1 | ในบรรดาเถรคาถา มี 21 นิบาต เถรีคาถา มี 9 นิบาต (อารัมภกถาวรรณนา) 50/5/550/5/5 50/5/7 |
2 | สัมโพธิ มี 3 อย่าง คือ สัมมาสัมโพธิญาณ ปัจเจกสัมโพธิญาณ สาวกสัมโพธิญาณ .(นิทานกถาวรรณนา) 50/14/1250/14/12 50/13/20 |
3 | การเพิ่มพูนสัมโพธิญาณของพระโพธิสัตว์ทั้งหลาย อย่างต่ำ 4 อสงไขยแสนมหากัป อย่างกลาง 8 อสงไขยแสนมหากัป อย่างสูง 16 อสงไขยแสนมหากัป.(นิทานกถาวรรณนา) 50/17/2150/17/21 50/17/1 |
4 | การเพิ่มพูนปัจเจกโพธิญาณ ต้องไม่ต่ำกว่า 2 อสงไขยแสนกัป แต่ไม่ถึงอสงไขยที่ 3 (นิทานกถาวรรณนา) 50/18/1450/18/14 50/17/17 |
5 | ผู้ตั้งปณิธาน เป็นพระพุทธเจ้า ต้องถึงพร้อมเหตุ 8 ประการ จึงสำเร็จ.(นิทานกถาวรรณนา) 50/19/350/19/3 50/18/5 |
6 | ผู้ตั้งปณิธาน เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า ต้องถึงพร้อมด้วยเหตุ 5 ประการ.(นิทานกถาวรรณนา) 50/19/1850/19/18 50/18/19 |
7 | ผู้เป็นสาวก ต้องตั้งปณิธานไว้ด้วยองค์ 2 คือ อธิการและความเป็นผู้มีฉันทะ.(นิทานกถาวรรณนา) 50/20/150/20/1 50/18/22 |
8 | อานิสงส์ 5 ประการ ของผู้บำเพ็ญเพียรเบื้องต้นดีแล้ว (นิทานกถาวรรณนา) 50/21/1650/21/16 50/20/17 |
9 | เว้นจากการประกาศของผู้อื่น (การฟังพระสัทธรรม) เสียแล้ว การแทงตลอดซึ่งสัจจธรรมของพระสาวกทั้งหลาย จะมีไม่ได้เลย (นิทานกถาวรรณนา) 50/28/1950/28/19 50/27/1 |
10 | [๑๓๘] " ดูก่อนฝนกุฎีเรามุงดีแล้ว มีเครื่องป้องกันอันสบาย มิดชิดดี ท่านจงตกลงมาตามสะดวกเถิด จิตของเราตั้งมั่นดีแล้ว หลุดพ้นแล้ว เราเป็นผู้มีความเพียรอยู่เชิญตกลงมาเถิดฝน " (สุภูติเถรคาถา) 50/32/550/32/5 50/30/5 |
11 | นันทดาบส กับบริวาร 44,000 ได้สมาบัติ 8 อภิญญา 5 ได้จัดอาสนะดอกไม้ ถวายพระปทุมุตตรพุทธเจ้า กับภิกษุสงฆ์ พระศาสดาทรงแสดงธรรม จบเทศนาดาบส 44,000 ได้บรรลุพระอรหัต ส่วนนันทดาบสปรารถนาตำแหน่งเลิศภิกษุผู้ประกอบด้วย องค์ 2 คือ ภิกษุผู้อยู่โดยไม่มีกิเลส และภิกษุผู้เป็นทักขิไนยบุคคลเมื่อตายไปได้เกิดพรหมโลก (อ.สุภูติเถรคาถา) 50/33/350/33/3 50/31/10 |
12 | จุติจากพรหมโลกแล้ว บวชอีก 500 ชาติ เป็นผู้มีการอยู่ป่าเป็นวัตร แม้ในศาสนาของพระกัสสปพุทธเจ้า ก็ได้บวชบำเพ็ญคตปัจจาคตวัตร เมื่อตายแล้ว เกิดในภพดาวดึงส์ (อ.สุภูติเถรคาถา) 50/37/1850/37/18 50/35/19 |
13 | ในศาสนานี้ เกิดเป็นน้องชายของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ได้ฟังธรรมในวันถวายพระเชตวันแล้ว ได้มีศรัทธาบวช ท่านได้บรรลุอรหันต์แล้ว เมื่อท่านเที่ยวบิณฑบาตก็เข้าฌานแผ่เมตตาไปทุกๆ บ้าน ออกจากฌานแล้วจึงรับอาหาร พระศาสดาทรงสถาปนาให้เป็นผู้เลิศด้วยองค์ 2 คือ อยู่โดยไม่มีกิเลส และผู้เป็นทักขิไณยบุคคล (อ.สุภูติเถรคาถา) 50/43/1350/43/13 50/41/24 |
14 | กระท่อม คือ ร่างกระดูกนี้ เป็นที่อยู่อาศัยของลิง คือ จิต เพราะฉะนั้น ลิงคือจิตจึงกระเสือกกระสนจะออกจากกระท่อมที่มีประตู 5 พยายามวิ่งวนไปมาทางประตูบ่อยๆ (อ.สุภูติเถรคาถา) 50/51/550/51/5 50/49/21 |
15 | [๑๓๙] " บุคคลผู้สงบ งดเว้นจากการทำความชั่ว พูดด้วยปัญญา ไม่ฟุ้งซ่านย่อมกำจัดบาปกรรมทั้งหลาย เหมือนลมพัดใบไม้ให้ร่วงหล่นไป ฉะนั้น " .(มหาโกฏฐิตเถรคาถา) 50/54/1250/54/12 50/53/4 |
16 | พระมหาโกฏฐิตเถระได้ถวายทาน 7 วัน แด่พระปทุมุตตรพุทธเจ้าและภิกษุแสนรูปตั้งความปรารถนาเป็นภิกษุผู้เลิศด้วยปฏิสัมภิทาญาณ (อ.มหาโกฏฐิตเถรคาถา) 50/55/450/55/4 50/53/10 |
17 | ในพุทธุปบาทกาลนี้ เกิดในตระกูลพราหมณ์มหาศาล เจริญวัยแล้วเรียนไตรเพทวันหนึ่งไปฟังธรรมพระศาสดา ได้มีศรัทธาบวชแล้ว บำเพ็ญวิปัสสนาบรรลุพระอรหัต พร้อมด้วยปฏิสัมภิทา (อ.มหาโกฏฐิตเถรคาถา) 50/60/150/60/1 50/58/11 |
18 | [๑๔๐] " ท่านจงดูปัญญานี้ของพระตถาคตเจ้าทั้งหลายดังไฟ อันรุ่งเรืองในเวลาพลบค่ำ พระตถาคตเหล่าใดย่อมกำจัดความสงสัย ของเวไนยสัตว์ทั้งหลาย ผู้มาเฝ้าถึงถึงสำนักของพระองค์ พระตถาคตเหล่านั้น ย่อมชื่อว่าเป็นผู้ให้แสงสว่าง เป็นผู้ให้ดวงตา " (กังขาเรวตเถรคาถา) 50/63/550/63/5 50/61/4 |
19 | พระกังขาเรวตเถระเกิดในตระกูลพราหมณ์มหาศาล ได้ถวายมหาทาน 7 วัน แด่พระปทุมุตตรพุทธเจ้าและภิกษุสงฆ์ ปรารถนาตำแหน่งเลิศภิกษุผู้ยินดีในฌาน..(อ.กังขาเรวตเถรคาถา) 50/63/1350/63/13 50/61/12 |
20 | ชื่อว่า ตถาคต ด้วยเหตุ 8 ประการ (อ.กังขาเรวตเถรคาถา) 50/68/1750/68/17 50/66/12 |
21 | [๑๔๑] " บุคคลควรสมาคมกับสัตบุรุษ ผู้เป็นบัณฑิต ชี้แจงประโยชน์เท่านั้นเพราะธีรชนทั้งหลายเป็นผู้ไม่ประมาทเห็นประจักษ์ด้วยปัญญา ย่อมได้บรรลุถึง ประโยชน์ประโยชน์อย่างใหญ่ ประโยชน์อย่างลึกซึ้ง เห็นได้ยากละเอียด สุขุม " .(ปุณณมันตานีปุตตเถรคาถา) 50/71/1550/71/15 50/69/4 |
22 | พระปุณณมันตานีปุตตเถระ เกิดในตระกูลพราหมณมหาศาล ได้ถวายมหาทาน 7 วัน ปรารถนาตำแหน่งเลิศภิกษุผู้เป็นธรรมกถึก ในกาลนี้เกิดเป็นหลานชายของพระอัญญาโกณฑัญญเถระ บวชในสำนักของพระเถระ แล้วขวนขวายวิปัสสนาบรรลุพระอรหัต (อ.ปุณณมันตานีปุตตเถรคาถา) 50/72/450/72/4 50/69/11 |
23 | กุลบุตร 500 ที่บวชในสำนักของพระปุณณมันตานีบุตร ท่านสั่งสอนภิกษุเหล่านั้นด้วยกถาวัตถุ10 ภิกษุเหล่านั้นอยู่ในโอวาทของท่านแล้วบรรลุพระอรหัต พระศาสดาตั้งท่านไว้ในตำแหน่งเลิศภิกษุผู้เป็นพระธรรมกถึก (อ.ปุณณมันตานีปุตตเถรคาถา) 50/74/1250/74/12 50/71/21 |
24 | ท่านปรารถนาตำแหน่งเลิศภิกษุผู้ปูลาดเสนาสนะต่อพระปทุมุตตรพุทธเจ้า ครั้นศาสนาของพระกัสสปทศพลเสื่อม ท่านและภิกษุอีก 6 รูป ได้ผูกบันไดขึ้นยอดเขาสูง บำเพ็ญสมณธรรม พระเถระที่ 1 ได้บรรลุอรหัต พระเถระที่ 2 บรรลุอนาคามิผล ในกาลนี้ท่านเกิดในเรือนของเจ้ามัลละ พออายุ 7 ขวบ ท่านได้บวชบรรลุพระอรหัตตอนปลงผมเสร็จ. (อ.ทัพพเถรคาถา) 50/79/1350/79/13 50/76/13 |
25 | บาปกรรมที่ท่านกำจัดพระขีณาสพรูปหนึ่งในกาลก่อน เป็นเหตุให้หมกไหม้อยู่ในนรกหลายแสนปี (อ.ทัพพเถรคาถา) 50/88/150/88/1 50/84/19 |
26 | ถอยหลังจากกัปนี้ไป 118 กัป ท่านเกิดในตระกูลคฤหบดี ได้ผูกเรือขนานส่งพระพุทธเจ้าอัตถทัสสี และภิกษุสงฆ์แล้วถวายมหาทาน ในกัปที่ 91 ได้บวชในศาสนาของพระวิปัสสีพุทธเจ้า สมาทานธุดงค์ ครั้งพระกัสสปทศพล ท่านได้ออกบวชพร้อมสหายทั้ง 3 ในกาลนี้ท่านก็ออกบวชพร้อมสหายทั้ง 3 คือ ภูมิชะเชยยเสนะ อภิราธนะ (อ.สัมภูตเถรคาถา) 50/90/1950/90/19 50/87/11 |
27 | [๑๔๔] " ผู้ใดขจัดเสนาแห่งมัจจุราช เหมือนห้วงน้ำใหญ่ กำจัดสะพานไม้อ้อ อันแสนจะทรุดโทรมฉะนั้น ก็ผู้นั้น จัดว่าเป็นผู้ชนะมาร ปราศจากความหวาดกลัว มีตนอันฝึกแล้ว มีจิตตั้งมั่น ดับกิเลสและความเร่าร้อนได้แล้ว " (ภัลลิยเถรคาถา) 50/96/450/96/4 50/92/12 |
28 | ในกัปที่ 31 พระเถระนี้ ได้ถวายผลไม้แด่พระปัจเจกพุทธเจ้า ชื่อ สุมนะ , ในกาลของพระสิขีพุทธเจ้า ได้ถวายมหาทานแล้วตั้งความปรารถนาพร้อมด้วยสหายให้ได้เป็นผู้ได้ถวายอาหารครั้งแรกแด่พระพุทธเจ้า (อ.ภัลลิยเถรคาถา) 50/96/1250/96/12 50/93/4 |
29 | เทวดาผู้เป็นญาติ ช่วยให้ได้พบพระพุทธเจ้า (อ.ภัลลิยเถรคาถา) 50/97/1250/97/12 50/93/22 |
30 | ตปุสสะและภัลลิยะ 2 พี่น้อง เป็นผู้ถึง พระพุทธ และพระธรรม ว่าเป็นสรณะก่อนผู้อื่น และได้ พระเกศธาตุไปบูชา ต่อมาเมื่อ พระพุทธเจ้าประทับอยู่ในกรุงราชคฤห์ ทั้งสองได้มาฟังธรรมอีก ตปุสสะได้บรรลุโสดาปัตติผล ส่วนภัลลิยะบวชแล้วได้เป็นผู้มีอภิญญา 6 (อ.ภัลลิยเถรคาถา) 50/97/1850/97/18 50/94/6 |
31 | เสนามาร (อ.ภัลลิยเถรคาถา) 50/99/1250/99/12 50/95/22 |
32 | [๑๔๕] " เมื่อก่อนผู้ใดเป็นผู้อันบุคคลอื่นฝึกได้โดยยาก แต่เดี๋ยวนี้ผู้นั้นอันพระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงฝึกฝนได้ดีแล้ว เป็นนักปราชญ์ มีความสันโดษ ข้ามความสงสัยได้แล้ว เป็นผู้ชนะกิเลสมาร ปราศจากขนลุกพอง ปราศจากความกำหนัด มีจิตมั่น ดับกิเลสและความเร่าร้อนได้แล้ว " (วีรเถรคาถา) 50/100/1050/100/10 50/97/4 |
33 | ในกัปที่ 91 ท่านเป็นผู้เฝ้าอารามของพระวิปัสสีพุทธเจ้า ได้บูชาพระองค์ด้วยดอกคนทิสอ ในกาลของพระกัสสปพุทธเจ้า ได้ถวายขีรภัตรแก่พระสงฆ์ และให้ทานแก่คนกำพร้า และคนเดินทางไกล ในกาลนี้เกิดในตระกูลอำมาตย์ของพระเจ้า-ปเสนทิเป็นผู้กล้าหาญในสงคราม มีครอบครัวแล้ว ครั้นบุรพกรรมตักเตือนท่านสลดใจจึงบวชไม่นานได้เป็นผู้มีอภิญญา 6 ภายหลังภรรยาเก่าของท่านก็ไปบวชเป็นภิกษุณี ได้เป็นผู้มีวิชชา 3 (อ.วีรเถรคาถา) 50/101/450/101/4 50/97/13 |
34 | ท่านปรารถนาตำแหน่งเลิศต่อพระปทุมุตตรพุทธเจ้า, ได้บูชาพระสถูปของพระสุเมธพุทธเจ้า และถวายทานในสงฆ์ในภัทรกัปนี้ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ยังมหาชนให้อยู่ในศีล 5 มีสวรรค์เป็นที่ไปในเบื้องหน้า , กาลนี้เป็นพราหมณ์ สำเร็จวิชา จูฬคันธาระ เที่ยวไปในอากาศได้ และรู้จิตของผู้อื่น ท่านบวชเพื่อหวังเรียนวิชาต่อพระพุทธเจ้า เมื่อได้ฟังธรรมแล้ว เจริญวิปัสสนาบรรลุพระอรหัต พระศาสดาให้เป็นผู้เลิศเพราะความเป็นที่รัก ที่พอใจของเทวดาทั้งหลาย .(อ.ปิลินทวัจฉเถรคาถา) 50/104/1350/104/13 50/101/1 |
35 | ท่านเกิดเป็นนกจักรพราก มีจิตเลื่อมใสเอาปากคาบดอกสาหร่ายไป บูชาพระวิปัสสีพุทธเจ้า , เมื่อศาสนาของพระกัสสปพุทธเจ้าเสื่อมลงท่านเกิดในตระกูลกุฎุมพี ได้บวชบำเพ็ญสมณธรรม, ในกาลนี้ เวลาที่ท่านเกิด หม้อเปล่า ทุกใบในเรือนนั้น ได้เต็มไปด้วยถั่วทอง จึงได้ชื่อว่า ปุณณมาส ท่านมีครอบครัวและบุตรแล้ว ได้ไปฟังธรรม มีศรัทธา บวชแล้วขวนขวายวิปัสสนาบรรลุพระอรหัต.(อ.ปุณณมาสเถรคาถา) 50/110/450/110/4 50/106/11 |
36 | [๑๔๘] " ภิกษุ ผู้มากไปด้วยความปราโมทย์ในธรรม อันพระพุทธเจ้าทรงประกาศแล้วพึงบรรลุสันตบท อันเป็นธรรมเข้าไปสงบระงับสังขาร เป็นสุข ".(จูฬวัจฉเถรคาถา) 50/114/550/114/5 50/111/5 |
37 | ท่านเป็นคนจน รับจ้างผู้อื่นเลี้ยงชีพได้ถวายผ้าแก่พระสุชาต สาวกของพระ+ปทุมุตตรพุทธเจ้า , ในเมื่อศาสนาของพระกัสสปพุทธเจ้า เสื่อมลง ท่านได้บวชบำเพ็ญสมณธรรม , ในกาลนี้เกิดในตระกูลพราหมณ์ ในกรุงโกสัมพี ได้ฟังธรรมแล้วบวช เรียนกัมมัฏฐานที่เหมาะแก่จริตแล้วภาวนาอยู่ โดยสมัยที่ภิกษุโกสัมพีแตกกัน ท่านไม่ยึดถือลัทธิของภิกษุทั้งสองฝ่าย ตั้งอยู่ในโอวาทอันพระพุทธเจ้าทรงประทานแล้ว เพิ่มพูนวิปัสสนา บรรลุพระอรหัตแล้ว(อ.จูฬวัจฉเถรคาถา) 50/114/1250/114/12 50/112/5 |
38 | จักร 4 คือ การคบหาสัตบุรุษ การฟังธรรมของสัตบุรุษ การกระทำไว้ในใจโดยแยบคาย ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม (อ.จูฬวัจฉเถรคาถา) 50/117/1950/117/19 50/115/7 |
39 | [๑๔๙] " ภิกษุมีกำลังปัญญาสมบูรณ์ด้วยศีล และวัตร มีจิตตั้งมั่น ยินดีในฌานมีสติ บริโภคโภชนะตามมีตามได้ มีราคะไปปราศแล้ว พึงหวังได้ซึ่งกาลปรินิพพานในศาสนานี้ " (มหาวัจฉเถรคาถา) 50/118/450/118/4 50/115/16 |
40 | ท่านได้ถวายน้ำดื่มแด่พระปทุมุตตรพุทธเจ้า และภิกษุสงฆ์,ในกาลของพระสิขี-พุทธเจ้า ท่านได้เป็นอุบาสก , ในกาลนี้เกิดเป็นบุตรพราหมณ์บ้านนาลคามแคว้นมคธ ได้ข่าวว่าพระสารีบุตร เป็นผู้มีปัญญามาก ยังเข้าเป็นสาวกของพระพุทธเจ้า ท่านจึงเกิดศรัทธาบวช ไม่นานได้บรรลุพระอรหัต ท่านกล่าวคาถานี้เพื่อให้เกิดความอุตสาหะ แก่เพื่อนสพรหมจารี (อ.มหาวัจฉเถรคาถา) 50/118/1150/118/11 50/116/4 |
41 | ท่านเกิดเป็นเต่า มีขนาดเท่าเรือลำเล็ก ได้พาพระอัตถทัสสีพุทธเจ้า ข้ามแม่น้ำท่านได้บวชเป็นดาบสตั้ง 100 ครั้งเป็นเวลาไม่น้อย , สมัยพระกัสสปพุทธเจ้า ได้เกิดเป็นนกพิราบ มีจิตเลื่อมใสในภิกษุผู้อยู่ป่า ครั้นตายจากนกพิราบแล้วเกิดในนครพาราณสี เจริญวัยแล้วบวชสะสมบุญ , ในกาลนี้ เกิดในกรุงกบิลพัสดุ์เป็นสหายเล่นฝุ่นกับพระโพธิสัตว์ ครั้งพระโพธิสัตว์ออกบวช ท่านก็ออกบวชเป็นดาบสอยู่ป่าหิมวันต์ ได้ยินว่าพระพุทธเจ้าอุบัติแล้ว ก็มาบวชเรียนกรรมฐานแล้วไปอยู่ป่า ไม่นานก็ได้บรรลุพระอรหัต. (อ.วนวัจฉเถรคาถา) 50/121/1150/121/11 50/119/4 |
42 | ในกัปที่ 31 ท่านได้ถวายผลมะรื่นแก่พระเวสสภูพระพุทธเจ้า , เมื่อผู้เป็นลุงบวชในศาสนาของพระกัสสปพุทธเจ้า ท่านก็บวชพร้อมกับลุง ,ในกาลนี้ ท่านเกิดเป็นหลานของพระวนวัจฉเถระ เมื่อพระเถระแก่แล้ว มารดาของท่านให้ท่านบวชบำรุงพระเถระ สามเณรทำตามโอวาทของพระเถระ เห็นแจ้งแล้วบรรลุพระอรหัต..(อ.วนวัจฉสามเถรคาถา) 50/126/450/126/4 50/123/13 |
43 | [๑๕๒] " ภิกษุพึงตัดสังโยชน์เบื้องต่ำ 5 พึงละสังโยชน์เบื้องสูง 5 พึงเจริญอินทรีย์ 5มีศรัทธา เป็นต้น ให้ยิ่งขึ้นไป ภิกษุผู้ล่วงธรรมเป็นเครื่องข้อง 5 ประการ ได้แล้วพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ข้ามโอฆะได้แล้ว " (กุณฑธานเถรคาถา) 50/129/1050/129/10 50/126/18 |
44 | ท่านได้ตั้งความปรารถนาเป็นเลิศภิกษุผู้จับสลากก่อน ต่อพระปทุมุตตรพุทธเจ้าและเมื่อพระองค์ออกจากนิโรธสมาบัติก็ได้ถวายเครือกล้วยใหญ่ (อ.กุณฑธานเถรคาถา) 50/129/1450/129/14 50/127/4 |
45 | พระวิปัสสีพุทธเจ้าได้มีอุโบสถในระหว่าง 6 ปี, พระกัสสปพุทธเจ้าสวดปาฏิโมกข์ทุกๆ 6 เดือน (อ.กุณฑธานเถรคาถา) 50/130/1050/130/10 50/127/16 |
46 | ภุมมเทวดา แกล้งทำให้ภิกษุสหายกันต้องเข้าใจผิดกัน เทวดานั้นไม่รอดพ้นภัยในอบาย ตลอดพุทธันดรหนึ่ง (อ.กุณฑธานเถรคาถา) 50/130/1450/130/14 50/127/21 |
47 | ท่านได้บวชบำเพ็ญสมณธรรม ในกาลของพระปทุมุตตรพุทธเจ้า และในกัปที่ 31ได้ถวายผลมะงั่วแด่พระเวสสภูพุทธเจ้า ในกาลนี้ บวชเป็นดาบสในสำนักของอุรุเวลกัสสปดาบส ในเวลาที่พระศาสดาแสดง อาทิตตปริยายสูตร ได้บรรลุพระอรหัต พร้อมด้วยชฏิล พันหนึ่ง และท่านเป็นอุปัชฌาย์ของพระอานนท์.(อ.เพลัฏฐสีสเถรคาถา) 50/139/1150/139/11 50/136/11 |
48 | [๑๕๔] " เมื่อใด บุคคลเป็นผู้ง่วงเหงา และกินมาก มักนอนหลับ กลิ้งเกลือกไปมาเมื่อนั้น เขาเป็นคนเขลา ย่อมเข้าห้องบ่อยๆ เหมือนสุกรใหญ่ ที่เขาปรนปรือด้วยเหยื่อฉะนั้น " (ทาสกเถรคาถา) 50/142/1650/142/16 50/139/8 |
49 | ท่านได้สั่งใช้ให้พระอรหันต์ ช่วยทำกิจบางอย่าง จึงเกิดเป็นลูกหญิงรับใช้..(อ.ทาสกเถรคาถา) 50/143/1450/143/14 50/140/6 |
50 | [๑๕๕] " ภิกษุผู้อยู่ในป่าเภสกฬาวัน พิจารณาแผ่นดินนี้ด้วยความสำคัญว่ากระดูกอย่างเดียวเป็นอารมณ์ จักได้เป็นทายาทของพระพุทธเจ้า เราเข้าใจว่า เขาจะละกามราคะได้โดยเร็วพัน. (สิงคาลปิตาเถรคาถา) 50/146/450/146/4 50/142/20 |
51 | ในกัปที่ 94 ท่านได้ถวายผลตาล แก่พระสตรังสีปัจเจกพุทธเจ้า , ให้สมัยพระกัสสปพุทธเจ้า ท่านได้บวชแล้วเจริญอัฏฐิกสัญญา , ในกาลนี้เกิดในกรุงสาวัตถีแต่งงานได้บุตรคนหนึ่ง ชื่อว่า สิงคาละ ท่านสละความผูกพันในเรือน แล้วบวชในพระศาสนา พระศาสดาทรงบอกอัฏฐิกสัญญากัมมัฏฐาน ท่านบำเพ็ญอยู่ในป่าเภสกฬาวัน ได้บรรลุพระอรหัต (อ.สิงคาลปิตาเถรคาถา) 50/146/1150/146/11 50/143/4 |
52 | [๑๕๖] " พวกคนไขน้ำก็ไขน้ำไป ช่างศรก็ดัดลูกศรพวกช่างถากก็ถากไม้ พวกบัณฑิตผู้มีวัตรอันงามก็ฝึกฝนตน " (กุฬเถรคาถา) 50/149/1750/149/17 50/146/6 |
53 | ท่านได้ถวายขนุนสำมะลอ แก่พระวิปัสสีพุทธเจ้าแล้วมีศรัทธาบวช จากนั้นท่องเที่ยวไปในเทวดา และมนุษย์ตลอด 6 พุทธันดร ในกาลนี้ เกิดในกรุงสาวัตถีได้มีศรัทธาบวชแล้วเป็นผู้มากไปด้วยความฟุ้งซ่าน วันหนึ่ง เข้าไปบิณฑบาต ได้อาศัยนิมิตที่เห็น เขาขุดเหมือง ช่างดัดศร และช่างถากไม้ นำมาฝึกหัดตน เพียรพยามไม่นานนักได้บรรลุพระอรหัต (อ.กุฬเถรคาถา) 50/150/450/150/4 50/146/12 |
54 | [๑๕๗] " เราไม่มีความกลัวตาย ไม่มีความอาลัยในชีวิต จักเป็นผู้มีสติสัมปชัญญะละทิ้งกายนี้ไป " (อชิตเถรคาถา) 50/153/450/153/4 50/149/13 |
55 | ในกัปที่ 91 ท่านได้ถวายผลมะขวิด แต่พระวิปัสสีพุทธเจ้า, ในกาลนี้เกิดเป็นบุตรของอัคคาสนียพราหมณ์ ของพระเจ้ามหาโกศล มีนามว่า อชิตะ ได้บวชเป็นลูกศิษย์ของพาวรีพราหมณ์ และได้ถูกส่งไปเข้าเฝ้าทูลถามปัญหาด้วยใจ ต่อพระศาสดา (อ.อชิตเถรคาถา) 50/153/1050/153/10 50/149/18 |
56 | [๑๕๘] " เราไม่กลัวภัย พระศาสดาของเราทั้งหลาย เป็นผู้ฉลาดในธรรมอันไม่ตาย ภัยย่อมไม่ตั้งอยู่ในหนทางใด ภิกษุทั้งหลาย ย่อมไป โดยหนทางนั้น ".(นิโครธเถรคาถา) 50/156/550/156/5 50/153/5 |
57 | ในกัปที่ 118 นับแต่ภัทรกัปนี้ ท่านได้บวชเป็นดาบส ทำประรำกิ่งไม้ คลุมด้วยดอกรัง ถวายแด่พระปิยทัสสีพุทธเจ้าซึ่งเข้านิโรธสมาบัติและทำความเลื่อมใสในภิกษุสงฆ์ หนึ่งแสนที่มาในที่นั้น. ในกาลนี้ เกิดในตระกูลพราหมณ์มหาศาลในนครสาวัตถี เกิดความเลื่อมใส ด้วยการเห็นพุทธานุภาพในวันที่ทรงรับเชตวันวิหาร บวชแล้วเจริญวิปัสสนา ได้เป็นผู้มีอภิญญา 6 (อ.นิโครธเถรคาถา) 50/156/1250/156/12 50/154/5 |
58 | ในกัปที่ 91 ท่านได้บูชาด้วยดอกไม้ แด่พระวิปัสสีพุทธเจ้า และน้อมใจเชื่อในพระศาสดา และในนิพพาน ในกาลนี้ เกิดเป็นบุตรพราหมณ์ในนครราชคฤห์ ได้ฟังธรรมแล้วมีศรัทธา บวชเรียนกัมมัฏฐาน เข้าสู่ป่าทำฌานให้เป็นบาท เจริญวิปัสสนา บรรลุพระอรหัต (อ.จิตตกเถรคาถา) 50/162/1150/162/11 50/160/11 |
59 | [๑๖๐] " เราฉันข้าวมธุปายาสที่พุ่มกอไผ่ แล้วพิจารณาความเกิดและความเสื่อมไป แห่งขันธ์ทั้งหลาย โดยเคารพ จักกลับไปสู่สานุบรรพตที่เราเคยอยู่ แล้วเจริญวิเวกต่อไป " (โคสาลเถรคาถา) 50/165/450/165/4 50/163/4 |
60 | เห็นผ้าบังสุกุลจีวรของพระปัจเจกพุทธเจ้า แล้วมีจิตเลื่อมใสว่าผ้านี้เป็นธงชัยของพระอรหันต์ แล้วบูชาด้วยดอกไม้ได้ไปเกิดอยู่ดาวดึงส์ (อ.โคสาลเถรคาถา) 50/165/1350/165/13 50/163/13 |
61 | ในกาลนี้ เกิดในตระกูลมั่งคั่ง แคว้นมคธ ครั้นได้ข่าวว่า พระโสณโกฏิกัณณะบวชแล้วท่านจึงบวชเรียนกัมมัฏฐานแล้วเลือกอยู่ภูเขาสานุ แม่ของท่านได้ถวายอาหารบิณฑบาตทุกวัน ท่านได้อาหารเป็นที่สบาย เจริญวิปัสสนา กระทำให้แจ้งซึ่งพระอรหัต (อ.โคสาลเถรคาถา) 50/165/1850/165/18 50/163/17 |
62 | นายพราน ได้บูชารอยพระพุทธบาท ด้วยดอกหงอนไก่ ได้ไปเกิดอยู่ดาวดึงส์.(อ.สุคันธเถรคาถา) 50/168/1050/168/10 50/166/10 |
63 | ท่านได้บำเพ็ญมหาทานแด่พระกัสสปพุทธเจ้าและภิกษุสงฆ์ ได้อบพระคันธกุฎีด้วยจันทน์ขาว ในกาลนี้เวลาที่ท่านเกิดมีกลิ่นหอมฟุ้งไปแม้เรือนใกล้เคียง ครั้นเจริญวัยแล้ว ได้ฟังธรรมของพระมหาเสลเถระ จึงบวชเจริญวิปัสสนาบรรลุพระอรหัตภายใน 7 วัน (อ.สุคันธเถรคาถา) 50/169/150/169/1 50/166/19 |
64 | [๑๖๒] " จิตของภิกษุใดได้บรรลุผลญาณ สว่างรุ่งเรืองอยู่เป็นนิตย์ท่านมาเบียด-เบียน ภิกษุนั้นเข้า จักได้รับทุกข์แน่นอน นะมาร " (นันทิยเถรคาถา) 50/171/1850/171/18 50/169/11 |
65 | เมื่อพระปทุมุตตรพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ท่านให้สร้างแท่นบูชาด้วยไม้แก่นจันทน์ไว้ในพระเจดีย์ในกาลนี้เกิดในตระกูลแห่งศากยราชออกบวชพร้อมเจ้าอนุรุทธะ เมื่อบรรลุอรหันต์แล้วอยู่ในปาจีนวังสมิคทายวัน มารมาทำรูปที่น่ากลัวแก่ท่าน.(อ.นันทิยเถรคาถา) 50/172/450/172/4 50/169/17 |
66 | [๑๖๓] " เราได้ฟังพระวาจาอันเป็นสุภาษิต ของพระพุทธเจ้าผู้เป็นเผ่าพันธุ์แห่งพระอาทิตย์จึงได้รู้แจ้งแทงตลอดซึ่งธรรมอันละเอียด เหมือนบุคคลยิงปลายขน-ทรายด้วยลูกศร ฉะนั้น " (อภัยเถรคาถา) 50/175/450/175/4 50/172/8 |
67 | พระธรรมกถึก ในเวลาแสดงธรรม กล่าวชมพระพุทธเจ้า ด้วยคาถา 4 คาถาก่อน ด้วยบุญนั้นไม่ได้เกิดในอบายตลอดแสนกัป (อ.อภัยเถรคาถา) 50/175/1250/175/12 50/172/15 |
68 | วิบากของผู้ที่เลื่อมใสในอจินไตย ย่อมเป็นอจินไตย (อ.อภัยเถรคาถา) 50/176/650/176/6 50/173/8 |
69 | ในกัปที่ 91 ท่านได้บูชา พระวิปัสสีพุทธเจ้า ด้วยดอกไม้, ครั้นพระกัสสปพุทธเจ้าท่านได้บวชแล้วไม่เข้าใจ ภัทเทกรัตตสูตร จึงตั้งความปรารถนา เป็นผู้กล่าวภัทเทกรัตตคาถา แก่ภิกษุผู้สหาย , ในกาลนี้เกิดในศากยราช เป็นผู้ละเอียดอ่อนมีขนขึ้นที่ฝ่าเท้า เมื่อท่านยังไม่บวช เทวดาที่เคยเป็นสหาย ชื่อจันทนะ ได้ทวงสัญญาเดิมต่อท่าน. ครั้นเข้าเฝ้าถามความจริงจากพระพุทธองค์แล้ว จึงบวชหมั่นประกอบภาวนา ได้เป็นผู้มีอภิญญา 6 (อ.โลมสกังคิยเถรคาถา) 50/179/1050/179/10 50/176/10 |
70 | ในกัปที่ 31 ท่านได้ระลึกถึงพระพุทธคุณ แล้วเหวี่ยงดอกไม้ไปในอากาศ บูชาพระเวสสภูพุทธเจ้า แล้วได้ไปเกิดอยู่ดาวดึงส์, ในกาลนี้ เกิดเป็นบุตรของอุบาสก ชื่อชัมพุคามิกะ ในนครจำปา ได้ฟังธรรม มีศรัทธาออกบวช บิดาของท่านประสงค์จะทดสอบพระลูกชาย จึงเขียนหนังสือส่งไป ท่านอ่านแล้วสลดใจ จึงเพียรพยายามได้เป็นผู้มีอภิญญา 6 แล้ว กลับไปแสดงปาฏิหาริย์ในหมู่ญาติ .(อ.ชัมพุคามิกปุตตเถรคาถา) 50/183/1250/183/12 50/180/4 |
71 | ในกัปที่ 31 ท่านได้บูชาพระปัจเจกพุทธเจ้า ชื่อว่า สุทัสสนะ , ในกาลนี้ เกิดในตระกูลพราหมณ์ มหาศาล ในกรุงสาวัตถี ภรรยาของเขาถูกงูกัดตาย เขาเกิดสลดใจเกินประมาณจึงไปฟังธรรมพระศาสดา เมื่อตัดความผูกพันในเรือนได้แล้วออกบวช อาศัยนิมิตเห็นช่างศรดัดลูกศร ให้ตรง ดังนี้แล้ว กลับไปที่พักกลางวันพระศาสดาประทับนั่งบนอากาศประทานโอวาท. ท่านเจริญวิปัสสนาได้เป็นพระอรหันต์ โดยกาลไม่นานนัก. (อ.หาริตเถรคาถา) 50/187/450/187/4 50/183/10 |
72 | [๑๖๗] " เมื่ออาพาธเกิดขึ้นแก่เรา สติก็เกิดขึ้นแก่เราว่า อาพาธเกิดขึ้นแก่เราแล้วเวลานี้ เป็นเวลาที่เราไม่ควรประมาท " (อุตติยเถรคาถา) 50/190/450/190/4 50/186/4 |
73 | ในกัปที่ 94 เกิดเป็นจระเข้ใหญ่ ได้พาพระสิทธัตถพุทธเจ้า ข้ามแม่น้ำจันทภาคาแต่นั้นก็ท่องเที่ยวไปในสุคติภพเท่านั้น (อ.อุตติยเถรคาถา) 50/190/1150/190/11 50/186/10 |
74 | ในกาลนี้เกิดเป็นบุตรพราหมณ์ ในกรุงสาวัตถี บวชเป็นปริพาชกแสวงหาอมต-ธรรม ครั้นฟังธรรมได้บวชแล้ว พระศาสดาให้ชำระศีลให้บริสุทธิ์ เป็นเบื้องต้น ท่านตั้งอยู่ในโอวาท แล้วปรารภวิปัสสนา ก็เมื่ออาพาธเกิดขึ้น ท่านเกิดสังเวช ขวนขวายวิปัสสนาแล้วบรรลุพระอรหัต (อ.อุตติยเถรคาถา) 50/191/150/191/1 50/187/2 |
75 | [๑๖๘] " บุคคล ถูกยุง และเหลือบกัดแล้ว ในป่าใหญ่ พึงเป็นผู้มีสติ อดทนต่อสัมผัสแห่งยุง และเหลือบ ในป่าใหญ่นั้นเหมือนช้างอดทนต่อการถูกอาวุธในสงครามฉะนั้น " (คหวรตีริยเถรคาถา) 50/194/550/194/5 50/190/5 |
76 | ในกัปที่ 31 ท่านเป็นนายพรานเนื้อ เห็นพระสิขีพุทธเจ้าแสดงธรรมแก่เทวดา นาคยักษ์ ในป่า มีจิตเลื่อมใส ได้ถือเอานิมิตในเสียงว่า ธรรมนี้พระพุทธเจ้าตรัสอยู่ได้เกิดในเทวโลก, ในกาลนี้เกิดในตระกูลพราหมณ์ ในนครสาวัตถี มีชื่อว่า อัคคิทัตตะได้เห็นยมกปาฏิหาริย์ จึงออกบวช เรียนกรรมฐานแล้วเข้าไปอยู่ป่าชื่อว่าคหวรตีระ เจริญวิปัสสนา แล้วบรรลุพระอรหัต (อ.คหวรตีริยเถรคาถา) 50/195/550/195/5 50/191/5 |
77 | [๑๖๙] " บุคคลผู้มีความเพียร ถึงจะแก่ แต่เผากิเลสให้เร่าร้อน พึงบรรลุนิพพานอันไม่รู้จักแก่ ไม่มีอามิสเป็นธรรมสงบอย่างยิ่ง เกษมจากโยคะอย่างยอดเยี่ยม ".(สุปปิยเถรคาถา) 50/198/450/198/4 50/193/15 |
78 | ท่านบวชเป็นดาบส ได้ถวายผลาผล แด่พระพุทธเจ้าและภิกษุสงฆ์ , ในกาลของพระกัสสปพุทธเจ้า ท่านเกิดในตระกูลกษัตริย์ ได้ออกบวชเป็นพหูสูต เพราะความเมาในชาติ ท่านทั้งยกตนข่มผู้อื่น, ในกาลนี้ ท่านเกิดในตระกูลคนเฝ้าป่าช้าเป็นสหายของพระโสปากเถระ ได้ฟังธรรมของพระเถระ เกิดสังเวช บวชแล้ว เป็นผู้มีใจเด็ดเดี่ยว ขวนขวายวิปัสสนาบรรลุพระอรหัต (อ.สุปปิยเถรคาถา) 50/198/1050/198/10 50/194/4 |
79 | ท่านได้ถวายเมล็ดพืชเครือเถาแด่พระกกุสันธพุทธเจ้า และมีความเลื่อมใส ถวายขีรภัตแด่ภิกษุ 3 รูป โดยตั้งใจอุทิศเป็นสังฆทานจนตลอดชีวิต (อ.โสปากเถรคาถา) 50/203/1050/203/10 50/199/12 |
80 | ทารกคลอดจากท้องมารดา ด้วยอานุภาพแห่งเทวดา (อ.โสปากเถรคาถา) 50/204/950/204/9 50/200/1 |
81 | ในกัปที่ 92 ท่านเป็นนายพรานเนื้อเห็นพระติสสพุทธเจ้า แล้วได้ทำอาสนะหญ้าปูไว้ พระพุทธองค์ทรงประทับนั่งนายพรานได้ถวายบังคมด้วยปีติ โสมนัสมากหลังจากพระองค์ เสด็จไปแล้ว พญาสีหราชก็ฆ่าเขาตาย ในกาลนี้เกิดเป็นบุตรเศรษฐี กรุงสาวัตถี เป็นน้องชายคนเล็กของพระสังคามชิตเถระ ได้ชื่อว่า โปสิยะเมื่อมีภรรยาและบุตรหนึ่งคน แล้วเกิดสลดใจ บวชแล้วเข้าป่าขวนขวายวิปัสสนาบรรลุพระอรหัต (อ.โปสิยเถรคาถา) 50/207/1550/207/15 50/203/11 |
82 | [๑๗๒] " บุคคลผู้ต้องการความสุข เมื่อประพฤติให้สมควรแก่ความสุขนั้นย่อมได้ความสุข ผู้ใดเจริญอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ 8 เป็นทางตรง เพื่อบรรลุอมต-ธรรม ผู้นั้นย่อมได้ความสรรเสริญ และเจริญด้วยยศ " (สามัญญกานิเถรคาถา) 50/212/450/212/4 50/207/18 |
83 | ในกัปที่ 91 ท่านได้ถวายเตียง แด่พระวิปัสสีพุทธเจ้า , ในกาลนี้ เกิดเป็นบุตรของปริพาชกคนหนึ่ง ได้มีชื่อว่า สามัญญกานี เห็นยมกปาฏิหาริย์ แล้วขอบวช เรียนกรรมฐาน ยังฌานให้เป็นบาทเจริญวิปัสสนาบรรลุพระอรหัต (อ.สามัญญกานิเถรคาถา) 50/212/1150/212/11 50/208/4 |
84 | [๑๗๓] " การฟังเป็นความดี ความประพฤติมักน้อยเป็นความดี การอยู่โดยไม่ห่วงใยเป็นความดีทุกเมื่อ การถามสิ่งที่เป็นประโยชน์เป็นความดี การทำตามโอวาทโดยเคารพ เป็นความดี กิจมีการฟังเป็นต้นนี้ เป็นเครื่องสงบของผู้ไม่มีกังวล " (กุมาปุตตเถรคาถา) 50/216/450/216/4 50/211/11 |
85 | ในกัปที่ 91 ท่านเป็นดาบสนุ่งห่มหนังเสือ ได้ถวายน้ำมันนวดเท้าแด่พระวิปัสสี-พุทธเจ้า, ในกาลนี้ เกิดในตระกูลคหบดีในเวฬุกัณฏกนคร ฟังธรรมพระสารีบุตรแล้วเลื่อมใสออกบวช เข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ฟังธรรม ชำระกรรมฐานแล้ว อยู่ในที่อยู่อันสมควร ยังวิปัสสนาให้เจริญแล้ว บรรลุพระอรหัต. (อ.กุมาปุตตเถรคาถา) 50/216/1250/216/12 50/212/1 |
86 | [๑๗๔] " ภิกษุทั้งหลายไม่สำรวม กาย วาจา ใจ พากันเที่ยวไปสู่ชนบทต่างๆ ทอดทิ้งสมาธิ การเที่ยวไปสู่แคว้นต่างๆ จักสำเร็จประโยชน์อะไรเล่า เพราะฉะนั้น ภิกษุพึงกำจัดความแข่งดี อย่าให้มิจฉาวิตก และกิเลสมีตัณหา เป็นต้นครอบงำพึงเจริญฌาน " (กุมาปุตตสหายเถรคาถา) 50/220/550/220/5 50/215/7 |
87 | ในกัปที่ 94 ท่านได้ทำไม้เท้าถวายสงฆ์ ในสมัยพระสิทธัตถพุทธเจ้า, ในกาลนี้ เป็นสหายของพระกุมาบุตรเถระ บวชแล้วได้บำเพ็ญอยู่ด้วยกันที่ภูเขา เมื่อมีภิกษุอาคัน-ตุกะ ที่ชอบจาริกเข้าไปที่นั้น ก็เกิดโกลาหล ท่านสังเวชใจ จึงกล่าวคาถาอาศัยคาถานั้นเป็นเครื่องเตือนใจ เจริญวิปัสสนา บรรลุอรหัต. (อ.กุมาปุตตสหายเถรคาถา) 50/220/1350/220/13 50/215/15 |
88 | ในกัปที่ 31 ได้บูชาพระสิขีพุทธเจ้าด้วยดอกไม้ , ท่านให้สร้างฉัตร และไพรที ไว้บนเจดีย์ของ พระโกนาคมนพุทธเจ้าครั้นพระกัสสปพุทธเจ้า ท่านได้ทำมณฑป ให้พระอรหันต์รูปหนึ่งนั่งฉันในที่นั้น จึงได้เกิดในเสรีสกวิมาน, ในกาลนี้เป็นสหายของพระยสเถระ ได้ฟังธรรมพระพุทธองค์ พร้อมกับสหาย ในเวลาจบเทศนา ก็ดำรงอยู่ในอรหัตผล. (อ.ควัมปติเถรคาถา) 50/224/1250/224/12 50/219/12 |
89 | พระพุทธเจ้าสั่งพระควัมปติ ไปกั้นห้วงน้ำหลากในแม่น้ำสรภู ท่านได้ใช้ฤทธิ์กั้นน้ำที่ไหลหลากให้หยุดตั้งอยู่ดุจภูเขา (อ.ควัมปติเถรคาถา) 50/226/950/226/9 50/221/6 |
90 | [๑๗๖] " บุรุษถูกแทงด้วยหอก หรือ ถูกไฟไหม้ที่กระหม่อม แล้วรีบรักษาฉันใด ภิกษุเป็นผู้มีสติเว้นรอบ เพื่อละความกำหนัด ยินดีในกามฉันนั้น " (ติสสเถรคาถา) 50/228/450/228/4 50/222/20 |
91 | ท่านได้นำใบไม้เก่าๆ ที่โคนไม้อันเป็นที่ตรัสรู้ของพระติสสพุทธเจ้าออกแล้วชำระสะสางจนสะอาด, ในกาลนี้ เกิดเป็นโอรสของพระเจ้าอาของพระพุทธเจ้า ท่านบวชแล้ว ถือตัว มากไปด้วยความโกรธวันหนึ่ง พระศาสดาเห็นท่านนอนหลับกลางวัน จึงเหาะไปเตือนให้สลด ท่านมีใจสังเวชจึงหมั่นขวนขวายใน วิปัส-สนาอยู่ พระศาสดาทราบอัธยาศัยแล้ว แสดงธรรมแก่ท่านจบเทศนา ก็ได้ดำรงอยู่ในพระอรหัตผล. (อ.ติสสเถรคาถา) 50/228/1050/228/10 50/223/4 |
92 | [๑๗๗] " บุรุษที่ถูกแทงด้วยหอก หรือ ถูกไฟไหม้ที่กระหม่อมแล้วรีบรักษาฉันใดภิกษุพึงเป็นผู้มีสติเว้นรอบเพื่อละความกำหนัดยินดีในภพ ฉันนั้น " .(วัฑฒมานเถรคาถา) 50/231/1050/231/10 50/226/4 |
93 | ในกัปที่ 92 ท่านได้ถวายผลมะม่วงสุก แด่พระติสสพุทธเจ้า , ในกาลนี้ เกิดในตระกูลเจ้าลิจฉวี เป็นผู้มีศรัทธาเป็นสังฆอุปัฏฐาก เมื่อถูกคว่ำบาตรแล้ว ยังสงฆ์ให้ยกโทษแล้ว สังเวชใจบวช เป็นผู้ถูกความง่วงเหงาหาวนอนครอบงำอยู่ พระศาสดาจึงตรัสพระคาถาให้สลดใจ (อ.วัฑฒมานเถรคาถา) 50/231/1750/231/17 50/226/10 |
94 | ในกัปที่ 91 ท่านได้บูชาพระวิปัสสีพุทธเจ้าด้วยดอกหงอนไก่ , ในกาลนี้ เกิดในตระกูลพราหมณ์ กรุงราชคฤห์เลื่อมใสในพระศาสดา และในพระสัทธรรม ในสมาคมของพระเจ้าพิมพิสาร บวชแล้วบำเพ็ญอยู่ในถ้ำ ไม่ไกลจากภูเขาเวภารได้อากาศเป็นที่สบายจากฝน และเมฆ ขวนขวายวิปัสสนา บรรลุอรหันต์.(อ.สิริวัฑฒเถรคาถา) 50/234/1350/234/13 50/230/5 |
95 | ท่านเกิดในตระกูลนายเรือ ได้ประกอบเรือขนาดที่ท่าปยาคะ พาพระปทุมุตตรพุทธเจ้าพร้อมด้วยสาวกให้ข้ามฝาก แล้วบำเพ็ญมหาทาน ตั้งความปรารถนาเป็นเลิศภิกษุผู้อยู่ในป่า ในกาลนี้เกิดเป็นบุตรนางรูปสารี บ้านนาลกคาม ได้ลวงหมู่ญาติออกบวช บรรลุอรหันต์ (อ.ขทิรวนิยเถรคาถา) 50/238/450/238/4 50/233/12 |
96 | ท่านเกิดเป็นรุกขเทวดา เห็นพระสิทธัตถพุทธเจ้า สรงน้ำแล้วยืน ทรงจีวรผืนเดียวอยู่ ได้มีใจโสมนัสปรบมือ ด้วยบุญกรรมนั้นเขาท่องเที่ยวไปในเทวดา และมนุษย์ทั้งหลาย (อ.สุมังคลเถรคาถา) 50/243/1450/243/14 50/239/4 |
97 | ในกาลนี้ เกิดในตระกูลคนเข็ญใจ เป็นผู้มีเคียว ไถ จอบ เป็นบริวาร ครั้นเห็นสักการะที่คนนำมาเพื่อภิกษุ จึงบวช ท่านอยู่ในป่าไม่นานก็อยากสึก ขณะเดินไปบ้านญาติ เห็นชาวนากำลังไถนาอยู่ กลับได้ความสลดใจ ได้กรรมฐานเพราะ ญาณถึงรอบ อาศัยโคนไม้ต้นหนึ่ง เจริญวิปัสสนาบรรลุพระอรหัต (อ.สุมังคลเถรคาถา) 50/244/250/244/2 50/239/10 |
98 | ในกัปที่ 94 ได้ถวายน้ำล้างพระหัตถ์ ล้างพระบาท และบ้วนพระโอฐ แด่พระสิท-ธัตถพุทธเจ้า, ในกาลนี้ เกิดเป็นบุตรอุบาสกคนหนึ่ง ในกรุงสาวัตถี มารดาท่านตั้งท้องได้ 10 เดือน บิดาก็หนีไป เมื่ออายุ 7 ขวบ ได้บรรพชา ได้เป็นผู้มีปัญญาเป็นพหูสูตกล่าวธรรม ต่อมาท่านอยากสึก นางยักษ์ผู้เป็นมารดาในอดีตมาทำให้ท่านสลดใจ. เริ่มวิปัสสนา แล้วบรรลุพระอรหัตต่อกาลไม่นานนัก (อ.สานุเถรคาถา) 50/248/1650/248/16 50/244/4 |
99 | [๑๘๒] " โคอาชาไนยตัวหนึ่งพลาดล้มแล้ว ย่อมกลับลุกขึ้นตั้งตัวได้ ฉันใด ท่านทั้งหลาย จงทรงจำเราไว้ว่าเป็นสาวกพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้สมบูรณ์ด้วยทัสสนะฉันนั้นเถิด " (รมณียวิหารีเถรคาถา) 50/253/1050/253/10 50/248/8 |
100 | ในกัปที่ 91 ท่านได้กราบบูชาพระวิปัสสีพุทธเจ้า ด้วยดอกหงอนไก่ , ในกาลนี้เกิดเป็นบุตรเศรษฐี ในกรุงราชคฤห์ ถึงความหมกมุ่นในกามคุณ วันหนึ่งเห็นคนที่เป็นชู้กับเมียผู้อื่น ถูกลงโทษ จึงสลดใจ ฟังธรรมพระศาสดาแล้วบวช เพราะเป็นผู้หนาแน่นด้วยราคะ ท่านจึงต้องอาบัติเพราะตั้งใจทำน้ำอสุจิเคลื่อน แล้วเดินไปคิดจะสึก ระหว่างทาง เห็นโคที่เขาเทียมเกวียนพลาดล้ม แล้วยังลุกขึ้นอีกได้ ท่านนำมาเป็นอุบายสอนตน กลับไปแก้ไขอาบัติ เป็นผู้บริสุทธิ์แล้ว เจริญวิปัสสนา บรรลุพระอรหัต. (อ.รมณียวิหารีเถรคาถา) 50/254/150/254/1 50/248/15 |
101 | ในกัปที่ 94 ท่านถวายดอกไม้ผูกเป็นช่อบูชาพระสิทธัตถพุทธเจ้า, ในกาลนี้ เกิดในตระกูล จำเดิมแต่เขาเกิดตระกูลนั้นก็มั่งคั่ง เขาเห็นพุทธานุภาพ ในสมาคมพระเจ้าพิมพิสาร จึงบวชแล้ว หมั่นขวนขวายในภาวนาอยู่ มารมาทำเสียงให้กลัวท่านมากราบทูลพระพุทธองค์ พระองค์ให้ท่านกลับไปไม่ต้องกลัวมาร ท่านจึงไปอยู่ที่เดิม เจริญวิปัสสนา บรรลุพระอรหัต (อ.สมิทธิเถรคาถา) 50/257/1150/257/11 50/252/4 |
102 | ในกัปที่ 92 ท่านได้บูชา พระติสสพุทธเจ้า ด้วยดอกกรรณิการ์, ในกาลนี้ เกิดเป็นบุตรของพราหมณ์คนหนึ่ง ในกรุงราชคฤห์เรียนจบไตรเพท มองไม่เห็นสาระในไตรเพทนั้น จึงไปฟังธรรมพระศาสดา ได้ศรัทธาบวชแล้ว เรียนกรรมฐาน อยู่ในป่าเจริญวิปัสสนา บรรลุพระอรหัต (อ.อุชชยเถรคาถา) 50/261/1150/261/11 50/255/11 |
103 | ในกัปที่ 91 ท่านเป็นคนจน เมื่อมีการประชุมใหญ่ ๆ ได้เป็นผู้จัดแจง และเก็บสิ่ง-ของที่กระจัดกระจาย เป็นไวยาวัจกรรับใช้ในกิจทุกอย่าง ต่อพระวิปัสสีพุทธเจ้าและภิกษุทั้งหลาย ด้วยบุญกรรมนั้นไปบังเกิดในเทวโลก, ในกาลนี้ เกิดเป็นบุตรพราหมณ์ในนครราชคฤห์ มีความเลื่อมใสเข้าไปฟังธรรมแล้วได้เป็นพระโสดาบันแล้วบรรพชา พอปลายมีดจดเท่านั้น ก็ได้อภิญญา 6 (อ.สัญชยเถรคาถา) 50/264/950/264/9 50/258/4 |
104 | ในกัปที่ 31 ท่านได้บูชา พระสิขีพุทธเจ้าด้วยดอกไม้ , ในกาลนี้ เกิดในตระกูลมั่งคั่ง ในกรุงสาวัตถี เป็นผู้เลื่อมใสในกาลที่มอบวิหารเชตวัน จึงบวชเรียนกรรมฐาน อยู่ในป่า มารมาทำให้สะดุ้งร้องเสียงน่ากลัว แต่ท่านรู้ทันว่านี้เป็นมารเมื่อกล่าวคาถานี้อยู่นั่นแล เจริญวิปัสสนา บรรลุพระอรหัตแล้ว.(อ.รามเณยยกเถรคาถา) 50/267/450/267/4 50/260/11 |
105 | [๑๘๗] " แผ่นดินชุ่มฉ่ำด้วยน้ำฝน ลมก็พัด สายฟ้าก็แลบ อยู่ทั่วไปในท้องฟ้าวิตกทั้งหลาย ย่อมสงบไป จิตของเราตั้งมั่นแล้ว เป็นอันดี " (วิมลเถรคาถา) 50/269/1650/269/16 50/263/4 |
106 | ในกัปที่ 91 ท่านเห็นพระวิปัสสีพุทธเจ้า มีใจเลื่อมใสแล้ว ทำการบูชาด้วยการเป่าสังข์ถวาย จากนั้นได้ทำการบำรุงพระศาสดาตลอดกาลเวลา (อ.วิมลเถรคาถา) 50/270/450/270/4 50/263/10 |
107 | สมัยพระกัสสปพุทธเจ้า ท่านได้รดน้ำต้นโพธิ์ด้วยน้ำหอม ซักฟอกอาสนะที่เป็นเจดีย์ และซักสมณบริขารที่เศร้าหมองของภิกษุทั้งหลาย ตั้งอธิษฐาน ขอร่างกายจงบริสุทธิ์ ปราศจากมลทิน , ในกาลนี้ เมื่อท่านคลอดร่างกายไม่เศร้าหมองด้วยดีและเสมหะ ได้เห็นพุทธานุภาพในคราวที่พระพุทธองค์เสด็จกรุงราชคฤห์ จึงบวชเรียนกรรมฐาน อยู่ถ้ำแห่งหนึ่ง ในแคว้นโกศล เมื่อมหาเมฆ ฝนตกทั่วจักรวาลท่านได้อุตุสัปปายะ เจริญวิปัสสนา บรรลุพระอรหัต. (อ.วิมลเถรคาถา) 50/270/1150/270/11 50/263/17 |
108 | พระโคธิกะ พระสุพาหุ พระวัลลิยะ พระอุตติยะ ทั้ง 4 เป็นสหายกัน ในกัปที่ 94ในสหายเหล่านั้น คนหนึ่งเห็นพระสิทธัตถพุทธเจ้าเสด็จเที่ยวบิณฑบาต ได้ถวายอาหารทัพพีหนึ่ง คนที่ 2 มีจิตเลื่อมใสกราบแล้ว ประคองอัญชลี คนที่ 3 ได้บูชาด้วยดอกอุบลกำมือหนึ่ง คนที่ 4 ได้บูชาด้วยดอกมะลิ , สมัยของพระกัสสป-พุทธเจ้า ทั้ง 4 ก็เกิดเป็นสหายกัน ได้บวช บำเพ็ญสมณธรรมในศาสนา.(อ.โคธิกเถรคาถา) 50/274/1150/274/11 50/268/6 |
109 | ในกาลนี้ เกิดเป็นโอรสของเจ้ามัลละทั้ง 4 ในเมืองปาวา เป็นสหายกัน ได้ไปเห็นยมกปาฏิหาริย์ ในกรุงกบิลพัสดุ์ จึงบวชเจริญวิปัสสนา บรรลุพระอรหัต ครั้งหนึ่งพระเจ้าพิมพิสารนิมนต์ทั้ง 4 องค์และสร้างกุฎีให้ แต่ลืมมุงหลังคา ฝนจึงไม่ตกเมื่อนึกได้จึงให้คนมามุงหลังคา ให้ถวายทาน พระเถระทั้ง 4 จึงเข้าสมาบัติในกุฎีนั้น ออกจากสมาบัติแล้วกล่าวคาถา ฝนก็ตั้งเค้าตกลงมา (อ.โคธิกเถรคาถา) 50/275/1050/275/10 50/268/19 |
110 | ท่านเป็นช่างดอกไม้ ชื่อ สุทัสสนะ ได้บูชาพระปทุมุตตรพุทธเจ้าด้วยดอกมะลิ ,ในศาสนาของพระกัสสปพุทธเจ้า ท่านได้บวชบำเพ็ญสมณธรรม , ในกาลนี้เกิดในตระกูลเจ้าวัชชี เมื่อภัย 3 อย่างในแคว้นวัชชีสงบแล้ว ราชกุมารนี้ เห็นพุทธา-นุภาพได้ มีศรัทธาบวชแล้ว อยู่ป่าอัญชนวันเมืองสาเกต ทำกุฎีด้วยตั่งพอนั่งได้อยู่จำพรรษา เพียรพยายาม บรรลุพระอรหัตในเดือนแรกเท่านั้น.(อ.อัญชนวนิยเถรคาถา) 50/283/450/283/4 50/277/10 |
111 | ท่านเห็นพระปทุมุตตรพุทธเจ้าเสด็จมาทางอากาศ คิดว่าจะถวายน้ำ แล้วเกิดปีติโสมนัส โยนหม้อน้ำขึ้นไปถวาย, ในกาลนี้ท่านบวชแล้ว ขวนขวายวิปัสสนา เดินไปใกล้ที่นา เมื่อฝนตก จึงไปหลบฝนที่กระท่อมหญ้าของคนเฝ้านา ได้อากาศอันเป็นที่สบาย บรรลุพระอรหัตแล้ว (อ.กุฏิวิหารีเถรคาถา) 50/286/1050/286/10 50/280/19 |
112 | พระศาสดา บอกอานิสงส์ ของคนเฝ้านานั้น ที่สุดจะได้เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าชื่อ รัตนกุฎี (อ.กุฏิวิหารีเถรคาถา) 50/289/350/289/3 50/283/15 |
113 | ท่านได้ถวายพัดที่สานจากไม้อ้อ แด่พระปทุมุตตรพุทธเจ้า, ในกาลนี้ ท่านบวชแล้วคิดแต่จะทำกุฎีใหม่ เทวดาจึงมาตำหนิ ท่านเกิดสลดใจ เริ่มตั้งวิปัสสนา ดำรงอยู่ในอรหัตผล (อ.ทุติยกุฏิวิหารีเถรคาถา) 50/290/450/290/4 50/284/10 |
114 | ท่านได้ถวายอาสนะ และบูชาด้วยดอกไม้แด่พระอัตถทัสสีพุทธเจ้า , ในกาลนี้ท่านบวชแล้ว อยู่ในอาวาสใกล้บ้านในแคว้นวัชชี ได้อยู่กระท่อมที่เขาจัดไว้อย่างดีน่ารื่นรมย์ มีบริเวณลานเกลี้ยงเกลา ท่านอยู่แล้วเริ่มวิปัสสนาบรรลุพระอรหัต (อ.รมณียกุฏิกเถรคาถา) 50/294/450/294/4 50/288/4 |
115 | พระเถระบวชแล้วได้อาศัยอุบาสกผู้หนึ่งในแคว้นโกศล สร้างกุฎิถวาย ท่านได้ที่อยู่เป็นที่สบาย ขวนขวายวิปัสสนาบรรลุพระอรหัต (อ.โกสัลลวิหารีเถรคาถา) 50/298/950/298/9 50/291/19 |
116 | ท่านได้ถวายมหาทาน 7 วัน ปรารถนา ตำแหน่งภิกษุผู้เลิศด้วยลาภ แด่พระปทุมุตตรพุทธเจ้า, ในกัปที่ 91 ได้ถวายน้ำผึ้งใหม่ ในกาลที่ประชาชนและพระราชาแข่งกันให้ทานแด่พระวิปัสสีพุทธเจ้า (อ.สีวลีเถรคาถา) 50/301/1150/301/11 50/294/17 |
117 | ในกาลนี้ท่านต้องอยู่ในท้องของพระนางสุปปวาสาอยู่ 7 ปี 7 วัน เมื่อพระศาสดาตรัสว่า นางสุปปวาสา ธิดาของเจ้าโกลิยะจงมีความสุขหาโรคมิได้ จงประสูติโอรสผู้ไม่มีโรค พระนางสุปปวาสาก็คลอดบุตรง่าย ก่อนหน้าที่พระราชาเสด็จมาถึง ครั้นสารีบุตรถามทารกถึงทุกข์ที่อยู่ในครรภ์ พระนางดีใจอนุญาตให้ทรงบวช ท่านได้บรรลุพระอรหัตเมื่อปลงผมเสร็จ (อ.สีวลีเถรคาถา) 50/304/850/304/8 50/297/11 |
118 | พระสีวลี ต้องการทดลองบุญของตน ท่านพาภิกษุ 500 รูป เดินทางบ่ายหน้าไปสู่หิมวันตประเทศ เดินทางผ่านดง เทวดาได้ถวายทานแด่พระสวลี และภิกษุ500 รูป ทุกๆ วัน (อ.สีวลีเถรคาถา) 50/306/1950/306/19 50/299/17 |
119 | [๑๙๘] " บุคคลผู้สมบูรณ์ด้วยทัสสนะ ย่อมเห็นคนอันธพาล ผู้เห็นอยู่ด้วย ย่อมเห็นคนอันธพาล ผู้ไม่เห็นอยู่ด้วย ส่วนคนอันธพาลผู้ไม่สมบูรณ์ด้วยทัสสนะ ย่อมไม่เห็นคนอันธพาลผู้ไม่เห็น และคนอันธพาลผู้เห็น " (วัปปเถรคาถา) 50/311/550/311/5 50/304/5 |
120 | ท่านตั้งความปรารถนา เป็นผู้รับธรรมพระพุทธเจ้าครั้งแรก ต่อพระปทุมุตตรพุทธเจ้า แล้วประกาศการถึงสรณคมน์ ทำบุญจนตลอดชีวิต, ในกาลนี้ เกิดเป็นบุตรพราหมณ์ นามว่า วาเสฏฐะในกรุงกบิลพัสดุ์ เมื่ออสิตฤษี พยากรณ์ว่า สิทธัตถกุมารจักเป็นพระสัพพัญญู จึงพร้อมด้วยบุตรพราหมณ์อื่นมีท่านโกณ-ฑัญญะเป็นหัวหน้า ออกบวชเป็นดาบส เมื่อพระศาสดาตรัสรู้แล้วแสดงธรรมจักรท่านวัปปดาบส ตั้งอยู่ในโสดาปัตติผล ในวันปาฏิบท และบรรลุพระอรหัตผลในดิถีที่ 5 แห่งปักษ์ (อ.วัปปเถรคาถา) 50/311/1350/311/13 50/305/5 |
121 | ในกัปที่ 91 ท่านได้บูชาพระวิปัสสีพุทธเจ้าด้วยดอกกระถินพิมาน , ท่านเห็นพุทธานุภาพในคราวเสด็จไปนครไพศาลี มีศรัทธาบวชแล้ว เรียนกัมมัฏฐานอยู่ในป่า ท่านได้ยินเสียงมหรสพ และดื่มด่ำไปตาม สละกรรมฐาน คิดตำหนิตนที่มาอยู่คนเดียวในป่า เทวดาสิงสถิตในป่านั้นกล่าวเตือน ให้สลดใจท่านจึงเจริญวิปัสสนาบรรลุพระอรหัต (อ.วัชชีปุตตกเถรคาถา) 50/315/1050/315/10 50/309/4 |
122 | ในกัปที่ 91 ท่านเป็นยักษ์เสนาบดี ได้ถวายผ้าทิพย์แด่พระวิปัสสีพุทธเจ้า, ในกาลนี้ เกิดในตระกูลแห่งเจ้าศากยะในเทวทหนิคม ได้มีนามว่าสัมโมทกุมาร ตอนยังเล็กเท้าเดินไม่ได้ ด้วยโรคลม (อัมพาต) ภายหลังหายแล้วได้เห็นปาฏิหาริย์ของพระพุทธเจ้า ในสมาคมแห่งพระญาติ จึงบวชเรียนกรรมฐานอยู่ในป่า วันหนึ่งเห็นอาการแย่งชิ้นเนื้อกันของเหยี่ยว จึงพิจารณาเห็นโทษในกาม เจริญวิปัสสนา บรรลุพระอรหัต (อ.ปักขเถรคาถา) 50/319/450/319/4 50/312/12 |
123 | ในกัปที่ 91 ท่านได้บูชาพระวิปัสสีพุทธเจ้าด้วยดอกไม้ทอง 4 ดอก ในขณะที่กำลังแสดงธรรมอยู่ พระพุทธองค์ทรงทำให้รัศมีทองคำคลุมทั่วประเทศนั้น เขายึดปีตินั้นเป็นอารมณ์ตายไปอยู่ดุสิต , ในกาลนี้ เกิดเป็นลูกพระเจ้าพิมพิสารเกิดแต่นางอัมพปาลี เห็นพุทธานุภาพ ตอนพระพุทธองค์เสด็จเมืองไพศาลี จึงออกบวช ได้บรรลุพระอรหัต (อ.วิมลโกณฑัญญเถรคาถา) 50/323/1150/323/11 50/316/13 |
124 | [๒๐๒] " ภิกษุผู้สงบดีแล้ว มีความปราโมทย์อย่างยิ่ง ย่อมกล่าวพระพุทธวจนะ ที่ได้เล่าเรียนมาหลายปี ในสำนักของอุกเขปกตวัจฉภิกษุแก่คฤหัสถ์ทั้งหลาย.(อุกเขปกตวัจฉเถรคาถา) 50/327/950/327/9 50/320/8 |
125 | ในกัปที่ 94 ท่านได้ให้เสาแก่เหล่าอุบาสกผู้สร้างเรือนยอดถวายพระสิทธัตถ-พุทธเจ้า, ในกาลนี้ เกิดในนครสาวัตถี ได้ฟังธรรมพระศาสดา แล้วบวชอยู่ในอาวาสใกล้บ้านเล่าเรียนธรรมจากภิกษุผู้แวะเวียนมา และถามพระสารีบุตรแล้วกำหนดพระพุทธพจน์ ทั้งหมดตามขั้นตอน ท่านเล่าเรียนสอบถามพระพุทธพจน์ คือ ไตรปิฎกอยู่ กำหนดรูปธรรม อรูปธรรม เริ่มตั้งวิปัสสนา บรรลุพระอรหัต. .(อ.อุกเขปกตวัจฉเถรคาถา) 50/327/1550/327/15 50/320/14 |
126 | พระเถระครั้นบรรลุพระอรหัตแล้ว ตั้งมั่นอยู่ในความขยันหมั่นเพียร อาศัยความอนุเคราะห์ คฤหัสถ์และบรรพชิตทั้งหลาย ที่เข้าไปสู่สำนักของตน ใคร่ครวญพระพุทธพจน์ คือ พระไตรปิฎกแล้วแสดงธรรม (อ.อุกเขปกตวัจฉเถรคาถา) 50/330/150/330/1 50/323/1 |
127 | ในกัปที่ 91 เมื่อพระวิปัสสีพุทธเจ้า ทรงปลงอายุสังขาร เกิดแผ่นดินไหวใหญ่มหาชนได้สะดุ้งตกใจกลัว ท้าวเวสวัณมหาราชเข้าใจเหตุการณ์จึงทรงยังให้มหาชนเบาใจ กุลบุตรนี้สดับพุทธานุภาพเกิดความเคารพอย่างมากในพระศาสดาเสวยปีติอย่างโอฬาร , ในกาลนี้ เกิดในตระกูลเจ้าศากยะ บวชแล้วอุปัฏฐากพระพุทธเจ้า ท่านขอพระพุทธองค์ไปอยู่ป่ามะม่วง เมื่อไปแล้วเกิดมิจฉาวิตกจึงกลับมา พระศาสดาได้ให้โอวาท ท่านตั้งอยู่ในโอวาทนั้น เจริญวิปัสสนา บรรลุพระอรหัต (อ.เมฆิยเถรคาถา) 50/332/450/332/4 50/325/4 |
128 | ท่านเป็นรุกขเทวดาช่วยบอกทาง และถวายอาหาร แก่ภิกษุ 2-3 รูป สาวกของพระปทุมุตตรพุทธเจ้า ที่หลงทางในป่า ครั้นศาสนาของพระกัสสปพุทธเจ้าอันตรธาน แล้ว พระเจ้ากิกีพรหมทัต ประกาศให้ทรัพย์ ก็หาผู้จะแสดงธรรมแม้คาถา 4 บท ก็ไม่มี ท่านสลดใจ จักไปบวช แต่ท้าวสักกะมาบอกว่า สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงหนอดังนี้ ท่านจึงเสด็จกลับบำเพ็ญบุญ , ในกาลนี้ เกิดในตระกูลเศรษฐี ได้ฟังธรรมพระศาสดา เมื่ออนิจจสัญญาปรากฎชัด เกิดสลดใจบวชแล้ว ได้บรรลุอรหันต์ ด้วยการฟังธรรมครั้งเดียว (อ.เอกธัมมสวนียเถรคาถา) 50/336/450/336/4 50/329/10 |
129 | [๒๐๕] " ความโศกทั้งหลายย่อมไม่มีแก่ภิกษุ ผู้มีจิตมั่นไม่ประมาท เป็นมุนีศึกษาอยู่ในคลองแห่งโมไนยผู้คงที่ ผู้สงบระงับ มีสติทุกเมื่อ " (อ.เอกุทานิยเถรคาถา) 50/339/1250/339/12 50/332/17 |
130 | ท่านเกิดเป็นยักษ์ เมื่อพระอัตถทัสสีพุทธเจ้า ปรินิพพานแล้ว ได้ถึงความเศร้าโศกมาก พระสาคระ จึงแนะนำให้บูชาพระสถูป ยักษ์นั้นบูชาสถูปอยู่ 5 ปี, ครั้นพระกัสสปพุทธเจ้า ท่านได้ฟังพุทธโอวาทว่า อธิเจตโส เกิดศรัทธา เปล่งอุทานว่าอธิเจตโส ท่านก็เอาอุทานนั้นเปล่งตามกาลเวลาในป่า วันหนึ่ง ได้อารมณ์เป็นหนึ่งเจริญวิปัสสนาบรรลุพระอรหัต (อ.เอกุทานิยเถรคาถา) 50/340/450/340/4 50/333/4 |
131 | ในกัปที่ 94 ท่านได้ปูอาสนะใบไม้ และโรยดอกไม้รอบๆอาสนะนั้น แด่พระสิทธัตถ-พุทธเจ้า , ในกาลนี้ เกิดในท้องของนางทาสีของพระเจ้าสุทโธทนะ ได้บวชตอนสมาคมพระญาติ ท่านถูกลงพรหมทัณฑ์แล้วถึงความสลดใจ พิจารณาเห็นแจ้งบรรลุพระอรหัต (อ.ฉันนเถรคาถา) 50/345/1350/345/13 50/338/6 |
132 | [๒๐๗] " ในโลกนี้ ศีลเท่านั้นเป็นเลิศ แต่ว่าผู้มีปัญญาเป็นผู้สูงสุด ความชนะย่อมมีเพราะศีลและปัญญา ทั้งในหมู่มนุษย์และเทวดา " (อ.ปุณณเถรคาถา) 50/349/450/349/4 50/341/17 |
133 | ในกัปที่ 91 ท่านเป็นดาบสได้เผาสรีระของพระปัจเจกพุทธเจ้า , ในกาลนี้ เกิดในตระกูลคฤหบดี ที่ท่าชื่อว่า สุปปารกะ ในสุนาปรันตชนบท ได้เดินทางมาค้าขายที่นครสาวัตถี ฟังธรรมพระศาสดาแล้วออกบวช รับพุทธโอวาทแล้วกลับมาอยู่สุนาปรันตบรรลุพระอรหัตแล้ว ท่านทำชาวสุนาปรันต ให้เลื่อมใสเป็นอุบาสกอุบาสิกาสร้างพระคันธกุฎี ด้วยไม้จันทน์แดง พระศาสดาเสด็จมากับภิกษุ 500รูป รับพระคันธกุฎีแล้วยังไม่ทันอรุณก็เสด็จกลับ (อ.ปุณณเถรคาถา) 50/349/1150/349/11 50/342/4 |
134 | [๒๐๘] " พระโยคาวจรผู้มีปกติเห็น เนื้อความอันสุขุมและละเอียด ผู้มีปัญญาเฉียบแหลม ผู้ประพฤติศีลของพระพุทธเจ้าโดยเอื้อเฟื้อ พึงได้บรรลุพระนิพพานโดยไม่ยาก " (วัจฉปาลเถรคาถา) 50/355/550/355/5 50/347/5 |
135 | ในกัปที่ 91 ท่านเป็นพราหมณ์ ได้ถวายข้าวปายาสแด่พระวิปัสสีพุทธเจ้า, ในกาลนี้เกิดเป็นบุตรพราหมณ์ ในกรุงราชคฤห์เห็นพระอุรุเวลกัสสปะแสดงอิทธิปาฏิหาริย์ในสมาคมของพระเจ้าพิมพิสารได้ศรัทธาจิตบวชแล้ว 7 วันเท่านั้น ก็เจริญวิปัสสนาได้อภิญญา 6 (อ.วัจฉปาลเถรคาถา) 50/355/1350/355/13 50/348/5 |
136 | ในกัปที่ 91 ท่านได้บูชาพระวิปัสสีพุทธเจ้าด้วยน้ำหอม และจุณแห่งของหอม ,ท่านได้บวชบำเพ็ญสมณธรรมในพระกัสสปพุทธเจ้า , ในกาลนี้ เกิดเป็นบุตรเศรษฐี ในนครสาวัตถี เมื่อมารดาต้องการหาภรรยามาให้ ท่านจึงไปบวช มารดายังมีความต้องการให้ท่านที่บวชแล้วให้สึก ท่านจึงประกาศอัธยาศัยของตน ขณะยืนกล่าวอยู่นั้นเอง เจริญวิปัสสนา ได้เป็นผู้มีอภิญญา 6 เหาะหลีกไปทางอากาศ.(อ.อาตุมเถรคาถา) 50/359/1250/359/12 50/352/4 |
137 | ในกัปที่ 91 ท่านเป็นหมอดูลักษณะ ได้ตรวจดูพระลักษณะแห่งอภิชาติ ของพระวิปัสสีพุทธเจ้า แล้วพยากรณ์ว่า ท่านผู้นี้จักเป็นพระพุทธเจ้าโดยส่วนเดียวแล้วชมเชยโดยนัยต่างๆ ถวายบังคมแล้วหลีกไป, ในกาลนี้ เกิดในเรือนพราหมณ์มหาศาล ในนครสาวัตถีเจริญเติบโตอยู่แต่ภายในเรือนอย่างเดียว จนถึง 7 ปีเมื่อได้ไปชมสวนเห็นคนแก่ เจ็บ ตาย จึงสลดใจ ไปสู่วิหารฟังธรรม ขออนุญาตพ่อแม่บวช เริ่มตั้งวิปัสสนาบรรลุพระอรหัต (อ.มาณวเถรคาถา) 50/363/1050/363/10 50/355/17 |
138 | ในกัปที่ 91 ท่านเป็นอาจารย์สอนมนตร์แก่พวกพราหมณ์ ได้นิมนต์พระวิปัสสีพุทธเจ้า เข้าไปในเรือน ปูลาดอาสนะ ถวายอาหาร, ในกาลนี้ เกิดเป็นบุตรพราหมณ์ในนครสาวัตถี รังเกียจการซ่องเสพกามารมณ์ ได้มีศรัทธาจิต ที่พระพุทธองค์ ไปนครเวสาลี บวชแล้ว บรรลุพระอรหัตขณะจรดมีดโกนทีเดียว .(อ.สุยามนเถรคาถา) 50/369/450/369/4 50/361/10 |
139 | ท่านบวชเป็นดาบส ได้ถวายเมล็ดบัวขาวแด่พระปทุมุตตรพุทธเจ้า , ในกาลนี้เกิดในตระกูลพราหมณ์ ผู้เป็นญาติพระสารีบุตรได้มาฟังธรรมพระสารีบุตรแล้วมีศรัทธาบวช เจริญวิปัสสนาบรรลุพระอรหัต (อ.สุสารทเถรคาถา) 50/373/1350/373/13 50/365/18 |
140 | [๒๑๓] " เมื่อผู้อื่นยกตน ควรถ่อมตน เมื่อผู้อื่นตกต่ำควรยกตนขึ้น เมื่อผู้อื่นไม่ประประพฤติพรหมจรรย์ ควรประพฤติพรหมจรรย์ เมื่อผู้อื่นยินดีในกามคุณ ไม่ควรยินดีในกามคุณ " (ปิยัญชหเถรคาถา) 50/377/1150/377/11 50/369/10 |
141 | ในกัปที่ 91 ท่านเป็นรุกขเทวดา เห็นเนินทราย น่ารื่นรมณ์ ระลึกถึงคุณของพระศาสดาว่า สะอาดบริสุทธิ์ยิ่งกว่า เนินทรายนี้ เป็นพระคุณหาที่สุดมิได้ หาประมาณมิได้ แล้วยังจิตให้เลื่อมใส ด้วยบุญกรรมนั้น ท่องเที่ยวไปในเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย , ในกาลนี้ เกิดในตระกูลเจ้าลิจฉวี นครไพศาลี เป็นนักรบไม่เคยพ่ายแพ้ในสงคราม ในคราวที่พระพุทธเจ้าเสด็จไปนครไพศาลี จึงมีศรัทธาบวชอยู่ป่าเจริญวิปัสสนา บรรลุพระอรหัต (อ.ปิยัญชหเถรคาถา) 50/378/450/378/4 50/369/17 |
142 | ท่านเห็นพระวิปัสสีพุทธเจ้าแวดล้อมไปด้วยภิกษุสงฆ์ จึงกระทำการบูชาด้วยดอกไม้ ถวายบังคมกระทำประทักษิณแล้วหลีกไป , ในกาลนี้ เกิดในตระกูลแห่งนายควาญช้างในนครสาวัตถี วันหนึ่งเขาฝึกช้างอยู่ได้ความคิดเตือนใจเพื่อจะฝึกตน จึงเข้าไปเฝ้าพระศาสดา ฟังธรรมแล้วขอบวช เรียนกรรมฐานแล้วข่มจิตเหมือนนายควาญช้างฝึกช้างที่ตกมันด้วยขอสับ ก็พระเถระกล่าวคาถาอยู่เจริญวิปัสสนา บรรลุพระอรหัต (อ.หัตถาโรหปุตตเถรคาถา) 50/382/450/382/4 50/373/15 |
143 | ในกัปที่ 91 ท่านบวชเป็นดาบส ได้ถวายดอกบัวเป็นพุทธบูชาแด่พระวิปัสสี-พุทธเจ้า, ในกาลนี้ เกิดในตระกูลคฤหบดี ในเมืองสาเกต เพราะความที่เขามีศีรษะคล้ายแกะจึงได้นามว่า เมณฑสิระ เขาเข้าไปเฝ้าพระศาสดา ได้มีจิตศรัทธา บรรพชาแล้วเจริญสมถกรรมฐาน และวิปัสสนาได้เป็นผู้มีอภิญญา 6 .(อ.เมณฑสิเถรคาถา) 50/385/1050/385/10 50/376/18 |
144 | ท่านได้ฟังธรรมเทศนาของพระปทุมุตตรพุทธเจ้า แล้วมีใจเลื่อมใส ได้ชมเชยโดยปรารภพระญาณในเทศนาของพระศาสดา, ในกาลนี้ เกิดในตระกูลแห่งเจ้าศากยะในเทวทหนิคม ท่านเป็นราชกุมารองค์หนึ่งใน 500 ที่พวกเจ้าศากยะและเจ้าโกลิยะทั้งหลายทูลถวายพระพุทธองค์แล้วบวช พระองค์พาไปสู่ฝั่งแม่น้ำกุณาลทหะ แสดงโทษของพวกสตรี ทรงให้ประกอบในกรรมฐาน แม้พระรักขิตเถระนี้ ก็ขวน-ขวายกรรมฐาน เจริญวิปัสสนา บรรลุพระอรหัต (อ.รักขิตเถรคาถา) 50/388/1650/388/16 50/380/4 |
145 | ในกัปที่ 31 ท่านได้บูชา พระสิขีพุทธเจ้าด้วยดอกการะเกต, ในกาลนี้ เกิดเป็นบุตรเศรษฐี ในอุคคนิคม แคว้นโกศล ได้ไปฟังธรรมพระศาสดา มีศรัทธาบวชบรรลุพระอรหัต (อ.อุคคเถรคาถา) 50/392/450/392/4 50/383/10 |
146 | [๒๑๘] " บาปกรรมใดที่เราได้กระทำไว้แล้ว ในชาติอื่นๆ ในกาลก่อน เราจึงได้เสวยผลของบาปกรรมนั้น ในอัตภาพนี้เอง เรื่องบาปกรรมอื่นจักไม่มีอีกต่อไป ".(สมิติคุตตเถรคาถา) 50/395/550/395/5 50/387/5 |
147 | ในกัปที่ 91 ท่านได้ทำการบูชา พระวิปัสสีพุทธเจ้า ด้วยดอกมะลิ ด้วยบุญนั้นท่านเกิดในภพใดๆ ก็จะมีกุลสมบัติ รูปสมบัติ และบริวารสมบัติเหนือสัตว์เหล่าอื่นในภพนั้นๆ ในอัตภาพหนึ่ง เขาเห็นพระปัจเจกพุทธเจ้าองค์หนึ่ง เที่ยวบิณฑบาตก็ตำหนิว่าชะรอยจะเป็นโรคเรื้อนจึงต้องคลุมตัวเที่ยวไป แล้วถ่มน้ำลายรด หลีกไปเขาไหม้อยู่ในนรก ตลอดกาลเป็นอันมาก (อ.สมิติคุตตเถรคาถา) 50/395/1250/395/12 50/388/5 |
148 | ครั้งพระกัสสปพุทธเจ้า ท่านได้บวชเป็นปริพาชก เห็นอุบาสกผู้สมบูรณ์ด้วยสีลาจารวัตรคนหนึ่ง แล้วขุ่นเคืองได้ด่าว่า เจ้าคงเป็นโรคเรื้อน และทำลายจุณสำหรับอาบน้ำที่มนุษย์ทั้งหลายวางไว้ที่ท่าน้ำ ตายแล้วไปนรกอีก, ในกาลนี้เกิดเป็นบุตรพราหมณ์คนหนึ่ง ได้ฟังธรรมมีจิตศรัทธาบวช ด้วยกรรมเก่าท่านจึงเป็นโรคเรื้อน มีน้ำเหลืองไหลออก พักอยู่ในศาลาภิกษุอาพาธ พระสารีบุตรไปเยี่ยมภิกษุอาพาธแล้วบอกกรรมฐาน ท่านตั้งอยู่ในโอวาทนั้น เจริญวิปัสสนา ได้กระทำให้แจ้งอภิญญา 6 (อ.สมิติคุตตเถรคาถา) 50/396/550/396/5 50/388/18 |
149 | ท่านได้บูชาพระปทุมุตตรพุทธเจ้า ด้วยการโยนดอกไม้ไปบนอากาศรอบๆ ในกาลนี้ เกิดเป็นบุตรของอุทิจจพราหมณ์ คนหนึ่งในนครสาวัตถี วันหนึ่งเขาได้ไปฟังธรรมพระศาสดา บรรลุพระโสดาบัน แล้วขออนุญาตมารดาบวช. อาศัยคำเตือนของมารดาเป็นขอสับ ทำความเพียรบรรลุพระอรหัต (อ.กัสสปเถรคาถา) 50/399/1050/399/10 50/391/16 |
150 | ท่านเป็นกินนรได้บูชาพระอัตถทัสสีพุทธเจ้า ด้วยกลิ่นแห่งไม้จันทน์ และดอกไม้ในกาลนี้ เกิดในตระกูลเจ้ามัลละ ได้ฟังธรรมพระศาสดาแล้วมีจิตศรัทธา บวชทำกรรมฐานในป่า จิตของท่านไม่มีอารมณ์เป็นหนึ่ง พระศาสดาทรงประทับยืนให้โอวาทท่านในอากาศ ในเวลาจบคาถา ท่านเจริญวิปัสสนาแล้วบรรลุพระอรหัต.(อ.สีหเถรคาถา) 50/402/1850/402/18 50/395/4 |
151 | ท่านเกิดเป็นพราหมณ์ชื่อ สุนันทะ สอนมนตร์แก่ลูกศิษย์ ในขณะกำลังบูชายัญพระปทุมุตตรพุทธเจ้า ทรงเสด็จไปจงกรมบนอากาศ พราหมณ์และลูกศิษย์ได้โยนดอกไม้ขึ้นไปในอากาศบูชาพระพุทธเจ้า, ในกาลนี้เกิดในกรุงสาวัตถี ท่านบวชด้วยปรารถนาความสบาย ละทิ้งกรรมฐาน ฉันอาหารตามต้องการ ชอบสนทนาด้วยเรื่องไร้สาระ นอนหลับคืนยังรุ่ง พระศาสดาทรงตรวจดูแล้วประทานโอวาทให้สลดใจ ท่านเริ่มตั้งวิปัสสนา บรรลุพระอรหัต (อ.นีตเถรคาถา) 50/406/450/406/4 50/398/10 |
152 | [๒๒๒] " ผู้ฉลาดในการถือเอา ซึ่งนิมิตแห่งภาวนาจิต เสวยรสแห่งวิเวก เพ่งฌาน ฉลาดในการรักษากรรมฐาน มีสติตั้งมั่น พึงบรรลุนิรามิสสุขอย่างแน่นอน ".(สุนาคเถรคาถา) 50/409/450/409/4 50/401/13 |
153 | ในกัปที่ 31 ท่านเป็นพราหมณ์สอนมนต์แก่ศิษย์ 3,000 วันหนึ่งเขาเห็น พระศาสดา จึงตรวจดูพระลักษณะแล้วเกิดความเลื่อมใสอย่างโอฬาร ปรารภพระพุทธญาณว่า ผู้เช่นนี้ จะเป็นพระพุทธเจ้ามีพระญาณหาที่สุดมิได้ ด้วยจิตเลื่อมใสเขาบังเกิดในเทวโลก ในกาลนี้ เกิดเป็นบุตรพราหมณ์ในนาลกคาม เป็นเพื่อนสมัยคฤหัสถ์ของพระสารีบุตร เมื่อได้ฟังธรรมของพระเถระ แล้วตั้งอยู่ในทัสสนภูมิบวชแล้ว เจริญวิปัสสนา บรรลุพระอรหัต (อ.สุนาคเถรคาถา) 50/409/1050/409/10 50/402/4 |
154 | ท่านเป็นพราหมณ์ ชื่อ นารทะ ได้มีใจเลื่อมใสชมเชยพระปทุมุตตรพุทธเจ้า ด้วยคาถา 3 คาถา, ในกาลนี้ เกิดในตระกูลแห่งเจ้าศากยะ ในนครกบิลพัสดุ์ ได้ฟังมธุปิณฑิสูตร มีจิตศรัทธาบวช เจริญวิปัสสนา บรรลุพระอรหัตแล้ว.(อ.นาคิตเถรคาถา) 50/412/1250/412/12 50/405/4 |
155 | " ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สมณะมีในพระธรรมวินัยนี้เท่านั้น สมณะที่ 2 สมณะที่ 3สมณะที่ 4 ก็มีในธรรมวินัยนี้ ลัทธิอื่นว่างจากสมณะผู้รู้ " (อ.นาคิตเถรคาถา) 50/414/2050/414/20 50/407/8 |
156 | ท่านเป็นดาบส ชื่อ เกสวะ ได้ฟังธรรม พระอัตถทัสสีพุทธเจ้า มีใจเลื่อมใส, ในกาลนี้ เกิดในตระกูลพราหมณ์ บวชเป็นปริพาชกได้ฟังความที่ อุปติสสปริพาชก และโกลิตปริพาชก บวชแล้ว จึงไปสำนักพระศาสดาฟังธรรม บวชแล้ว พระศาสดาตรัสบอกวิปัสสนาแก่ท่าน ไม่นานนัก ท่านได้กระทำให้แจ้งพระอรหัต. (อ.ปวิฏฐเถรคาถา) 50/416/1050/416/10 50/408/17 |
157 | ในกัปที่ 91 ท่านเป็นราชสีห์ ได้หักกิ่งรังที่มีดอกบานสะพรั่ง บูชาพระวิปัสสีพุทธเจ้าในกาลนี้ เกิดในตระกูลเศรษฐี บวชในลัทธินิครนถ์ ตั้งแต่ยังเล็กอยู่ เพื่อจะบรรลุอมตธรรม เมื่อไม่ได้สาระในลัทธินั้น แล้วเห็นยมกปาฏิหาริย์ เกิดศรัทธา บวชในพระศาสนา ปรารภวิปัสสนา ได้เป็นพระอรหัต. (อ.อัชชุนเถรคาถา) 50/419/450/419/4 50/411/11 |
158 | [๒๒๖] " กามราคะเพียงดังเปลือกตม และฉันทราคะเพียงดังหล่ม เราข้ามพ้นแล้วเราเว้นทิฏฐิราคะเพียงดังบาดาลแล้วเราพ้นจากโอฆะ และกิเลสเครื่องร้อยรัด ทั้งกำจัดมานะหมดสิ้นแล้ว " (เทวสภเถรคาถา) 50/422/450/422/4 50/414/9 |
159 | ในกัปที่ 31 ท่านเป็นนายพราน ได้ถวายผลมะหาด แด่พระสิขีพุทธเจ้า, ในกาลนี้เกิดเป็นโอรสของพระราชา เมื่อดำรงอยู่ในราชสมบัติจนชราภาพเข้าไปเฝ้าพระศาสดาฟังธรรม มีศรัทธาจิต สละราชสมบัติออกบวช เจริญวิปัสสนา บรรลุพระอรหัต (อ.เทวสภเถรคาถา) 50/422/1150/422/11 50/414/16 |
160 | ท่านได้กระทำฉัตร เป็นชั้นๆ ด้วยดอกไม้ บูชาไว้ที่สถูปของพระวิปัสสีพุทธเจ้า ,ในกาลนี้ เกิดเป็นบุตรของพราหมณ์คนหนึ่ง ในกรุงราชคฤห์ ได้ยินเรื่อง อานุภาพของพระพุทธเจ้าแล้ว เข้าไปฟังธรรม เกิดความสังเวช บวชแล้วอยู่อย่างคนเกียจคร้าน พระศาสดาทรงแสดงธรรมเร่งเร้าให้อาจหาญอีก จึงเรียนกรรมฐาน หมั่นขวนขวายจนบรรลุพระอรหัต (อ.สามิทัตตเถรคาถา) 50/426/1050/426/10 50/418/10 |
161 | ท่านได้บูชาอย่างมโหฬาร ด้วยเครื่องสักการะมีดอกไม้ เป็นต้น ที่เจดีย์ของพระธรรมทัสสีพุทธเจ้า , ในกาลนี้ เกิดในตระกูล แห่งศากยะ ในพระนครกบิลพัสดุ์เขาบริโภคอาหาร ชื่อว่า สตรส ตลอดกาลเมื่อทราบว่าพระศาสดาทรงเสวยอาหารที่ระคนกันเกิดความสลดใจ บวชแล้ว พระศาสดาให้เจริญกายคตาสติกรรมฐานกระทำฌานให้เป็นบาท เจริญวิปัสสนา บรรลุพระอรหัต. (อ.ปริปุณณกเถรคาถา) 50/429/1350/429/13 50/422/5 |
162 | ท่านให้ช่างทำไพที (แท่นวางเครื่องสักการะ) อันวิจิตรด้วยรัตนะสำหรับพระสถูปของพระปิยทัสสีพุทธเจ้า, ในกาลนี้ เกิดในตระกูลพราหมณ์ในนครสาวัตถี บวชเป็นดาบส เพ่งฌานอยู่ในป่า ได้ข่าวการบังเกิดขึ้นของพระพุทธเจ้าแล้ว จึงเข้าไปฟังธรรมพระศาสดา แล้วบวชได้เริ่มตั้งวิปัสสนาบรรลุพระอรหัต (อ.วิชยเถรคาถา) 50/433/1150/433/11 50/426/4 |
163 | พระนิพพาน ชื่อว่าว่าง เพราะไม่มีกิเลส ท่านเรียกว่า สุญญตวิโมกข์ , เพราะไม่มีสังขารนิมิต เรียกว่า อนิมิตตวิโมกข์ , เพราะหาที่ตั้งไม่ได้ เรียกว่า อัปปณิหิต-วิโมกข์ (อ.วิชยเถรคาถา) 50/435/1450/435/14 50/428/2 |
164 | [๒๓๐] " ดูก่อนเอรกะ กามเป็นทุกข์ ดูก่อนเอรกะ กามไม่เป็นสุขเลย ผู้ใดใคร่ในกาม ผู้นั้น ชื่อว่าใคร่ทุกข์ ผู้ใดไม่ใคร่กาม ผู้นั้น ชื่อว่า ไม่ใคร่ทุกข์ (เอรกเถรคาถา) 50/436/1150/436/11 50/429/4 |
165 | ท่านได้แผ้วถางทางเสด็จดำเนิน ของพระสิทธัตถพุทธเจ้า, ในกาลนี้ เกิดเป็นบุตรของกุฎุมพี ในนครสาวัตถี เป็นผู้มีรูปงาม ประสบความสำเร็จในกิจการใหญ่น้อยทั้งหลาย มารดาบิดาได้หาหญิงสาวมาอยู่ร่วมเรือน แล้วเกิดสลดใจ ไปฟังธรรมพระศาสดา เกิดศรัทธาบวชแล้ว เรียนกรรมฐานแล้ว ถูกความกระสันครอบงำพระศาสดาทราบแล้วได้ตรัสคาถา ท่านเจริญวิปัสสนาบรรลุพระอรหัต .(อ.เอรกเถรคาถา) 50/436/1750/436/17 50/429/10 |
166 | ท่านได้ก่อแท่นบูชาด้วยอิฐ ทาด้วยปูนขาว ที่โพธิพฤกษ์ ของพระอโนมทัสสี-พุทธเจ้า , ในกาลนี้ เกิดเป็นบุตรพราหมณ์คนหนึ่งในแคว้นมคธ เห็นโทษในกาม บวชเป็นดาบสอยู่ในป่า สดับข่าวการบังเกิดขึ้นแห่งพระพุทธเจ้าแล้ว ไปสู่สำนักพระศาสดา ทูลถามปัญหาปรารภความเป็นไปและการกลับมา เมื่อทรงวิสัชนาปัญหาแล้วได้ศรัทธาบวช เริ่มตั้งวิปัสสนาบรรลุพระอรหัต. (อ.เมตตชิเถรคาถา) 50/440/450/440/4 50/432/16 |
167 | ท่านได้บูชาพระสถูปของพระสิทธัตถพุทธเจ้าด้วยดอกไม้, ในกาลนี้ เกิดเป็นบุตรของกุฎุมพี ชื่อว่า มหาสุวัณณะ ในนครสาวัตถี ท่านได้ฟังธรรมพระศาสดา แล้วมอบสมบัติ ให้น้องชาย ตนเองออกบวช เรียนกรรมฐานแล้วได้ภิกษุ 60 รูป เป็นสหายไปอาศัยปัจจันตคาม โรคตาเกิดขึ้นแก่ท่านแล้ว หมอก็จัดยาถวาย ท่านไม่ปฏิบัติตามวิธีที่หมอสั่ง เป็นผู้หมั่นเจริญภาวนาอย่างเดียว ตาทั้งสองข้างจึงบอดพร้อมกับได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ผู้สุกขะวิปัสสก (อ.จักขุปาลเถรคาถา) 50/442/1850/442/18 50/435/10 |
168 | ท้าวสักกะ แปลงเพศเป็นคนเดินทางพาพระจักขุปาละ ไปหาน้องชาย .(อ.จักขุปาลเถรคาถา) 50/447/650/447/6 50/439/18 |
169 | [๒๓๓] " เพราะเสียสละดอกไม้ เพียงดอกเดียว เราได้รับการบำเรออยู่ในสวรรค์ถึง 80 โกฏิปี ที่สุดได้บรรลุนิพพานเพราะผลกรรมที่เหลือ " (ขัณฑสุมนเถรคาถา) 50/448/450/448/4 50/440/6 |
170 | ท่านสร้างแท่นบูชาด้วยไม้จันทน์ ล้อมรอบพระสถูปของพระปทุมุตตรพุทธเจ้า,ในกาลที่พระกัสสปพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ท่านหาดอกไม้ไม่ได้ จึงซื้อดอกมะลิกิ่งหนึ่งด้วยราคาแพงถือไปบูชาที่พระเจดีย์ ได้เกิดอยู่เทวโลก 80 โกฏิปี, ในกาลนี้ เกิดในตระกูลแห่งเจ้ามัลละ เมืองปาวา ได้ไปเข้าเฝ้าฟังธรรมพระศาสดา ในสวนมะม่วงของนายจุนทะ ได้มีศรัทธาบวช แล้วบำเพ็ญวิปัสสนาได้เป็นผู้มีอภิญญา 6 (อ.ขัณฑสุมนเถรคาถา) 50/448/1050/448/10 50/440/12 |
171 | ในกัปที่ 91 ท่านได้ถวายแผ่นกระดานด้วยท่อนไม้จันทน์แด่พระพุทธเจ้า, ในกาลนี้ เป็นพระราชาในโรรุวนคร พระเจ้าพิมพิสารจารึกพระพุทธจริยาลงในจิตรบัตรจารึกปฏิจจสมุปบาท ลงในพระสุพรรณบัตรส่งไปถวาย ท่านจึงสละราชสมบัติบวชเองอุทิศต่อพระศาสดา แล้วมาฟังธรรมพระศาสดาที่เงื้อมเขา ชื่อว่า สัปป-โสณ-โสณฑิกะ ในนครราชคฤห์ถือเอากรรมฐาน หมั่นประกอบเนืองๆ อยู่ ขวนขวายวิปัสสนาวิปัสสนาบรรลุพระอรหัตแล้ว (อ.ติสสเถรคาถา) 50/452/450/452/4 50/444/4 |
172 | [๒๓๕] " เมื่อบุคคลได้เห็นรูปแล้ว มัวใส่ใจถึงอารมณ์อันเป็นที่รัก สติก็หลงลืม ผู้ใดมีจิตกำหนัดยินดีเสวยรูปารมณ์ รูปารมณ์ก็ครอบงำผู้นั้น อาสวะทั้งหลายย่อมเจริญแก่ผู้นั้น ผู้เข้าถึงซึ่งมูลแห่งภพ " (อภัยเถรคาถา) 50/455/450/455/4 50/447/9 |
173 | ท่านได้ทำการบูชา พระสุเมธพุทธเจ้าด้วยดอกช้างน้าว, ในกาลนี้ เกิดในตระกูลพราหมณ์ นครสาวัตถี ได้ไปฟังธรรมของพระศาสดา มีจิตศรัทธาบวช วันหนึ่งท่านเข้าไปบิณฑบาตเห็นผู้หญิงแต่งตัวสวยงามแล้วเกิดฉันทราคะ ท่านเข้าไปวิหารข่มจิตของตน เจริญวิปัสสนา บรรลุพระอรหัต (อ.อภัยเถรคาถา) 50/455/1050/455/10 50/447/16 |
174 | [๒๓๖] " บุคคลผู้ได้สดับเสียงแล้ว ฟังใส่ใจถึงอารมณ์อันเป็นที่รัก สติก็หลงลืม ผู้ใดมีจิตกำหนัดยินดี เสวยสัททารมณ์ สัททารมณ์ก็ครอบงำผู้นั้น อาสวะย่อมเจริญแก่ผู้นั้น ผู้เข้าถึงสงสาร " (อุตติยเถรคาถา) 50/458/450/458/4 50/450/11 |
175 | ท่านได้ถวายบัลลังก์ ปูด้วยพรหมทำด้วยขนสัตว์ พร้อมทั้งผ้าปิดเบื้องบนเพดานไว้ภายในพระคันธกุฎี ของพระสุเมธพุทธเจ้า, ในกาลนี้ เกิดในตระกูลแห่งเจ้า-ศากยะในกรุงกบิลพัสดุ์ เขาเห็นพุทธานุภาพในสมาคมแห่งพระญาติ จึงมีศรัทธาบวชวันหนึ่งเข้าไปบิณฑบาต ฟังเสียงเพลงขับของผู้หญิงเกิดฉันทราคะ จึงระงับด้วยการพิจารณา แล้วเข้าสู่วิหาร เกิดความสังเวช เจริญวิปัสสนาบรรลุพระอรหัต.(อ.อุตติยเถรคาถา) 50/458/1150/458/11 50/450/18 |
176 | ในกัปที่ 31 ท่านได้บูชาพระสิขีพุทธเจ้าด้วยดอกชบา , ในกาลนี้ เกิดในตระกูลแห่งศากยะ ในนครกบิลพัสดุ์ เขาเห็นพุทธานุภาพ ในคราวพระศาสดาเสด็จมาเพื่อระงับการทะเลาะกัน เป็นผู้มีจิตเลื่อมใสแล้วตั้งอยู่ในสรณคมน์ ต่อมาได้บวชเจริญวิปัสสนาบรรลุพระอรหัต (อ.เทวสภเถรคาถา) 50/461/450/461/4 50/453/10 |
177 | [๒๓๘] " ท่านละความเป็นคฤหัสถ์มาแล้ว ยังไม่ทันสำเร็จกิจ เป็นผู้มีปากดังไถเห็นแก่ท้อง เป็นคนเกียจคร้าน เป็นคนโง่เขลา เข้าห้องบ่อยๆ เหมือนสุกรตัวใหญ่ที่เขาปรนปรือด้วยเหยื่อ ฉะนั้น " (เพลัฏฐกานิเถรคาถา) 50/464/550/464/5 50/457/5 |
178 | ในกัปที่ 31 ท่านบวชเป็นดาบส ได้เห็นพระเวสสภูพุทธเจ้า เกิดปีติโสมนัส อาศัยพระญาณสมบัติของพระศาสดาจึงเป็นผู้มีใจเลื่อมใสได้ทำการบูชาด้วยดอกไม้ทั้งหลาย อุทิศพระญาณ , ในกาลนี้เกิดในตระกูลพราหมณ์ ในนครสาวัตถี ได้ฟังธรรมพระศาสดาได้มีศรัทธาบวชแล้ว เรียนกรรมฐานอยู่ในป่า เป็นผู้เกียจคร้านมีร่างกายกำยำ มีวาจาหยาบคาย พระศาสดาทรงตรวจดูความแก่กล้าของญาณจึงไปตำหนิ ท่านสลดใจ เจริญวิปัสสนา บรรลุพระอรหัต (อ.เพลัฏฐกานิเถรคาถา) 50/464/1350/464/13 50/458/5 |
179 | [๒๓๙] " ชนทั้งหลายถูกมานะหลอกลวงแล้ว เศร้าหมองอยู่ในสังขารทั้งหลาย ถูกความมีลาภ และความเสื่อมลาภย่ำยีแล้วย่อมไม่ได้บรรลุสมาธิเลย ".(เสตุจฉเถรคาถา) 50/468/450/468/4 50/461/4 |
180 | ในกัปที่ 92 ท่านได้ถวายผลขนุน และมะพร้าวที่เป็นของขบเคี้ยวแด่พระติสส-พุทธเจ้า , ในกาลนี้ เกิดเป็นโอรสของพระเจ้ามัณฑลิกะพระองค์หนึ่ง เมื่อครองราชสมบัติทำให้ราชกิจล้มเหลว ทำให้ราชสมบัติอยู่ในมือฝ่ายตรงข้าม เกิดสลดใจเป็นทุกข์ ได้เห็นพระพุทธเจ้าเสด็จจาริกไปตามชนบท เกิดศรัทธาบวชแล้ว กระทำบริกรรม บรรลุพระอรหัตในวันนั้นเอง (อ.เสตุจฉเถรคาถา) 50/468/1050/468/10 50/461/10 |
181 | ในกัปที่ 94 ท่านเป็นผู้คุ้มครองในพระราชวัง ได้บูชาพระสิทธัตถพุทธเจ้า และภิกษุสงฆ์ด้วยดอกชบา, ในกาลนี้ เกิดเป็นเศรษฐีในสีลวดีนคร เมื่อไปธุระที่เมืองสาวัตถี ได้เข้าไปฟังธรรมพระศาสดาแล้วมีศรัทธาบวช เริ่มตั้งวิปัสสนาแล้วบรรลุพระอรหัต (อ.พันธุรเถรคาถา) 50/471/1750/471/17 50/464/11 |
182 | [๒๔๑] " กายของเราเป็นกายเบาหนอ อันมีปีติ และสุขอย่างไพบูลย์ถูกต้องแล้วย่อมเลื่อนลอยได้เหมือนนุ่น ที่ถูกลมพัดไปฉะนั้น " (ขิตกเถรคาถา) 50/474/1750/474/17 50/467/10 |
183 | ท่านเป็นยักษ์เสนาบดี ได้เข้าเฝ้าพระปทุมุตตรพุทธเจ้า ฟังธรรมแล้วแสดงความปีติและโสมนัสอันโอฬาร ปรบมือลุกขึ้นถวายบังคม กระทำประทักษิณแล้วหลีกไป,ในกาลนี้ เกิดในตระกูลพราหมณ์ ในนครสาวัตถี อยากมีฤทธิ์เหมือนพระโมค-คัลลานะ บวชแล้วเรียนกรรมฐาน กระทำสมถะและวิปัสสนา ได้สำเร็จอภิญญา 6.(อ.ขิตกเถรคาถา) 50/475/450/475/4 50/467/16 |
184 | สัญญาอันประกอบด้วยอุเบกขา ชื่อว่าสุขสัญญา สัญญานั้นแหละชื่อว่า ลหุสัญญา เพราะพ้นจากนิวรณ์ทั้งหลาย และจากธรรมอันเป็นข้าศึกมีวิตก เป็นต้น(อ.ขิตกเถรคาถา) 50/477/1850/477/18 50/470/9 |
185 | ท่านเกิดเป็นนก ได้ถวายดอกโกมุท แด่พระปทุมุตตรพุทธเจ้า , ในกาลนี้ เกิดเป็นบุตรพราหมณ์ในกุรุกัจฉนคร ได้ฟังธรรมจากพระปัจฉาภูมหาเถระ มีจิตศรัทธาบวชแล้วเจริญวิปัสสนาอยู่ ถ้าที่ใดหาอาหารเป็นที่สบายได้ยาก ท่านจะไม่หลีกไปก็เมื่อท่านอยู่อย่างนี้ เจริญวิปัสสนา บรรลุพระอรหัต (อ.มลิตวัมภเถรคาถา) 50/478/1750/478/17 50/471/11 |
186 | ในกัปที่ 92 ท่านได้บูชาพระติสสพุทธเจ้า ด้วยดอกบุนนาค , ในกาลนี้ เกิดเป็นบุตรพราหมณ์ผู้สมบูรณ์ด้วยสมบัติ ได้เข้าเฝ้าฟังธรรมพระศาสดาที่มฤคทายวันในสังกัสสนคร เป็นผู้มีจิตศรัทธา บวชแล้วเป็นผู้ทรงพระไตรปิฎก มีอภิญญา 6เชี่ยวชาญแตกฉานในปฏิสัมภิทา ทำการอนุเคราะห์ภิกษุทั้งหลายด้วยโอวาทอนุศาสน์ ตัดความสงสัย แสดงธรรมบอกกรรมฐานแก่ภิกษุทั้งหลายที่เข้ามายังสำนัก (อ.สุเหมันตเถรคาถา) 50/482/450/482/4 50/474/16 |
187 | ท่านบวชเป็นดาบส สร้างอาศรมในซอกเขาอยู่ร่วมกับดาบสเป็นอันมากพระปทุ-มุตตรพุทธเจ้าเสด็จไปแสดงอิทธิปาฏิหาริย์ ท่านจึงเก็บดอกสารภี มาบูชาด้วยจิตเลื่อมใส , ในกาลนี้ เกิดในตระกูลพราหมณ์ แคว้นมคธ เข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้าที่ทักขิณาคิรีชนบท ฟังธรรมแล้วมีจิตศรัทธาบวชเจริญวิปัสสนา บรรลุพระอรหัต. (อ.ธรรมสังวรเถรคาถา) 50/486/1050/486/10 50/479/4 |
188 | เมื่อโลกว่างจากพระพุทธเจ้า ท่านเห็นพระปัจเจกพุทธเจ้า อยู่บนภูเขาชื่อว่า ภูตคณะมีใจเลื่อมใสได้ทำการบูชาด้วยดอกมะลิซ้อน , ในกาลนี้ เกิดในตระกูลพราหมณ์แคว้นมคธ มีครอบครัว ได้บุตรชื่อว่า ธัมมสวะ เห็นลูกชายบวชตั้งแต่ยังหนุ่ม แล้วสลดใจแม้ตนเองมีอายุ 120 ปี ก็จะบวช ได้ไปหาพระศาสดา ฟังธรรม บวชแล้วไม่นานก็บรรลุพระอรหัต (อ.ธรรมสฏปิตุเถรคาถา) 50/489/1050/489/10 50/481/14 |
189 | ในกัปที่ 94 ท่านได้เห็นพระปัจเจกพุทธเจ้า 7 องค์ อยู่ที่เชิงเขา จึงเก็บดอกกระทุ่มไปบูชา , ในกาลนี้ เกิดในตระกูลของผู้มั่งคั่ง ในนครสาวัตถี มีศรัทธา บวชเรียนกรรมฐาน มีภิกษุรูปหนึ่งเป็นสหายไปอยู่ป่า ได้เห็นแม่เนื้อที่ออกลูกใหม่ ไม่ไปไหนห่วงแต่ลูกน้อยอยู่ คิดสลดใจในสัตว์ที่มีตัณหาเป็นเครื่องผูกตัดตัณหาไม่ได้ทำเหตุการณ์นี้ใช้เป็นขอสับ บรรลุพระอรหัต (อ.สังฆรักขิตเถรคาถา) 50/491/1150/491/11 50/483/15 |
190 | ในกัปที่ 31ท่านเป็นเทพบุตร ได้บูชาพระสิขีพุทธเจ้า ด้วยดอกไม้ทิพย์เป็นมณฑป.อยู่ 7 วัน, ในกาลนี้ เกิดในตระกูลของผู้มั่งคั่งแคว้นโกศล เห็นพระศาสดาในคราวถวายเชตวันวิหาร จึงบวชไปอยู่ที่เชิงป่า ได้ฤดูเป็นที่สบาย ขวนขวายวิปัสสนาบรรลุพระอรหัต (อ.อุสภเถรคาถา) 50/495/450/495/4 50/487/4 |
191 | [๒๔๘] " การบวชกระทำได้ยากแท้ การอยู่ครองเรือนก็ยากแท้ ธรรมเป็นของลึก การการหาทรัพย์เป็นของยาก การเลี้ยงชีพของเราด้วยปัจจัย 4 ตามมีตามได้ ก็เป็นของยาก ควรคิดถึงอนิจจตาเนืองๆ " (เชนตเถรคาถา) 50/499/550/499/5 50/491/5 |
192 | ในกัปที่ 31 ท่านเป็นเทพบุตร ได้บูชาพระสิขีพุทธเจ้าด้วยดอกฟักทิพย์, ในกาลนี้เกิดเป็นโอรสของพระเจ้ามัณฑลิกราชพระองค์หนึ่ง ในเชนตคามแคว้นมคธ ได้คิดว่ายากในการครองเรือน ธรรมก็เป็นของลึกซึ้งเมื่อได้ไปฟังธรรมพระศาสดาก็กลับเป็นผู้ยินดีในการบวช บวชแล้วเรียนกรรมฐาน เจริญวิปัสสนา บรรลุพระอรหัตด้วยการปฏิบัติสะดวก และรู้ได้ง่าย (อ.เชนตเถรคาถา) 50/499/1350/499/13 50/492/5 |
193 | ในกัปที่ 91 ท่านได้ร่วมกับพระราชาและประชาชน ทำพุทธบูชา แด่พระวิปัสสี-พุทธเจ้า , ในกาลนี้ เกิดเป็นบุตรของพราหมณ์ในนครราชคฤห์ บวชเป็นปริพาชกเที่ยวไป เข้าเฝ้าถามปัญหาพระศาสดา เป็นผู้มีจิตเลื่อมใสบวชแล้วเจริญวิปัสสนาได้สำเร็จอภิญญา 6 (อ.วัจฉโคตตเถรคาถา) 50/504/450/504/4 50/496/4 |
194 | ในกัปที่ 91 ท่านหนีตายไปจนถึงโพธิพฤกษ์ ของพระวิปัสสีพุทธเจ้า ได้ทำการปัดกวาดและบูชาด้วยดอกอโศก แล้วนั่งอยู่ที่นั้น ไม่ทำจิตให้โกรธในศัตรู ถูกเขาจับโยนลงเหว, ในกาลนี้ เกิดเป็นบุตรของพราหมณ์ ในนครราชคฤห์เป็นผู้มีศรัทธาจิตอันได้แล้วในสมาคมพระเจ้าพิมพิสาร บวชแล้วบรรลุพระอรหัต (อ.วนวัจฉเถรคาถา) 50/507/1050/507/10 50/499/4 |
195 | [๒๕๑] " เมื่อชีวิตจะสิ้นไป ความเป็นสมณะที่ดีจักมีแก่ภิกษุผู้เกียจคร้าน ผู้ติดอยู่ในความสุขในร่างกายแต่ที่ไหน " (อธิมุตตเถรคาถา) 50/510/1150/510/11 50/502/4 |
196 | ท่านบวชเป็นดาบส ได้ปูลาดผ้าเปลือกไม้ ให้พระปทุมุตตรพุทธเจ้า ประทับยืนแล้วบูชาด้วยของหอม และชมเชยด้วยคาถา 10 คาถา , ในกาลนี้ เกิดในตระกูลพราหมณ์ ในนครสาวัตถี เห็นพุทธานุภาพคราวที่ทรงรับ เชตวันวิหาร มีจิตศรัทธาบวชแล้ว ตั้งวิปัสสนาบรรลุพระอรหัต (อ.อธิมุตตเถรคาถา) 50/510/1750/510/17 50/502/10 |
197 | ท่านเป็นพราหมณ์ ละฆราวาสวิสัย สร้างอาศรมอยู่ริมแม่น้ำ สอนมนตร์แก่พวกพราหมณ์ วันหนึ่งได้ถวายน้ำผึ้งแด่พระสุเมธพุทธเจ้า , ในกาลนี้ เกิดในตระกูลพราหมณ์ นครสาวัตถี ได้ฟังธรรมแล้วมีจิตศรัทธาบวชแล้ว ไม่สามารถจะข่มความกลุ้มรุมของกิเลสได้ คิดจะโดดภูเขาตาย จึงปีนขึ้นภูเขาชื่อ เนสาทกะแล้วข่มขู่คุกคามตนอยู่ ขวนขวายวิปัสสนาบรรลุพระอรหัต (อ.มหานามเถรคาถา) 50/516/1150/516/11 50/508/4 |
198 | ท่านเป็นนายพราน ได้สร้างมณฑป ทำด้วยกิ่งไม้มุงด้วยดอกบัว แด่พระปิยทัสสี-พุทธเจ้า ตลอด 7 วัน , ในกาลนี้ เกิดในตระกูลพราหมณ์ ในนครราชคฤห์ เป็นผู้เรียนจบไตรเพท สอนมนตร์แก่พราหมณ์ทั้งหลาย เห็นพุทธานุภาพคราวพระศาสดาเสด็จมานครราชคฤห์ จึงมีศรัทธาแล้วบวช เจริญวิปัสสนา บรรลุพระอรหัตแล้ว.(อ.ปาราปริยเถรคาถา) 50/521/450/521/4 50/512/15 |
199 | ท่านเป็นพระยานาค ได้ถวายทานแด่พระสุเมธพุทธเจ้า และภิกษุสงฆ์ในภพของตน , ต่อมาเกิดเป็นบุตรเศรษฐี ได้บูชาต้นมหาโพธิของพระสิทธัตถพุทธเจ้าด้วยรัตนะ 7, ได้บวชบำเพ็ญสมณธรรมในกาลพระกัสสปพุทธเจ้า, ในกาลนี้ เกิดเป็นลูกเศรษฐี ในกรุงพาราณสี ได้เห็นอาการอันแปลกของบริวารชน เกิดสลด-ใจเดินไปในป่า พบพระพุทธเจ้าได้ฟังธรรมเป็นพระโสดาบัน ฟังธรรมที่พระองค์แสดงแก่บิดาผู้มาตามหา ท่านได้ทำให้แจ้งพระอรหัต (อ.ยสเถรคาถา) 50/527/450/527/4 50/518/10 |
200 | [๒๕๕] " วัยย่อมล่วงไปพลัน รูปที่มีอยู่โดยอาการนั้นย่อมปรากฏแก่เรา เหมือนเป็นอย่างอื่น เราระลึกถึงตนของเรา ผู้ไม่อยู่ปราศจากสติ เหมือนของผู้อื่น ".(กิมพิลเถรคาถา) 50/532/450/532/4 50/523/4 |
201 | ท่านได้ทำการบูชาด้วยพวงดอกสน โดยทำเป็นมณฑป อุทิศพระธาตุของพระกกุ-สันธพุทธเจ้า, ในกาลนี้ เกิดในตระกูลแห่งเจ้าศากยะในนครกบิลพัสดุ์ พระศาสดาเห็นความแก่กล้าแห่งญาณของเขาแล้ว จึงทรงเนรมิตรูปหญิงสาวรุ่น ทำให้ปรากฏว่าเหมือนถูกวิบัติอันเกิดแต่ชรา และโรคร้ายครอบงำ ราชกุมารเบื่อหน่าย จึงบวชเริ่มตั้งวิปัสสนาบรรลุพระอรหัตต่อกาลไม่นานนัก (อ.กิมพิลเถรคาถา) 50/532/1050/532/10 50/523/11 |
202 | ในกัปที่ 94 ท่านได้ถวายผลกล้วยแด่พระปัจเจกพุทธเจ้า, ในกาลนี้ เกิดเป็นโอรสแห่งเจ้าลิจฉวี มีอัธยาศัยน้อมไปทางพ้นทุกข์ เข้าไปฟังธรรม มีศรัทธาบวชแล้วเจริญวิปัสสนาได้เป็นผู้มีอภิญญา 6 ในคราวเตรียมจะสังคายนาท่านได้เตือนพระอานนท์ ซึ่งเป็นพระเสขะ อย่ามัวประมาทอยู่ (อ.วัชชีปุตตเถรคาถา) 50/536/450/536/4 50/526/14 |
203 | ในกัปที่ 91 ท่านได้ถวายผลไม้มีกลิ่นหอม มีรสอร่อย แด่พระวิปัสสีพุทธเจ้า , ในกาลนี้ เกิดเป็นบุตรของนายเกวียนคนหนึ่งในวัฑฒคาม แคว้นอวันตี ได้รับข่าว-สาสน์ที่จิตตคฤหบดี เขียนพรรณนาพระพุทธคุณส่งไปให้ เกิดความเลื่อมใส บวชกับพระมหากัจจายนะ ปรารภวิปัสสนาแล้วได้เป็นผู้มีอภิญญา 6 .(อ.อิสิทัตตเถรคาถา) 50/539/1250/539/12 50/529/18 |