1 | [๑] นางเทพธิดา เมื่อเกิดเป็นมนุษย์ได้ถวายอาสนะแก่หมู่ภิกษุผู้มาถึงเรือนได้อภิวาท ทำอัญชลี และถวายทานตามกำลัง (ปฐมปีฐวิมาน) 48/2/648/2/6 48/2/8 |
2 | วิมานวัตถุ นับเข้าในขุททกนิกาย มี 7 วรรค 85 เรื่อง (อธิบายคำว่า วิมานวัตถุ) 48/7/1848/7/18 48/7/8 |
3 | ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ทานมิใช่จักมีผลมาก ด้วยการถึงพร้อมแห่งไทยธรรมอย่างเดียว ที่แท้ ทานจักมีผลมาก ก็ด้วยความถึงพร้อมแห่งจิตที่เลื่อมใส และด้วยความถึงพร้อมแห่งเขต คือ ทักขิไณยบุคคล (อ.ปฐมปีฐวิมาน) 48/9/1548/9/15 48/9/15 |
4 | เทพธิดานั้นอยู่ ณ ภพดาวดึงส์ มีวิมานทองขนาด 12 โยชน์ มีเทพอัปสร 1,000 เป็นบริวาร (อ.ปฐมปีฐวิมาน) 48/11/148/11/1 48/10/22 |
5 | ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรามองไม่เห็นธรรมแม้อย่างหนึ่งอันอื่น ซึ่งเป็นไปรวดเร็วเหมือนอย่างจิตนี้เลยนะ ภิกษุทั้งหลาย และว่าจิตไปได้ไกล ไปดวงเดียว .(อ.ปฐมปีฐวิมาน) 48/17/1448/17/14 48/16/8 |
6 | วิมานไปได้ ด้วยวาโยธาตุ โดยอำนาจจิตของเทวดานั้นเท่านั้น (อ.ปฐมปีฐวิมาน) 48/24/148/24/1 48/21/16 |
7 | ชื่อว่า มนุษย์เพราะมีใจสูง มนุษย์ชาวชมพูทวีป ย่อมชนะมนุษย์ชาวอุตตรกุรุ-ทวีปและเทพชั้นดาวดึงส์ ด้วยฐานะ 3 อย่าง คือ เป็นผู้กล้า เป็นผู้มีสติ การอยู่ประพฤติพรหมจรรย์ ในพระธรรมวินัยนี้ (อ.ปฐมปีฐวิมาน) 48/28/1448/28/14 48/25/13 |
8 | พระเจ้ามหาสมมติราช ชื่อว่า พระมนู (อ.ปฐมปีฐวิมาน) 48/29/1448/29/14 48/26/9 |
9 | เทพบุตร พรหม เทพธิดา ท่านเรียกว่า เทวดา (อ.ปฐมปีฐวิมาน) 48/31/1948/31/19 48/28/7 |
10 | ที่ได้ชื่อว่า มนุษย์นรก มนุษย์เปรต มนุษย์ดิรัจฉาน (อ.ปฐมปีฐวิมาน) 48/34/1648/34/16 48/30/19 |
11 | พระมหาโมคคัลลานะกลับมาจากเทวโลกแล้วก็มากราบทูล เรื่องนั้นถวายแด่พระพุทธเจ้า พระองค์ก็แสดง เรื่องนั้น โปรดบริษัทที่มาประชุมกัน. (อ.ปฐมปีฐวิมาน) 48/38/148/38/1 48/33/15 |
12 | สตรีผู้หนึ่งชาวสาวัตถี มีจิตเลื่อมใสนิมนต์ ถวายอาสนะปูด้วยผ้าสีเขียวลาดบนตั่งของตน แก่พระเถระผู้มาบิณฑบาต ยังเรือนของตน กระทำอัญชลี ถวายทานตามกำลัง ด้วยผลทานนั้น วิมานบัลลังก์สำเร็จด้วยแก้วไพฑูรย์ก็บังเกิดแก่นางในเทวโลก. (อ.ทุติยปีฐวิมาน) 48/39/1948/39/19 48/35/8 |
13 | พระขีณาสพรูปหนึ่ง บิณฑบาตได้อาหารแล้ว หาที่นั่งฉันอยู่ สตรีเจ้าของเรือนได้มีศรัทธา จัดตั่งปูผ้าสีเหลืองให้ท่านนั่งฉัน แล้วถวายตั่งนั้น พระเถระรับแล้วถวายสงฆ์ นางตายแล้วไปเกิดอยู่วิมานตั่งทองในชั้นดาวดึงส์ (อ.ตติยปีฐวิมาน) 48/43/1248/43/12 48/38/10 |
14 | เทวดาแสดงคุณแห่งทาน คือ ถวายโดยเคารพ และถวายใกล้ชิด ถวายด้วยมือตนและตามเข้าไปถวาย ทำความยำเกรงถวาย ถวายตามกาล (อ.ตติยปีฐวิมาน) 48/47/1248/47/12 48/41/23 |
15 | สตรีผู้หนึ่ง ได้นำตั่งลาดผ้าเขียวถวายแก่ภิกษุ จึงได้วิมานตั่งแก้วไพฑูรย์.(อ.จตุตถปีฐวิมาน) 48/49/1148/49/11 48/43/17 |
16 | สตรีผู้หนึ่งในกรุงราชคฤห์ ได้จัดอาสนะไว้เหนือดอกปทุม ถวายข้าวปายาสแก่พระสารีบุตร ทำความปรารถนา สมบัติที่งดงามด้วยบัลลังก์เรือนยอดกุญชรอันเป็นทิพย์ นางตายแล้วไปเกิดอยู่วิมานทองสูง 100 โยชน์ ณ ภพดาวดึงส์ มีนางอัปสร 1,000 เป็นบริวาร และช้างสูง 5 โยชน์ ประดับด้วยดอกปทุม บัลลังก์ทองโยชน์หนึ่ง (อ.กุญชรวิมาน) 48/53/448/53/4 48/47/1 |
17 | ความเป็นผู้มีตระกูลสูง มีได้ก็ด้วยถวายอาสนะ การได้สมบัติ คือ จักษุมีได้ด้วยถวายประทีปโคมไฟ การได้สมบัติทุกอย่าง มีได้ด้วย ถวายที่อยู่ (อ.กุญชรวิมาน) 48/53/2148/53/21 48/47/19 |
18 | ดนตรี มีองค์ 5 คือ โทน ตะโพน บัณเฑาะว์ กังสดาล ปี่สังข์ (อ.กุญชรวิมาน) 48/59/948/59/9 48/52/15 |
19 | หญิงผู้หนึ่งกำลังไปตักน้ำ เห็นภิกษุ 16 รูป ซึ่งเดินทาง ลำบากกายกระหายน้ำมาจึงถวายน้ำดื่ม เมื่อนางตายไปเกิดในภพดาวดึงส์ วิมานใหญ่งดงามด้วยต้นกัลปพฤกษ์ มีแม่น้ำล้อมรอบวิมาน มีต้นมะม่วง ต้นสาละ ต้นหมากหอมต้นชมพู่ เป็นต้น (อ.ปฐมนาวาวิมาน) 48/65/148/65/1 48/57/21 |
20 | หญิงผู้หนึ่ง ได้ปูอาสนะถวาย พระอรหันต์รูปหนึ่ง ซึ่งกระหายน้ำมา แล้วถวายน้ำปานะ น้ำล้างเท้า และน้ำมันชโลมเท้า ภายหลังนางตายไปเกิดในภพดาวดึงส์มีวิมานอันแม่น้ำ และสวนไม้ ล้อมรอบ (อ.ทุติยนาวาวิมาน) 48/71/1348/71/13 48/64/5 |
21 | พวกพราหมณ์ ชาวบ้าน ถูนะ ตั้งกติกากันว่าห้ามผู้ใดต้อนรับ หรือถวายอาหารแก่พระพุทธเจ้าและพระสาวก ได้มีหญิงผู้หนึ่งตักน้ำมาแล้วถวายแด่พระพุทธเจ้าและภิกษุสงฆ์ โดยไม่อาลัยในชีวิต นางถูกสามีตีตายไปเกิดอยู่ภพดาวดึงส์ หลังจากที่พวกพราหมณ์ ได้เห็นปาฏิหาริย์ น้ำหลากแล้ว ก็พากันขอขมาต่อพระพุทธองค์ นางเทพธิดานั้นก็มาฟังธรรมพร้อมวิมานของตน จบเทศนา นางได้บรรลุโสดาปัตตผล (อ.ตติยนาวาวิมาน) 48/76/448/76/4 48/68/4 |
22 | ในวันอุโบสถ พวกอุบาสกไปวิหาร เพื่อฟังธรรม เมื่อพระอาทิตย์ตก สตรีผู้หนึ่งจึงนำเครื่องประทีปมาจากเรือนตน จุดตั้งไว้หน้าธรรมมาสน์ แล้วฟังธรรม นางตายแล้วไปเกิดในภพดาวดึงส์ มีวิมานโชติช่วง รัศมีกายรุ่งโรจน์ ล้ำเทวดาทั้งหลายมีสวนไม้มาก มีบัวขาวมาก พระโมคคัลลานะแสดงสัจจะ 4 จบ เทวดานั้นกับบริวารก็ตั้งอยู่ในโสดาปัตติผล (อ.ปทีปวิมาน) 48/83/2148/83/21 48/75/4 |
23 | พระพุทธเจ้าทรงตรวจดูโลกในเวลาใกล้รุ่ง เห็นหญิงมีครรภ์คนหนึ่ง หมดอายุขัยแล้ว จะตายวันนี้แล้วไปตกนรก จึงทรงถือบาตร จีวร เสด็จจากกรุงสาวัตถีถึงราชคฤห์ ขณะนั้น ยืนอยู่หน้าบ้านของนาง นางลุกขึ้นดีใจเกิดปีติ ล้างมือเท้าแล้วกอบงาด้วยมือทั้งสอง ใส่ลงในบาตร พระพุทธองค์ตรัสว่า จงเป็นสุขเถิดรุ่งเช้านางตายไปเกิดในภพดาวดึงส์ มีวิมานทอง 12 โยชน์ (อ.ติลทักขิณวิมาน) 48/89/748/89/7 48/80/4 |
24 | สตรีผู้หนึ่งในกรุงสาวัตถี เป็นผู้ปฏิบัติสามี ไม่ประพฤตินอกใจ แม้โกรธก็ไม่กล่าวคำหยาบ พูดแต่เรื่องจริง มีความเชื่อเลื่อมใสให้ทานตามควร ตายไปเกิดภพดาวดึงส์ มีนกต่างๆ ชุมนุมในวิมาน มีดอกไม้สดงดงามมีเทพบุตรเทพธิดามาคบหา มีนางอัปสรฟ้อนรำ ขับร้อง รอบข้าง (อ.ปฐมปติพพตาวิมาน) 48/93/1348/93/13 48/83/21 |
25 | อุบาสิกา ผู้หนึ่งในกรุงสาวัตถี เป็นผู้ซื่อตรงต่อสามี รักษาศีล 5 ทำให้บริสุทธิ์ให้ทานตามสมควร เมื่อตายไปอยู่ภพดาวดึงส์ มีวิมานมีเสาเป็นแก้วไพฑูรย์มีรัศมีผ่องใส สำแดงฤทธิ์ได้แปลก ๆ (อ.ทุติยปติพพตาวิมาน) 48/98/1648/98/16 48/88/15 |
26 | สะใภ้ของครอบครัวหนึ่งได้ถวายขนมครึ่งหนึ่งจากส่วนของตน แก่พระอรหันต์รูปหนึ่ง ด้วยความเอื้อเฟื้อ ต่อมานางตายไปเกิดในภพดาวดึงส์ (อ.ปฐมสุณิสาวิมาน) 48/102/748/102/7 48/91/17 |
27 | สะใภ้ของครอบครัวหนึ่ง ได้ถวายขนมสดแก่พระอรหันต์ ครั้นตายแล้วไปเกิดในภพดาวดึงส์ (อ.ทุติยสุณิสาวิมาน) 48/105/948/105/9 48/94/14 |
28 | บุรุษเข็ญใจ ชื่อปุณณะ และภริยา ได้ทำบุญกับพระสารีบุตร ซึ่งออกจากนิโรธ-สมาบัติ แล้วได้เป็นเศรษฐีในวันนั้น ภายหลังนิมนต์พระพุทธเจ้าเป็นประมุขทำทาน จบธรรมกถา นายปุณณะและภริยา พร้อมด้วย ธิดา ชื่ออุตตรา ได้บรรลุโสดาปัตติผล (อ.อุตตราวิมาน) 48/109/448/109/4 48/98/1 |
29 | นางอุตตรา จ้างโสเภณี ชื่อ สิริมา ให้บำเรอสามีของตน. (อ.อุตตราวิมาน) 48/114/748/114/7 48/102/16 |
30 | นางสิริมาขอขมาพระพุทธเจ้า จบเทศนา นางอุตตราได้ สกทาคามิผล สามี พ่อผัว แม่ผัว นางสิริมา และบริวาร 500 ได้ โสดาปัตติผล (อ.อุตตราวิมาน) 48/116/2148/116/21 48/104/23 |
31 | " พึงชนะความโกรธ ด้วยความไม่โกรธ พึงชนะความไม่ดี ด้วยความดี พึงชนะความตระหนี่ ด้วยการให้ พึงชนะผู้พูดเท็จ ด้วยคำจริง " (อ.อุตตราวิมาน) 48/117/2048/117/20 48/105/17 |
32 | หญิง 20 จำพวก เป็นฐานะที่ไม่ควรละเมิด สำหรับชายทั้งหลาย. (อ.อุตตราวิมาน) 48/122/1048/122/10 48/109/19 |
33 | สุรา 5 ประเภท และเมรัย 5 ประเภท (อ.อุตตราวิมาน) 48/123/548/123/5 48/110/14 |
34 | " บุญนั้นแล ย่อมเป็นของเขา เขาพาบุญนั้นไป และบุญนั้น ย่อมติดตามเขาไปเหมือนเงาตามไป ฉะนั้น " (อ.อุตตราวิมาน) 48/124/1248/124/12 48/111/18 |
35 | นางสิริมา บรรลุโสดาปัตติผล แล้วก็เลิกการเป็นโสเภณี ได้ตั้งสลากภัต 8 ที่ประจำที่เรือนตน ภิกษุรูปหนึ่งหลงใหลความงามของนางจนอดข้าวอยู่ 7 วัน ครั้นนางสิริมาตายแล้ว พระศาสดาให้เก็บศพไว้แสดงแก่มหาชนจบธรรมเทศนาของพระองค์ ภิกษุนั้นบรรลุพระอรหัต สัตว์ประมาณ 84,000 ก็ได้ ตรัสรู้ธรรม..(อ.สิริมาวิมาน) 48/129/448/129/4 48/116/1 |
36 | เทวดาชั้นนิมมานรดี เนรมิต ตามความที่ตนปรารถนาด้วยตนเอง ย่อมยินดีเล่นระเริง อภิรมย์ (อ.สิริมาวิมาน) 48/136/748/136/7 48/122/5 |
37 | ในกรุงพาราณสี ธิดาพราหมณ์ผู้หนึ่ง ชื่อ เปสการี กำลังเก็บเหาจากหัวมารดาอยู่ เห็นภิกษุทั้งหลายมาบิณฑบาต ธิดานั้นจึงสนทนา มีประการต่างๆ ถึงความที่ภิกษุเหล่านี้บวช อุบาสกผู้หนึ่ง บรรลุผลแล้วได้ยินจึงเข้าไปสนทนาด้วย ทำให้ธิดานั้นมีอุตสาหะรับสรณะ สมาทานศีล อุบาสกบอกอาการ 32 และแนะทางวิปัสสนาให้ ไม่นานนักธิดานั้นก็ได้บรรลุโสดาปัตติผล เมื่อตายไปเป็นบริจาริกาของท้าวสักกะเทวราช มีบริวารถึงแสนหนึ่ง (อ.เปสการิยวิมาน) 48/147/848/147/8 48/133/1 |
38 | อุบาสกคนหนึ่ง ไปฟังธรรมที่พระเชตวัน แล้วถวายภัตประจำ 4 ที่แก่สงฆ์ เขาสั่งกำชับทาสีให้ทำอย่างดี นางทาสีนั้นได้มีศรัทธาตื่นแต่เช้าทุกวัน ปัดกวาดจัดที่นั่งนิมนต์ภิกษุให้นั่ง ไหว้บูชาด้วยดอกไม้ของหอม ถวายอาหาร ภิกษุให้นางรับสรณะ และศีล บอกปฏิกูลมนสิการ และแสดงธรรมเกี่ยวด้วยความไม่เที่ยงนางรักษาศีลตลอด 16 ปี ทำมนสิการติดต่อกันมาตลอด วันหนึ่งได้ความสบายในการฟังธรรมเจริญวิปัสสนาบรรลุโสดาปัตติผล เมื่อตายแล้วไปเกิดเป็นนางบำเรอสนิทเสน่หาของท้าวสักกะ มีดุริยเทพ 6 หมื่น นางอัปสรแสนหนึ่งแวดล้อม..(อ.ทาสีวิมาน) 48/157/648/157/6 48/142/6 |
39 | หญิงคนหนึ่งชื่อ ลขุมา สมบูรณ์ด้วยศรัทธา และความรู้ ถวายอาหารทัพพีหนึ่งแก่ภิกษุ ต่อมาก็สร้างโรงฉัน ตั้งน้ำใช้ไว้ ได้ถวายข้าวสุก ขนมกุมมาส ผักดองนางฟังธรรมตั้งอยู่ในสรณะ และศีล เรียนวิปัสสนากัมมัฏฐาน ไม่นานก็ได้โสดาปัตติผล นางตายไปเกิดในมหติวิมานภพดาวดึงส์ นางอัปสร 1,000 เป็นบริวาร จบการถามตอบ นางบรรลุสกทาคามิผล ด้วยธรรมเทศนาของพระมหาโมคคัลลานะ (อ.ลขุมาวิมาน) 48/166/1848/166/18 48/151/1 |
40 | พระมหากัสสปะออกจากนิโรธสมาบัติ แล้วจะไปบิณฑบาตเพื่อสงเคราะห์ หญิงยากไร้คนหนึ่ง ซึ่งเคยเป็นมารดาของท่านในอัตภาพที่ 3 ท้าวสักกะปลอมตัวมาเพื่อจะใส่บาตร พระเถระรู้แล้วจึงไล่ให้หนีไป หญิงนั้นได้ถวายข้าวตังแก่พระเถระ แล้วตายไปเกิดอยู่เทวโลกชั้นนิมมานรดี (อ.อาจามทายิกาวิมาน) 48/171/748/171/7 48/155/5 |
41 | พระพุทธองค์ ทรงตรวจดู โลก ได้ทรงเห็นหญิงจัณฑาลแก่คนหนึ่ง สิ้นอายุแล้วจะไปนรก พระพุทธองค์พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์เสด็จเข้าไปบิณฑบาต พบหญิงนั้นถือไม้เท้าเดินมาพอดี พระองค์จึงหยุดยืนอยู่ พระมหาโมคคัลลานะรู้พระทัยของพระศาสดาจึงบอกให้นางถวายบังคมพระพุทธองค์ เพราะชีวิตเหลือน้อยเต็มทีนางกราบพระพุทธองค์แล้วยืนประคองอัญชลีอยู่ด้วยปีติในพุทธคุณ แม่โคลูกอ่อนวิ่งมาขวิดนางตาย จากนั้นไปเกิดในภพดาวดึงส์ (อ.จัณฑาลิวิมาน) 48/179/1448/179/14 48/162/13 |
42 | เทวดาช่วยให้ ผัว-เมีย เจอกัน. (อ.ภัททิตถิกาวิมาน) 48/188/648/188/6 48/170/18 |
43 | อุบาสิกา ชื่อ โสณทินนาในเมือง นาลันทา เป็นผู้มีศรัทธาเลื่อมใสบำรุงภิกษุทั้งหลายด้วยปัจจัย 4 มีนิจศีลบริสุทธิ์ดี ได้ความสบายในการฟังธรรม เมื่อเพิ่ม-พูนกัมมัฏฐานในสัจจะ 4 ก็ได้เป็นโสดาบัน ต่อมานางตายไปเกิดในชั้นดาวดึงส์.(อ.โสณทินนาวิมาน) 48/197/448/197/4 48/178/18 |
44 | อุบาสิกา ชาวเมืองสาเกตุ เป็นพระโสดาบัน แต่เพราะได้ฟังเรื่องสวนนันทนวันอยู่เนืองๆ จึงตั้งใจไปในสวนนันทนวันนั้น นางรู้ว่าตั้งใจไปเกิดในภพอันเลว พระมหาโมคคัลลานะ จึงปลอบใจนางถึงความที่นางนั้นพ้นทุคติแล้ว (อ.อุโบสถาวิมาน) 48/201/948/201/9 48/183/6 |
45 | อุบาสิกา ชื่อสุนิททา ในเมืองราชคฤห์ เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยศรัทธาและศีล ยินดีแล้วในการจำแนกทานเสมอ รักษาอุโบสถศีลตอลดวัน 14 ค่ำ 15 ค่ำ และวัน 8 ค่ำแห่งปักษ์ และตลอดปาฏิหาริยปักษ์ด้วยมีปัญญาเฉลียวฉลาดในอริยสัจได้ไปเกิดอยู่ดาวดึงส์ (อ.สุนิททาวิมาน) 48/206/1348/206/13 48/189/6 |
46 | [๒๖] อุบาสิกา ชื่อสุทินนา ในกรุงราชคฤห์ เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยศรัทธาและศีล เมื่อตายแล้วได้ไปอยู่ดาวดึงส์ (สุทินนาวิมาน) 48/208/648/208/6 48/191/5 |
47 | หญิงคนหนึ่งในเมืองมธุรา หมดอายุขัยแล้วจะไปเกิดในอบายภูมิ พระพุทธองค์ทรงเห็นเหตุนั้น จึงเสด็จจากเมืองสาวัตถีไปบิณฑบาต นางนิมนต์รับบิณฑบาตในเรือนของตน นางฟังอนุโมทนาคาถา รู้สึกปีติโสมนัสมาก มีพระพุทธคุณเป็นอารมณ์ ยืนมนัสการอยู่จนพระองค์เสด็จลับสายตาไป อีก 2-3 วัน นางก็ตายไปเกิดในภพดาวดึงส์ มีบริวาร 1,000 (อ.ปฐมภิกษาทายิกาวิมาน) 48/211/148/211/1 48/195/19 |
48 | ในกรุงราชคฤห์ มีหญิงคนหนึ่ง มีศรัทธาเลื่อมใสเห็นพระขีณาสพรูปหนึ่งกำลังเที่ยวบิณฑบาต จึงนิมนต์เข้าบ้านถวายอาหาร ต่อมานางตายไปเกิดในภพดาว-ดาวดึงส์ดึงส์.(อ.ทุติยภิกษาทายิกาวิมาน) 48/214/148/214/1 48/199/5 |
49 | ตระกูลอุปัฏฐาก ของพระมหาโมคคัลลานะในกรุงราชคฤห์ตระกูลหนึ่ง ลูกสาวยินดีในการให้ทาน จะแบ่งของๆ ตนไว้ให้ทานแก่ผู้อื่นก่อน ต่อมานางไปอยู่สกุลสามีผู้มิจฉาทิฏฐิ พระมหาโมคคัลลานะไปบิณฑบาต นางจึงได้เอาขนมที่แม่ผัววางไว้ถวาย แล้วบอกแม่ผัวเพื่อให้ยินดี แต่แม่ผัวโกรธจัดทุบตีนางด้วยสาก ต่อมา2-3 วัน นางตายไปเกิดในภพดาวดึงส์ (อ.อุฬารวิมาน) 48/218/648/218/6 48/203/6 |
50 | ลูกสะใภ้ ได้ถวายท่อนอ้อยแก่พระเถระรูปหนึ่ง แม่ผัวไม่พอใจจึงตีนางด้วยตั่งจนตาย นางไปเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ (อ.อุจฉุทายิกาวิมาน) 48/225/1048/225/10 48/210/5 |
51 | ธิดาตระกูลหนึ่งในกรุงสาวัตถี ไปสู่สกุลสามี นางเป็นหญิงไม่โกรธ ถึงพร้อมด้วยศีล และมารยาท นับถือสามีดุจเทวดาในวันอุโบสถรักษาศีลอุโบสถโดยเคร่งครัดต่อมานางตายเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ (อ.ปัลลังกวิมาน) 48/232/748/232/7 48/217/1 |
52 | ในกรุงสาวัตถี ธิดาของอุบาสกคนหนึ่ง ชื่อลดา ไปสู่ตระกูลสามี ประพฤติเป็นที่ชอบใจสามีและพ่อผัวแม่ผัว ฉลาดในการสงเคราะห์บริวารชน ไม่มักโกรธ ถึงพร้อมด้วยศีล และมารยาท รักษาศีล 5 ไม่ขาด ครั้นนางตายไปเกิดเป็นลูกสาวท้าวเวสสวัณมหาราช ท้าวสักกะได้นำลูกท้าวเวสสวัณทั้ง 5 นางไปเป็นนาง-บำเรอแต่นางลดาเทพธิดา ได้เป็นที่โปรดปราน (อ.ลตาวิมาน) 48/239/1048/239/10 48/223/7 |
53 | พระมหาโมคคัลลานะ ไปดาวดึงส์ ถามบุญกรรมกับนางเทพธิดา 36 นาง แล้วมากราบทูลพระศาสดา พระองค์ทรงแสดงเรื่อง ตอนที่พระโพธิสัตว์ คุตติละ ขึ้นไปดาวดึงส์ ก็ได้ถามนางเทพธิดา ทั้ง 36 นั้น เช่นกัน (อ.คุตติลวิมาน) 48/261/448/261/4 48/242/20 |
54 | ถวายทานในสงฆ์มีผลมาก (อ.ทัททัลลวิมาน) 48/288/148/288/1 48/266/17 |
55 | การให้สังฆทานมีผลมากกว่า การให้ทานในบุคคล (อ.ทัททัลลวิมาน) 48/293/648/293/6 48/271/15 |
56 | นางเสสวดี เคยถวายเครื่องประดับคอเพื่อสร้างอิฐทองคำในเจดีย์ของพระกัสสป-พุทธเจ้า ครั้นถึงศาสนาพระพุทธเจ้าของเรา นางได้มาเกิดในนาลกคาม พอมีอายุได้ 12 ขวบ ก็มีพ่อค้านำไปสู่เรือน เพราะนางเห็นทรัพย์ที่กลายเป็นหินเป็นกรวดนั้นปรากฏเป็นเงินทอง (อ.เสสวดีวิมาน) 48/297/1648/297/16 48/275/16 |
57 | พระสารีบุตร ปรินิพพาน ผู้คนได้สร้างเจดีย์สูง 100 ศอกด้วยกฤษณา และไม้-จันทน์ นางเสสวดี ไปกับคนใช้ถือผอบทอง และของหอมเพื่อบูชาเจดีย์ ถูกฝูง-ชนเหยียบตาย ไปเกิดบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ แล้วลงมาพร้อมวิมานตน ถวายบังคมพระพุทธเจ้า พระวังคีสะจึงถามถึงบุพกรรมของเทพธิดานั้น (อ.เสสวดีวิมาน) 48/299/1148/299/11 48/277/3 |
58 | ราชบุตรีของกษัตริย์ มัลละเป็นภรรยาของพันธุลมัลละ ได้เอาน้ำหอมล้างเครื่องประดับมหาลดาของตน ถือเอาของหอมและดอกไม้ เป็นอันมากอย่างอื่นบูชาพระสรีระของพระพุทธเจ้า ครั้นนางตายแล้วไปเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มีวิมานประดับด้วยผ้า รุ่งเรืองด้วยแก้ว 7 ประการ (อ.มัลลิกาวิมาน) 48/310/2048/310/20 48/287/11 |
59 | เมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว พระเจ้าอชาตศัตรู ทรงรับพระบรมสารีริกธาตุมาสร้างพระสถูป และฉลองในกรุงราชคฤห์ลูกสาวช่างทำดอกไม้ ชื่อ สุนันทาเป็นอริยสาวิกา บรรลุโสดาบัน ได้ส่งมาลัย และของหอมไปบูชา พระสถูปทุกวันในวันอุโบสถนางจะไปด้วยตนเอง เมื่อนางตายได้เป็นบริจาริกาของท้าวสักกะมีรัศมีข่มแสงสว่าง ของดอกไม้ในสวนจิตรลดา (อ.วิสาลักขิวิมาน) 48/319/1448/319/14 48/295/22 |
60 | พระพุทธองค์ทรง ไปฉันภัตตาหารอยู่ปะรำใหญ่ ของเรือนหนึ่ง มีหญิงหาฟืน เก็บดอกอโศก เป็นอันมาก เดินมาเห็นพระพุทธเจ้าประทับนั่งในที่นั้น จึงเลื่อมใส เอาดอกอโศกเหล่านั้น ปูลาดโดยรอบอาสนะ บูชาพระองค์ ทำประทักษิณ 3 รอบครั้นนางตายแล้วไปเกิดบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ (อ.ปาริฉัตตกวิมาน) 48/325/1448/325/14 48/301/7 |
61 | หญิงรับใช้คนหนึ่ง เก็บดอกสาละร้อยเป็นมาลัยสวมคอ และเก็บดอกงามๆ เป็นอันมาก เข้ามาในนคร เห็นพระพุทธเจ้าประทับนั่งอยู่ในมณฑป จึงมีจิตเลื่อมใสเอาดอกไม้เหล่านั้นบูชา วางมาลัยโปรยดอกไม้รอบพุทธอาสน์ ทำประทักษิณแล้วหลีกไป เมื่อตายไปนางเกิดอยู่ดาวดึงส์ มีวิมานแก้วผลึก. (อ.มัญชิฏฐกวิมาน) 48/333/548/333/5 48/308/6 |
62 | ลูกสาวอุบาสกคนหนึ่งในกรุงราชคฤห์ ผู้เลื่อมใสในพระมหาโมคคัลลานะวันหนึ่งได้บูชาพระเถระด้วยมาลัยดอกมะลิ และถวายน้ำอ้อยงบ พระเถระนั่งเพื่ออนุโม-ทนา แต่นางมีธุระยุ่งจึงนิมนต์ ส่งพระเถระกลับไม่ได้ฟังธรรม วันนั้นเองนางตายไปเกิดในภพดาวดึงส์ เมื่อพระเถระไปดาวดึงส์ นางเทพธิดานั้นจึงกราบขอฟังธรรมเพราะ เทพอื่นที่เลื่อมใสในพระรัตนตรัยองค์อื่นๆ รุ่งโรจน์กว่านาง.(อ.ปภัสสรวิมาน) 48/337/1148/337/11 48/312/4 |
63 | อุบาสิกาชาวพาราณสีผู้หนึ่ง ให้ทอผ้าคู่ ซักย้อมดีแล้ว ถวายแด่พระพุทธเจ้าพระองค์เห็นอุปนิสัยจึงแสดงธรรมแก่นาง จบเทศนา นางดำรงอยู่ในโสดาปัตติผลต่อมานางตายไปเป็นปชาบดีของท้าวสักกะ มีชื่อว่า ยสุตตรา นางเห็นสมบัติของตนแล้ว จึงลงมาถวายบังคมพระพุทธเจ้าที่เชตวันวิหาร (อ.นาควิมาน) 48/342/1248/342/12 48/316/17 |
64 | หญิงเข็ญใจคนหนึ่ง ชื่ออโลมา ได้ถวายขนมแห้งไม่เค็มมีผิวราน แด่พระพุทธเจ้าต่อมานางตายไปเกิดในภพดาวดึงส์ (อ.อโลมวิมาน) 48/348/448/348/4 48/321/15 |
65 | พระพุทธองค์ประชวรโรคลมในพระนาภี จึงตรัสให้ พระอานนท์ไปบิณฑบาตน้ำข้าวเพื่อมาทำยา พระอานนท์ ถือบาตรของพระพุทธองค์ไปยืนอยู่ประตูบ้านของหมอผู้เป็นอุปัฏฐากของตน ภริยาของหมอ เป็นผู้ฉลาดรู้ว่าต้องการยา จึงปรุงน้ำข้าวที่ปรุงด้วยพุทรา อบด้วยน้ำมัน ผสมดีปลี กระเทียม รากผักชีไปถวายต่อมานางตายไปเกิดในภพดาวดึงส์ (อ.กัญชิกทายิกาวิมาน) 48/351/1348/351/13 48/325/1 |
66 | ยาระงับโรคลมในท้อง คือ น้ำพุทรา และมะซางเติมน้ำสี่ส่วน เคี่ยวยาคูข้าวต้มเหลือส่วนที่สี่ ปรุงด้วยของเผ็ดร้อนทั้งหลายมีของเผ็ดร้อน 3 ส่วน ผักชีมหาหิงคุ์ยี่หร่า และกระเทียม เป็นต้น อบอย่างดีให้ข้าวยาคูนั้นจับกลิ่นพริกไทย. (อ.กัญชิกทายิกาวิมาน) 48/353/1348/353/13 48/326/21 |
67 | ยินดีในทานของผู้อื่น ก็ได้บุญมาก (อ.วิหารวิมาน) 48/360/848/360/8 48/333/3 |
68 | อขณะ 8 ได้แก่ อบายส่วนอรูป 3 อสัญญีสัตว์ ๑ ปัจจันตประเทศ ๑ อินทรีย์บกพร่อง ๑ ความเป็นนิยตมิจฉาทิฏฐิ ๑ ความไม่ปรากฏพระพุทธเจ้า ๑ .(อ.วิหารวิมาน) 48/367/948/367/9 48/339/23 |
69 | ครั้งพระกัสสปพุทธเจ้า มีธิดา 4 คน เป็นพี่น้องกัน มีสามีร่วมกัน นางทั้ง 4 ต่างได้ถวาย ดอกราชพฤกษ์ ดอกบัวขาบ ดอกบัวหลวง ดอกมะลิ แก่ภิกษุผู้เที่ยวบิณฑบาต ต่อมานางเหล่านั้นตายไปเกิดในชั้นดาวดึงส์ มีวิมานเรียงกันอยู่ ครั้นจุติจากดาวดึงส์ แล้วก็ยังเวียนว่ายไปๆ มาๆ อยู่ในดาวดึงส์นั้นแหละ พระมหาโมคคัลลานะ ครั้นถามถึงบุญกรรมแล้ว ได้แสดงธรรม จบเทศนา เทพธิดาทั้ง 4และบริวารได้บรรลุโสดาปัตติผล (อ.จตุริตถีวิมาน) 48/373/648/373/6 48/345/16 |
70 | อุบาสิกาผู้หนึ่งในกรุงสาวัตถี มีความพอใจจะสร้างอาวาส พระพุทธองค์ทรงสั่งภิกษุทั้งหลายแสดงที่ให้ นางสร้างอาวาสแล้วปลูกต้นมะม่วงวงรอบตกแต่งวิหารด้วยผ้าสีต่างๆ ติดตั้งตะเกียงน้ำมัน และเอาผ้าใหม่พันต้นมะม่วง แล้วมอบถวายสงฆ์ ต่อมานางตายแล้วเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์. (อ.อัมพวิมาน) 48/379/948/379/9 48/351/12 |
71 | กำลังเดินทางไปเพื่อบูชาพระสถูป แต่ถูกแม่โคลูกอ่อนขวิดตายก่อน ได้ไปเกิดชั้นดาวดึงส์ (อ.ปีตวิมาน) 48/384/1548/384/15 48/356/11 |
72 | " มารดาบิดาก็ดี ญาติเหล่าอื่นก็ดี พึงทำผู้นั้นให้ประเสริฐไม่ได้ ส่วนจิตที่ตั้งไว้ชอบพึงทำผู้นั้นให้ประเสริฐได้กว่านั้น " (อ.ปีตวิมาน) 48/389/948/389/9 48/360/23 |
73 | ลูกสะใภ้ได้มีจิตเลื่อมใส ถวายอ้อยแก่พระมหาโมคคัลลานะ แต่แม่ผัวโกรธ เอาก้อนดินทุบนางตาย ได้ไปเกิดในดาวดึงส์ (อ.อุจฉุวิมาน) 48/392/548/392/5 48/363/13 |
74 | ภิกษุมากรูปด้วยกันออกพรรษาแล้วเดินทางไปกรุงสาวัตถี ผ่านหมู่บ้านหนึ่ง.หญิงคนหนึ่ง เห็นภิกษุเหล่านั้นแล้วมีจิตเลื่อมใสเกิดความเคารพอย่างมาก ไหว้ด้วยเบญจางคประดิษฐ์ แล้วยืนประคองอัญชลีไว้เหนือศีรษะ ยืนลืมตาดูอยู่จนภิกษุทั้งหลายลับตาไป ต่อมา นางตายไปเกิดในดาวดึงส์. (อ.วันทนวิมาน) 48/395/1748/395/17 48/367/4 |
75 | แม้เพียงลืมตาดูด้วยความเลื่อมใส ในภิกษุผู้มีศีล ยังมีอุปการะมาก จะป่วยกล่าวไปไย คือ การไหว้เล่า (อ.วันทนวิมาน) 48/397/1448/397/14 48/368/17 |
76 | สะใภ้ของพราหมณ์คนหนึ่งในบ้านคยา ไม่ชอบขี้หน้านางทาสีผู้หนึ่ง นับแต่เห็นมาก็ทั้งด่าทั้งทุบตี ด้วยศอก เข่า สารพัด เพราะครั้งพระกัสสปพุทธเจ้า ผู้สะใภ้เกิดเป็นคนใช้ นางทาสีนั้นเป็นนาย ได้กระทำแบบเดียวกันนี้ คนใช้นั้นได้ทำบุญตามกำลังแล้วปรารถนาให้มีความเป็นใหญ่ เหนือหญิงผู้เป็นนาย (อ.รัชชุมาลาวิมาน) 48/402/748/402/7 48/373/4 |
77 | นางรัชชุมาลา ถูกทุกข์บีบคั้น คิดจะไปผูกคอตายแต่ได้พบพระพุทธเจ้า นั่งอยู่ที่โคนไม้ จึงเข้าไปฟังธรรม ได้บรรลุโสดาปัตติผล เมื่อพราหมณ์ผู้เป็นเจ้าบ้านทราบเรื่อง จึงได้นิมนต์พระศาสดาฉันภัตตาหารในเรือน พระองค์ทรงแสดงอดีตของสะใภ้กับนางรัชชุมาลา จบเทศนา มหาชนต่างถึงสรณะ และศีล พราหมณ์ตั้งนางรัชชุมาลาเป็นลูกสาว และสะใภ้กับนางรัชชุมาลาก็มองดูกันด้วยความรัก ต่อมานางรัชชุมาลาตายไปเกิดในดาวดึงส์ (อ.รัชชุมาลาวิมาน) 48/403/548/403/5 48/374/5 |
78 | กบตัวหนึ่ง อาศัยนิมิตเสียงด้วยธรรมสัญญาว่านี้ เรียกว่า ธรรม ถูกคนเลี้ยงโคเอาไม้เท้าค้ำหัว ตายไปเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มีวิมานทอง 12 โยชน์ ได้ลงมาทั้งวิมาน และบริวาร เข้าไปถวายบังคมพระพุทธเจ้า ในขณะนั้นเอง พระองค์ตรัสถาม เทวบุตรนั้นตามเหตุที่เกิดขึ้น พระองค์ทรงแสดงธรรม จบเทศนา เทวบุตรนั้นได้โสดาปัตติผล สัตว์ 84,000 ได้ตรัสรู้ธรรม (อ.มัณฑูกเทวปุตตวิมาน) 48/419/648/419/6 48/389/6 |
79 | ทำบุญแล้ว บุญปรากฏในสวรรค์ทันที (อ.เรวตีวิมาน) 48/429/1948/429/19 48/398/1 |
80 | นางเรวดีไม่ได้ทำบุญไว้ เป็นคนตระหนี่ โกรธเคือง หลอกลวงสมณะ พราหมณ์และวณิพก ด้วยมุสาวาท ถูกยักษ์ 2 ตนฉุดคร่าไปทั้งๆ ที่ยังมีชีวิตอยู่ นำไปลงนรกคูถ ชื่อ สังสวกะ หลายพันปี (อ.เรวตีวิมาน) 48/436/1948/436/19 48/404/5 |
81 | ปริยัติธรรมก็ทรงสัตว์ไว้ไม่ให้ตกไปสู่ทุกข์ในอบาย เพราะการปฏิบัติจริง แม้เพียงดำรงอยู่ในสรณะและศีล (อ.ฉัตตมาณวกวิมาน) 48/450/148/450/1 48/415/14 |
82 | ถึงสรณะ แล้วไม่ตกต่ำ (อ.ฉัตตมาณวกวิมาน) 48/451/748/451/7 48/416/18 |
83 | ภิกษุรูปหนึ่งเจริญวิปัสสนา เกิดโรคปวดหูขึ้นมา ไม่อาจขวนขวาย วิปัสสนาได้แม้รักษาด้วยยาก็ไม่หาย พระศาสดาให้ไปบิณฑบาตที่นาของชาวมคธ ชาวนาอยู่ที่เฝ้านาเห็นภิกษุนั้นแล้ว นิมนต์ให้นั่งถวายอาหารมีรสแห่งปู ภิกษุนั้นพอฉันโรคปวดหูก็หาย เจริญวิปัสสนา ยังฉันไม่ทันเสร็จก็ได้บรรลุพระอรหัต ต่อมาคนเฝ้านาตาย ได้เกิดในภพดาวดึงส์ มีวิมานทองเสาแก้วมณี 12 โยชน์.(อ.กักกฏกรสทายกวิมาน) 48/465/1348/465/13 48/430/10 |
84 | อุบาสกคนหนึ่งในกรุงราชคฤห์ ได้ถวายนิจภัต 4 ที่แด่พระสงฆ์ ที่เรือนของเขาต้องปิดประตูไว้โดยมาก เพราะกลัวพวกโจรเขาจึงตั้งบุรุษคนหนึ่งให้คอยเฝ้าประตูและจัดแจงต้อนรับภิกษุที่มา บุรุษนั้นทำตามด้วยดีมีศรัทธาได้ฟังธรรมตั้งอยู่ในสรณะและศีล บำรุงภิกษุโดยเคารพ ต่อมาอุบาสกตายไปเกิดชั้นยามา ฝ่ายคนเฝ้าประตู ตายไปเกิดอยู่ดาวดึงส์ (อ.ทวารปาลกวิมาน) 48/470/1948/470/19 48/434/6 |
85 | อุบาสกคนหนึ่งในกรุงสาวัตถี กำลังจะไปอาบน้ำ เห็นพระพุทธองค์ เสด็จมาบิณฑบาตจึงนิมนต์ไปยังเรือน ปูลาดอาสนะเลี้ยงดูจนอิ่มแล้ว พระองค์ทรงอนุโมทนา ต่อมาอุบาสกนั้นตายไปเกิดอยู่ในดาวดึงส์ (อ.ปฐมกรณียวิมาน) 48/474/448/474/4 48/437/9 |
86 | อุบาสกคนหนึ่งได้ถวายอาหารแด่พระเถระรูปหนึ่ง ต่อมาเขาตายไปอยู่ชั้นดาวดึงส์ มีวิมานแก้วมณีสูง 12 โยชน์ (อ.ทุติยกรณียวิมาน) 48/477/248/477/2 48/440/11 |
87 | พระสารีบุตร ต้องการทำจีวร แต่ไม่มีเข็ม จึงไปบิณฑบาตในกรุงราชคฤห์ ยืนที่ประตูเรือนของช่างทอง ช่างทองมีใจเลื่อมใสได้ถวายเข็ม 2 เล่ม และปวารณาเมื่อต้องการเข็มอีก โปรดบอกกระผมเถิด กาลต่อมา ช่างทองนั้นตายไปเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มีวิมานเสาแก้วมณีสูง 12 โยชน์ (อ.ปฐมสูจิวิมาน) 48/479/1048/479/10 48/443/1 |
88 | ช่างเย็บชาวราชคฤห์คนหนึ่ง ไปวิหาร เห็นภิกษุรูปหนึ่งกำลังเย็บจีวรด้วยเข็มที่ทำกันเอง เขาจึงถวายเข็มหลายเล่ม และกล่องเข็ม ต่อมาเขาตายแล้วไปเกิดอยู่ดาวดึงส์ (อ.ทุติยสูจิวิมาน) 48/482/1048/482/10 48/445/20 |
89 | ครั้นพระกัสสปพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว มหาชนได้สร้างพระสถูปทองโยชน์หนึ่งพระราชาและชนทั้งหลายได้บูชา พระสถูปด้วยดอกไม้ทุกวัน ดอกไม้จึงเป็นของมีค่าและหายาก อุบาสกคนหนึ่งเที่ยวหาซื้อดอกไม้ไม่ได้ จึงเอาเงินไป 8 กหาปนะไปหานายมาลาการ และเขาได้ดอกไม้ที่หล่นอยู่ 8 ดอก ก็ไม่เอาไปฟรีๆ ได้ให้ทรัพย์ทั้ง 8 กหาปนะนั้น แล้วเอาดอกไม้ไปบูชาพระสถูป เมื่อเขาตายไปเกิดอยู่ดาวดึงส์ หมดอายุแล้วก็เกิดในเทวโลกสูงขึ้นไปอีก เที่ยวไปมาอยู่ในเทวโลกนั่นเอง (อ.ปฐมนาควิมาน) 48/485/1148/485/11 48/448/17 |
90 | อุบาสกคนหนึ่งในกรุงราชคฤห์ เป็นคนมีศรัทธา รักษาศีล 5 สมาทานอุโบสถ ให้ทานก่อน แล้วจึงบริโภคเอง หลังอาหารโดยมากให้คนถือน้ำอัฐบานไปวิหารถวายแด่ภิกษุสงฆ์ ฟังธรรม เขาจุติจากภพนี้ เกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ วันหนึ่งความกตัญญูเตือนเขาจึงมาพร้อมบริวาร เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า ที่เวฬุวันวิหาร.(อ.ทุติยนาควิมาน) 48/489/1448/489/14 48/452/18 |
91 | คนเฝ้าไร่อ้อยได้จัดที่พักชั่วคราวให้พระอรหันต์ 3 รูป และถวายอาหารและอ้อยตามกำลัง เขาถูกเจ้าของไร่ตีตายไปเกิดอยู่ชั้นดาวดึงส์ เทพบุตรนั้นมาพร้อมสมบัติทิพย์ แสดงให้พ่อแม่ และชาวบ้านเห็น ทำให้เขาเหล่านั้นมีศรัทธานำของบรรทุกเกวียนไปทำบุญ ที่เวฬุวันวิหาร ตั้งอยู่ในสรณะ และศีล แล้วช่วยกันสร้างวิหาร ตรงที่ ที่คนเฝ้าอ้อยตาย. (อ.ตติยนาควิมาน) 48/493/748/493/7 48/456/5 |
92 | ด้วยความหวังดี ของเทวดาที่เคยเป็นสหาย ทำให้ได้พบสมณะผู้ประเสริฐ.(อ.จูฬรถวิมาน) 48/505/748/505/7 48/466/19 |
93 | พระมหากัจจายนเถระให้พระราชกุมารชื่อ สุชาต ตั้งอยู่ในสรณะ และศีล แล้วบอกอายุขัยของเขาอยู่ได้อีก 5 เดือน พร้อมกับแบ่งพระบรมสารีริกธาตุ ให้กลับไปยังเมืองของตน ราชกุมารนั้นได้ให้สร้างพระเจดีย์ และนิมนต์พระมหากัจจายนะ และภิกษุทั้งหลาย ทำบุญให้ทาน ครั้นตายแล้วได้ลงมาด้วยรถทิพย์ ปรากฏพร้อมบริวารของตน (อ.จูฬรถวิมาน) 48/512/448/512/4 48/473/5 |
94 | พราหมณ์ ชื่อ โคปาละ ได้ถวายมหาทาน แด่พระกัสสปพุทธเจ้า ได้ฟังธรรมแต่ไม่ได้บรรลุคุณวิเศษ ตายทั้งที่ยังเป็นปุถุชน ไปบังเกิดในวิมานทอง ร้อยโยชน์ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ท่องเที่ยวไปๆ มาๆ อยู่ในเทวโลกทั้งหลาย (อ.มหารถวิมาน) 48/523/1848/523/18 48/483/17 |
95 | พระมหาโมคคัลลานะ รู้ว่า โคปาลเทวบุตร มีจิตอ่อน มีจิตเลื่อมใส จึงประกาศสัจจะทั้งหลาย เวลาจบสัจจะ เทวบุตรนั้นก็ตั้งอยู่ในโสดาปัตติผล (อ.มหารถวิมาน) 48/543/1648/543/16 48/502/22 |
96 | ครอบครัวหนึ่งในกรุงราชคฤห์ เป็นผู้เลื่อมใส ทั้งสามีภรรยาพรั่งพร้อมด้วยศีลและจรรยา เป็นดุจบ่อน้ำของภิกษุ และภิกษุณีทั้งหลาย ทั้งสองนั้นอุทิศพระรัตนตรัย ทำบุญจนตลอดชีวิต จุติจากภพนั้นแล้วไปเกิดในภพดาวดึงส์.(อ.ปฐมอคาริยวิมาน) 48/546/548/546/5 48/505/7 |
97 | [๖๖] สามีกับภริยาอยู่ครองเรือน เป็นดุจบ่อข้าวบ่อน้ำ มีจิตเลื่อมใส เมื่อบริจาคข้าวน้ำได้ถวายทานอย่างไพบูลย์โดยเคารพ เมื่อสิ้นชีวิตได้ไปเกิดอยู่ดาวดึงส์..(ทุติยอคาริยวิมาน) 48/548/448/548/4 48/506/17 |
98 | วิธีการทำมะม่วงให้ออกผลนอกฤดูกาล (อ.ผลทายกวิมาน) 48/552/148/552/1 48/510/10 |
99 | พนักงานเฝ้าสวน ได้ถวายผลมะม่วง 4 ผล ที่จะนำไปถวายพระราชา แก่พระมหาโมคคัลลานะ ด้วยคิดว่าแม้พระราชาจะฆ่า หรือเนรเทศก็ตาม เมื่อพระราชาทราบเรื่องจึงพระราชทานรางวัลแก่เขา แล้วขอส่วนบุญ ต่อมาเขาตายไปเกิดในภพดาวดึงส์ มีวิมานทอง 12 โยชน์ (อ.ผลทายกวิมาน) 48/552/1048/552/10 48/510/18 |
100 | อุบาสกกับภริยาได้จัดที่พักให้ภิกษุรูปหนึ่ง วันรุ่งขึ้นก็ให้ท่านฉัน และถวายก้อนน้ำอ้อยงบ เพื่อใส่น้ำดื่ม เดินไปส่งพระเถระแล้วก็กลับ ต่อมาทั้งสองตายไปเกิดในวิมานทอง 12 โยชน์ ภพดาวดึงส์. (อ.ปฐมอุปัสสยทายกวิมาน) 48/557/448/557/4 48/515/6 |
101 | [๖๙] จัดที่พักให้แก่พระอรหันต์ มีจิตเลื่อมใส บริจาคข้าวและน้ำอันไพบูลย์เป็นทานโดยเคารพ ได้เกิดยังภพดาวดึงส์ (ทุติยอุปัสสยทายกวิมาน) 48/559/348/559/3 48/516/15 |
102 | บุรุษผู้หนึ่ง กำลังจะบริโภคอาหาร เห็นภิกษุมาบิณฑบาต จึงเกลี่ยอาหารของตนลงในบาตรจนหมด แล้วดีใจที่ตนได้ถวายข้าวสวยแก่ภิกษุผู้หิวจัด จึงเกิดปีติโสมนัสอันโอฬาร ต่อมาเขาตายก็ไปเกิดในวิมานทอง 12 โยชน์ ในภพดาวดึงส์.(อ.ภิกขาทายกวิมาน) 48/561/1248/561/12 48/519/1 |
103 | เด็กเข็ญใจเฝ้านาข้าวเหนียวคนหนึ่ง ได้ขนมสดแล้วไปนา พระอรหันต์องค์หนึ่งเดินไปที่โคนไม้ที่เด็กนั้นนั่งอยู่ เขาเห็นว่าใกล้เวลาแล้ว ท่านจะไปบิณฑบาตไม่ทันจึงถวาย ขนมสด พระเถระนั่งฉัน ณ ที่นั่นเอง ต่อมาเขาก็ตายไปเกิดอยู่ภพดาวดึงส์ (อ.ยวปาลกวิมาน) 48/564/448/564/4 48/521/5 |
104 | พระอัครสาวกพร้อมด้วยบริวาร เที่ยวจาริกไปในแค้วนกาสี เวลาพระอาทิตย์ตกก็ถึงวิหารแห่งหนึ่งอุบาสกผู้หนึ่งรู้ข่าวจึงเข้าไปหา แล้วน้อมน้ำล้างเท้า น้ำมันทาเท้า เตียงตั่ง เครื่องปูลาด เครื่องประทีป นิมนต์ฉันวันรุ่งขึ้น ถวายทาน. พระเถระฉันแล้วอนุโมทนาแล้ว ก็หลีกไป ต่อมาอุบาสกตายไป เกิดอยู่ดาวดึงส์ ในวิมานทอง 12 โยชน์ (อ.ปฐมกุณฑลีวิมาน) 48/567/1348/567/13 48/524/6 |
105 | เทวบุตรนี้ได้ถวายทานแด่พระอัครสาวกทั้งสอง ซึ่งเที่ยวจาริกไปในแคว้นกาสีจึงได้เกิดในภพดาวดึงส์ (อ.ทุติยกุณฑลีวิมาน) 48/570/1148/570/11 48/527/1 |
106 | พระยาปายาสิให้ทานโดยไม่เคารพ ตายไปเกิดอยู่ชั้นจาตุมหาราช ส่วนอุตตรมาณพผู้จัดการในกิจใหญ่น้อย ของพระยาปายาสิ นั้น ได้เป็นผู้ขวนขวายในทาน เขาให้ทานโดยเคารพ ก็เข้าถึงหมู่เทพชั้นดาวดึงส์ (อ.อุตตรวิมาน) 48/573/448/573/4 48/529/7 |
107 | ในกรุงสาวัตถี มีอุบาสกคนหนึ่ง เป็นคนยากจน รับจ้างทำงานของผู้อื่นเลี้ยงชีพเขาเป็นคนมีศรัทธา เลี้ยงดูมารดาบิดา ผู้แก่เฒ่า รักษาศีลถือ อุโบสถ ให้ทานตามกำลัง ไม่มีภรรยา ต่อมาเขาตายไปเกิดในวิมาน 12 โยชน์ ในภพดาวดึงส์.(อ.จิตตลดาวิมาน) 48/579/548/579/5 48/535/7 |
108 | ในกรุงสาวัตถี มีอุบาสกคนหนึ่ง แต่งงานแล้ว เป็นกรรมกร เลี้ยงดูมารดาบิดาผู้แก่เฒ่า มีจิตเลื่อมใสบริจาคข้าว และน้ำได้ถวายทานอย่างไพบูลย์ ครั้นตายได้เกิดอยู่ดาวดึงส์ (อ.นันทนวิมาน) 48/582/748/582/7 48/537/19 |
109 | ภิกษุผู้เถระ เป็นจำนวนมากอยู่ในที่อยู่ในป่า ในทางที่บิณฑบาตไปยังหมู่บ้านอุบาสกคนหนึ่งได้ปรับพื้นที่ให้เรียบ เอาหนามออก ถางกอไม้ ผูกสะพาน ปลูกต้นไม้มีเงาร่มรื่นในที่ไม่มีต้นไม้ ลอกลำห้วย จัดทำท่าน้ำไว้ และให้ทานตามกำลัง รักษาศีล ต่อมาเขาตายไปเกิดในวิมานทอง 12 โยชน์ ในดาวดึงส์.(อ.มณิถูณวิมาน) 48/585/1248/585/12 48/540/9 |
110 | อุบาสกคนหนึ่งในอันธกวินทนคร เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยทรัพย์ ได้สร้างพระคันธกุฎีที่ภูเขาโล้นแห่งหนึ่งไม่ไกลหมู่บ้านนั้น. อาราธนาให้พระพุทธเจ้าประทับอยู่ในพระคันธกุฎีนั้น แล้วบำรุงโดยเคารพ ตั้งอยู่ในนิจศีล เมื่อตายแล้วไปเกิดในดาวดึงส์ (อ.สุวรรณวิมาน) (สุวัณณวิมาน) 48/589/1648/589/16 48/543/14 |
111 | บุรุษเข็ญใจคนหนึ่ง ในกรุงราชคฤห์ รับจ้างเฝ้าสวนมะม่วง เห็นพระสารีบุตรเดินทางมามีเหงื่อท่วมตัวจึงนิมนต์ให้นั่งพักในสวน แล้วถวายน้ำสรง น้ำดื่ม ภายหลังเขาตายไปเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ (อ.อัมพวิมาน) 48/596/448/596/4 48/549/7 |
112 | คนเลี้ยงโคชาวราชคฤห์ คนหนึ่ง ถือขนมสดห่อผ้าเก่าไปเพื่อเป็นอาหารเช้าพระมหาโมคคัลลานะ รู้ว่าเขาจะตายวันนี้ จึงไปบิณฑบาตบริเวณนั้น เขาเห็นพระเถระจึงเข้าไปถวายขนมสด แล้ววิ่งไปเพื่อจะไล่โค จึงถูกงูกัด เมื่อเขาต้อนโคทั้งหลายกลับมาแล้ว ได้เห็นพระเถระนั่งฉันอยู่บริเวณนั้น มีจิตเลื่อมใสนั่งอยู่ด้วยปีติ พิษงูแล่นทั่วสรีระเขาตายในขณะนั้นเอง ไปเกิดในวิมานทอง 12 โยชน์ชั้นดาวดึงส์ (อ.โคปาลวิมาน) 48/602/448/602/4 48/555/5 |
113 | กัณฐกเทพบุตร กล่าวถึงการที่ตนพาพระโพธิสัตว์ออกมหาภิเนษกรมณ์ และได้มาฟังพระดำรัสของพระพุทธเจ้าแล้วได้บรรลุโสดาปัตติผล. (อ.กัณฐกวิมาน) 48/610/1148/610/11 48/563/5 |
114 | เทพผู้ใหญ่ ที่น่าเคารพของเหล่าเทพ. (อ.อเนกวัณณวิมาน) 48/621/948/621/9 48/573/10 |
115 | เพียงแค่ เลื่อมใส (อ.มัฏฐกุณฑลีวิมาน) 48/632/1448/632/14 48/583/7 |
116 | พระควัมปติ เคยเป็นคนเลี้ยงโค ในครั้งพระกัสสปพุทธเจ้า ได้ทำที่นั่งฉันสำหรับพระอรหันต์รูปหนึ่ง เมื่อตายแล้วไปเกิดอยู่ชั้นจาตุมหาราช ในเสรีสกวิมาน ดังนั้นพระเถระจึงไปพักกลางวันที่วิมานว่างนั้นเนืองๆ ด้วยอำนาจบุญกรรมที่สั่งสมไว้.(อ.เสรีสกวิมาน) 48/653/648/653/6 48/601/12 |
117 | ท้าวมหาราชเวสวัณได้แต่งตั้งเสรีสกเทพบุตร เป็นผู้อารักขา มนุษย์ในทางทะเลทราย เพื่อจะเปลื้องอันตรายจากอมนุษย์ (อ.เสรีสกวิมาน) 48/654/1048/654/10 48/602/13 |
118 | ในเสรีสกวิมาน เมื่อล่วงไปร้อยปีมนุษย์ เปลือกฝักต้นซึกจะแตก เทวดาก็จะรู้ว่าอายุกำลังสิ้นไปๆ (อ.เสรีสกวิมาน) 48/670/948/670/9 48/616/20 |
119 | ครั้นพระกัสสปพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว มหาชนได้นำดอกไม้ไปบูชาพระสถูปเสมอ ๆ อุบาสกคนหนึ่งเห็นดอกไม้วางไว้ไม่เรียบร้อย จึงจัดวางดอกไม้ เหล่านั้นให้เป็นหมวดหมู่ น่าดู ยึดการบูชาเป็นอารมณ์ ระลึกถึงพระคุณของพระศาสดาต่อมาเมื่อ เขาตายไปเกิดในวิมานทอง 12 โยชน์ ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์.(อ.สุนิกขิตตวิมาน) 48/682/1548/682/15 48/627/16 |
120 | อรรถกถาขุททกนิกาย วิมานวัตถุ ชื่อ ปรมัตถทีปนี นี้ พระธรรมปาละ เป็นผู้แต่งไว้ (นิคมกถา) 48/687/948/687/9 48/632/6 |