1 | ปีติ 5 อย่าง ปีติอย่างน้อย ปีติชั่วขณะ ปีติเป็นพักๆ ปีติอย่างโลดโผน ปีติ ซาบซ่าน (เชิงอรรถ) 42/4/1842/4/18 42/4/17 |
2 | รีบทำกุศลมีผลดีกว่าทำช้า ด้วยว่า กุศลที่บุคคลทำช้า เมื่อให้สมบัติ ย่อมได้ช้า เหมือนกัน (พราหมณ์ ชื่อจูเฬกสาฏก) 42/7/1142/7/11 42/7/14 |
3 | " บุคคลพึงรีบขวนขวายในความดี, พึงห้ามจิตเสียจากบาป, เพราะว่าเมื่อบุคคล ทำความดีช้าอยู่ , ใจจะยินดีในบาป " (พราหมณ์ ชื่อจูเฬกสาฏก) 42/8/142/8/1 42/7/12 |
4 | พระเสยยสกัตเถระนั้น เป็นสัทธิวิหาริก ของพระโลฬุทายีเถระ บอกความไม่ ยินดีของตนแก่พระโลฬุทายีนั้น ถูกท่านชักชวนในการทำปฐมสังฆาทิเสส เมื่อ ความไม่ยินดีเกิดทวีขึ้น. (พระเสยยสกัตเถระ) 42/9/642/9/6 42/9/6 |
5 | " ถ้าบุรุษพึงทำบาปไซร้, ไม่ควรทำบาปนั้นบ่อยๆ ไม่ควรทำความพอใจในบาป นั้น เพราะว่าความสั่งสมบาปเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ " (พระเสยยสกัตเถระ) 42/9/2042/9/20 42/9/17 |
6 | พระพุทธองค์ ตรัสกับนางลาชเทวธิดาว่า " เทวธิดา การทำความสังวรนั้นเทียว เป็นภาระของกัสสปผู้บุตรของเรา , แต่การกำหนดว่า นี้เป็นประโยชน์ของเรา แล้วมุ่งกระทำแต่บุญ ย่อมเป็นภาระของผู้มีความต้องการด้วยบุญ ด้วยว่าการ ทำบุญเป็นเหตุให้เกิดสุขอย่างเดียว ทั้งในภพนี้ ทั้งในภพหน้า " (นางลาชเทวธิดา) 42/14/742/14/7 42/14/2 |
7 | อย่าคิดว่าเราถวายทานเศร้าหมอง ด้วยว่าเมื่อจิตประณีตแล้ว ทานที่บุคคล ถวายแด่พระอรหันต์ทั้งหลาย มีพระพุทธเจ้าเป็นต้น ชื่อว่าเศร้าหมองย่อมไม่มี .(อนาถบิณฑิกเศรษฐี) 42/17/842/17/8 42/16/2 |
8 | ถ้าเทวดาที่อาศัยในบ้านไม่ดี ให้ไล่หนีได้ (อนาถบิณฑิกเศรษฐี) 42/18/1842/18/18 42/17/10 |
9 | เทวดาช่วยทวงหนี้ (อนาถบิณฑิกเศรษฐี) 42/19/2042/19/20 42/18/6 |
10 | เทวดาทำดีไถ่โทษ และขอขมามนุษย์ที่ตนได้ล่วงเกินไว้ (อนาถบิณฑิกเศรษฐี) 42/20/1142/20/11 42/18/18 |
11 | " แม้คนผู้ทำบาป ย่อมเห็นบาปว่าดี ตลอดกาลที่บาปยังไม่เผล็ดผล, แต่เมื่อใด บาปเผล็ดผล, เมื่อนั้นเขาย่อมเห็นบาปว่าชั่ว, ฝ่ายคนทำกรรมดี ย่อมเห็นกรรม ดีว่าชั่ว ตลอดกาลที่กรรมดียังไม่เผล็ดผล , แต่เมื่อใด กรรมดีเผล็ดผล เมื่อนั้น เขาย่อมเห็นกรรมดีว่าดี " (อนาถบิณฑิกเศรษฐี) 42/21/1842/21/18 42/19/16 |
12 | ภิกษุรูปหนึ่งใช้สอยบริขาร มีเตียง ตั่ง เป็นต้น ในภายนอกแล้วไม่ยอมเก็บ อ้าง ว่าเป็นของไม่มีจิต และก็ไม่วิจิตร พระศาสดา ทรงตำหนิว่า ไม่ควรทำอย่างนั้น ขึ้นชื่อว่า บาปกรรม ใครๆ ไม่ควรดูหมิ่น ว่านิดหน่อย (ภิกษุไม่ถนอมบริขาร) 42/24/742/24/7 42/21/6 |
13 | " บุคคลไม่ควรดูหมิ่นบาปว่า บาปมีประมาณน้อยจักไม่มาถึง แม้หม้อน้ำยัง เต็มด้วยหยาดน้ำที่ตกลง (ทีละหยาดๆ) ได้ฉันใด ชนพาลเมื่อสั่งสมบาปทีละ น้อยๆย่อมเต็มด้วยบาปได้ ฉันนั้น " (ภิกษุไม่ถนอมบริขาร) 42/25/942/25/9 42/22/4 |
14 | ให้ทานเองและชวนผู้อื่น ย่อมได้สมบัติ 2 อย่าง ทั้งโภคสมบัติ และบริวารสมบัติ .(เศรษฐีชื่อ พิฬาลปทกะ) 42/27/742/27/7 42/23/6 |
15 | บัณฑิตเรี่ยไรของทำบุญ (เศรษฐีชื่อ พิฬาลปทกะ) 42/27/1942/27/19 42/23/18 |
16 | " บุคคลไม่ควรดูหมิ่นบุญว่า บุญมีประมาณน้อยจักไม่มาถึง แม้หม้อน้ำยังเต็ม ด้วยหยาดน้ำที่ตกลงมา (ทีละหยาดๆ) ได้ฉันใด ชนผู้มีปัญญาสั่งสมบุญแม้ทีละ น้อยๆ ย่อมเต็มด้วยบุญได้ฉันนั้น."(เศรษฐีชื่อ พิฬาลปทกะ) 42/30/1742/30/17 42/26/6 |
17 | " บุคคลพึงเว้นกรรมชั่วทั้งหลายเสีย เหมือนพ่อค้ามีทรัพย์มาก มีพวกน้อย เว้น ทางอันพึงกลัว (และ) เหมือน ผู้ต้องการจะเป็นอยู่ เว้นยาพิษเสียฉะนั้น " .(มหาธนวาณิช) 42/35/142/35/1 42/29/11 |
18 | ธิดาเศรษฐีหนีตาม นายพรานเนื้อ ชื่อ กุกกุฏมิตร มีบุตร ด้วยกัน 7 คน .(นายพรานกุกกุฏมิตร) 42/36/742/36/7 42/30/6 |
19 | พระศาสดาเสด็จไปโปรด นายพรานกุกกุฏมิตร ทั้งบุตรและสะใภ้ ได้บรรลุ โสดาปัตติผล. (นายพรานกุกกุฏมิตร) 42/37/1442/37/14 42/31/9 |
20 | พระโสดาบันไม่ทำบาป ด้วยว่า เมียนายพรานให้อุปกรณ์ล่าสัตว์แก่สามี ด้วย คิดว่า เราจักทำตามคำสามี ไม่มีอกุศลเจตนาให้ไปทำการฆ่าสัตว์ .(นายพรานกุกกุฏมิตร) 42/40/1042/40/10 42/33/20 |
21 | บุรพกรรมของกุกกุฏมิตรพร้อมด้วยบุตร และสะใภ้ เคยเป็นหัวหน้าในการ บำรุงเจดีย์ของพระกัสสปพุทธเจ้า (นายพรานกุกกุฏมิตร) 42/41/1342/41/13 42/34/18 |
22 | ธิดาเศรษฐีนั้น บรรลุโสดาบัน ตั้งแต่เด็ก อยู่ในกรุงราชคฤห์ (นายพรานกุกกุฏมิตร) 42/43/1542/43/15 42/36/9 |
23 | ความรักนั้นย่อมเกิด เพราะอาศัยเหตุ 2 ประการ คือ การอยู่ร่วมกันในกาลก่อน การเกื้อกูลกันในปัจจุบัน (นายพรานกุกกุฏมิตร) 42/43/2042/43/20 42/36/14 |
24 | นายโกกะ ให้สุนัขของตนรุมกัด พระรูปหนึ่ง ท่านหนีขึ้นต้นไม้ ผ้าจีวรของท่าน ตกมาคลุมนายโกกะ เหล่าสุนัขเข้าใจว่าพระเถระตกลงมา จึงรุมกัดกินเขาจนตายพระเถระเกิดสงสัยในศีลของตนจึงไปกราบทูลพระศาสดา พระองค์ทรง รับรองว่ายังมีศีลไม่ด่างพร้อย (นายพรานสุนัข ชื่อ โกกะ) 42/45/742/45/7 42/37/6 |
25 | บุรพกรรมของนายโกกะ ก็เคยประทุษร้ายต่อผู้ไม่ประทุษร้าย ถึงความพินาศ มาแล้วเหมือนกัน (นายพรานสุนัข ชื่อ โกกะ) 42/47/1142/47/11 42/39/5 |
26 | " ผู้ใด ประทุษร้ายต่อ นรชนผู้ไม่ประทุษร้าย ผู้บริสุทธิ์ ไม่มีกิเลสดุจเนิน บาป ย่อมกลับถึงผู้นั้น ซึ่งเป็นคนพาลนั่นเอง เหมือนธุลีอันละเอียดที่เขาซัดทวนลม ไปฉะนั้น " (นายพรานสุนัข ชื่อ โกกะ) 42/48/742/48/7 42/39/17 |
27 | พระติสสะอาศัยสกุลนายช่างแก้ว สิ้น 12 ปี วันหนึ่ง พระราชาส่งแก้วมณีมาให้ นายช่างแก้ว เจียรนัย แต่นกกระเรียนมากินเข้าไป นายช่างแก้วเข้าใจว่าพระเถระลักไปจึงบีบคั้นด้วยเชือกจนเลือดไหลออกตามหู และจมูก นกนั้นลงมากิน เลือดจึงถูกเขาเตะตายด้วยความโกรธ พระเถระจึงบอกความจริง และท่านก็ สมาทานไม่เข้าไปในชายคาบ้านใครอีก ต่อมาท่านก็ปรินิพพานด้วยพยาธินั้น .(พระติสสเถระผู้เข้าถึงสกุลนายช่างแก้ว) 42/50/742/50/7 42/41/7 |
28 | นายช่างแก้วแม้ขอขมาโทษต่อพระเถระแล้ว เมื่อตายไปได้เกิดในนรก ส่วนนก กระเรียนเกิดในท้องของภริยานายช่างแก้ว ภริยานายช่างแก้วเมื่อตายแล้วไป เกิดในเทวโลกเพราะมีจิตอ่อนโยนในพระเถระ (พระติสสเถระผู้เข้าถึงสกุลนายช่างแก้ว) 42/53/242/53/2 42/43/15 |
29 | บุรพกรรมของกา เคยเป็นชาวนาฝึกโคไม่ได้ จึงเอาฟางพันรอบโคนั้นแล้วจุดไฟ เผา เศษกรรมได้มาเกิดเป็นกาถูกไฟเผาในอากาศตาย 7 ครั้งแล้ว .(เรื่องชน ๓ คน) 42/56/1742/56/17 42/47/13 |
30 | บุรพกรรมของภริยานายเรือ เคยจับลูกสุนัขมัดคอถ่วงน้ำเพราะอายที่ถูก เยาะเย้ย เศษกรรมจึงถูกถ่วงน้ำแล้วตลอด 100 ชาติ (เรื่องชน ๓ คน) 42/57/742/57/7 42/48/2 |
31 | บุรพกรรมของภิกษุ 7 รูป เคยเป็นเด็กเลี้ยงโค 7 คน ช่วยกันปิดกั้น เหี้ยไว้ใน จอมปลวก 7 วัน (เรื่องชน ๓ คน) 42/58/1042/58/10 42/49/2 |
32 | แม้ในที่ทั้งหลาย มีอากาศ เป็นต้น ประเทศแม้สักส่วนหนึ่งที่บุคคลอยู่แล้วพึง พ้นจากกรรมชั่วได้ ไม่มี (เรื่องชน ๓ คน) 42/59/1042/59/10 42/50/2 |
33 | เจ้าสุปปพุทธะ ผูกอาฆาตพระพุทธเจ้า ที่ทิ้งลูกสาวออกบวช และเรื่องพระเทวทัต จึงเสวยน้ำจัณฑ์แล้วไปนั่งขวางทางเสด็จออกบิณฑบาต ของพระพุทธองค์ ด้วยกรรมนั้นจึงถูกแผ่นดินสูบที่เชิงบันไดปราสาท ไปสู่อเวจี (เจ้าสุปปพุทธศากยะ) 42/61/742/61/7 42/51/8 |
34 | " สัตว์ทั้งหมด ย่อมหวาดหวั่นต่ออาชญา สัตว์ทั้งหมดย่อมกลัวต่อความตาย บุคคลทำตนให้เป็นอุปมาแล้ว ไม่ควรฆ่าเอง ไม่ควรใช้ผู้อื่นให้ฆ่า " .(ภิกษุฉัพพัคคีย์) 42/70/542/70/5 42/58/21 |
35 | " สัตว์ทั้งหมด ย่อมหวาดหวั่นต่ออาชญา ชีวิตย่อมเป็นที่รักของสัตว์ทั้งหมด บุคคลควรทำตนให้เป็นอุปมาแล้ว ไม่ควรฆ่าเอง ไม่ควรใช้ให้ฆ่า " .(ภิกษุฉัพพัคคีย์) 42/72/2042/72/20 42/60/18 |
36 | พระศาสดา ทรงบาตร เสด็จเข้าไปในกรุงสาวัตถี เห็นเด็กหลายคน เอาไม้ตีงู อยู่ จึงตรัสสอนว่า " บุคคลเมื่อปรารถนาสุขแก่ตน (แต่) ประหารสัตว์อื่นย่อม ไม่ควร " ในกาลจบเทศนา เด็กเหล่านั้นทั้ง 500 ตั้งอยู่ในโสดาปัตติผล . (เด็กหลายคน) 42/74/642/74/6 42/62/6 |
37 | เทวดาชั้นดาวดึงส์ เนรมิตเพศเป็นหญิงมนุษย์ ทำลายความกลมเกลียวของ ภิกษุ ต้องหมกไหม้ในอเวจีนั้นสิ้น พุทธันดรหนึ่ง (พระโกณฑธานเถระ) 42/76/1342/76/13 42/64/12 |
38 | หญิงรักษาอุโบสถมุ่งผลต่างๆ กัน (อุโบสถกรรม) 42/86/742/86/7 42/72/7 |
39 | " นายโคบาล ย่อมต้อนโคทั้งหลายไปสู่ที่หากิน ด้วยท่อนไม้ ฉันใด, ชราและมัจจุ ย่อมต้อนอายุ ของสัตว์ทั้งหลายไปฉันนั้น " (อุโบสถกรรม) 42/87/842/87/8 42/73/6 |
40 | ถ้าบาปหนัก... แม้ขอขมาก็ไม่พ้นนรก. (อชครเปรต) 42/90/742/90/7 42/75/6 |
41 | " อันคนพาล ทำกรรมทั้งหลายอันลามกอยู่ ย่อมไม่รู้ (สึก) บุคคลมีปัญญาทราม ย่อมเดือดร้อน ดุจถูกไฟไหม้ เพราะกรรมของตนเอง " (อชครเปรต) 42/93/1442/93/14 42/77/22 |
42 | พวกเดียรถีย์ จ้างโจร 500 ฆ่าพระมหาโมคคัลลานะ (พระมหาโมคคัลลานเถระ) 42/95/742/95/7 42/79/7 |
43 | บุรพกรรมของพระมหาโมคคัลลานะ ที่เคยฆ่าพ่อแม่ผู้ตาบอด เศษกรรมจึงถูก ตามฆ่า 100 อัตภาพ (พระมหาโมคคัลลานเถระ) 42/99/942/99/9 42/82/18 |
44 | ผู้ประทุษร้าย ต่อบุคคลผู้ไม่ประทุษร้าย ย่อมพินาศด้วยเหตุ 10 ประการ .(พระมหาโมคคัลลานเถระ) 42/101/1542/101/15 42/84/10 |
45 | กฏุมพีชาวเมืองสาวัตถีผู้หนึ่งเมียตายแล้วจึงบวช แต่ก่อนบวชเขาให้สร้าง เรือนไฟ ห้องเก็บของ และเก็บภัณฑะเต็มด้วยเนยใส น้ำมัน เป็นต้น ครั้น บวชแล้วก็ให้ทาสของตนมาคอยรับใช้หุงต้ม ได้เป็นผู้มีภัณฑะมาก ภิกษุทั้งหลาย ตำหนิแล้วพาไปเฝ้าพระศาสดา เขานั้นโกรธทิ้งผ้าห่มต่อหน้าบริษัท พระศาสดา จึงทรงแสดงชาดก (ภิกษุมีภัณฑะมาก) 42/104/642/104/6 42/87/6 |
46 | บุรพกรรมของภิกษุผู้มีภัณฑะมากนั้น เคยเป็นรากษสน้ำ แสวงหาหิริโอตตัปปะ อยู่ 12 ปี (ภิกษุมีภัณฑะมาก) 42/105/2042/105/20 42/88/17 |
47 | อานิสงส์ ของการเป็นผู้ประกาศ ชักชวน ป่าวร้องในการบุญ (สันตติมหาอำมาตย์) 42/116/1642/116/16 42/97/2 |
48 | พระธาตุของสันตติมหาอำมาตย์ พระพุทธองค์รับสั่งให้สร้างสถูปไว้ที่ทาง 4 แพร่ง ด้วยประสงค์ว่ามหาชนไหว้แล้ว จักเป็นผู้มีส่วนแห่งบุญ .(สันตติมหาอำมาตย์) 42/118/742/118/7 42/98/10 |
49 | " แม้ถ้าบุคคลประดับแล้ว พึงประพฤติสม่ำเสมอ เป็นผู้สงบ ฝึกแล้ว เที่ยงธรรม มีปกติประพฤติประเสริฐวางเสีย ซึ่งอาชญาในสัตว์ทุกจำพวก บุคคลนั้น เป็น พราหมณ์ เป็นสมณะ เป็นภิกษุ " (สันตติมหาอำมาตย์) 42/119/842/119/8 42/99/3 |
50 | ผ้าเก่าก็เป็นอาจารย์ได้ (พระปิโลติกเถระ) 42/121/642/121/6 42/100/6 |
51 | คันธเศรษฐีให้ทรัพย์ แก่ นายภัตตภติกะ แล้วขอแบ่งส่วนบุญ (สุขสามเณร) 42/133/1842/133/18 42/111/1 |
52 | ด้วยความถึงพร้อม (สัมปทา) 4 อย่าง จึงบรรลุผลทันตาเห็น. (สุขสามเณร) 42/134/242/134/2 42/111/6 |
53 | นายภัตตภติกะ มาเกิดเป็นสุขสามเณร ได้บรรลุอรหันต์ ในเวลามีอายุ 7 ขวบ .(สุขสามเณร) 42/135/342/135/3 42/112/1 |
54 | มารเข้าสิง หญิงสหายของนางวิสาขา 500 คน ซึ่ง แอบดื่มสุราเข้าไปในวิหาร ทำให้แสดงอาการอันแปลก บางพวกเริ่มจะร้อง จะรำ จะฟ้อน และหัวเราะ ต่อหน้าพระพุทธองค์ พระองค์ทรงทำให้เกิดความมืด แล้วเสด็จไปบนยอดเขา สิเนรุ ทรงเปล่งรัศมีจากพระอุณาโลมลงมาแล้วตรัสพระคาถา จบเทศนา หญิง ทั้ง 500 ได้โสดาปัตติผล (หญิงสหายของนางวิสาขา) 42/145/842/145/8 42/121/2 |
55 | ขึ้นชื่อว่าสุรานี้ เลวทรามแท้ เพราะประชาชนอาศัยสุรานี้ ถึงความพินาศแล้ว ตั้งหลายร้อย (หญิงสหายของนางวิสาขา) 42/147/642/147/6 42/122/14 |
56 | ศพนางสิริมาผู้เลอโฉม แม้ให้ผู้ใด ก็ไม่มีใครปรารถนา (นางสิริมา) 42/150/1942/150/19 42/125/14 |
57 | พระเถรีมีอายุ 120 ปี เที่ยวบิณฑบาตได้แล้ว เมื่อพบภิกษุรูปหนึ่ง ก็ได้ถวาย อาหารในบาตรจนหมด ในวันที่ 2 และวันที่ 3 ก็ได้ถวายอย่างนั้น แต่ในวันที่ 4 พบพระศาสดาในที่แคบ พระเถรีเหยียบมุมจีวรของตนล้มลง พระศาสดาจึง ตรัสว่า " น้องหญิง อัตภาพของเธอแก่หง่อมแล้ว ต่อกาลไม่ช้านัก ก็จะแตกสลาย ไป " ในกาลจบเทศนา พระเถรีบรรลุโสดาปัตติผล. (พระอุตตราเถรี) 42/154/642/154/6 42/129/6 |
58 | " รูปนี้แก่หง่อมแล้ว เป็นรังของโรค เปื่อยพัง , กายของตนเป็นของเน่า จักแตก, เพราะชีวิตมีความตายเป็นที่สุด " (พระอุตตราเถรี) 42/154/1942/154/19 42/129/15 |
59 | ภิกษุ 500 รูป สำคัญว่าตนสำเร็จกิจแล้ว เพราะกิเลสไม่ฟุ้งขึ้น จึงจะไปเข้าเฝ้า แต่พระศาสดาให้พระอานนท์ ไปบอกภิกษุเหล่านั้นให้ไปป่าช้าผีดิบ ครั้นเห็นศพ แล้วก็เกลียดชัง เห็นศพใหม่ๆ ก็รู้ว่าตนยังมีกิเลส พระศาสดาทรงฉายรัศมีไป ตรัสคาถา จบเทศนา ภิกษุเหล่านั้นได้บรรลุอรหัตผล. (พระอธิมานิกภิกษุ) 42/156/742/156/7 42/131/6 |
60 | " กระดูกเหล่านี้ใด อันเขาทิ้งเกลื่อนกลาด ดุจน้ำเต้าในสารทกาล มีสีเหมือนนก พิราบ ความยินดี อะไรเล่า ? (จักมี) เพราะเห็นกระดูกเหล่านั้น " .(พระอธิมานิกภิกษุ) 42/157/542/157/5 42/131/22 |
61 | ความเลื่อมใสของบุคคล 4 จำพวก มีผู้ถือรูปเป็นประมาณเป็นต้น .(พระนางรูปนันทาเถรี) 42/159/942/159/9 42/134/6 |
62 | พระศาสดาแสดงธรรมแก่พระนางรูปนันทาเถรี ผู้หลงในรูปอันงามของตน .(พระนางรูปนันทาเถรี) 42/161/242/161/2 42/135/12 |
63 | พระนางมัลลิกา ทรงระลึกถึงแต่กรรมอันลามก แล้วสิ้นพระชนม์ จึงไปเกิดใน อเวจี (พระนางมัลลิกาเทวี) 42/168/142/168/1 42/141/18 |
64 | พระศาสดาทรงกระทำให้พระเจ้าปเสนทิโกศล ระลึกที่จะถามคติของพระนาง มัลลิกาไม่ได้อยู่ 7 วัน (พระนางมัลลิกาเทวี) 42/168/742/168/7 42/141/23 |
65 | ธรรมของสัตบุรุษเท่านั้นไม่มีความชรา ส่วนสัตว์ทั้งหลาย ชื่อว่าไม่ชรา ย่อมไม่มี .(พระนางมัลลิกาเทวี) 42/170/1042/170/10 42/143/20 |
66 | พระโลฬุทายีเถระ ไปสู่เรือนของคนผู้ทำการ มงคล หรือ อวมงคล ท่านกล่าวสูตรไม่ตรงกับงาน พระศาสดาแสดงเรื่องในอดีต พระโลฬุทายีก็เป็นแบบนี้แหละตอนเป็นพราหมณ์ ชื่อ อัคคิทัต พระโพธิสัตว์เป็นบุตร ชื่อ โสมทัตกุมาร.(พระโลฬุทายีเถระ) 42/172/642/172/6 42/145/6 |
67 | " คนมีสุตะน้อยนี้ ย่อมแก่เหมือนโคถึก , เนื้อของเขาย่อมเจริญ แต่ปัญญาของ เขาหาเจริญไม่ " (พระโลฬุทายีเถระ) 42/176/142/176/1 42/148/9 |
68 | " เราแสวงหานายช่างผู้ทำเรือน เมื่อไม่ประสบจึงได้ท่องเที่ยวไปสู่สงสาร มีชาติ เป็นอเนก ความเกิดบ่อยๆ เป็นทุกข์, แน่ะนายช่างผู้ทำเรือนเราพบท่านแล้ว ท่าน จะทำเรือนอีกไม่ได้ ซี่โครงทุกซี่ ของท่านเราหักเสียแล้ว ยอดเรือนเราก็รื้อเสีย แล้วจิตของเราถึงธรรมปราศจากเครื่องปรุงแต่งแล้ว , เพราะเราบรรลุธรรมที่สิ้น ตัณหาแล้ว (ปฐมโพธิกาล) 42/179/142/179/1 42/150/15 |
69 | รักลูกไม่ถูกทาง (บุตรเศรษฐีมีทรัพย์มาก) 42/181/742/181/7 42/152/6 |
70 | แม้มีอุปนิสัยที่จะบรรลุธรรมมีอยู่ แต่ถ้ามัวประมาท เดินทางผิด ย่อมพลาดจาก ผลอันเลิศ (บุตรเศรษฐีมีทรัพย์มาก) 42/183/1342/183/13 42/154/11 |
71 | โพธิราชกุมาร ให้สร้าง โกกนทปราสาท แล้วปรารถนาจะฆ่านายช่าง ช่างนั้นจึง ทำครุฑไม้พาบุตรภรรยาบินหนีไปหิมวันตประเทศ ได้เป็นพระราชา ชื่อ กัฏฐวาหนะ(โพธิราชกุมาร) 42/188/742/188/7 42/159/6 |
72 | เหตุที่ทำให้ไม่มีลูก (โพธิราชกุมาร) 42/192/742/192/7 42/162/20 |
73 | " ถ้าบุคคลทราบตนว่า เป็นที่รัก พึงรักษาตนนั้นให้เป็นอันรักษาด้วยดี บัณฑิตพึง ประคับประคอง (ตน) ตลอดยามทั้งสาม ยามใดยามหนึ่ง " (โพธิราชกุมาร) 42/193/642/193/6 42/163/15 |
74 | แต่ผู้เป็นคฤหัสถ์ ทำบุญทั้งหลายมีทาน ศีล เป็นต้น ตามกำลังอยู่ หรือผู้เป็น บรรพชิต ถึงความขวนขวายในวัตร ปฏิบัติ ปริยัติ และการทำไว้ในใจอยู่ ชื่อว่า ย่อมรักษาตน (โพธิราชกุมาร) 42/193/1942/193/19 42/164/3 |
75 | ก็ถ้าว่าบรรพชิต ในปฐมวัยทำการสาธยายอยู่ ทรงจำบอก ทำวัตรและปฏิวัตรอยู่ ชื่อว่าถึงความประมาท , ในมัชฌิมวัย พึงเป็นผู้ไม่ประมาท บำเพ็ญสมณธรรม .(โพธิราชกุมาร) 42/194/942/194/9 42/164/14 |
76 | บุรพกรรมของพระอุปนันทะ เคยเป็นสุนัขจิ้งจอก ได้แบ่งปลาให้นาค 2 ตัว.(พระอุปนันทศากยบุตร) 42/196/2142/196/21 42/166/22 |
77 | " บัณฑิตพึงตั้งตนนั่นแล ในคุณอันสมควรก่อน พึงสั่งสอนผู้อื่นในภายหลังจะไม่พึงเศร้าหมอง " (พระอุปนันทศากยบุตร) 42/198/1342/198/13 42/168/3 |
78 | พระปธานิกติสสเถระดีแต่สอนคนอื่น ตนเองไม่ทำ (พระปธานิกติสสเถระ) 42/200/642/200/6 42/169/6 |
79 | " ถ้าบุคคลพร่ำสอนผู้อื่นอยู่ฉันใด พึงทำตนฉันนั้น , บุคคลผู้มีตนฝึกดีแล้วหนอ (จึง) ควรฝึก (ผู้อื่น) เพราะว่าได้ยินว่า ตนฝึกฝนได้โดยยาก " (พระปธานิกติสสเถระ) 42/201/1842/201/18 42/170/15 |
80 | ธิดาเศรษฐีในกรุงราชคฤห์ ไปสู่สกุลสามี นางขอสามีบวชโดยไม่รู้ว่าตนเอง ตั้งครรภ์ ครั้นบวชแล้วครรภ์โตขึ้นพระเทวทัตจะให้นางสึก พระศาสดาให้พระอุบาลีวินิจฉัยเรื่องนี้ ท่ามกลาง พระเจ้าปเสนทิโกศล อนาถบิณฑิกเศรษฐี จุลอนาถบิณฑิกะ นางวิสาขา และสกุลใหญ่อื่นๆ (มารดาของพระกุมารกัสสปเถระ) 42/203/742/203/7 42/172/6 |
81 | พระเจ้าเสนทิโกศล นำบุตรของภิกษุณีไปเลี้ยง พอเด็กรู้เดียงสาจึงให้บวชได้ บรรลุอรหันต์จากการที่พระศาสดาพยากรณ์ปัญหา 15 ข้อจบ .(มารดาของพระกุมารกัสสปเถระ) 42/204/2142/204/21 42/173/16 |
82 | พระกุมารกัสสปะ เมื่อพบ ภิกษุณีผู้มารดา จึงพูดให้ตัดความรักในลูก นาง เสียใจ ตัดความอาลัยในบุตรได้แล้ว บรรลุพระอรหัตผล .(มารดาของพระกุมารกัสสปเถระ) 42/206/942/206/9 42/175/2 |
83 | " ตนแลเป็นที่พึ่งของตน บุคคลอื่นใครเล่า พึงเป็นที่พึ่งได้เพราะบุคคล มีตน ฝึกฝนดีแล้ว ย่อมได้ที่พึ่งที่บุคคลได้โดยยาก " (มารดาของพระกุมารกัสสปเถระ) 42/208/742/208/7 42/176/16 |
84 | อุบาสกมหากาลผู้โสดาบัน มารักษาอุโบสก ฟังธรรมในวิหาร พวกโจรลักสิ่งของ เขามาแล้วหนีมาทางวิหาร และทิ้งห่อสิ่งของไว้หน้าอุบาสก เจ้าของทรัพย์ตาม มาพบเข้าจึงทุบอุบาสกให้ถึงความตาย (อุบาสกชื่อมหากาล) 42/209/742/209/7 42/178/6 |
85 | บุรพกรรมของอุบาสกมหากาล เคยเป็นนายบ้านแล้วแกล้งกล่าวหาสามีภริยา คู่หนึ่ง ว่าลักเอาแก้วมณีของตนด้วยหวังในภริยาของเขา แล้วทุบสามีเขาตาย .(อุบาสกชื่อมหากาล) 42/210/642/210/6 42/179/3 |
86 | " บาปอันตนทำไว้เอง เกิดในตน มีตนเป็นแดนเกิด ย่อมย่ำยีบุคคลผู้มีปัญญา ทราม ดุจเพชรย่ำยีแก้วมณี อันเกิดแต่หินฉะนั้น " .(อุบาสกชื่อมหากาล) 42/211/1942/211/19 42/280/11 |
87 | " ความเป็นผู้ทุศีลล่วงส่วน รวบรัด (อัตภาพ) ของบุคคลใด ดุจเถาย่านทราย รัดรึงต้นสาละ ฉะนั้น บุคคลนั้นย่อมทำตนอย่างเดียวกันกับที่โจรหัวโจกปรารถนา ทำให้ตนฉะนั้น (เรื่องพระเทวทัต) 42/214/342/214/3 42/181/20 |
88 | " ความดีคนดีทำง่าย ความดีคนชั่วทำยาก ความชั่วคนชั่วทำง่าย ความชั่ว อริยบุคคลทำได้ยาก " (กระเสือกกระสนเพื่อจะทำลายสงฆ์) 42/216/1942/216/19 42/183/20 |
89 | " กรรมอันไม่ดี และไม่เป็นประโยชน์แก่ตน คนทำง่าย กรรมใดแล เป็นประโยชน์แก่ตนและดี กรรมนั้นแลทำยากอย่างยิ่ง " (กระเสือกกระสนเพื่อจะทำลายสงฆ์) 42/217/642/217/6 42/184/3 |
90 | พระกาลเถระไม่ให้อุบาสิกาผู้อุปัฏฐากตน ไปฟังธรรมพระพุทธเจ้า เพราะกลัว ว่านางจะแตกจากตน (พระกาลเถระ) 42/218/642/218/6 42/185/5 |
91 | " บุคคลใดปัญญาโฉดอาศัยทิฏฐิอันชั่วช้า คัดค้านคำสั่งสอนของพระอริยบุคคล ผู้อรหันต์ มีปกติ เป็นอยู่โดยธรรม บุคคลนั้นย่อมเกิดมาเพื่อฆ่าตนเหมือน ขุยแห่งไม้ไผ่ " (พระกาลเถระ) 42/219/1242/219/12 42/186/7 |
92 | " บาปอันผู้ใดทำแล้วด้วยตนเอง ผู้นั้นย่อมเศร้าหมองด้วยตน, บาปอันผู้ใดไม่ทำ ด้วยตน, ผู้นั้นย่อมบริสุทธิ์ด้วยตนเอง, ความบริสุทธิ์ไม่บริสุทธิ์เป็นของเฉพาะตน, คนอื่นทำคนอื่นให้บริสุทธิ์ ไม่ได้ " (อุบาสกชื่อจุลกาล) 42/222/942/222/9 42/189/4 |
93 | " ภิกษุทั้งหลาย ผู้ใดมีความสิเนหาในเรา , ผู้นั้นควรเป็นดุจอัตตทัตถะ ด้วยว่าชน ทั้งหลายบูชาอยู่ด้วยวัตถุต่างๆ มีของหอม เป็นต้น ย่อมไม่ชื่อว่า บูชาเรา, ส่วนผู้ บูชาด้วยการปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรมย่อมชื่อว่าบูชาเรา, เพราะฉะนั้นแม้ภิกษุ รูปอื่นก็พึงเป็น เช่นอัตตทัตถะ " (พระอัตตทัตถเถระ) 42/225/242/225/2 42/191/2 |
94 | ภิกษุใด มีวิปัสสนาอันปรารภยิ่งแล้ว ปรารถนาการแทงตลอด แม้วัตรมีอุปัชฌายวัตร เป็นต้น เสื่อม ก็พึงทำกิจของตนให้ได้ (พระอัตตทัตถเถระ) 42/226/642/226/6 42/192/1 |
95 | ภิกษุหนุ่มรูปหนึ่ง ทะเลาะกับหลานสาวของนางวิสาขา แม้นางวิสาขา และพระ เถระมาต่างก็ตำหนิภิกษุนั้น พระศาสดาเสด็จมาแล้วอนุวัตรตามภิกษุหนุ่มนั้น แล้วตรัสว่า " ชื่อว่าความเป็น คือ การหัวเราะปรารภกามคุณเป็นธรรมอันเลว อนึ่งการเสพธรรมที่ชื่อว่าเลว และการอยู่ร่วมกับความประมาทย่อมไม่ควร " ใน กาลจบเทศนา ภิกษุนั้นตั้งอยู่ในโสดาปัตติผล (ภิกษุหนุ่ม) 42/229/742/229/7 42/195/6 |
96 | " บรรพชิตไม่พึงประมาทในก้อนข้าว อันตนพึงลุกขึ้นยืนรับ , บุคคลพึงประพฤติ ธรรมให้สุจริต , ผู้มีปกติประพฤติธรรมย่อมอยู่เป็นสุขในโลกนี้ และโลกหน้า , บุคคลพึงประพฤติธรรมให้สุจริต , ไม่พึงประพฤติธรรมนั้นให้ทุจริต , ผู้มีปกติประพฤติธรรมย่อมอยู่เป็นสุขในโลกนี้ และโลกหน้า " (พระเจ้าสุทโธทนะ) 42/234/542/234/5 42/199/20 |
97 | " พระยามัจจุ ย่อมไม่เห็นบุคคลผู้พิจารณาเห็นอยู่ซึ่งโลก เหมือนบุคคลพึงเห็น ฟองน้ำ (และ) เหมือนบุคคลพึงเห็นพยับแดด " (ภิกษุผู้เจริญวิปัสสนา) 42/236/1942/236/19 42/201/16 |
98 | พระเจ้าพิมพิสาร มอบราชสมบัติให้อภัยราชกุมาร 7 วัน และให้หญิงนางฟ้อน คนหนึ่ง ในวันที่ 8 นางฟ้อนนั้นตาย ราชกุมารจึงไปเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ เพื่อ ระงับความโศก. พระศาสดาตรัสพระคาถาว่า " ท่านทั้งหลายจงมาดูโลกนี้ อัน ตระการดุจราชรถ , ที่พวกคนเขลาหมกอยู่ , (แต่) พวกผู้รู้หาข้องอยู่ไม่. " จบ เทศนาพระราชกุมารตั้งอยู่ในโสดาปัตติผล (อภัยราชกุมาร) 42/238/642/238/6 42/203/6 |
99 | พระสัมมัชชนเถระ เที่ยวกวาดไม่เลือกเวลา วันหนึ่ง กวาดไปแล้วตำหนิ พระเรวตะ ว่าขี้เกียจ พระเรวตะจึงสั่งสอนให้รู้จักเวลาที่ควรกวาด ควรให้เวลาแก่ตนทำ ความเพียรบ้าง ท่านก็ทำตามนั้นไม่นาน ก็บรรลุพระอรหัต ที่นั้นๆ ได้รกรุงรังแล้ว .(พระสัมมัชชนเถระ) 42/240/742/240/7 42/205/6 |
100 | " บุคคลใด ละบาปกรรมที่ตนทำไว้แล้ว ได้ด้วยกุศล , บุคคลนั้น ย่อมยังโลกนี้ ให้สว่าง เหมือนดวงจันทร์พ้นแล้วจากหมอกฉะนั้น " (พระอังคุลิมาลเถระ) 42/244/642/244/6 42/208/4 |
101 | ธิดาช่างหูก อายุ 16 ปี ชาวเมืองอาฬวี เจริญมรณสติ ที่พระศาสดาสอนไว้ 3 ปี พระองค์เห็นอุปนิสัยของนาง จึงเสด็จไปเมือง อาฬวีอีก (ธิดานายช่างหูก) 42/245/742/245/7 42/209/6 |
102 | พระศาสดาถามปัญหา 4 ข้อ แก่ธิดาช่างหูก ในกาลจบเทศนา นางดำรงอยู่ ในโสดาปัตติผล (ธิดานายช่างหูก) 42/248/1242/248/12 42/212/1 |
103 | ภิกษุ 30 รูป มาเข้าเฝ้าพระศาสดา พระอานนท์จึงรออยู่ที่ซุ้มประตู เมื่อภิกษุ เหล่านั้นฟังธรรมแล้วบรรลุพระอรหัตได้เหาะไปทางอากาศ พระอานนท์ เห็นว่า นานแล้วจึงเข้าไปถามหาภิกษุเหล่านั้น ต่อพระพุทธองค์ (ภิกษุ ๓๐ รูป) 42/253/642/253/6 42/216/6 |
104 | " หงส์ทั้งหลาย ย่อมไปในทางแห่งดวงอาทิตย์. ท่านผู้มีฤทธิ์ทั้งหลายย่อมไปใน อากาศด้วยฤทธิ์ , ธีรชน ชนะมารพร้อมทั้งพาหนะแล้วย่อมออกไปจากโลกได้ ".(ภิกษุ ๓๐ รูป) 42/254/642/254/6 42/217/3 |
105 | นางจิญจมาณวิการับอาสาพวกเดียรถีย์ เพื่อยังโทษให้เกิดขึ้นแก่พระพุทธองค์ ท้าวสักกะ และเทพบุตร 4 องค์ ทำความจริงให้เปิดเผย และนางก็ถูกแผ่นดินสูบ .(นางจิญจมาณวิกา) 42/256/242/256/2 42/219/2 |
106 | บุรพกรรมของนางจิญจมาณวิกา เคยกล่าวหาพระโพธิสัตว์ด้วยคำไม่จริงและ ถึงความพินาศแล้วเหมือนกัน (นางจิญจมาณวิกา) 42/259/642/259/6 42/221/18 |
107 | พระนางมัลลิกาทรงจัด อสทิสทาน ให้ทรัพย์ 14 โกฏิ (อสทิสทาน) 42/263/442/263/4 42/225/3 |
108 | อสทิสทานนั้นมีแด่พระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ ครั้งเดียวเท่านั้น. สตรีเท่านั้นย่อม จัดแจงทานเพื่อพระศาสดา และภิกษุทั้งปวง (อสทิสทาน) 42/265/1042/265/10 42/227/5 |
109 | พระราชาให้เนรเทศ กาฬอำมาตย์ให้ออกจากแว่นแคว้น ที่ตำหนิ อสทิสทาน และมอบราชสมบัติให้ชุณหอำมาตย์ 7 วัน ที่ยินดีในทานนั้น (อสทิสทาน) 42/268/242/268/2 42/229/12 |
110 | " พวกคนตระหนี่จะไปสู่เทวโลกไม่ได้เลย,พวกคนพาลแล ย่อมไม่สรรเสริญทาน, ส่วนนักปราชญ์ อนุโมทนาทานอยู่ เพราะเหตุนั้นนั่นเอง นักปราชญ์นั้น จึงเป็น ผู้มีสุขในโลกหน้า " (อสทิสทาน) 42/269/542/269/5 42/230/7 |
111 | จ้างลูกไปฟังเทศน์ (นายกาละบุตรของอนาถบิณฑิกเศรษฐี) 42/270/742/270/7 42/231/7 |
112 | " โสดาปัตติผล ประเสริฐกว่าความเป็นเอกราชในแผ่นดิน กว่าการไปสู่สวรรค์ และกว่าความเป็นใหญ่ในโลกทั้งปวง " (นายกาละบุตรของอนาถบิณฑิกเศรษฐี) 42/273/842/273/8 42/233/18 |
113 | รอยพระบาทของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ย่อมปรากฏในที่ที่ทรงอธิษฐานว่าคนชื่อ โน้นจงเห็น. ผู้อื่นจะไม่เห็น (มารธิดา) 42/280/1342/280/13 42/239/10 |
114 | คนเจ้าราคะมีรอยเท้ากระหย่ง (เว้ากลาง) คนเจ้าโทสะมีรอยเท้าหนักส้น คนเจ้าโมหะมีรอยเท้าจิกลง (มารธิดา) 42/281/542/281/5 42/239/24 |
115 | มารนั้นคอยเพ่งจับผิดพระโพธิสัตว์ 7 ปี (มารธิดา) 42/282/742/282/7 42/240/23 |
116 | ธิดามารประเล้าประโลมพระศาสดา (มารธิดา) 42/283/742/283/7 42/241/20 |
117 | เศรษฐีได้ปุ่มไม้จันทน์มาทำบาตร แด่พระอรหันต์ (ยมกปาฏิหาริย์) 42/287/842/287/8 42/245/7 |
118 | พระปิณโฑลภารทวาชะ แสดงฤทธิ์เอาปลายเท้าคีบหินดาดใหญ่ ขนาด 1 คาวุต เหาะรอบเมือง (ยมกปาฏิหาริย์) 42/290/1242/290/12 42/247/24 |
119 | พระศาสดาทรงห้ามภิกษุทำปาฏิหาริย์ (ยมกปาฏิหาริย์) 42/291/1342/291/13 42/248/19 |
120 | อาชญาของพระตถาคตย่อมแผ่ไปแสนโกฏิจักรวาล (ยมกปาฏิหาริย์) 42/293/1342/293/13 42/250/12 |
121 | พระพุทธองค์เสวยน้ำปานะผลมะม่วง ที่นายคัณฑะถวาย และให้เขาปลูกเมล็ดมะม่วงนั้น. (ยมกปาฏิหาริย์) 42/295/1942/295/19 42/252/8 |
122 | ท้าวสักกะทำลายพิธีของพวกเดียรถีย์ (ยมกปาฏิหาริย์) 42/297/1342/297/13 42/253/14 |
123 | ปูรณกัสสปะ โดดน้ำตาย ไปอเวจี (ยมกปาฏิหาริย์) 42/298/842/298/8 42/254/8 |
124 | สาวกสาวิกา ผู้อาสาแสดงปาฏิหาริย์แทนพระพุทธองค์ (ยมกปาฏิหาริย์) 42/298/1942/298/19 42/254/16 |
125 | ลักษณะ ของยมกปาฏิหาริย์ (ยมกปาฏิหาริย์) 42/304/242/304/2 42/259/7 |
126 | ทรงนิรมิต พระพุทธนิรมิต ตรัสถาม-ตอบ ปัญหากับพระองค์ธรรมาภิสมัย ได้มี แก่สัตว์ 20 โกฏิ ในสมาคมนั้น (ยมกปาฏิหาริย์) 42/307/642/307/6 42/261/21 |
127 | พระศาสดเสด็จจำพรรษา ชั้นดาวดึงส์ (ยมกปาฏิหาริย์) 42/307/1742/307/17 42/262/6 |
128 | ทานอันบุคคลให้แล้วในเขตใด มีผลมาก บุคคลพึงเลือกให้ทานในเขตนั้น การ เลือกให้อันพระสุคตทรงสรรเสริญแล้ว (ยมกปาฏิหาริย์) 42/313/1242/313/12 42/267/3 |
129 | ค้างคาวได้ฟังภิกษุท่องอภิธรรมอยู่ ถือเอานิมิตในเสียงแล้ว ตายไปเกิดใน เทวโลก. (ยมกปาฏิหาริย์) 42/315/942/315/9 42/268/17 |
130 | พระพุทธองค์เปิดโลกเทวดา มนุษย์ และนรก ให้เห็นกันหมด. (ยมกปาฏิหาริย์) 42/316/2042/316/20 42/270/2 |
131 | พระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ เมื่อเสด็จลงจากการจำพรรษาที่ดาวดึงส์ ก็สถานที่ พระบาทเบื้องขวาประดิษฐาน ณ ที่เสด็จลงนั้น เรียกว่า อจลเจติยสถาน .(ยมกปาฏิหาริย์) 42/319/1542/319/15 42/272/7 |
132 | แม้ฝนตกตลอดกัลป์ พระสารีบุตรก็สามารถนับหยาดน้ำฝนได้ .(ยมกปาฏิหาริย์) 42/321/742/321/7 42/273/20 |
133 | อาบัติเล็กน้อยที่ไม่แสดงเสียก่อนให้โทษ (นาคราชชื่อเอรกปัตตะ) 42/323/742/323/7 42/275/6 |
134 | " ความได้อัตภาพ เป็นมนุษย์ เป็นการยาก , ชีวิตของสัตว์ทั้งหลาย เป็นอยู่ยาก, การฟังพระสัทธรรม เป็นของยาก , การอุบัติขึ้นแห่งพระพุทธเจ้าทั้งหลายเป็น การยาก " (นาคราชชื่อเอรกปัตตะ) 42/329/1342/329/13 42/280/10 |
135 | พระวิปัสสีพุทธเจ้า ได้ทรงกระทำอุโบสถในทุกๆ 7 ปี เพราะพระโอวาทที่พระองค์ ประทานแล้วในวันหนึ่งเท่านั้น พอไปได้ 7 ปี , พระสิขีและพระเวสสภู ทรงทำพระพุทธเจ้า อุโบสถทุกๆ 6 ปี, พระกกุสันธะ และพระโกนาคมนพุทธเจ้าได้ทรง กระทำ อุโบสถทุกๆ ปี , พระกัสสปทสพล ทรงกระทำอุโบสถทุกๆ 6 เดือน. .(ปัญหาของพระอานนทเถระ) 42/331/742/331/7 42/282/13 |
136 | โอวาทคาถา เมื่อจะทรงกระทำอุโบสถแห่งพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ เหมือน กันหมด. (ปัญหาของพระอานนทเถระ) 42/332/242/332/2 42/283/1 |
137 | ภิกษุหนุ่มรูปหนึ่ง เมื่อคิดถึงทรัพย์ 100 กหาปณะ ที่พ่อมอบไว้ให้ในมือน้องชาย ท่านก่อนตาย จึงอยากสึก. พระศาสดาแสดงความที่เงินนั้นเป็นของน้อย ไม่ สามารถยังความอยากให้เต็มได้ แล้วทรงตรัสมันธาตุราชชาดกจบเทศนาภิกษุ นั้นบรรลุโสดาปัตติผล (ภิกษุผู้ไม่ยินดี) 42/335/742/335/7 42/285/6 |
138 | พึ่งพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ยอดเยี่ยมกว่า (ปุโรหิตชื่ออัคคิทัต) 42/345/2142/345/21 42/294/6 |
139 | บุรุษอาชาไนย ย่อมเกิดในที่อันเป็นมัชฌิมประเทศ ไม่เกิดในตระกูลสามัญ ย่อมเกิดในตระกูลขัตติยมหาศาล และพราหมณมหาศาล ตระกูลใดตระกูล หนึ่งเท่านั้น. (ปัญหาของพระอานนทเถระ) 42/350/1542/350/15 42/297/12 |
140 | ความเกิดขึ้นแห่งพระพุทธเจ้า การฟังธรรม ความพร้อมเพรียงของหมู่ ความเป็น ผู้ปรองดองกัน เป็นสุขในโลกนี้ (สัมพหุลภิกขุ) 42/352/1842/352/18 42/299/15 |
141 | พระพุทธองค์ทรงนิรมิต พระเจดีย์ทองของพระกัสสปพุทธเจ้า สูง 1 โยชน์ บริเวณเทวสถาน ใกล้บ้านโตไทยคาม และ มีอีกองค์หนึ่งลอยอยู่ในอากาศ และ ทรงแสดงปูชารหบุคคล 4 จำพวก กับเจดีย์ 3 ประเภท .(พระเจดีย์ทองของพระกัสสปทสพล) 42/355/342/355/3 42/301/6 |
142 | ใคร ๆ ไม่อาจนับบุญของผู้ซึ่งบูชาพระพุทธเจ้า หรือพระสาวกว่าบุญนี้มี ประมาณเท่านี้ (พระเจดีย์ทองของพระกัสสปทสพล) 42/356/1142/356/11 42/302/4 |
143 | " เมื่อพระสัมพุทธเจ้า เป็นต้น ยังทรงพระชนม์อยู่ก็ดี นิพพานแล้วก็ดี เมื่อจิต เสมอกัน ผลก็ย่อมเท่ากัน ในเพราะเหตุ คือ ความเลื่อมใสแห่งใจ สัตว์ ทั้งหลายย่อมไปสู่สุคติ " (พระเจดีย์ทองของพระกัสสปทสพล) 42/358/1342/358/13 42/303/24 |
144 | พวกเจ้าศากยะ และโกลิยะ ทะเลาะกันเรื่องน้ำในแม่น้ำโรหิณี พระศาสดาทรง เสด็จไปห้าม (เรื่องระงับความทะเลาะแห่งหมู่พระญาติ) 42/362/842/362/8 42/307/8 |
145 | มารเข้าสิงชาวบ้านทั้งสิ้น ไม่ให้ใส่บิณฑบาต พระพุทธเจ้า (เรื่องมาร) 42/367/1042/367/10 42/311/3 |
146 | เทวดาชั้นอาภัสสรา มีปีติเป็นอาหาร (เรื่องมาร) 42/368/542/368/5 42/312/3 |
147 | " ผู้ชนะย่อมก่อเวร ผู้แพ้ย่อมอยู่เป็นทุกข์ , ผู้สงบระงับ ละความชนะและความ แพ้ได้แล้ว ย่อมอยู่เป็นสุข " (ปราชัยของพระเจ้าโกศล) 42/370/142/370/1 42/313/19 |
148 | " ไฟเสมอด้วยราคะ ย่อมไม่มี , โทษเสมอด้วยโทสะ ย่อมไม่มี , ทุกข์ทั้งหลาย เสมอด้วยขันธ์ ย่อมไม่มี , สุขอื่นจากความสงบย่อมไม่มี " .(เด็กหญิงแห่งตระกูลคนใดคนหนึ่ง) 42/372/142/372/1 42/315/19 |
149 | พระศาสดาเสด็จไปเมืองอาฬวี เป็นระยะทาง 30 โยชน์ เพราะเห็นอุปนิสัยของ อุบาสกผู้เลี้ยงโคคนหนึ่ง ชาวเมืองได้นิมนต์ถวายอาหารอยู่ อุบาสกผู้เลี้ยงโค เที่ยวตามหาโค จนหิวแล้วคิดจะไปกราบพระพุทธเจ้า พระองค์สั่งให้เขาเลี้ยงดู อุบาสกนั้นให้อิ่มแล้ว แสดงธรรมจบเทศนา อุบาสกนั้นบรรลุโสดาปัตติผล. .(อุบาสกคนใดคนหนึ่ง) 42/373/642/373/6 42/317/5 |
150 | " ความหิวเป็นโรคอย่างยิ่ง , สังขารทั้งหลาย เป็นทุกข์อย่างยิ่ง , บัณฑิตทราบ เนื้อความนั้น ตามความจริงแล้ว (กระทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน) เพราะพระนิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง " (อุบาสกคนใดคนหนึ่ง) 42/375/842/375/8 42/318/24 |
151 | " คนมีสติทุกเมื่อ รู้ประมาณในโภชนะที่ได้แล้วนั้น มีเวทนาเบาบาง , (อาหารที่ บริโภคแล้ว) เลี้ยงอายุอยู่ ค่อย ๆ ย่อยไป " (พระเจ้าปเสนทิโกศล) 42/378/642/378/6 42/321/3 |
152 | " ลาภทั้งหลาย มีความไม่มีโรค เป็นอย่างยิ่ง , ทรัพย์มีความสันโดษ เป็นอย่างยิ่ง, ญาติมีความคุ้นเคยเป็นอย่างยิ่ง , พระนิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง " .(พระเจ้าปเสนทิโกศล) 42/380/142/380/1 42/322/14 |
153 | ข่าวพระพุทธเจ้าจะปรินิพพาน พระติสสะจึงไม่ยอมพูดกับใคร หลบอยู่ผู้เดียว ทำความเพียร ภิกษุทั้งหลายตำหนิท่านแต่พระพุทธองค์สรรเสริญ ว่า " ภิกษุ ทั้งหลายผู้มีความรักในเรา จงเป็นเหมือนติสสะเถิด " แม้คนกระทำการบูชาอยู่ ด้วยของหอม และระเบียบดอกไม้ เป็นต้น ไม่ชื่อว่าบูชาเราเลย แต่คนผู้ปฏิบัติ ธรรมสมควรแก่ธรรมนั้นแหละ ชื่อว่า บูชาเรา " (พระติสสเถระ) 42/381/642/381/6 42/324/6 |
154 | " บุคคลดื่มรสอันเกิดแก่วิเวก และรสพระนิพพาน เป็นที่เข้าไปสงบ ดื่มรสปีติ อันเกิดแต่ธรรม ย่อมเป็นผู้ไม่มีความกระวนกระวาย ไม่มีบาป " .(พระติสสเถระ) 42/382/942/382/9 42/325/4 |
155 | หลังจากทรงปลงอายุสังขารแล้ว พระพุทธองค์ทรงอาพาธ ท้าวสักกะลงมา อุปัฏฐาก ถือ กระโถน ทูลไว้บนหัว โดยไม่รังเกียจ จนพระองค์หายอาพาธแล้ว จึงไป ภิกษุทั้งหลายชมเชยอยู่ พระศาสดาจึงแสดงการที่ท้าวสักกะ ได้ฟังธรรม แล้วได้เป็นพระโสดาบัน (ท้าวสักกะ) 42/384/542/384/5 42/326/5 |
156 | มารดาบิดา ในตระกูล ในกรุงสาวัตถี มีลูกชายคนเดียวเป็นที่รักมาก แต่ลูก ชายหนีไปบวช ทั้ง 2 จึงตามมาบวช เมื่อบวชแล้ว ทั้ง 3 ไม่แยกจากกัน คบพูด คุยกันทั้งวัน พระศาสดาบอกสอนแล้ว ก็ยังไม่สามารถแยกกันได้ จึงสึกไปอยู่ บ้านเหมือนเดิมทั้ง 3 คน. (บรรพชิต ๓ รูป) 42/391/742/391/7 42/332/7 |
157 | กุฎุมพีคนหนึ่ง ได้ร้องไห้โศกเศร้า ถึงลูกชายซึ่งตายไปแล้ว พระศาสดาเสด็จไป ที่บ้านเขาแสดงธรรม เพื่อระงับความโศกเศร้า " ชื่อว่าความตายนี้มิใช่มีอยู่ในที่ เดียว , และมิใช่มีจำเพาะแก่บุคคลผู้เดียว , ก็ชื่อว่าความเป็นไปแห่งภพ ยังมี อยู่เพียงใด , ความตายก็ย่อมมีแก่สรรพสัตว์เพียงนั้นเหมือนกัน " , จบเทศนา กุฎุมพีนั้นบรรลุโสดาปัตติผล (กุฎุมพีคนใดคนหนึ่ง) 42/397/642/397/6 42/336/6 |
158 | " ความโศกย่อมเกิดแต่ของที่รัก, ภัยย่อมเกิดแต่ของที่รัก คือ ความโศก ย่อมไม่มี แก่ผู้ปลดเปลื้องได้จากของที่รัก. ภัยจักมีแต่ไหน (กุฎุมพีคนใดคนหนึ่ง) 42/399/342/399/3 42/337/21 |
159 | หลานสาวของนางวิสาขา ชื่อ สุทัตตีตาย นางเป็นทุกข์เสียใจ ร้องไห้ ไปวิหาร เชตวัน. พระศาสดาตรัสกะนางว่า " ถ้ากระนั้น เธออย่าเศร้าโศก , ความโศกก็ดี ความกลัวก็ดี ย่อมเกิดแต่ความรัก " (นางวิสาขาอุบาสิกา) 42/400/642/400/6 42/339/6 |
160 | พระศาสดากำลังเข้าไปบิณฑบาต ตรัสให้ภิกษุที่ไม่เคยเห็นเทวดาชั้นดาวดึงส์ ให้ดูพวกเจ้าลิจฉวี ที่แต่งกายประดับแล้วไปเที่ยวอุทยาน ครั้นเสร็จภัตกิจ ออก จากพระนคร ก็เห็นเจ้าเหล่านั้นถูกหามออกมา เพราะ ตีกันเลือดนองเพราะเหตุ แห่งหญิงโสเภณีคนเดียว (เจ้าลิจฉวี) 42/402/742/402/7 42/341/6 |
161 | " ภิกษุทั้งหลาย ความโศกก็ดีภัยก็ดี เมื่อจะเกิดย่อมอาศัยความยินดี นั้นเองเกิด " .(เจ้าลิจฉวี) 42/403/242/403/2 42/341/20 |
162 | สัตว์ที่จุติจากพรหมโลก มาเกิดเป็นมนุษย์แล้ว ไม่ปรารถนาจะเข้าไปใกล้ผู้หญิง..(อนิตถิคันธกุมาร) 42/404/642/404/6 42/343/5 |
163 | " ความโศกย่อมเกิดแต่กาม , ภัยย่อมเกิดแต่กาม ความโศกย่อมไม่มีแก่บุคคล ผู้พ้นวิเศษแล้วจากกาม , ภัยจักมีแต่ไหน " (อนิตถิคันธกุมาร) 42/407/1942/407/19 42/346/6 |
164 | พระศาสดาเสด็จไปทักทาย พราหมณ์มิจฉาทิฏฐิ คนหนึ่ง ซึ่งกำลังเริ่มขั้นตอน การทำนาทุกวัน จนพราหมณ์คุ้นเคย เมื่อข้าวกล้าจะได้เกี่ยว ฝนใหญ่ตกลงมา น้ำพัดข้าวไปหมดเหลือแต่นาเปล่า พราหมณ์เป็นทุกข์มากนอนโศกอยู่ พระศาสดาจึงเสด็จไปที่บ้านเขาแสดงธรรม จบเทศนา พราหมณ์ได้บรรลุโสดาปัตติผล .(พราหมณ์คนใดคนหนึ่ง) 42/409/642/409/6 42/347/6 |
165 | พวกเด็ก 500 คน ถือกระเช้าขนมมา ไม่ถวายแด่พระศาสดา แต่ไปถวาย พระมหากัสสป ผู้ตามมาข้างหลัง (เด็ก ๕๐๐ คน) 42/413/742/413/7 42/350/6 |
166 | พระเถระผู้อนาคามี องค์หนึ่งลูกศิษย์ ถามถึงการบรรลุธรรมของท่าน มีอยู่ หรือ ท่านละอายอยู่จึงไม่บอก เมื่อตายแล้วไปอยู่เทวโลกชั้นสุทธาวาส บรรดาลูกศิษย์ ของท่านร้องไห้เข้าไปหาพระศาสดา พระองค์บอกความเป็นไปของพระเถระ แล้วแสดงธรรม จบเทศนา ภิกษุเหล่านั้นบรรลุอรหัตผล. (พระอนาคามิเถระ) 42/416/942/416/9 42/353/6 |
167 | ทำบุญแล้ววิมานในสวรรค์ปรากฏทันที (นายนันทิยะ) 42/420/1142/420/11 42/356/7 |
168 | บุญทั้งหลาย ย่อมต้อนรับแม้บุคคลผู้กระทำบุญไว้ ซึ่งไปจากโลกนี้สู่โลกหน้า ดุจพวกญาติเห็นญาติที่รักมาแล้วต้อนรับอยู่(นายนันทิยะ) 42/422/342/422/3 42/357/20 |
169 | เจ้าหญิงโรหิณีหายจากโรคผิวหนังด้วยบุญ (เจ้าหญิงโรหิณี) 42/427/2242/427/22 42/362/21 |
170 | บุรพกรรมของพระนางโรหิณี ที่ทำให้เป็นโรคผิวหนัง (เจ้าหญิงโรหิณี) 42/429/142/429/1 42/363/18 |
171 | ภิกษุตัดตันไม้ย่อมเป็นอันตรายต่อเทวดา (ภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง) 42/432/1542/432/15 42/366/15 |
172 | " ผู้ใดแล พึงสะกดความโกรธที่พลุ่งขึ้น เหมือนคนห้ามรถที่กำลังแล่นไปได้ เราเรียกผู้นั้นว่า สารถีส่วนคนนอกนี้ เป็นเพียงผู้ถือเชือก " (ภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง) 42/433/1442/433/14 42/367/11 |
173 | ขี้ไถ กลายเป็นทอง (อุตตราอุบาสิกา) 42/438/1542/438/15 42/372/3 |
174 | จ้างหญิงอื่นให้บำเรอสามีเพื่อให้ตนมีโอกาสไปทำบุญ (อุตตราอุบาสิกา) 42/442/742/442/7 42/375/2 |
175 | " พึงชนะคนโกรธ ด้วยความไม่โกรธ , พึงชนะคนไม่ดีด้วยความดี , พึงชนะคน ตระหนี่ด้วยการให้ , พึงชนะคนพูดเหลวไหล ด้วยคำจริง " (อุตตราอุบาสิกา) 42/447/342/447/3 42/379/3 |
176 | ทานก็ไม่ได้ถวาย การบูชาก็ไม่ได้ทำ พระธรรมก็ไม่ได้ฟัง รักษาคำสัตย์อย่าง เดียวก็ไปสวรรค์ได้ (ปัญหาของพระโมคคัลลานเถระ) 42/448/1342/448/13 42/380/13 |
177 | บุญทานก็ไม่ได้ทำ แต่เป็นผู้ข่มความโกรธ ไม่ทำความโกรธ ก็ได้ไปสวรรค์ .(ปัญหาของพระโมคคัลลานเถระ) 42/448/1842/448/18 42/380/17 |
178 | " บุคคลควรกล่าวคำสัตย์ ไม่ควรโกรธ , ถึงถูกเขาขอน้อย ก็พึงให้ , บุคคลพึงไปใน สำนักของเทวดา ทั้งหลายได้ด้วยฐานะ 3 นั้น " (ปัญหาของพระโมคคัลลานเถระ) 42/450/442/450/4 42/381/21 |
179 | พราหมณ์ และพราหมณีเฒ่าชาวเมืองสาเกตุ เห็นพระพุทธเจ้าแล้วได้เกิดรักดัง บุตร เพราะพระองค์เคยเป็นบุตรของทั้งสองผัวเมียสิ้น 3,000 ชาติ .(ปัญหาที่ภิกษุทูลถาม) 42/451/742/451/7 42/383/6 |
180 | ใจย่อมจดจ่อ แม้จิตก็เลื่อมใสในบุคคลใด, เขาย่อมสนิทสนมในบุคคลนั้นซึ่งตน ไม่เคยเห็นโดยแท้ (ปัญหาที่ภิกษุทูลถาม) 42/453/1142/453/11 42/385/2 |
181 | พราหมณ์ และพราหมณีนั้นบรรลุพระอรหันต์แล้วปรินิพพาน พระศาสดาและ ภิกษุ 500 ก็เสด็จไปยังป่าช้า ที่เผาศพของพราหมณ์นั้นด้วย (ปัญหาที่ภิกษุทูลถาม) 42/453/1942/453/19 42/385/9 |
182 | พระศาสดาทรงอนุเคราะห์ ฉันรำปิ้งของนางปุณณาทาสี แล้วทรงแสดงธรรม ในกาลจบเทศนา นางก็ดำรงอยู่ในโสดาปัตติผล (นางปุณณทาสี) 42/457/742/457/7 42/388/6 |
183 | ผู้ไม่ถูกนินทา และสรรเสริญ ย่อมไม่มีในโลก (อตุลอุบาสก) 42/464/542/464/5 42/394/2 |
184 | ผู้สำรวมทางกาย ทางวาจา ทางใจ ชื่อว่าสำรวมรอบคอบดีแล้ว .(ภิกษุฉัพพัคคีย์) 42/468/2042/468/20 42/397/12 |