1 | [๑] " คนพวกหนึ่งกล่าวฐานะอันหนึ่งว่าไม่ผิด นักเดาทั้งหลาย กล่าวฐานะอันนั้นว่า เป็นที่สอง คนมีปัญญารู้ฐานะ และมิใช่ฐานะนั้นแล้ว ควรถือเอาฐานะที่ไม่ผิดไว้" (อปัณณกชาดก) 55/1/955/1/9 55/1/9 |
2 | " เมื่อทุกข์มีอยู่ ขึ้นชื่อว่าสุขก็ต้องมีฉันใด เมื่อภพมีอยู่ แม้สภาพที่ปราศจากภพก็ควรปรารถนาฉันนั้น เมื่อความร้อนมีอยู่ ความเย็นอีกอย่างก็ต้องมี ฉันใด ไฟสามอย่างมีอยู่ พระนิพพานก็ควรปรารถนา ฉันนั้น เมื่อสิ่งชั่วมีอยู่ แม้ความดีงามก็ต้องมีฉันใด ความเกิดมีอยู่ แม้ความไม่เกิดก็ควรปรารถนาฉันนั้น" (ทูเรนิทาน) 55/7/955/7/9 55/7/5 |
3 | โทษของที่จงกรม มี 5 อย่าง คือ แข็งกระด้าง และขรุขระ มีต้นไม้ภายในมุงไว้รกรุงรัง คับแคบมากนัก กว้างขวางเกินไป. (ทูเรนิทาน) 55/12/855/12/8 55/11/18 |
4 | สุขของสมณะ 8 ประการ (ทูเรนิทาน) 55/13/655/13/6 55/12/15 |
5 | โคนต้นไม้ประกอบด้วยคุณ 10 ประการ (ทูเรนิทาน) 55/17/1955/17/19 55/17/2 |
6 | สุเมธดาบสตั้งความปรารถนา เป็นพระพุทธเจ้า (ทูเรนิทาน) 55/23/1155/23/11 55/22/15 |
7 | บุคคลปรารถนาความเป็นพระพุทธเจ้าจะสำเร็จได้ เพราะประมวลมาซึ่งธรรม 8 ประการ (ทูเรนิทาน) 55/24/1055/24/10 55/23/10 |
8 | พระทีปังกรพุทธเจ้าทรงพยากรณ์ สุเมธดาบส (ทูเรนิทาน) 55/26/2055/26/20 55/25/22 |
9 | สุเมธดาบส ตรวจดู และอธิษฐานบารมี 10 ประการ (ทูเรนิทาน) 55/33/1155/33/11 55/32/4 |
10 | ในกาลต่อจาก พระทีปังกรพุทธเจ้าล่วงมาได้หนึ่งอสงไขย พระโกณฑัญญพุทธเจ้าก็เสด็จอุบัติขึ้น พระโพธิสัตว์เกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ชื่อว่าวิชิตาวี ได้ฟังธรรมแล้วสละราชสมบัติออกบวช เรียนพระไตรปิฎก ทำสมาบัติ 8 อภิญญา 5 มีฌานไม่เสื่อมไปเกิดในพรหมโลก (ทูเรนิทาน) 55/50/955/50/9 55/47/19 |
11 | ในกาลต่อจาก พระโกณฑัญญพุทธเจ้า ล่วงได้หนึ่งอสงไขย ในกัปเดียวกันมีพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้น 4 พระองค์ คือ พระมังคละ พระสุมนะ พระเรวตะ พระโสภิตะ .(ทูเรนิทาน) 55/51/155/51/1 55/48/9 |
12 | เหตุที่ทำให้พระรัศมีจากสรีระกายของพระมังคลพุทธเจ้าได้แผ่ไปตลอดหมื่นโลกธาตุ ตลอดกาลเป็นนิตย์. (ทูเรนิทาน) 55/52/455/52/4 55/49/12 |
13 | ในกาลภายหลังพระมังคลพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว พระสุมนพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นพระโพธิสัตว์เกิดเป็นนาคราชชื่อว่า อตุละ พร้อมญาติ ได้บรรเลงดนตรีทิพย์ และถวายผ้าคู่แล้วตั้งอยู่ในสรณะ (ทูเรนิทาน) 55/57/1955/57/19 55/54/23 |
14 | ในกาลของพระเรวตพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์เป็นพราหมณ์ ชื่อว่า อติเทพ ได้ฟังธรรมแล้วตั้งอยู่ในสรณะ และได้ถวายผ้าห่ม (ทูเรนิทาน) 55/58/1655/58/16 55/55/17 |
15 | ในกาลของพระโสภิตพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์เป็นพราหมณ์ ชื่อ อชิตะ ได้ฟังธรรม ถวายมหาทาน ตั้งอยู่ในสรณะ (ทูเรนิทาน) 55/59/1055/59/10 55/56/9 |
16 | ภายหลังจากพระโสภิตพุทธเจ้า ล่วงได้หนึ่งอสงไขย ในกัปเดียวกันมีพระพุทธเจ้า3 พระองค์ได้เสด็จอุบัติขึ้น คือ พระอโนมทัสสี พระปทุมะ พระนารทะ ในกาลของพระอโนมทัสสีพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์เป็นเสนาบดีของยักษ์ตนหนึ่ง มีบริวารแสนโกฏิ ได้ถวายมหาทาน. (ทูเรนิทาน) 55/60/355/60/3 55/56/25 |
17 | ในกาลของพระปทุมพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ เป็นราชสีห์ มีจิตเลื่อมใสยืนเฝ้าพระพุทธเจ้าอยู่ 7 วัน (ทูเรนิทาน) 55/60/2155/60/21 55/57/18 |
18 | ในกาลของพระนารทพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์บวชเป็นฤๅษี มีอภิญญา 5 สมาบัติ 8ได้ถวายมหาทาน และบูชาด้วยจันทน์แดง (ทูเรนิทาน) 55/61/2055/61/20 55/58/15 |
19 | ภายหลังจากพระนารทพุทธเจ้า ล่วงได้หนึ่งอสงไขย พระปทุมุตตรพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้น พระโพธิสัตว์เกิดเป็นชฏิลชื่อว่า มหารัฏฐิยะ ได้ถวายจีวรทาน ในกาลนั้นพวกเดียรถีย์ยังไม่มี พวกเทวดาและมนุษย์ทั้งปวง ถึงพระพุทธเจ้าเป็นสรณะเท่านั้น. (ทูเรนิทาน) 55/62/1255/62/12 55/59/5 |
20 | ภายหลังจากพระปทุมุตตรพุทธเจ้า ล่วงไปได้ 30,000 กัป ในกัปเดียวกันพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้น 2 พระองค์ คือ พระสุเมธะ พระสุชาตะ ในกาลของพระสุเมธพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์เกิดเป็นมาณพ ชื่อ อุตตระ ได้สละทรัพย์ 80 โกฏิ ถวายมหาทานและออกบวช (ทูเรนิทาน) 55/63/755/63/7 55/59/24 |
21 | ในกาลของพระสุชาตพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ได้ถวายราชสมบัติในทวีปทั้ง 4 และรัตนะ 7 ประการ แด่สงฆ์ แล้วออกบวช ชาวแว่นแคว้นแว่เอาเงินของรัฐ และทำหน้าที่เป็นคนบำรุงวัด (ทูเรนิทาน) 55/64/155/64/1 55/60/17 |
22 | ภายหลังจากพระสุชาตพุทธเจ้า ในกัปหนึ่ง มีพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้น 3 พระองค์คือ พระปิยทัสสี พระอัตถทัสสี พระธรรมทัสสี ในกาลพระปิยทัสสีพุทธเจ้าพระโพธิสัตว์เป็นมาณพ ชื่อว่า กัสสปะ ได้บริจาคทรัพย์ แสนโกฏิ สร้างสังฆาราม .(ทูเรนิทาน) 55/64/2155/64/21 55/61/14 |
23 | ในกาลของพระอัตถทัสสีพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์เป็นดาบสผู้มีฤทธิ์มาก ชื่อว่าสุสิมะ ได้นำฉัตรดอกมณฑารพ มาจากเทวโลก บูชาพระศาสดา(อปัณณกชาดก).(ทูเรนิทาน) 55/65/1555/65/15 55/62/6 |
24 | ในกาลของพระธรรมทัสสีพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์เป็นท้าวสักกเทวราช ได้กระทำการบูชา ด้วยดอกไม้มีกลิ่นทิพย์ และด้วยดนตรีทิพย์ (ทูเรนิทาน) 55/66/655/66/6 55/62/22 |
25 | ภายหลังจากพระธรรมทัสสีพุทธเจ้า ในกัปหนึ่งมีพุทธเจ้าอุบัติขึ้นพระองค์เดียวทรงพระนามว่า สิทธัตถะ พระโพธิสัตว์ เป็นมังคลดาบส นำผลหว้าใหญ่มาถวายพระศาสดา (ทูเรนิทาน) 55/66/2155/66/21 55/63/12 |
26 | ในที่สุด 92 กัปแต่กัปนี้ มีพระพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้น 2 พระองค์ คือ พระติสสะ พระปุสสะ ในกาลแห่งพระติสสพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์เป็นกษัตริย์ ชื่อว่า สุชาตะชบวชเป็นฤๅษี ได้เอาดอกมณฑารพ ดอกบัวหลวงและดอกปาริฉัตรอันเป็นทิพย์ มาบูชาพระตถาคต (ทูเรนิทาน) 55/67/1555/67/15 55/64/4 |
27 | ในกาลของพระปุสสพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์เป็นกษัตริย์ ชื่อ วิชิตาวี ทรงสละราชสมบัติ ออกบวช เล่าเรียนพระไตรปิฎก และได้แสดงธรรมกถาแก่มหาชน ทรง บำเพ็ญศีลบารมี (ทูเรนิทาน) 55/68/1355/68/13 55/64/25 |
28 | ในกัปที่ 91 แต่กัปนี้ พระวิปัสสีพุทธเจ้า เสด็จอุบัติขึ้นพระโพธิสัตว์ได้เป็นพระยานาค ชื่อว่า อตุละ ได้ถวายตั่งทองคำแด่พระศาสดา (ทูเรนิทาน) 55/69/655/69/6 55/65/16 |
29 | ในกัปที่ 31 แต่กัปนี้ มีพระพุทธเจ้า 2 พระองค์เสด็จอุบัติขึ้นคือ พระสิขี พระเวสสภู ในกาลของพระสิขีพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์เป็นพระราชา ชื่ออรินทมะ ได้ถวายมหาทานพร้อมด้วยจีวร ถวายช้างแก้วซึ่งตกแต่งด้วยแก้วเจ็ดประการ และได้ถวายกัปปิยภัณฑ์ทำให้มีขนาดเท่าตัวช้าง (ทูเรนิทาน) 55/69/2255/69/22 55/66/7 |
30 | ในกาลของพระเวสสภูพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์เป็นพระราชา ชื่อ สุทัสสนะ ถวายมหาทาน พร้อมทั้งจีวรแล้วออกบวชเป็นผู้มากด้วยความยำเกรง และปีติในพระพุทธรัตนะ (ทูเรนิทาน) 55/70/1655/70/16 55/66/24 |
31 | ในกาลของพระกกุสันธพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์เป็นพระราชาชื่อ เขมะ ได้ถวายมหาทาน พร้อมด้วยจีวรและเภสัช แล้วออกบวช (ทูเรนิทาน) 55/71/1055/71/10 55/67/15 |
32 | ในกาลของพระโกนาคมนพุทธเจ้า พระโพธสัตว์เป็นพระราชาชื่อ ปัพพตะ ได้ถวายมหาทาน และผ้าอย่างดีต่างๆ แล้วออกบวช (ทูเรนิทาน) 55/72/455/72/4 55/68/6 |
33 | ในกาลของพระกัสสปพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์เป็นโชติปาลมาณพ ได้ฟังธรรมแล้วบวช ได้ลงมือทำความเพียร เล่าเรียนพระไตรปิฎก (ทูเรนิทาน) 55/72/1955/72/19 55/68/24 |
34 | พระโพธิสัตว์ได้รับคำพยากรณ์จากพระพุทธเจ้า 24 พระองค์ (ทูเรนิทาน) 55/74/1155/74/11 55/70/7 |
35 | เมื่อได้รับคำพยากรณ์ ว่าจะได้เป็นพระพุทธเจ้าแน่นอนแล้ว จะไม่เกิดในกำเนิดเหล่านี้อีก (ทูเรนิทาน) 55/75/955/75/9 55/70/265 |
36 | ปรมัตถบารมี ที่ทรงบำเพ็ญ (ทูเรนิทาน) 55/76/1155/76/11 55/71/24 |
37 | โกลาหล 3 อย่าง เกิดขึ้นคือ โกลาหลเรื่องกัป โกลาหลเรื่องพระพุทธเจ้า โกลาหลเรื่องพระเจ้าจักรพรรดิ (อวิทูเรนิทาน) 55/80/955/80/9 55/75/3 |
38 | มหาวิโลกนะ คือ ที่จะต้องเลือกใหญ่ 5 ประการ คือ กาล ทวีป ประเทศ ตระกูลและการกำหนดอายุของมารดา (อวิทูเรนิทาน) 55/81/2255/81/22 55/76/12 |
39 | สวนนันทวัน มีอยู่ในทุกเทวโลก (อวิทูเรนิทาน) 55/83/2055/83/20 55/78/13 |
40 | เมื่อพระโพธิสัตว์ ถือปฏิสนธิ ได้มีบุรพนิมิต 32 ประการ ปรากฏขึ้น (อวิทูเรนิทาน) 55/85/1655/85/16 55/80/7 |
41 | เหตุที่พระมารดาของพระโพธิสัตว์ มีอายุอยู่ได้ 7 วัน หลังประสูติ (อวิทูเรนิทาน) 55/86/2455/86/24 55/81/15 |
42 | พระโพธิสัตว์ เพียงคลอดออกมาจากครรภ์มารดาเท่านั้น ก็เปล่งวาจาได้ใน3 อัตภาพเท่านั้น คือ ในอัตภาพเป็นมโหสถ เป็นพระเวสสันดร ในอัตภาพนี้ .(อวิทูเรนิทาน) 55/89/855/89/8 55/83/23 |
43 | สหชาต 7 อย่าง ที่เกิดขึ้นพร้อมกับพระโพธิสัตว์ ถือปฏิสนธิ (อวิทูเรนิทาน) 55/90/455/90/4 55/84/18 |
44 | ดาบสระลึกชาติได้ 80 กัป คือ ในอดีต 40 กัป ในอนาคต 40 กัป (อวิทูเรนิทาน) 55/91/955/91/9 55/85/22 |
45 | ผู้เกิดในอรูปภพ แม้พระพุทธเจ้าตั้งพันพระองค์ ก็ไม่สามารถจะเสด็จไปเพื่อให้ตรัสรู้ได้ (อวิทูเรนิทาน) 55/91/1555/91/15 55/86/3 |
46 | หลานของกาลเทวละดาบส ชื่อนาลก บวชเป็นดาบส อุทิศพระมหาบุรุษ ตั้งแต่ทรงประสูติ ครั้นทรงบรรลุพระอภิสัมโพธิครั้งแรก ดาบสนั้นได้มาทูลถามนาลกปฏิปทาแล้วเข้าไปอยู่ป่าหิมพานต์อีก อยู่ได้ 7 เดือน ยืนพิงภูเขาทองอยู่ปรินิพพาน. (อวิทูเรนิทาน) 55/92/155/92/1 55/86/15 |
47 | พราหมณ์ 8 คน ผู้ตรวจดูพระลักษณะพระโพธิสัตว์ (อวิทูเรนิทาน) 55/93/155/93/1 55/87/15 |
48 | ในวันพระราชพิธีแรกนาขวัญ พระโพธิสัตว์ขณะทรงพระเยาว์ ได้นั่งขัดสมาธิ กำหนดลมหายใจเข้าออก ทำปฐมฌานให้เกิดขึ้นแล้ว (อวิทูเรนิทาน) 55/96/355/96/3 55/90/13 |
49 | พระโพธิสัตว์ ไม่มีกิจที่จะต้องศึกษาศิลปะ (อวิทูเรนิทาน) 55/97/255/97/2 55/91/12 |
50 | กิจในการปลงผม และหนวดของพระพุทธเจ้า ไม่มีอีกต่อไป (อวิทูเรนิทาน) 55/106/1755/106/17 55/100/20 |
51 | ฆฏิการมหาพรหมผู้เป็นสหายเก่าได้นำบริขาร 8 ไปไว้ให้พระโพธิสัตว์ (อวิทูเรนิทาน) 55/107/655/107/6 55/101/6 |
52 | เทวดาช่วยทำอาหาร (อวิทูเรนิทาน) 55/112/1055/112/10 55/106/4 |
53 | สังข์วิชัยยุตร ของท้าวสักกเทวราช มีขนาด 120 ศอก เป่าคราวเดียวมีเสียงอยู่ถึง4 เดือน (อวิทูเรนิทาน) 55/117/1155/117/11 55/110/26 |
54 | พระโพธิสัตว์ผจญกับกองทัพมาร(อวิทูเรนิทาน) 55/117/2055/117/20 55/111/11 |
55 | อนิมิสเจดีย์ , รัตนจงกรมเจดีย์ , รัตนฆรเจดีย์ (สันติเกนิทาน) 55/124/1955/124/19 55/118/5 |
56 | ตปุสสะ และภัลลิกะ เป็นผู้ถึงพระพุทธเจ้า และพระธรรมเป็นสรณะก่อนใคร และได้นำพระเกศธาตุไปบรรจุในเจดีย์ ที่เมืองของตน (สันติเกนิทาน) 55/130/1155/130/11 55/123/9 |
57 | ในเวลาที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงธัมมจักกัปปวัตตนสูตร จบ พระอัญญาโกณฑัญญะได้ดำรงอยู่ในโสดาปัตติผลพร้อมกับพรหม 18 โกฏิ (สันติเกนิทาน) 55/132/1755/132/17 55/125/15 |
58 | พระเจ้าสุทโธทนะ บรรลุพระอรหัตภายใต้เศวตฉัตร (สันติเกนิทาน) 55/146/1555/146/15 55/138/13 |
59 | พระศาสดาทรงตรัสจันทกินรีชาดก จบ พระนางพิมพา ได้บรรลุโสดาปัตติผล.(สันติเกนิทาน) 55/147/2055/147/20 55/139/18 |
60 | เศรษฐีที่ซื้อที่ดิน สร้างอารามถวายพระพุทธเจ้า ตั้งแต่ครั้งพระวิปัสสีพุทธเจ้ามาถึงยุค พุทธกาลนี้ (สันติเกนิทาน) 55/152/955/152/9 55/144/2 |
61 | บุคคลผู้ถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะ ด้วยอำนาจความหลุดพ้น และด้วยอำนาจเป็นรัตนะอันสูงสุด จะไม่มีการบังเกิดในอบาย (อ.อปัณณกชาดก) 55/156/2155/156/21 55/147/24 |
62 | ธรรมเอกอันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อความหน่ายเพื่อคลายกำหนัด เพื่อความดับ เพื่อความสงบระงับ เพื่อรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้เพื่อนิพพาน คือ พุทธานุสสติ (อ.อปัณณกชาดก) 55/158/955/158/9 55/149/6 |
63 | ชื่อว่ากันดาร มี 5 อย่าง คือ กันดารเพราะโจร กันดารเพราะสัตว์ร้าย กันดารเพราะขาดน้ำ กันดารเพราะอมนุษย์ กันดารเพราะอาหารน้อย (อ.อปัณณกชาดก) 55/160/2155/160/21 55/151/14 |
64 | ตามทางกันดารมี ยักษ์ และอมนุษย์สิงสถิตอยู่ (อ.อปัณณกชาดก) 55/161/855/161/8 55/151/26 |
65 | ปกติยักษ์ ไม่มีท่าทีที่เกรงกลัว มีนัยน์ตาแดง แม้เงาก็ไม่ปรากฏ (อ.อปัณณกชาดก) 55/163/1655/163/16 55/154/11 |
66 | ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม 3 ประการเป็นผู้ปฏิบัติอันไม่ผิด (อ.อปัณณกชาดก) 55/167/455/167/4 55/157/17 |
67 | [๒] " ชนทั้งหลายผู้ไม่เกียจคร้าน ขุดภาคพื้นที่ทางทราย ได้พบน้ำในทางทรายนั้น ณ ที่ลานกลางแจ้ง ฉันใด มุนีผู้ประกอบด้วยความเพียร และกำลัง เป็นผู้ไม่เกียจคร้าน พึงได้ความสงบใจ ฉันนั้น " (วัณณุปถชาดก) 55/170/1655/170/16 55/161/3 |
68 | [๓] " ถ้าท่านพลาดโสดาปัตติมรรค คือ ความแน่นอนแห่งสัทธรรมในศาสนานี้ท่านจะต้องเดือดร้อนใจในภายหลังสิ้นกาลนาน ดุจพาณิช ชื่อ เสรีวะผู้นี้ ฉะนั้น ".(เสรีววาณิชชาดก) 55/178/355/178/3 55/168/3 |
69 | พระเทวทัตเกิดเป็นวาณิชพาล ได้ผูกอาฆาตพระโพธิสัตว์นี้เป็นการผูกอาฆาตครั้งแรก (อ.เสรีววาณิชชาดก) 55/181/555/181/5 55/171/2 |
70 | [๔] " คนมีปัญญาเฉลียวฉลาด ย่อมตั้งตนได้ด้วยต้นทุนแม้น้อย ดุจคนก่อไฟน้อยๆ ให้เป็นกองใหญ่ ฉะนั้น" (จุลลกเศรษฐีชาดก) 55/183/355/183/3 55/173/3 |
71 | เหตุที่ทำให้เกิดเป็นคนโง่เขลา (อ.จุลลกเศรษฐีชาดก) 55/186/1955/186/19 55/176/14 |
72 | พระจุลลปันถก สมัยเป็นพระราชา ได้ใช้ผ้าเช็ดเหงื่อที่หน้าผาก เห็นผ้าสาฎกนั้นเศร้าหมองไป จึงได้อนิจจสัญญาในครั้งนั้น (อ.จุลลกเศรษฐีชาดก) 55/189/1355/189/13 55/179/2 |
73 | เป็นเศรษฐีเพราะหนูตาย (อ.จุลลกเศรษฐีชาดก) 55/192/1855/192/18 55/182/6 |
74 | ทรงปรารภพระโลฬุทายี ทำความวุ่นวายในโรงสลาก แล้วทรงแสดงอดีต พระโลฬุทายี เป็นพนักงานตีราคาของพระเจ้าพาราณสี ได้ตีราคาม้า 500 ตัว ด้วยข้าวสารทะนานหนึ่ง. (อ. ตัณฑุลนาฬิชาดก) 55/197/555/197/5 55/186/11 |
75 | [๖] " สัปบุรุษผู้สงบระงับ ประกอบด้วยหิริ และโอตตัปปะ ตั้งมั่นอยู่ในธรรมอันขาว ท่านเรียกว่าผู้มี ธรรมของเทวดาในโลก" (เทวธรรมชาดก) 55/201/1255/201/12 55/191/3 |
76 | กำหนดเหตุให้ฆ่า (รากษส)(อ.เทวธรรมชาดก) 55/205/155/205/1 55/194/4 |
77 | บุคคลย่อมยังหิริอันมีสมุฏฐานเป็นภายใน ให้ตั้งขึ้นด้วยเหตุ 4 ประการ.(อ.เทวธรรมชาดก) 55/206/1855/206/18 55/195/24 |
78 | คนบางคนยังโอตตัปปะอันมีลักษณะกลัวโทษ และมักเห็นภัย ให้ตั้งขึ้น ด้วยเหตุ4 ประการ คือ ภัยในการติเตียนตน ภัยในการที่คนอื่นติเตียน ภัยคือ อาชญาภัยในทุคติ (อ.เทวธรรมชาดก) 55/209/1755/209/17 55/198/20 |
79 | เทพมี 3 ประเภท คือ สมมติเทพ อุปบัติเทพ วิสุทธิเทพ ธรรมของเทพเหล่านี้ชื่อว่า เทวธรรม (อ.เทวธรรมชาดก) 55/210/1955/210/19 55/199/21 |
80 | พระราชาในครั้งก่อน แม้ได้พระโอรสที่เกิดจากหญิงหาฟืน ผู้เป็นภรรยาชั่วคราวก็ยังได้มอบราชสมบัติแก่พระโอรส (อ.กัฏฐหาริชาดก) 55/214/955/214/9 55/203/9 |
81 | บุตร มี 4 ประเภท คือ บุตรผู้เกิดในตน บุตรผู้เกิดในเขต ลูกศิษย์ บุตรที่เขาให้.(อ.กัฏฐหาริชาดก) 55/216/255/216/2 55/204/26 |
82 | [๘] " เออ ก็ความหวังในผล ย่อมสำเร็จแก่ผู้ไม่ใจเร็วด่วนได้ เรามีพรหมจรรย์แก่กล้าแล้ว ท่านจงเข้าใจดังนี้เถิด พ่อคามนิ" (คามนิชาดก) 55/217/1655/217/16 55/207/3 |
83 | [๙] " ผมที่หงอกบนศีรษะของเรานี้ เกิดขึ้นนำเอาวัยไปเสีย เทวทูตปรากฏแล้วบัดนี้ เป็นสมัยบรรพชาของเรา" (มฆเทวชาดก) 55/219/1955/219/19 55/209/3 |
84 | ทรงปรารภการออกมหาภิเนษกรมณ์ของพระองค์ จึงตรัส เรื่องพระเจ้ามฆเทวะในกรุงมิถิลาวิเทหรัฐ ที่ทรงออกผนวช สละราชสมบัติ เจริญพรหมวิหาร 4 ตลอด84,000 ปี ตายแล้วเกิดอยู่พรหมโลก จุติจากพรหมโลก มาเป็นพระเจ้าเนมิราชสืบต่อวงศ์ที่พระองค์ทรงตั้งไว้ เจริญพรหมวิหาร กลับไปเกิดในพรหมโลกตามเดิมอีก(อ.มฆเทวชาดก) 55/220/255/220/2 55/209/8 |
85 | [๑๐] " ชนเหล่าอื่นไม่ต้องรักษาผู้ใดด้วย ผู้ใดก็ไม่ต้องรักษาชนเหล่าอื่นด้วย ดูก่อนมหาบพิตร ผู้นั้นแลไม่เยื่อใยในกามทั้งหลาย ย่อมอยู่เป็นสุข" (สุขวิหาริชาดก) 55/224/355/224/3 55/213/3 |
86 | ทรงแสดงอดีตที่ พระภัททิยะ เป็นพระราชา สละราชสมบัติ ออกบวชเป็นดาบสเป็นหัวหน้าลูกศิษย์ของพระโพธิสัตว์ ได้สมาบัติ 8 นอนบนเสื่อ อุทานว่า สุขหนอ สุขหนอ ไม่สนใจพระราชา (อ.สุขวิหาริชาดก) 55/224/955/224/9 55/213/9 |
87 | [๑๑] " ความเจริญย่อมมีแก่ชนทั้งหลายผู้มีศีล ประพฤติในปฏิสันถาร ท่านจงดูดูลูกเนื้อชื่อ ลักขณะผู้อันหมู่แห่งญาติแวดล้อมกลับมาอยู่ อนึ่งท่านจงดูลูกเนื้อ ชื่อ กาฬะ นี้ ผู้เสื่อมจากพวกญาติ กลับมาแต่ผู้เดียว "(ลักขณชาดก) 55/228/455/228/4 55/217/4 |
88 | ปฏิสันถาร 2 ถือ อามิสปฏิสันถาร ธรรมปฏิสันถาร (อ.ลักขณชาดก) 55/231/1255/231/12 55/220/14 |
89 | พวกเนื้อจะไม่กินข้าวกล้าที่มนุษย์ปลูก แล้วผูกสัญญาด้วยใบไม้ปักนาไว้ เป็นโอวาทที่พวกเนื้อได้จากพระยาเนื้อโพธิสัตว์ (อ.นิโครธมิคชาดก) 55/244/1955/244/19 55/233/1 |
90 | ชนบทใดมีสตรีเป็นผู้นำ จัดแจง ปกครอง ก็ถูกติเตียน สัตว์ที่ตกอยู่ในอำนาจหญิง ก็ถูกติเตียน (อ.กัณฑินชาดก) 55/248/655/248/6 55/236/2 |
91 | [๑๔] " ได้ยินว่า สิ่งอื่นที่จะเลวยิ่งไปกว่ารสทั้งหลายไม่มี รสเป็นสภาพเลวแม้กว่าถิ่นที่อยู่ แม้กว่าความสนิทสนม นายสัญชัยอุทยานบาล นำเนื้อสมัน ซึ่งอาศัยอยู่ในป่าชัฏมาสู่อำนาจของตนได้ด้วยรสทั้งหลาย" (วาตมิคชาดก) 55/250/355/250/3 55/238/3 |
92 | ทรงปรารภพระจูฬปิณฑปาติกติสสเถระ ถูกนางวัณณทาสี ล่อด้วยอาหาร ทำให้สึกพากลับบ้านแล้วทรงแสดงเรื่องนายอุยยานบาล ชื่อสัญชัย ล่อเนื้อด้วยน้ำผึ้งให้เข้าไปสู่พระลานหลวงได้ พระโพธิสัตว์เป็นพระเจ้าพาราณสี เนื้อสมันในครั้งนั้นได้เป็นพระจูฬบิณฑปาติกภิกษุ (อ.วาตมิคชาดก) 55/250/955/250/9 55/238/9 |
93 | ทรงปรารภ ภิกษุผู้ว่ายากรูปหนึ่ง จึงตรัสอดีตภิกษุนั้น เคยเป็นเนื้อผู้เป็นหลานของพระโพธิสัตว์ ซึ่งไม่ยอมมารับโอวาทในมายาของเนื้อ จึงติดบ่วงแล้วถูกนายพรานฆ่าตาย (อ.ขราทิยชาดก) 55/256/255/256/2 55/243/8 |
94 | ทรงปรารภความเป็นผู้ใคร่ต่อการศึกษาของพระราหุล จึงตรัสอดีตที่ท่านเป็นลูกเนื้อผู้เป็นหลานชายของพระโพธิสัตว์ ได้เรียนมายาของเนื้อ ได้ลวงนายพรานด้วยเล่ห์กล 6 ประการ เอาตัวรอดชีวิตมาได้ (อ.ติปัลลัตถมิคชาดก) 55/258/1155/258/11 55/245/15 |
95 | ทรงปรารภ ภิกษุบวชเมื่อแก่ 2 รูป ถามกันเรื่อง ความหนาวมีในเวลาใด ? จึงทรงตรัสอดีตครั้งที่ทั้ง 2 เป็นเสือ และสิงโต มาถามพระโพธิสัตว์ซึ่งเป็นฤๅษี ท่านตอบว่า ความหนาวเกิดแต่ลม. (อ.มาลุตชาดก) 55/265/855/265/8 55/252/8 |
96 | [๑๘] " ถ้าสัตว์ทั้งหลายพึงรู้อย่างนี้ว่า ชาติสมภพนี้เป็นทุกข์ สัตว์ไม่ควรฆ่าสัตว์เพราะว่าผู้มีปกติฆ่าสัตว์ ย่อมเศร้าโศก" (มตกภัตตชาดก) 55/267/1155/267/11 55/254/6 |
97 | ผลแห่งการฆ่าสัตว์ทำบุญอุทิศให้ผู้ตาย (อ.มตกภัตตชาดก) 55/269/955/269/9 55/255/24 |
98 | ภิกษุทั้งหลาย ถามพระพุทธเจ้าว่า ประโยชน์ในการอ้อนวอนเทวดามีอยู่หรือ ?. (อ.อายาจิตภัตตชาดก) 55/272/1055/272/10 55/258/12 |
99 | ปาฏิหาริย์อันตั้งอยู่ตลอดกัป มี 4 ประการ (อ.นฬปานชาดก) 55/277/455/277/4 55/263/10 |
100 | ทรงปรารภพระเทวทัต ที่ต้องการปลงพระชนม์พระตถาคต จึงตรัสชาดกแม้กาลก่อน พระเทวทัตเป็นนายพราน ผูกห้างอยู่บนต้นไม้ แล้วโยนผลมะรื่นให้ พระโพธิสัตว์ผู้เป็นกวางรู้ทันจึงหลีกหนีไปต้นไม้อื่น. (อ.กรุงคมิคชาดก) 55/279/1055/279/10 55/265/10 |
101 | ทรงปรารภการประพฤติประโยชน์แก่พระญาติ จึงตรัสถึงการช่วยสุนัขทั้งปวงจากการถูกฆ่าโดยคำสั่งของพระราชา พระโพธิสัตว์เป็นสุนัข บอกให้พระราชาขยำหญ้าแพรกกับเปรียงให้สุนัขในวังกิน เพื่อถ่ายหนังหุ้มและชะเนาะรถออกมาแล้วให้โอวาทพระราชา ให้ตั้งอยู่ในทศพิธราชธรรม โอวาทนั้นตั้งอยู่หมื่นปี.(อ.กุกกุชาดก) 55/282/1055/282/10 55/268/10 |
102 | ทรงปรารภ ภิกษุผู้ละความเพียรรูปหนึ่ง จึงตรัสอดีต ที่พระโพธิสัตว์ เป็นม้าสินธพได้ทำลายกองพล และจับพระราชา 7 พระองค์ มาให้แก่ พระเจ้าพาราณสีได้ แม้ตนเองได้รับบาดเจ็บ ก่อนตายม้านั้นให้โอวาทแก่พระราชา พระสารีบุตรเป็นนายทหารม้า พระอานนท์เป็นพระเจ้าพาราณสี .(อ.โภชาชานียชาดก) 55/287/955/287/9 55/273/8 |
103 | ทรงปรารภ ภิกษุผู้ละความเพียรรูปหนึ่ง จึงตรัสอดีต เมื่อพระราชา 7 พระองค์พากันล้อมพระนครพาราณสีไว้ นักรบประจำรถได้เทียมม้าสินธพพี่น้อง 2 ตัวออกทำลายกองพล และจับพระราชาได้จนครบทั้ง 7 พระโพธิสัตว์เป็นม้าสินธพพี่ชายผู้บาดเจ็บ พระสารีบุตรเป็นสารถี พระอานนท์เป็นพระราชา.(อ.อาชัญญชาดก) 55/291/855/291/8 55/277/8 |
104 | ทรงปรารภภิกษุผู้เคยเป็นช่างทองรูปหนึ่ง ซึ่งพระสารีบุตรให้อสุภกรรมฐาน ก็ไม่สามารถทำนิมิตในกรรมฐานให้เกิดได้ พระเถระจึงนำไปเข้าเฝ้าพระศาสดา พระองค์ทรงบอกกรรมฐาน ทำภิกษุนั้นให้บรรลุพระอรหัต และทรงแสดงอดีตที่พระโพธิสัตว์เป็นอำมาตย์ ก็ยังรู้อัธยาศัย ของม้ามงคล ที่ไม่ยอมลงอาบน้ำที่ท่าน้ำเพราะรังเกียจที่ม้ากระจอกลงอาบก่อน (อ.ติตถชาดก) 55/293/1355/293/13 55/279/8 |
105 | ทรงแสดงอดีตของภิกษุผู้ไปฉันภัตของพวกพระเทวทัต ครั้งเป็นช้างมงคล ได้ฟังคำของโจรที่นั่งปรึกษากันใกล้โรงช้างนั้น จึงกลายเป็นช้างดุร้าย กักขฬะพระโพธิสัตว์เป็นอำมาตย์รู้อัธยาศัยนั้น จึงให้สมณพราหมณ์ ผู้มีศีล นั่งในที่ไม่ไกลช้างนั้นแล้วกล่าวถึงศีล และอาจาระ เมตตา และความเอ็นดู ช้างนั้นได้ฟังแล้วก็สำเหนียกประพฤติตาม (อ.มหิลามุขชาดก) 55/299/955/299/9 55/284/13 |
106 | ทรงปรารภพระเถระแก่ กับอุบาสกคนหนึ่งซึ่งคุ้นเคยกัน จึงตรัสอดีตในเรื่องนั้นมีช้างมงคลคุ้นเคยกับสุนัข เมื่อมีคนนำสุนัขหนีไป ช้างจึงไม่ยอมกินอาหารพระโพธิสัตว์เป็นอำมาตย์ผู้รู้อัธยาศัยของช้างนั้น จึงแจ้งแก่พระราชา สุนัขนั้นได้มาเป็นอุบาสกนี้ ส่วนช้างได้เป็นพระเถระแก่นี้ (อ.อภิณหชาดก) 55/304/1055/304/10 55/289/12 |
107 | [๒๘] " บุคคลพึงกล่าวแต่คำที่น่าพอใจเท่านั้น ไม่พึงกล่าวคำที่ไม่น่าพอใจในกาลไหนๆ เมื่อพราหมณ์กล่าวคำน่าพอใจ โคนันทิวิสาลได้ลากเอาภาระอันหนักไปได้ ทำพราหมณ์ผู้นั้นให้ได้ทรัพย์ด้วย ตนเองก็เป็นผู้ปลื้มใจ เพราะการช่วยเหลือนั้นด้วย" (นันทิวิสาลชาดก) 55/308/355/308/3 55/293/3 |
108 | ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ชื่อว่าวาจาหยาบกระทำแต่ความฉิบหายให้ ไม่เป็นที่พอใจแม้แห่งสัตว์ดิรัจฉาน (อ.นันทิวิสาลชาดก) 55/308/1855/308/18 55/293/20 |
109 | ทรงปรารภยมกปาฏิหาริย์จึงตรัส ถึงความเป็นผู้เอาการเอางานของพระองค์ ในครั้งอดีตที่พระโพธิสัตว์ เป็นโค ชื่อ อัยยิกากาฬกะ ได้รับจ้างลากเกวียน 500 เล่มขึ้นจากหล่ม นำทรัพย์ 1000 กหาปณะ มาให้หญิงแก่ผู้เลี้ยงดู หญิงแก่นั้นเป็นนางอุบลวรรณา (อ.กัณหชาดก) 55/312/1355/312/13 55/297/8 |
110 | ทรงปรารภการประเล้าประโลมของเด็กหญิงอ้วน ทำให้ภิกษุรูปหนึ่งอยากสึก จึงตรัสเรื่องในอดีตที่ภิกษุนั้นเป็นหมู ชื่อ มุณิกะ เมื่อวันแต่งงานของเด็กหญิงอ้วนในครั้งนั้นมาถึง ได้ฆ่าหมูทำแกงอ่อม พระโพธิสัตว์เป็นโคในเรือนนั้น พระอานนท์เป็นโคน้องชาย (อ.มุณิกชาดก) 55/317/1055/317/10 55/302/2 |
111 | พระโพธิสัตว์ บำเพ็ญวัตรบท 7 แล้วเกิดเป็นท้าวสักกเทวราช (อ.กุลาวกชาดก) 55/325/855/325/8 55/310/9 |
112 | ท้าวสักกะทรงตั้งการรักษาอย่างแข็งแรงไว้ 5 แห่ง ในระหว่าง อยุชฌปุระทั้งสอง.(อ.กุลาวกชาดก) 55/328/155/328/1 55/312/20 |
113 | ครั้งปฐมกัป สัตว์ 4 เท้าทั้งหลาย ตั้งราชสีห์เป็นราชา พวกปลาตั้งปลาอานนท์ให้เป็นราชา พวกนกได้ตั้งสุวรรณหงส์ให้เป็นราชา พระโพธิสัตว์ได้เป็นพระยา-สุวรรณหงส์ ไม่ยกธิดาให้นกยูง เพราะไม่มีความละอาย กางปีกรำแพนหาง ด้วยความดีใจ ต่อหน้าที่ประชุมนก (อ.นัจจชาดก) 55/333/1255/333/12 55/317/19 |
114 | ทรงปรารภการทะเลาะกันแห่งพระญาติ จึงตรัสเรื่องฝูงนกกระจาบที่ทะเลาะกันต้องประสบความพินาศ ถูกนายพรานนำไป. (อ.สัมโมทมานชาดก) 55/335/855/335/8 55/320/2 |
115 | ทรงปรารภภิกษุผู้กระสันจะสึกเพราะภรรยาเก่า จึงตรัสอดีตที่ภิกษุนั้นเป็นปลาติดแหของชาวประมง ได้นอนร้องถึงนางปลาอยู่บนหาดทราย พระโพธิสัตว์เป็นอำมาตย์ผู้รู้เสียงสัตว์ทุกชนิด ได้ยินเสียงนั้นแล้ว ได้ซื้อปลาตัวนั้น แล้วปล่อยลงน้ำไป. (อ.มัจฉชาดก) 55/339/255/339/2 55/323/9 |
116 | พระโพธิสัตว์เป็นลูกนกคุ่ม ได้ทำสัจกิริยา ทำไฟป่าให้ถอยกลับไปในที่ประมาณ16 กรีส ที่บริเวณนั้น จะไม่ถูกไฟไหม้ตลอดกัปนี้ (อ.วัฏฏกชาดก) 55/344/855/344/8 55/328/15 |
117 | ทรงปรารภภิกษุผู้ถูกไฟไหม้บรรณศาลาที่จำพรรษา และชาวบ้านก็ยุ่งยากการงานจึงไม่ได้ทำที่อยู่ให้ใหม่ ท่านต้องลำบากอยู่กลางแจ้ง 3 เดือน กรรมฐานจึงไม่เจริญพระศาสดาทรงตรัสว่า ในกาลก่อน แม้สัตว์ดิรัจฉานทั้งหลายก็ยังรู้ที่อันเป็นสัปปายะและไม่เป็นสัปปายะของตน เพราะเหตุไร เธอจึงไม่รู้ แล้วทรงนำอดีตนิทานมาแสดง (อ.สกุณชาดก) 55/347/255/347/2 55/331/8 |
118 | [๓๗] " นรชนเหล่าใด ฉลาดในธรรม ย่อมนอบน้อมคนผู้เจริญ นรชนเหล่านั้นเป็นผู้ได้รับความสรรเสริญในปัจจุบันนี้ และมีสุคติเป็นที่ไปในเบื้องหน้า" (ติตติรชาดก) 55/349/1455/349/14 55/334/3 |
119 | โดยที่แท้ในศาสนานี้ ควรกระทำการอภิวาท การลุกรับ อัญชลีกรรม สามีจิกรรมตามผู้แก่กว่า ควรได้อาสนะอันเลิศ น้ำอันเลิศ ก้อนข้าวอันเลิศ ตามผู้ที่แก่กว่า.(อ.ติตติรชาดก) 55/351/1855/351/18 55/336/2 |
120 | เรื่องสัตว์ 3 สหายคือ นกกระทา ลิง ช้าง ผู้เคารพกันโดยยึดความเป็นผู้แก่กว่ากัน.(อ.ติตติรชาดก) 55/352/1055/352/10 55/336/18 |
121 | ผู้ใหญ่ 3 จำพวก คือ ผู้ใหญ่โดยชาติ ผู้ใหญ่โดยวัย ผู้ใหญ่โดยคุณ.(อ.ติตติรชาดก) 55/354/155/354/1 55/338/9 |
122 | [๓๘] " บุคคลผู้ใช้ปัญญาหลอกลวงคนอื่นย่อมไม่ได้ความสุขเป็นนิตย์ เพราะผู้ใช้ปัญญาหลอกลวงคนอื่น ย่อมประสบผลแห่งบาปกรรมที่ตนทำไว้ เหมือนนกยางถูกปูหนีบคอฉะนั้น " (พกชาดก) 55/355/355/355/3 55/339/9 |
123 | ทรงแสดงอดีตที่พระจีวรวัฑฒกะผู้อยู่ในเชตะวันวิหาร ถูกพระจีวรวัฑฒกะผู้อยู่บ้านนอกลวงแล้วเหมือนกัน จึงตรัสเรื่อง นกยาง ลวงปลาจากสระน้ำที่น้ำแห้ง ว่าจะนำไปปล่อยลงสระที่สมบูรณ์ แล้วได้กินปลาจนหมด เหลือปูตัวหนึ่ง นกยางนั้นถูกปูลวงเอาก้ามหนีบคอขาดตาย พระโพธิสัตว์ นั้นเป็นรุกขเทวดาผู้เห็นเหตุการณ์(อ.พกชาดก) 55/355/955/355/9 55/339/15 |
124 | พระสารีบุตรกราบทูลพระศาสดา ถึงลูกศิษย์ของท่านองค์หนึ่ง อยู่สถานที่หนึ่งเป็นผู้ว่าง่าย ไปอยู่อีกสถานที่หนึ่งเป็นผู้ถือตัวจัด พระศาสดาตรัสอดีตภิกษุนั้นก็เป็นอย่างนี้ ตอนเป็นทาส ชื่อ นันทะ ได้ยืนบนขุมทรัพย์ด่าบุตรกุฎุมพีด้วยคำหยาบ ครั้งนั้นพระสารีบุตรเป็นบุตรกุฎุมพีนั้น. พระโพธิสัตว์เป็นสหายของกุฎุมพี(อ.นันทชาดก) 55/361/1355/361/13 55/345/16 |
125 | ไล่เทวดาผู้มิจฉาทิฏฐิออกจากบ้าน (อ.ขทิรังคารชาดก) 55/369/855/369/8 55/353/7 |
126 | เทวดาช่วยทวงหนี้ (อ.ขทิรังคารชาดก) 55/370/1355/370/13 55/354/12 |
127 | มารเนรมิตหลุมถ่านเพลิง ปรากฏเหมือนอเวจีมหานรก (อ.ขทิรังคารชาดก) 55/373/455/373/4 55/358/3 |