356/426/3 56/315/3 |
111 | ทรงปรารภพระเทวทัตมักกล่าวมุสาวาท ตรัสอดีตพระเทวทัต เป็นหมาจิ้งจอกกินเหล้าเมาแล้ว หลอกพราหมณ์ให้อุ้มตนไปนอกเมืองด้วยทรัพย์ 200 กหาปณะ หลอกให้พราหมณ์ ขุดดิน แล้วตนขี้เยี่ยวใส่ผ้าของพราหมณ์ แล้วหลีกไป พระโพธิสัตว์เป็นรุกขเทวดา (อ.สิคาลชาดก) 56/427/856/427/8 56/316/10 |
112 | ทรงปรารภพระเถระผู้เฒ่า 2 องค์ เป็นคนเกียจคร้าน มัวผัดวันประกันพรุ่งต่อ3 เดือนจึงได้มาเข้าเฝ้าพระศาสดา พระองค์ตรัสอดีต พระเถระทั้ง 2 เป็นปลาก็เป็นเช่นนี้ จึงเข้าไปในข่ายชาวประมง อาศัยพระโพธิสัตว์ซึ่งเกิดเป็นปลาด้วยกันจึงช่วยให้ออกจากข่ายได้ (อ.มิตจินติชาดก) 56/431/956/431/9 56/319/12 |
113 | ภิกษุณีรูปหนึ่งติดใจในอามิสไม่ใส่ใจในสมณธรรม เที่ยวบอกภิกษุณีอื่นไม่ให้ไปบิณฑบาตในเขตที่ตนไปนั้นว่ามีหมาดุ จึงไม่มีใครไป วันหนึ่งนางถูกแพะชนขาหัก พระศาสดาตรัสอดีตที่นางเป็นนก ก็เที่ยวบอกนกตัวอื่นไม่ให้ไปหากินบริเวณทางใหญ่ แต่ตนเองไป จึงถูกล้อรถเหยียบตาย พระโพธิสัตว์เป็นนกจ่าฝูง. (อ.อนุสาสิกชาดก) 56/435/1056/435/10 56/322/12 |
114 | ทรงปรารภภิกษุผู้ว่ายากรูปหนึ่ง ตรัสอดีต ภิกษุนั้นเป็นอาจารย์ นักฟ้อนกระโดดข้ามหอก เมาเหล้าแล้วจะกระโดดข้ามหอก 5 เล่ม พระโพธิสัตว์เป็นลูกศิษย์ ได้เตือนแล้วก็ไม่ฟัง จึงถูกหอกเสียบตาย (ทุพพลชาดก) 56/439/856/439/8 56/325/11 |
115 | ทรงปรารภพระโกกาลิกะ อาศัยวาจาของตนจึงต้องพินาศ ตรัสอดีตเขาเป็นดาบสและได้บอกกับดาบสผู้หนึ่งซึ่งกำลังผ่าไม้อยู่ว่าต้องผ่าอย่างนั้น ต้องฟันในที่นี้จึงถูกดาบสนั้นฟันตาย พระโพธิสัตว์เป็นอาจารย์ในตอนนั้น (อ.ติตติรชาดก) 56/442/856/442/8 56/327/12 |
116 | [๑๑๘] " บุรุษเมื่อไม่คิด ก็ย่อมไม่ได้ผลพิเศษ ท่านจงดูผลแห่งอุบายที่เราคิดเถิดเราพ้นจากการถูกฆ่า และจองจำ ก็ด้วยอุบายนั้น" (วัฏฏกชาดก) 56/445/356/445/3 56/329/11 |
117 | บุตรของอุตตรเศรษฐี จุติจากพรหมโลกมาเกิด จึงไม่ต้องการสตรี วันหนึ่งมีงานนักขัตฤกษ์ พวกสหายได้ส่งนางวรรณทาสีไปให้เขา พอนางเริ่มแสดงเสน่ห์หญิงโปรยยิ้มเอียงอาย เขาเห็นฟันของนางจึงได้อัฏฐิกสัญญา ร่างงามนั้นปรากฏ เป็นกระดูกหมด จึงให้รางวัลนางแล้วส่งกลับ แต่นางไปกับผู้อื่น เมื่อสิ้นงานนักขัต-ฤกษ์ มารดาของนางหานางไม่พบจึงร้องเรียน ทำให้เขาถูกพระราชาสั่งลงโทษครั้นพ้นโทษมาได้ จึงบวชได้บรรลุพระอรหัต พระศาสดาตรัสอดีตที่พระองค์เป็นนกกระจาบ เมื่อถูกนายพรานจับไป ก็ใช้ความคิด จึงรอดชีวิตมาได้(อ.วัฏฏกชาดก) 56/445/1156/445/11 56/330/1 |
118 | ทรงปรารภภิกษุผู้ท่องบ่นไม่เป็นเวลารูปหนึ่ง ตรัสอดีตภิกษุนี้เป็นไก่ขันไม่เป็นเวลาทำให้คนมาเรียนศิลปะไม่สำเร็จประโยชน์ จึงถูกบิดคอตาย พระโพธิสัตว์เป็นอาจารย์ของคนเหล่านั้น. (อ.อกาลราวิชาดก) 56/451/856/451/8 56/334/11 |
119 | ทรงปรารภนางจิญจมาณวิกา ครั้งอดีตก็ได้กล่าวตู่พระโพธิสัตว์ซึ่งเป็นปุโรหิตนางเป็นอัครมเหสีของพระเจ้าพรหมทัต ได้ประพฤติผิดกับบุรุษ 64 คน แล้วกล่าวตู่ว่าปุโรหิตข่มขืน ปุโรหิตกราบทูล ความจริงแก่พระราชาแล้ว ขอพระราชทานอภัยโทษแก่คน 64 คน และพระนางด้วย (อ.พันธนโมกขชาดก)ด 56/454/956/454/9 56/337/6 |
120 | [๑๒๑] " บุคคลผู้เสมอกัน ประเสริฐกว่ากัน หรือเลวกว่ากัน ก็ควรคบกันไว้ เพราะมิตรเหล่านั้น เมื่อความเสื่อมเกิดขึ้น ก็พึงทำประโยชน์อันอุดมให้ได้ ดูเราผู้เป็นรุกขเทวดา และเทวดาผู้เกิดที่กอหญ้าคาคบกัน ฉะนั้น" (กุสนาฬิชาดก) 56/463/456/463/4 56/343/4 |
121 | เทวดาช่วยเทวดา (อ.กุสนาฬิชาดก) 56/466/1156/466/11 56/345/25 |
122 | [๑๒๒] "ผู้มีปัญญาทรามได้ยศแล้ว ย่อมประพฤติสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์แก่ตนย่อมปฏิบัติเพื่อความเบียดเบียนตน และคนอื่น" (ทุมเมธชาดก) 56/469/356/469/3 56/348/3 |
123 | ทรงปรารภพระเทวทัต ที่ริษยา พระพุทธเจ้า ตรัสอดีตพระโพธิสัตว์เป็นช้างมงคลของพระราชามคธ คือ เทวทัต เมื่อประชาชนพากันชมเชยช้างมงคลว่าเหมาะกับพระเจ้าจักรพรรดิ พระราชาเกิดริษยา ทำอุบายจะให้ช้างตกเหวตาย ช้างและนายหัตถาจารย์ จึงเหาะหนีไปอยู่กับพระเจ้าพาราณสี (อ.ทุมเมธชาดก) 56/469/1156/469/11 56/348/11 |
124 | ทรงปรารภพระโลลุทายี ผู้ไม่รู้ข้อที่ควรกล่าว และข้อที่ไม่ควรกล่าว ตรัสอดีตพระโพธิสัตว์เป็นอาจารย์แต่ก็ไม่สามารถสอนให้มาณพฉลาดขึ้นได้ มาณพนั้นเปรียบนมสด และนมส้มว่าเหมือนงอนไถ มาณพนั้นได้แก่ พระโลลุทายี (อ.นังคลีสชาดก) 56/475/956/475/9 56/352/13 |
125 | [๑๒๔] " บุรุษผู้เป็นบัณฑิต ควรพยายามร่ำไป ไม่ควรเบื่อหน่าย จงดูผลแห่งความพยายามผลมะม่วงทั้งหลาย ที่มีให้บริโภคอยู่ ก็ด้วยความพยายามทั้งนั้นไม่ใช่ของที่มีมาได้เอง" (อัมพชาดก) 56/480/356/480/3 56/356/3 |
126 | ทรงปรารภภิกษุผู้ถึงพร้อมด้วยวัตรรูปหนึ่ง ทำให้ภิกษุทั้งหลายได้อยู่อย่างมีสุขตรัสอดีตภิกษุนี้เป็นดาบส ในคราวแห้งแล้งได้ให้น้ำดื่มแก่พวกสัตว์ดิรัจฉานสัตว์เหล่านั้นจึงคาบผลไม้ มาให้ดาบสทั้ง 500 ก็เลยได้อาศัยผลไม้ เหล่านั้นโดยไม่ต้องออกไปหาผลาผล (อ.อัมพชาดก) 56/480/1256/480/12 56/356/11 |
127 | ทรงปรารภภิกษุขี้โอ่รูปหนึ่ง ตรัสอดีตภิกษุนี้เป็นทาสของเศรษฐีผู้โพธิสัตว์ ได้เรียนหนังสือกับบุตรเศรษฐี ฉลาดในถ้อยคำ เขาได้ปลอมหนังสือ อ้างตัวว่าเป็นลูกชายเศรษฐีในชนบท เพื่อยกธิดาให้ตน เขาชอบติเตียนผ้า และอาหารของคนบ้านนอก พระโพธิสัตว์ไปในที่นั้นแล้วให้คำกล่าวเตือนไว้กับธิดาเศรษฐี ทำให้เขารู้จักลดมานะของตนลง (อ.อฏาหกชาดก) 56/484/956/484/9 56/359/8 |
128 | ทรงปรารภพราหมณ์ ผู้ตรวจลักษณะดาบของพระเจ้าโกศล ที่รับสินบนพ่อค้าพวกใด ก็จะดมดาบแล้วบอกว่าดาบนั้นสมบูรณ์ วันหนึ่งถูกพริกป่นทาดาบ เป็นเหตุให้จมูกขาด พระศาสดาตรัสอดีต พราหมณ์นี้ก็ทำแบบเดียวกันนี้ พระโพธิ-สัตว์ เป็นหลานของพระราชา ได้ราชธิดาและครองราชย์สมบัติ. (อ.อสิลักขณชาดก) 56/491/956/491/9 56/364/13 |
129 | ทรงปรารภภิกษุผู้มักโอ้อวดรูปหนึ่ง ตรัสอดีตภิกษุนี้เป็นทาสของพาราณสีเศรษฐีเขาหนีไปครอบครองธิดาของปัจจันตเศรษฐี เขาไม่สำนึกถึงชาติกำเนิดตน เวลาไปเล่นน้ำจะบ้วนปากด้วยนมสดแล้วถ่มลงบนหัวของธิดาเศรษฐี นกแขกเต้าที่เศรษฐีพาราณสีส่งมาตามหาเขาได้เห็นเหตุการณ์แล้ว นำไปแจ้งแก่เศรษฐีพาราณสีเศรษฐีจึงลงอาชญาแก่เขา นำกลับสู่นครพาราณสีให้ใช้สอยอย่างทาสตามเดิม.(อ.กลัณฑุกชาดก) 56/498/956/498/9 56/369/5 |
130 | ทรงปรารภภิกษุผู้หลอกลวงรูปหนึ่ง ตรัสอดีตภิกษุนี้ เป็นหมาจิ้งจอก ทำท่ายืนขาเดียว อ้าปากดูดวงอาทิตย์ ทำเป็นมีศีล ลวงให้ฝูงหนูตายใจแล้วจับหนูกินพระโพธิสัตว์เป็นหัวหน้าหนู ได้กัดหมาจิ้งจอกตาย หนูในฝูงก็รุมกิน.(อ.มูสิกชาดก) 56/501/956/501/9 56/371/11 |
131 | ทรงปรารภภิกษุผู้หลอกลวงรูปหนึ่ง ตรัสอดีตภิกษุนี้เป็นหมาจิ้งจอก ถูกไฟไหม้หมดตัว เหลือเพียงขนตรงหัวหน่อยหนึ่ง อาศัยเหตุนี้ ได้หลอกลวงฝูงหนูว่าจะคุ้มครองโดยการนับจำนวนหางของหนูทั้งเช้าเย็น แล้วแอบตะครุบตัวสุดท้ายกิน พระโพธิสัตว์เป็นพญาหนู (อ.อัคคิกชาดก) 56/505/956/505/9 56/374/6 |
132 | เมียพราหมณ์อุบาสกผู้หนึ่ง กลางคืนมีชู้ กลางวันนอนทำทีป่วยไม่ทำการงานพราหมณ์ไปเข้าเฝ้าพระศาสดา พระองค์ตรัสอดีตที่พราหมณ์เป็นลูกศิษย์ และมีเมียเป็นแบบเดียวกันนี้ พระโพธิสัตว์เป็นอาจารย์ ได้บอกอุบายทำยา และถือไม้หวายไว้ ถ้าไม่กินยาก็ต้องทำงาน เมียพราหมณ์จึงกลับตัวเป็นผู้มีศีล..(อ.โกสิยชาดก) 56/508/956/508/9 56/376/11 |
133 | ทรงปรารภความอกตัญญูของพระเทวทัต ตรัสอดีตครั้งเป็นเศรษฐีสหายกัน สังข-เศรษฐีได้แบ่งทรัพย์ให้ครึ่งหนึ่ง แก่ปิลิยเศรษฐีผู้ตกยาก ในคราวที่สังขเศรษฐีตกยาก ไปขอพึ่งกลับได้ข้าวลีบ 4 ทะนาน ความนี้ทราบถึงพระราชา ทรงสั่งให้ปิลิย-เศรษฐี คืนทรัพย์แก่สังขเศรษฐี ปิลิยเศรษฐี คือ พระเทวทัต (อ.อสัมปาทานชาดก) 56/514/1356/514/13 56/380/15 |
134 | [๑๓๒] " เราไม่ตกอยู่ในอำนาจของพวกรากษส เพราะความเพียรมั่นคง ดำรงอยู่ในคำแนะนำของท่านผู้ฉลาด และความไม่หวาดหวั่นต่อภัย และความสยดสยองสวัสดิภาพจากภัย อันใหญ่หลวงจึงมีแก่เรา" (ปัญจภีรุกชาดก) 56/522/356/522/3 56/385/14 |
135 | นาคราชทำไฟให้ลุกขึ้นจากน้ำ (อ.ฆตาสนชาดก) 56/528/2056/528/20 56/390/21 |
136 | [๑๓๔] " สัตว์เหล่าใดเป็นผู้มีสัญญา แม้สัตว์เหล่านั้น ก็ชื่อว่าเป็นทุคตะ สัตว์เหล่าใดเป็นผู้ไม่มีสัญญา ถึงสัตว์เหล่านั้น ก็ชื่อว่าเป็นทุคตะ ท่านจงละเว้นความเป็นสัญญีสัตว์ และอสัญญีสัตว์ทั้งสองนี้เสีย สุขอันเกิดจากสมาบัตินั้นเป็นสุขที่ไม่มีกิเลสเครื่องยียวน" (ฌานโสธนชาดก) 56/531/356/531/3 56/392/11 |
137 | [๑๓๕] " ผู้ใดในโลกนี้ หยั่งได้ด้วยปรีชา ซึ่งแสงจันทร์ และแสงอาทิตย์ ผู้นั้นย่อมเข้าถึง อาภัสรพรหมได้ด้วยฌาน อันหาวิตกมิได้" (จันทาภชาดก) 56/534/356/534/3 56/395/3 |
138 | โลภมากลาภหาย คือ ทรงปรารภภิกษุณีถูลนันทา ที่ขอกระเทียมเกินประมาณตรัสอดีตนางเป็นพราหมณีของพระโพธิสัตว์ มีธิดา 3 คน เมื่อพระโพธิสัตว์ตายแล้วไปเกิดเป็นพระยาหงส์ทอง ได้มาให้ขนที่เป็นของตนทีละขน แต่ด้วยความปรารถนาใหญ่ของนางพราหมณี จึงจับพระโพธิสัตว์ถอนขนจนหมด ขนนั้นจึงกลายเป็นขนธรรมดา และงอกออกมาใหม่ก็เป็นขนธรรมดา (อ.สุวรรณหังสชาดก) 56/536/956/536/9 56/397/11 |
139 | ทรงปรารภเรื่องที่ภิกษุ 4 รูป ได้ไปรับขนมที่บ้านนางกาณมารดา ตรัสอดีตนางเกิดเป็นหนู เพราะห่วงทรัพย์ พระโพธิสัตว์เป็นช่างสลักหิน ได้ทำถ้ำแก้วผลึกให้ป้องกันแมว 4 ตัว ซึ่งก็มาเป็นภิกษุ 4 รูปนี้ (อ.พัพพุชาดก) 56/541/956/541/9 56/401/6 |
140 | ทรงปรารภภิกษุผู้หลอกลวงรูปหนึ่ง ตรัสอดีตพระโพธิสัตว์เป็นเหี้ย อยู่ในจอมปลวก ภิกษุนี้เป็นดาบสติดใจในรสเนื้อเหี้ย จึงคอยจ้องจะจับพระโพธิสัตว์แต่ไม่สำเร็จ (อ.โคธชาดก) 56/547/856/547/8 56/405/16 |
141 | ทรงปรารภพระเทวทัต ที่เสื่อมถอยจากโภคะแห่งคฤหัสถ์ และประโยชน์แห่งสมณะ ตรัสอดีตเขาเป็นพรานเบ็ดไปกับบุตร เบ็ดได้ติดที่ตอใต้น้ำ คิดว่าได้ปลา ตัวใหญ่ จึงวางแผนให้เมียทะเลาะกับเพื่อนบ้านไว้ จะได้ไม่ต้องแบ่งปลา จึงเกิดคดีความแต่กลับถูกปรับอีก 8 กษาปณ์ แม้เขาเองก็ตาแตก 2 ข้าง ผ้านุ่งก็หาย พระโพธิสัตว์เป็นรุกขเทวดาผู้เห็นเหตุการณ์นั้น..(อ.อุภโตภัตถชาดก) 56/551/856/551/8 56/409/5 |
142 | กาไม่มีมันเหลว (อ.กากชาดก) 56/558/1756/558/17 56/414/10 |
143 | [๑๔๑] " ผู้คบคนชั่ว ย่อมไม่ได้ความสุขโดยส่วนเดียว เขาย่อมทำตนให้ถึงความพินาศ เหมือนอย่างตระกูลเหี้ยพาตน และหมู่คณะถึงความวอดวาย เพราะกิ้งก่าฉะนั้น" (โคธชาดก) 56/561/456/561/4 56/416/4 |
144 | ทรงปรารภภิกษุผู้คบหาฝ่ายผิด ตรัสอดีตภิกษุนั้นเป็นลูกพญาเหี้ย ชื่อ โคธปิลลิกะได้คบหาสนิทกับกิ้งก่า พระโพธิสัตว์เป็นพญาเหี้ย บอกเตือนก็ไม่อาจให้เลิกความสนิทสนมได้ วันหนึ่งกิ้งก่าได้พานายพรานเหี้ยมาทำความวอดวายให้ฝูงเหี้ยเป็นอันมาก กิ้งก่า คือ พระเทวทัต (อ.โคธชาดก) 56/561/1156/561/11 56/417/1 |
145 | ทรงปรารภความพยายามเพื่อจะปลงพระชนม์พระศาสดาของพระเทวทัต ตรัสอดีตพระโพธิสัตว์เป็นสุนัขจิ้งจอกในป่าช้า พระเทวทัตเป็นนักเลงสุรา ครั้นเนื้อแกล้มสุราหมด จึงไปทำทีเป็นคนตาย นอนหงายถือไม้พลองอยู่ในป่าช้า พญา-จิ้งจอกรู้ว่าคนนี้ยังไม่ตาย ก็ไปคาบไม้พลองดึง แต่คนที่นอนอยู่ จับไม้พลองไว้แน่น (อ.สิคาลชาดก) 56/565/856/565/8 56/419/13 |
146 | ทรงปรารภความที่พระเทวทัตแสดงท่าทางอย่างพระสุคต ตรัสอดีตพระโพธิสัตว์เกิดเป็นไกรษรสีหราช พระเทวทัตเป็นหมาจิ้งจอก คอยรับใช้และกินเนื้อเดน จนมีร่างกายแข็งแรง ด้วยมานะ อยากทำเหมือนพระโพธิสัตว์ คิดจะฆ่าช้างแต่โดดพลาดถูกช้างเหยียบสมองเละ (อ.วิโรจนชาดก) 56/569/856/569/8 56/422/8 |
147 | ทรงปรารภตบะที่ผิดของพวกอาชีวก ตรัสอดีตครั้งพระโพธิสัตว์เป็นพราหมณ์เข้าไปบำเรอไฟในป่า วันหนึ่งได้วัวมา คิดว่าจะให้พระอัคคีได้ฉันเนื้อ จึงเข้าไปหาเกลือในบ้าน พวกนายพรานมาฆ่า และชำแหละวัวไปเหลือไว้แต่หาง และหนัง เขากลับมาจึงคิดว่า พระอัคคีไม่สามารถรักษาวัวของตนได้ แล้วจะรักษาเราได้อย่างไร จึงเลิกบูชาไฟแล้วบวช ทำอภิญญาสมาบัติให้เกิด มีพรหมโลกเป็นที่ไปในเบื้องหน้า (อ.นังคุฏฐชาดก) 56/574/956/574/9 56/426/13 |
148 | ทรงปรารภการเล้าโลมของภรรยาเก่าของภิกษุรูปหนึ่ง ตรัสอดีตภิกษุนี้เป็นพราหมณ์ เวลาจะไปทำการค้าขาย ได้ฝากให้พระโพธิสัตว์ซึ่งเป็นนกแขกเต้า 2 พี่น้อง ให้ดูแลนางพราหมณีผู้เป็นภรรยา แต่นางพราหมณีนั้นได้ประพฤตินอกใจเมื่อพราหมณ์กลับมา นกแขกเต้าก็ได้บอกความจริงให้รู้ แล้วก็พาน้องชายไปอยู่ในป่า (อ.ราธชาดก) 56/578/956/578/9 56/429/8 |
149 | ทรงปรารภภิกษุแก่ๆ หลายรูปด้วยกัน ที่ร้องไห้ถึงภรรยาเก่าของสหายที่ตาย ไป ตรัสอดีต พระเถระเหล่านั้นเกิดเป็นกา นางกาได้ถูกทะเลซัดออกไป ถูกปลากินแล้ว กาที่เหลือช่วยกัน วิดน้ำทะเลด้วยปาก แล้วร้องคร่ำครวญอยู่ พระโพธิสัตว์เป็นเทวดารักษาสมุทรจึงไล่พวกกาให้หนีไป (อ.กากชาดก) 56/582/956/582/9 56/432/9 |
150 | ทรงปรารภ ภิกษุผู้กระสันเพราะภรรยาเก่า ตรัสอดีตทั้งสองเป็นคู่สามีภรรยา สามีต้องถูกเสียบหลาว เพราะไปขโมยดอกคำของหลวงที่จะนำมาย้อมผ้าให้ภรรยา ขณะหลาวเสียบอยู่ก็พร่ำถึงแต่ภรรยา ตายไปนรก พระโพธิสัตว์เป็นอากาสัฏฐเทวดาผู้เตือนเขา (อ.ปุปผรัตตชาดก) 56/587/956/587/9 56/436/9 |
151 | เศรษฐีบุตรชาวสาวัตถี ประมาณ 500 คน บวชแล้วกลับคิดที่จะไปครองเรือนอีกพระศาสดาจึงให้ประชุม ภิกษุทั้งหมดในเชตวันวิหาร ตรัสอดีตพระโพธิสัตว์ เป็นสุนัขจิ้งจอกอาศัยความโลภเข้าไปติดในท้องช้าง เมื่อออกมาได้ ไม่เคยสนใจซากช้างอีกเลย จบสัจจะภิกษุ 500 เหล่านั้นบรรลุพระอรหัต (อ.สิคาลชาดก) 56/591/856/591/8 56/439/12 |
152 | โอรสของเจ้าลิจฉวี ชื่อ ทุฏฐลิจฉวี เป็นผู้มักโกรธ ดุร้าย หยาบคาย ไม่มีใครสอนได้ จึงถูกนำไปให้พระพุทธองค์สอน พระองค์ทรงโอวาทคราวเดียว เขาเป็นผู้หมดพยศ มีจิตอ่อนโยน พระศาสดาตรัสอดีตโอรสนี้ ก็ถูกพระโพธิสัตว์โอวาทครั้งเดียวเท่านั้น (อ.เอกปัณณชาดก) 56/598/856/598/8 56/444/10 |
153 | สนับสนุนผู้ทุศีล... ย่อมถึงความพินาศ (อ.สัญชีวชาดก) 56/613/356/613/3 56/455/15 |