1 | " ใครจักรู้แผ่นดินนี้ และยมโลกกับมนุสสโลกนี้ พร้อมทั้งเทวโลก , ใครจักเลือกบทธรรม อันเราแสดงดีแล้ว เหมือนนายมาลาการ ผู้ฉลาดเลือกดอกไม้ฉะนั้น.พระเสขะจักรู้ชัดแผ่นดิน และยมโลกกับมนุสสโลกนี้พร้อมทั้งเทวโลก พระเสขะจักเลือกบทธรรมอันเราแสดงดีแล้ว เหมือนนายมาลาการผู้ฉลาดเลือกดอกไม้ฉะนั้น " (ภิกษุ ๕๐๐ รูป ผู้ขวนขวายในปฐวีกถา) 41/5/5 41/5/8 |
2 | " ภิกษุรู้แจ้งกายนี้ว่า มีฟองน้ำเป็นเครื่องเปรียบ , รู้ชัดกายนี้ว่า มีพยับแดดเป็นธรรม ตัดพวงดอกไม้ของมารเสียแล้ว พึงถึงสถานที่มัจจุราชไม่เห็น ".(พระเถระผู้เจริญมรีจิกัมมัฏฐาน) 41/9/10 41/8/4 |
3 | พระเจ้าปเสนทิโกศล เจ้ามหาลิลิจฉวี เจ้าพันธุละ เป็นสหายกัน เรียนศิลปะด้วยกัน. (พระเจ้าวิฑูฑภะ) 41/11/7 41/9/7 |
4 | ตระกูลที่ประกอบด้วยองค์ 9 ภิกษุไม่ควรเข้าไป (พระเจ้าวิฑูฑภะ) 41/16/9 41/13/13 |
5 | เรื่องเกสวดาบส ย่อมอยู่สบายกับผู้คุ้นเคยกัน (พระเจ้าวิฑูฑภะ) 41/17/15 41/14/14 |
6 | พันธุลเสนาบดี ฆ่าเจ้าลิจฉวี 500 ด้วยลูกศรดอกเดียว (พระเจ้าวิฑูฑภะ) 41/27/8 41/22/5 |
7 | พระเจ้าวิฑูฑภะ ฆ่าพวกเจ้าศากยะ ส่วนพระเจ้ามหานามะ นาคนำไปอยู่เมืองนาค 12 ปี (พระเจ้าวิฑูฑภะ) 41/35/7 41/28/8 |
8 | พวกพระเจ้าวิฑูฑภะถูกน้ำท่วมตาย แต่ผู้ไม่มีกรรมเกี่ยวข้อง รอดชีวิต. .(พระเจ้าวิฑูฑภะ) 41/39/1 41/31/11 |
9 | พวกเจ้าศากยะถูกฆ่าตาย เพราะเคยร่วมกันโปรยยาพิษในแม่น้ำ (พระเจ้าวิฑูฑภะ) 41/40/3 41/32/9 |
10 | นางอัปสร ของมาลาภารีเทพบุตร จุติแล้วเกิดเป็นมนุษย์ ชื่อนางปติปูชิกานางทำบุญให้ทาน ปฏิบัติโรงฉัน ปูอาสนะเป็นนิตย์ จัดแจงภัตแก่ภิกษุสงฆ์ปรารถนาเกิดในสำนักของมาลาภารีเทพบุตร (นางปติปูชิกา) 41/43/7 41/35/7 |
11 | 100 ปี ของมนุษย์ เท่ากับ 1 วัน ชั้นดาวดึงส์ เทวดาชั้นดาวดึงส์ มีอายุ 1,000 ปีทิพย์หรือ 36 ล้านปีมนุษย์ (นางปติปูชิกา) 41/45/18 41/37/12 |
12 | โกสิยเศรษฐี ในกรุงราชคฤห์ เป็นคนขี้เหนียว อยากกินขนมเบื้อง พระศาสดาให้พระมหาโมคคัลลานะไปทรมานเศรษฐี จนได้มาถวายขนมแด่พระพุทธเจ้าและภิกษุสงฆ์ จบอนุโมทนาคาถาทั้งเศรษฐีและภริยา ได้บรรลุโสดาปัตติผล.(โกสิยเศรษฐีผู้มีความตระหนี่) 41/49/7 41/40/6 |
13 | " บุคคลไม่ควรทำคำแสยงขนของคนเหล่าอื่นไว้ในใจ ไม่ควรแลดูกิจที่ทำแล้วและยังมิได้ทำของคนเหล่าอื่น พึงพิจารณากิจที่ทำแล้วและยังมิได้ทำของตนเท่านั้น " (ปาฏิกาชีวก) 41/63/18 41/52/3 |
14 | ฉัตตปาณิอุบาสก เป็นพระอนาคามี ผู้ทรงพระไตรปิฎก พระเจ้าปเสนทิโกศลขอให้สอนธรรมแก่คนในวัง แต่อุบาสกบอกให้นิมนต์ ภิกษุจะดีกว่า พระราชานิมนต์จึงไปหาพระพุทธเจ้า พระองค์ให้เป็นภาระแก่พระอานนท์ (ฉัตตปาณิอุบาสก) 41/66/6 41/54/6 |
15 | ธรรมที่พระตถาคตกล่าว ย่อมไม่มีผลแก่ผู้ไม่ฟัง ไม่เรียน ไม่ท่อง ไม่แสดงโดยเคารพ (ฉัตตปาณิอุบาสก) 41/70/8 41/57/17 |
16 | ผู้มีบุญทั้ง 5 ในภัททิยนคร และเศรษฐี 5 คน ของพระเจ้าพิมพิสาร(นางวิสาขา) 41/73/13 41/60/13 |
17 | นางวิสาขาได้โสดาปัตติผลแต่อายุ 7 ขวบ (นางวิสาขา) 41/74/14 41/61/11 |
18 | พระเจ้าปเสนทิโกศล ขอธนญชัยเศรษฐีไปอยู่ด้วย แล้วให้สร้างเมืองสาเกตอยู่.(นางวิสาขา) 41/75/2 41/62/19 |
19 | ลักษณะเบญจกัลยาณี (นางวิสาขา) 41/77/6 41/63/18 |
20 | ชน 4 จำพวกวิ่งไปย่อมไม่งาม คือ พระราชาผู้อภิเษกแล้ว ช้างมงคลที่ประดับแล้วบรรพชิต สตรี (นางวิสาขา) 41/80/4 41/66/6 |
21 | เครื่องประกอบในมหาลดาปสาธน์ ราคา 9 โกฏิ ค่าทำ แสนหนึ่ง (นางวิสาขา) 41/85/15 41/70/19 |
22 | ผลแห่งจีวรทานของหญิงย่อมได้เครื่องประดับมหาลดาปสาธน์ , จีวรทานของบุรุษย่อมถึงที่สุดด้วยบาตร และจีวรอันสำเร็จด้วยฤทธิ์ (นางวิสาขา) 41/86/14 41/71/12 |
23 | ในครั้งพระกัสสปพุทธเจ้า นางวิสาขาเกิดเป็น ธิดาของพระเจ้ากิกิ ได้ถวายปัญจโครสแก่ภิกษุ 2 หมื่นรูป แม้ท่านห้ามว่าพอ พอ ก็ยังถวายอีก เพราะผลกรรมนั้น โคแม้เขาห้ามอยู่ ก็ยังออกตามนางไป (นางวิสาขา) 41/88/11 41/73/7 |
24 | โอวาท 10 ข้อ ของธนญชัยเศรษฐี สอนลูกสาวก่อนส่งไปตระกูลสามี..(นางวิสาขา) 41/89/11 41/73/22 |
25 | อธิบายโอวาท 10 ข้อ (นางวิสาขา) 41/95/6 41/78/12 |
26 | นางวิสาขา มีกำลังเท่ากับช้าง 5 เชือก มีบุตร 10 คน ธิดา 10 คน รวมลูกหลานเหลนได้ 8,420 คน (นางวิสาขา) 41/101/16 41/83/16 |
27 | ในงานมหรสพที่เป็นมงคล ชาวกรุงสาวัตถี ย่อมเชิญนางวิสาขาให้บริโภคก่อน..(นางวิสาขา) 41/103/7 41/85/2 |
28 | นางวิสาขาขนทรัพย์ 9 โกฏิ 1 แสน ขึ้นเกวียนไป ถามพระศาสดาว่าจะให้น้อมไปในปัจจัยไหน. พระพุทธองค์ ตรัสว่า เธอควรจะทำที่อยู่ถวายสงฆ์ (นางวิสาขา) 41/106/11 41/87/16 |
29 | บุรพประวัติของนางวิสาขา (นางวิสาขา) 41/111/11 41/91/22 |
30 | พระอานนท์ถามพระพุทธองค์ ถึงกลิ่นของคันธชาต ที่ฟุ้งไปทวนลม และตามลมก็ได้ มีอยู่หรือ ? พระพุทธองค์ตรัสถึงกลิ่นศีล (ปัญหาของพระอานนทเถระ) 41/116/7 41/95/6 |
31 | พระมหากัสสปเถระ เข้านิโรธสมาบัติ 7 วัน ออกแล้วเข้าไปบิณฑบาต นางอัปสร500 จะใส่บาตร แต่ท่านไม่รับท้าวสักกะกับนางสุชาดา จึงแปลงเป็นช่างหูกชรามาลวงใส่บาตร (ถวายบิณฑบาตแก่พระมหากัสสปเถระ) 41/121/7 41/99/7 |
32 | " เทวดาและมนุษย์ ย่อมพอใจ แก่ภิกษุผู้ถือ การเที่ยวบิณฑบาตเป็นวัตร ผู้เลี้ยงตนเอง มิใช่เลี้ยงผู้อื่น ผู้มั่นคงผู้เข้าไปสงบแล้ว มีสติทุกเมื่อ " .(ถวายบิณฑบาตแก่พระมหากัสสปเถระ) 41/128/10 41/105/8 |
33 | " กลิ่นนี้ คือ กลิ่นกฤษณา และกลิ่นจันทน์ เป็นกลิ่นเพียงเล็กน้อย ส่วนกลิ่นของผู้มีศีลทั้งหลาย เป็นกลิ่นชั้นสูงย่อมหอมฟุ้งไป ในเทพเจ้าและเหล่ามนุษย์ ".(ถวายบิณฑบาตแก่พระมหากัสสปเถระ) 41/128/18 41/105/14 |
34 | พระโคธิกะ เสื่อมจากฌาน 6 ครั้ง ๆ ที่ 7 จึงเอามีดตัดก้านคอตนเอง เจริญวิปัสสนา ปรินิพพานแล้วมารแปลงเพศเป็นมาณพ ถือพิณสีเหลือง ถามหาอยู่.(ปรินิพพานของพระโคธิกเถระ) 41/130/7 41/106/6 |
35 | สิริคุตต์ เป็นอุบาสก ครหทินน์ เป็นสาวกของนิครนถ์ สิริคุตต์ลวงพวกนิครนถ์ให้ตกหลุมขี้ ส่วนครหทินน์ จะลวง พระพุทธเจ้าให้ตกหลุมถ่านเพลิง แต่พระพุทธ-องค์ และภิกษุสงฆ์เหยียบกลีบบัว ขึ้นนั่งบนอาสนะ ท้ายแห่งเทศนา 2 สหายได้บรรลุโสดาปัตติผล. (ครหทินน์) 41/135/7 41/110/6 |
36 | ให้อาหารแก่คนเดินทาง และปลาในน้ำ อุทิศบุญแก่ พวกนาค ครุฑ และเทวดา.(บุรุษคนใดคนหนึ่ง) 41/156/2 41/128/13 |
37 | บุตรเศรษฐี 4 คน ประพฤติผิดในภรรยาของชายอื่นตลอด 2 หมื่นปี ตายแล้ว ไปตกนรกสิ้นพุทธันดรหนึ่ง (บุรุษคนใดคนหนึ่ง) 41/162/17 41/134/5 |
38 | พระนางมัลลิกา เคยช่วยให้ชีวิตทานแก่มหาชนในกาลก่อน (บุรุษคนใดคนหนึ่ง) 41/168/17 41/139/5 |
39 | ตัดคอแพะตัวเดียว ต้องไหม้อยู่ในนรกแล้วด้วยการนับขนแพะ.(บุรุษคนใดคนหนึ่ง) 41/172/12 41/142/7 |
40 | ประทุษร้ายแก่ผู้มีคุณตายไปเกิดในอเวจี (สัทธิวิหาริกของพระมหากัสสปเถระ) 41/176/21 41/146/14 |
41 | เรื่องนกขมิ้นกับลิงวิวาทกัน (สัทธิวิหาริกของพระมหากัสสปเถระ) 41/178/2 41/147/17 |
42 | " ถ้าบุคคลเมื่อเที่ยวไป ไม่พึงประสบสหายผู้ประเสริฐกว่า ผู้เช่นกับ (ด้วยคุณ)ของตนไซร้ , พึงทำการเที่ยวไปคนเดียว ให้มั่น เพราะว่า คุณเครื่องเป็นสหายย่อมไม่มีในเพราะคนพาล " (สัทธิวิหาริกของพระมหากัสสปเถระ) 41/179/18 41/149/1 |
43 | สหายเลว ไม่พึงเสพ ไม่พึงคบ ไม่พึงเข้าไปนั่งใกล้ เว้นไว้แต่ความเอ็นดูเว้นไว้แต่ความความอนุเคราะห์ (สัทธิวิหาริกของพระมหากัสสปเถระ) 41/180/9 41/149/13 |
44 | เศรษฐีขี้เหนียวตายแล้วเกิดเป็นคนพิการ (อานนทเศรษฐี) 41/182/18 41/151/16 |
45 | " คนพาล ย่อมเดือดร้อนว่า บุตรทั้งหลายของเรามีอยู่ , ทรัพย์(ของเรา) มีอยู่ ,ตนแลย่อมไม่มีแก่ตน , บุตรทั้งหลายจักมีแต่ที่ไหน ? ทรัพย์จักมีแต่ที่ไหน ?.(อานนทเศรษฐี) 41/185/4 41/153/18 |
46 | โจร 2 คนเพื่อนกันไปเชตวันวิหาร กับมหาชน โจรคนหนึ่งลักทรัพย์ได้ 5 มาสกอีกคนหนึ่ง ฟังธรรมอยู่บรรลุโสดาปัตติผล โจรผู้บรรลุธรรมได้ พาญาติ ไปฟังธรรมอีก บรรดาญาติของเขาก็ได้ โสดาปัตติผลด้วย (โจรผู้ทำลายปม) 41/187/7 41/155/6 |
47 | " บุคคลใดโง่ มีความสำคัญความที่แห่งตนเป็นคนโง่ บุคคลนั้นจะเป็นบัณฑิตเพราะเหตุนั้นได้บ้าง ส่วนบุคคลใดเป็นคนโง่ มีความสำคัญว่าตนเป็น บัณฑิต บุคคลนั้นแล เราเรียกว่า คนโง่ " (โจรผู้ทำลายปม) 41/188/3 41/155/20 |
48 | " ถ้าคนพาล เข้าไปนั่งใกล้บัณฑิตอยู่ แม้จนตลอดชีวิต เขาย่อมไม่รู้ธรรม เหมือนทัพพีไม่รู้รสแกงฉะนั้น " (พระอุทายีเถระ) 41/190/16 41/157/14 |
49 | " ถ้าวิญญูชน เข้าไปนั่งใกล้บัณฑิต แม้ครู่เดียว เขาย่อมรู้แจ้งธรรมได้ฉับพลันเหมือนลิ้นรู้รสแกงฉะนั้น " (ภิกษุชาวเมืองปาฐา) 41/193/4 41/159/20 |
50 | อริยทรัพย์ 7 ประการ มีหิริ โอตตัปปะ เป็นต้น (สุปปพุทธกุฏฐิ) 41/195/9 41/162/6 |
51 | คน 4 คน ได้แก่ ปุกกุสาติ พาหิยทารุจีริยะ นายตัมพทาฐิกะ สุปปพุทธกุฏฐิเคยเป็นลูกเศรษฐีร่วมกัน ฆ่าโสเภณีเพื่อเอาทรัพย์ โสเภณีนั้นผูกอาฆาตไว้ เกิดเป็นนางยักษิณีตามฆ่าคน ทั้ง 4 (สุปปพุทธกุฏฐิ) 41/196/9 41/163/2 |
52 | สุปปพุทธกุฏฐิ เป็นโรคเรื้อน เพราะเห็นพระตครสิขีปัจเจกพุทธเจ้า แล้วถ่มน้ำลายดูถูก (สุปปพุทธกุฏฐิ) 41/197/6 41/163/18 |
53 | พระพุทธเจ้าเรียก ทรัพย์ว่า อสรพิษ (ชาวนา) 41/200/4 41/166/2 |
54 | ชาวนาพ้นโทษ เพราะอ้างพระศาสดาเป็นพยาน (ชาวนา) 41/201/12 41/167/4 |
55 | " บุคคลกระทำกรรมใดแล้ว ย่อมเดือดร้อนในภายหลัง เป็นผู้มีหน้าชุ่มด้วยน้ำตาร้องให้เสวยผลของกรรมใดอยู่ กรรมนั้นอันบุคคลกระทำแล้วไม่ดีเลย ".(ชาวนา) 41/202/16 41/168/5 |
56 | นายสุมนมาลาการ มีจิตเลื่อมใส บูชาพระพุทธเจ้า ด้วยดอกมะลิ ที่ใช้สำหรับบำรุงพระราชา แม้พระราชาจะฆ่าตนก็ตาม. ดอกมะลิเหล่านั้นได้ลอยอยู่ในอากาศอากาศแวดล้อมพระพุทธเจ้าไป พระราชาทราบข่าว จึงมอบรางวัลหมวด 8 ให้เขา(นายสุมนมาลาการ) 41/205/2 41/170/1 |
57 | นายมาลาการ จักไม่ไปสู่ทุคติ ตลอดแสนกัลป์ ภายหลังจะได้เป็นพระปัจเจก-พุทธเจ้า ชื่อ สุมนะ (นายสุมนมาลาการ) 41/210/17 41/174/15 |
58 | " บุคคลทำกรรมใดแล้ว ย่อมไม่เดือดร้อนในภายหลัง เป็นผู้เอิบอิ่ม มีใจดี ย่อมเสวยผลของกรรมใด กรรมนั้นแล อันบุคคลทำแล้ว เป็นกรรมดี " .(นายสุมนมาลาการ) 41/211/16 41/175/11 |
59 | นันทมาณพ ข่มขืนพระอุบลวรรณาเถรี แล้วถูกแผ่นดินสูบไปในอเวจี.(พระอุบลวรรณาเถรี) 41/214/12 41/177/10 |
60 | " คนพาลย่อมสำคัญบาปประดุจน้ำผึ้ง ตราบเท่าที่บาปยังไม่ให้ผล ก็เมื่อใดบาปให้ผล เมื่อนั้นคนพาล ย่อมประสพทุกข์ " (พระอุบลวรรณาเถรี) 41/215/13 41/178/3 |
61 | " ภิกษุทั้งหลาย พระขีณาสพทั้งหลาย ไม่ยินดีกามสุข ไม่เสพกาม เหมือนอย่างว่าหยาดน้ำตกลงบนใบบัว ย่อมไม่ติดไม่ตั้งอยู่ ย่อมกลิ้งตกไปทีเดียว ... ".(พระอุบลวรรณาเถรี) 41/216/18 41/179/2 |
62 | พระพุทธเจ้ารับสั่งแก่พระเจ้าปเสนทิโกศลว่า ควรทำที่อยู่ภายในพระนคร แก่ภิกษุณีสงฆ์ แต่นั้นมา พวกภิกษุณีย่อมอยู่ในละแวกบ้านเท่านั้น..(พระอุบลวรรณาเถรี) 41/217/8 41/179/14 |
63 | โยมปลงผมให้พระก็ได้ (ชัมพุกาชีวก) 41/219/1 41/180/20 |
64 | ด่าพระอรหันต์ด้วยอาการ 4 มีโทษ ไปตกอเวจี สิ้นพุทธันดรหนึ่ง และต้องมารับเศษกรรม โทษตามอาการที่ด่านั้นอีก (ชัมพุกาชีวก) 41/219/7 41/181/2 |
65 | บุรพกรรมของกากเปรต เคยเป็นกา ลักกินภัตที่เขานำมาเพื่อสงฆ์ (อหิเปรต) 41/233/12 41/193/5 |
66 | บุรพกรรมของอหิเปรต. มีหัวเป็นคนตัวเป็นงูยาว 25 โยชน์ มีไฟไหม้ทั่วตัว.(อหิเปรต) 41/235/7 41/194/17 |
67 | " ก็กรรมชั่วอันบุคคลทำแล้ว ยังไม่ให้ผลเหมือนน้ำนมที่รีดในขณะนั้น ยังไม่แปรไปฉะนั้น บาปกรรม ย่อมตามเผาคนพาล เหมือนไฟอันเถ้ากลบไว้ฉะนั้น ".(อหิเปรต) 41/236/18 41/195/22 |
68 | บุรุษผู้หนึ่ง ดีดก้อนกรวดเข้าหูพระปัจเจกพุทธเจ้า ให้ถึงความตาย เขานั้นตกอเวจีมหานรก สิ้นพุทธธันดรหนึ่ง แล้วมาเป็นเปรต มีอัตภาพ 3 คาวุต ค้อนเหล็ก6 หมื่นติดไฟ คอยทุบหัวเปรตนั้น (สัฏฐิกูฏเปรต) 41/239/6 41/197/6 |
69 | " ความรู้ย่อมเกิดแก่คนพาล เพียงเพื่อความฉิบหายเท่านั้น ความรู้นั้น ยังหัวคิดของเขาให้ตกไป ย่อมฆ่าส่วนสุกกธรรม(ความดี)ของคนพาลเสีย " (สัฏฐิกูฏเปรต) 41/244/6 41/201/13 |
70 | จิตตคฤหบดี ได้ฟังธรรมจากพระมหานามเถระ แล้วบรรลุโสดาปัตติผล ภายหลังฟังธรรมจากพระสารีบุตรแล้ว บรรลุอนาคามิผล (พระสุธรรมเถระ) 41/246/6 41/203/7 |
71 | พระสุธรรมเถระด่าจิตตคฤหบดี พระศาสดาให้ท่านไปขออดโทษต่อคฤหบดีและ ให้ภิกษุอนุทูตไปด้วยภายหลัง (พระสุธรรมเถระ) 41/247/14 41/204/11 |
72 | จิตตคฤหบดีเดินทาง 30 โยชน์ ไปเฝ้าพระศาสดา อาศัยเทวดาบรรณาการไม่ได้ใช้ของตนเลย (พระสุธรรมเถระ) 41/252/16 41/208/13 |
73 | บุรพกรรมของจิตตคฤหบดี เคยเป็นนายพรานในสมัยพระกัสสปพุทธเจ้า.(พระสุธรรมเถระ) 41/257/3 41/212/12 |
74 | พระสารีบุตร เข้าสมาบัติเพื่อ ผลอันเลิศของมหาเสนพราหมณ์ ผู้เป็นสหายของบิดาของพระเถระ พราหมณ์ตายแล้วไปเกิดในตระกูลอุปัฏฐากของพระเถระนั่นเอง.(พระวนวาสีติสสเถระ) 41/259/7 41/214/6 |
75 | ทารกบางคนยังจำความเป็นไปก่อนมาเกิดได้อยู่ (พระวนวาสีติสสเถระ) 41/262/4 41/216/19 |
76 | คนตระหนี่ย่อมเกิดในนรก เหมือนกาฬอำมาตย์เห็นอสทิสทาน. .(พระวนวาสีติสสเถระ) 41/266/7 41/220/10 |
77 | ให้ของน้อยแต่ได้ผลมาก สามเณรได้ผ้ากัมพลพันผืน เพราะเคยให้ผ้ากัมพลผืนหนึ่ง(พระวนวาสีติสสเถระ) 41/267/9 41/221/10 |
78 | " น้ำในมหาสมุทรทั้งสี่นิดหน่อย, น้ำ คือน้ำตาของคนผู้อันทุกข์ถูกต้องแล้ว เศร้าโศกอยู่ มีประมาณไม่น้อย มากกว่าน้ำในมหาสมุทรทั้งสี่นั้น สหายเพราะเหตุไร ท่านจึงยังประมาทอยู่ " (พระวนวาสีติสสเถระ) 41/275/18 41/228/14 |
79 | สถานที่แห่งสัตว์เหล่านี้ ผู้ที่ไม่นอนตายบนแผ่นดิน ไม่มี (พระวนวาสีติสสเถระ) 41/276/8 41/229/3 |
80 | พระอานนท์ ปรินิพพานอายุ 120 ปี ที่แม่น้ำโรหิณี โดยเข้าเตโชธาตุเผาในอากาศแล้วพระธาตุแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย (พระวนวาสีติสสเถระ) 41/277/4 41/229/16 |
81 | ราธะพราหมณ์ผู้ตกยาก คิดว่า จะเลี้ยงชีพอยู่ในสำนักของภิกษุทั้งหลาย แล้วไปสู่วิหาร ดายหญ้า กวาดบริเวณ ถวายวัตถุมี น้ำล้างหน้า เป็นต้น อยู่ในวิหารแล้ว ภิกษุทั้งหลายได้สงเคราะห์เขาแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่ปรารถนาจะให้บวช..(พระราธเถระ) 41/286/7 41/238/7 |
82 | พระสารีบุตร ระลึกถึงคุณของราธพราหมณ์ที่ให้คนถวายภิกษาทัพพีหนึ่งได้.(พระราธเถระ) 41/287/8 41/239/5 |
83 | " ภิกษุทั้งหลาย ธรรมดาภิกษุควรเป็นผู้ว่าง่ายเหมือนราธะ แม้อาจารย์ชี้โทษกล่าวสอนอยู่ ก็ไม่ควรโกรธ อนึ่ง ควรเห็นบุคคลผู้ให้โอวาทเหมือนบุคคลผู้บอกขุมทรัพย์ให้ฉะนั้น " (พระราธเถระ) 41/289/15 41/241/2 |
84 | "ดูก่อนอานนท์ เราจักกล่าวข่ม ๆ ดูก่อนอานนท์ เราจักกล่าวยกย่อง ๆ ผู้ใดเป็นสาระ ผู้นั้นจักดำรงอยู่ได้ " (พระราธเถระ) 41/291/19 41/242/16 |
85 | " ผู้ใดพึงว่ากล่าว พึงสอน และพึงห้ามจากธรรมของอสัตบุรุษ ผู้นั้นแล ย่อมเป็นที่รักของสัตบุรุษทั้งหลาย ไม่เป็นที่รักของพวกอสัตบุรุษ" (ภิกษุอัสสชิ และปุนัพพสุกะ) 41/294/5 41/243/20 |
86 | เมื่อเกิดเรื่องขึ้นแล้วจึงกล่าว ชื่อว่า ย่อมโอวาท , ชี้โทษที่ยังไม่เกิด , กล่าวสอนบ่อยๆ ชื่อว่า อนุศาสน์ (ภิกษุอัสสชิ และปุนัพพสุกะ) 41/294/9 41/244/2 |
87 | พระฉันนะ ด่าพระอัครสาวก พระพุทธองค์ เตือนก็ยังทำตัวเป็นคนว่ายากอยู่พระองค์ตรัสให้ลงพรหมทัณฑ์พระฉันนะ หลังจากที่ทรงปรินิพพานแล้ว หลังจากถูกลงพรหมทัณฑ์ ท่านก็ประพฤติชอบ ได้บรรลุพระอรหัต. (พระฉันนเถระ) 41/296/6 41/245/6 |
88 | พวกช่างหูก ได้อุปัฏฐากพระปัจเจกพุทธเจ้า 1,000 องค์ มีการสร้างกุฏิ ถวายผ้าได้ไปเกิดอยู่ดาวดึงส์ (พระมหากัปปินเถระ) 41/299/7 41/247/7 |
89 | ผู้มาฟังธรรม เมื่อไม่มีที่พัก ควรคิดจัดหากันเอง (พระมหากัปปินเถระ) 41/302/5 41/249/17 |
90 | อาศัยอำนาจพระรัตนตรัยข้ามแม่น้ำ 3 สาย (พระมหากัปปินเถระ) 41/308/8 41/254/19 |
91 | " บุคคลผู้เอิบอิ่มในธรรม มีใจผ่องใสย่อมอยู่เป็นสุข , บัณฑิตย่อมยินดีในธรรมที่พระอริยเจ้าประกาศแล้ว ทุกเมื่อ " (พระมหากัปปินเถระ) 41/316/6 41/261/5 |
92 | ผู้ให้ทานด้วยตนเอง และยังชักชวนผู้อื่นในการให้ทานย่อมได้ทั้งโภคสมบัติและบริวารสมบัติ. (บัณฑิตสามเณร) 41/318/6 41/262/6 |
93 | มหาทุคตะได้ถวายทานแด่พระกัสสปพุทธเจ้า จึงได้แก้ว 7 ประการ เต็มเรือนและได้ตำแหน่งเศรษฐีในวันนั้น. (บัณฑิตสามเณร) 41/319/19 41/263/16 |
94 | พระพุทธเจ้าทั้งหลาย เมื่อเสด็จเข้าสู่เรือนไม่ต้องก้มเสด็จเข้าไป (บัณฑิตสามเณร) 41/328/13 41/270/17 |
95 | มหาทุคตะ จุติจากเทวโลกแล้วมาเกิดในตระกูลอุปัฏฐากของพระสารีบุตร เมื่ออายุ 7 ขวบได้บวชเป็นสามเณรในวันที่ 8 สามเณรบำเพ็ญสมณธรรม ท้าวสักกะมาอารักขาที่สายยู ท้าวมหาราชทั้ง 4 อารักขาโดยรอบ จันทเทพบุตรหยุดพระจันทร์ สุริยเทพบุตรหยุดพระอาทิตย์ พระศาสดานั่งอยู่ที่ซุ้มประตู ถามปัญหา 4 ข้อ กับพระสารีบุตร จบการตอบปัญหา สามเณรก็บรรลุพระอรหัต พร้อมปฏิสัมภิทา. (บัณฑิตสามเณร) 41/331/4 41/273/3 |
96 | พระลกุณฏกภัททิยเถระมีร่างเล็ก ภิกษุหรือสามเณร เห็นท่านแล้วย่อมจับหัวหู จมูกบ้าง รังแกอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ท่านไม่โกรธ ไม่ประทุษร้าย พระศาสดาแสดงความที่พระขีณาสพย่อมไม่โกรธ ไม่ประทุษร้าย. (พระลกุณฏกภัททิยเถระ) 41/341/6 41/282/6 |
97 | เมื่อสามีของนางกาณาได้ภรรยาใหม่ นางกาณาจึงด่าว่าเพราะเหตุแห่งภิกษุทำให้การครองเรือนของนางฉิบหาย พระศาสดาจึงเสด็จไปบ้านนางแสดงธรรมให้นางเห็นว่าภิกษุไม่ผิด นางจึงขอขมาโทษต่อพระพุทธองค์ เมื่อตรัสอนุบุพพิกถาจบ นางกาณาได้บรรลุโสดาปัตติผลแล้ว พระเจ้าปเสนทิโกศลนำนางไปตั้งไว้เป็นพระธิดาอำมาตย์ผู้หนึ่งรับนางไปสู่เรือน (มารดาของนางกาณา) 41/343/8 41/284/7 |
98 | คราวที่พระพุทธเจ้าจำพรรษา ที่เมืองเวรัญชา ซึ่งเกิดทุพภิกขภัย พวกคนกินเดน500 ไม่ได้แสดงอาการผิดแปลกอันใด แต่เมื่อมาสู่กรุงสาวัตถี ได้กินอาหารประณีต แล้วก็ไปสู่ฝั่งแม่น้ำ แผดเสียงเล่นกันอยู่ พระศาสดาทรงแสดงอดีตที่คนกินเดนเหล่านี้ เกิดเป็นลา 500 กินน้ำหาง ในโลทกชาดก. (ภิกษุ ๕๐๐ รูป) 41/349/8 41/289/7 |
99 | อุบาสกคนหนึ่งในกรุงสาวัตถี อ้อนวอนภรรยาขอบวช นางก็ขอร้องให้คลอด บุตรก่อน ให้บุตรโตก่อนเมื่อเด็กเดินได้ ท่านจึงไปบวชได้บรรลุอรหันต์แล้วกลับ มาแสดงธรรมแก่บุตร และภรรยาเก่า ทั้ง 2 คนก็ได้บวช บรรลุอรหันต์ ทั้งแม่ทั้งลูก (พระเถระผู้ตั้งอยู่ในธรรม) 41/354/6 41/293/6 |
100 | ในกรุงสาวัตถี พวกมนุษย์ที่อยู่ถนนเดียวกันร่วมกันถวายทานฟังธรรมตลอดคืนแต่บางพวกกลับก่อน บางพวกอาศัยโทสะไปแล้ว บางพวกนั่งสัปหงกอยู่ในที่นั้นพระศาสดาตรัสว่า ธรรมดาสัตว์เหล่านี้ อาศัยภพแล้วเลยข้องอยู่ในภพนั่นเองโดยดาษดื่น ชนิดผู้ถึงฝั่งมีจำนวนน้อย (การฟังธรรม) 41/357/6 41/296/6 |
101 | " บรรดามนุษย์ ชนผู้ถึงฝั่งมีจำนวนน้อย , ฝ่ายประชานอกนี้เลาะไปตามตลิ่งอย่างเดียว ก็ชนเหล่าใดแล ประพฤติสมควรแก่ธรรมในธรรมที่เรากล่าวชอบแล้วชนเหล่านั้นล่วงบ่วงมารที่ข้ามได้ยากอย่างเอกแล้ว จักถึงฝั่ง " (การฟังธรรม) 41/358/3 41/296/17 |
102 | ภิกษุประมาณ 500 รูป จำพรรษาอยู่ในแคว้นโกศล ออกพรรษาแล้วจึงไปเข้าเฝ้าพระศาสดา พระศาสดาพิจารณาธรรมอันเป็นปฏิปักษ์แก่จริยาของพวกเธอจึงทรงแสดงธรรมว่า บัณฑิตละธรรมดำแล้ว ออกจากอาลัย อาศัยธรรมอันหาอาลัยมิได้แล้ว ควรเจริญธรรมขาว เป็นต้น. (ภิกษุอาคันตุกะ) 41/360/7 41/298/6 |
103 | " ความเร่าร้อน ย่อมไม่มีแก่ท่านผู้มีทางไกลอันถึงแล้ว หาความเศร้าโศกมิได้หลุดพ้นแล้วในธรรมทั้งปวง ผู้ละกิเลสเครื่องร้อยรัดทั้งปวงได้แล้ว " .(หมอชีวก) 41/367/3 41/304/18 |
104 | พระศาสดาจำพรรษาในกรุงราชคฤห์ แล้วประสงค์จะหลีกจาริก ทรงมีรับสั่งให้พระมหากัสสปะและบริวารกลับภิกษุบางพวกตำหนิ พระเถระว่าติดปัจจัย 4ในตระกูล เพราะท่านมีญาติ และอุปัฏฐากอยู่ที่กรุงราชคฤห์ พระพุทธองค์ทรงแสดงบุรพจริตของพระเถระและข้อปฏิบัติแห่งวงศ์ของพระอริยะ โดยอ้างพระมหากัสสปเถระ (พระมหากัสสปเถระ) 41/369/6 41/306/5 |
105 | พระเพฬัฎฐสีสเถระ ท่านเที่ยวบิณฑบาตแล้วทำข้าวตากเก็บไว้ อาศัยความสุขในฌานเป็นอยู่ พระศาสดาทรงบัญญัติสิกขาบทเพื่อเว้นการสั่งสม และแสดงความความไม่มีโทษของพระเถระ เพราะท่านอาศัยความมักน้อย (พระเพฬัฏฐสีสเถระ) 41/374/6 41/310/6 |
106 | การสั่งสมมี 2 อย่าง สั่งสมกรรม สั่งสมปัจจัย (พระเพฬัฏฐสีสเถระ) 41/375/6 41/310/22 |
107 | ปริญญา 3 ในการกำหนดรู้อาหาร (พระเพฬัฏฐสีสเถระ) 41/375/12 41/311/3 |
108 | วิโมกข์ 3 (พระเพฬัฏฐสีสเถระ) 41/376/1 41/311/11 |
109 | เทพธิดา ชาลินี เคยเป็นภรรยาเก่าในอัตภาพที่ 3 ของพระอนุรุทธะ ได้ถวายผ้าทิพย์ 3 ผืน เป็นผ้าบังสุกุลให้พระเถระนำไปทำจีวร พระศาสดาทรงช่วยร้อยด้ายเข้ารูเข็ม พระมหากัสสปนั่งเย็บตอนต้น ภิกษุสงฆ์กรอด้าย พระมหาโมคคัลลานะจัดแจงถวายสิ่งต่างๆ ภัตอันเกิดด้วยอานุภาพเทวดานั้นมากมาย มีภิกษุตำหนิพระอนุรุทธะว่าท่านอวดความมีญาติ และอุปัฏฐากมาก (พระอนุรุทธเถระ) 41/377/6 41/313/6 |
110 | พระมหากัจจายนะ มาฟังธรรมในวันปวารณา ท้าวสักกะ และบริวารบูชาพระศาสดาแล้ว จับข้อเท้านวดเท้าของพระมหากัจจายนะ บูชาด้วยของหอม ภิกษุทั้งทั้งหลายตำหนิ ท้าวสักกะว่าทรงเห็นแก่หน้า ไม่สักการะพระสาวกผู้ใหญ่ พระพุทธองค์จึงตรัสถึง ภิกษุผู้สำรวมอินทรีย์ ย่อมเป็นที่รักของเหล่าเทวดา .(พระมหากัจจายนเถระ) 41/381/6 41/316/6 |
111 | ภิกษุรูปหนึ่ง อาฆาต พระสารีบุตรที่ไม่ทักทายตน จึงกล่าวโทษพระเถระๆ กลับมาประกาศตนด้วยอุปมา 9 ข้อ ภิกษุนั้นขออดโทษแล้ว พระศาสดาตรัสพระคาถาจบ ภิกษุ 9 พันรูป บรรลุอรหัต พร้อมปฏิสัมภิทา. (เรื่องพระสารีบุตรเถระ) 41/384/6 41/318/5 |
112 | พระโกสัมพีวาสีติสสเถระ บอกกรรมฐาน 5 แก่บุตรอุปัฏฐากอายุ 7 ขวบ แล้วบวชเณรให้ สามเณรบรรลุอรหันต์ตอนปลงผมเสร็จ ทั้งสองไปเฝ้าพระศาสดา และได้เล่าเรื่องที่สามเณรต้องตาบอดข้างหนึ่ง ให้พระองค์ฟัง พระองค์ทรงตรัสพระคาถาจบ พระเถระได้บรรลุอรหันต์ พร้อมปฏิสัมภิทา. (พระติสสเถระชาวกรุงโกสัมพี) 41/389/7 41/322/6 |
113 | พระสารีบุตร ไม่เชื่อในคำถามปรารภอินทรีย์ของพระพุทธองค์ (พระสารีบุตรเถระ) 41/395/6 41/327/5 |
114 | เรวตกุมารอายุ 7 ขวบ น้องสุดท้องของพระสารีบุตร คิดหาอุบายออกบวช.เมื่อบวชแล้วก็บรรลุพระอรหัตในพรรษานั่นเอง (พระขทิรวนิยเรวตเถระ) 41/399/2 41/329/20 |
115 | พระอรหันต์อยู่ในที่ใด ที่นั้นน่ารื่นรมย์ (พระขทิรวนิยเรวตเถระ) 41/405/12 41/335/11 |
116 | บุรพกรรมของพระสีวลี (พระขทิรวนิยเรวตเถระ) 41/406/20 41/336/10 |
117 | " บุคคลใดในโลกนี้ ล่วงเครื่องข้อง 2 อย่าง คือ บุญและบาป เราเรียกบุคคลนั้น ผู้ไม่โศก ปราศจากกิเลสเพียงดังธุลี ผู้หมดจดว่า เป็นพราหมณ์ " .(พระขทิรวนิยเรวตเถระ) 41/411/7 41/340/2 |
118 | ภิกษุผู้ถือบิณฑบาตเป็นวัตรรูปหนึ่ง เข้าไปทำสมณธรรมในสวนร้างแห่งหนึ่งถูกหญิงโสเภณียั่วยวนอยู่ ท่านเกิดความสังเวชใหญ่ พระศาสดาจึงแผ่โอภาสไปแสดงธรรมจบเทศนา ภิกษุนั้นบรรลุพระอรหัตพร้อมด้วยปฏิสัมภิทา เหาะหนีไปเชตวันวิหาร (หญิงคนใดคนหนึ่ง) 41/412/6 41/341/5 |
119 | นายตัมพทาฐิกะ ฆ่าโจรอยู่ 55 ปี เมื่อถูกปลดจากตำแหน่งแล้ว ได้ถวายข้าวยาคูแด่พระสารีบุตร ซึ่งออกจากสมาบัติ พระเถระกล่าวอนุโมทนา และลวงเขาว่าอกุศลไม่ได้เกิดกับเขาซึ่งทำตามคำสั่งพระราชาแล้วแสดงธรรม เขาฟังธรรมแล้วได้บรรลุโสดาบัน ขณะกลับจากตามส่งพระเถระแล้วเขาถูกนางยักษิณีมาด้วยเพศแม่โคนมขวิดตาย ไปเกิดอยู่ภพดุสิต. (บุรุษผู้ฆ่าโจรมีเคราแดง) 41/418/8 41/346/7 |
120 | " เธอทั้งหลายจงอย่าถือประมาณแห่งธรรมที่เราแสดงแล้วว่า น้อยหรือมาก เพราะว่า แม้วาจาคำเดียวที่อาศัยประโยชน์ประเสริฐโดยแท้ " .(บุรุษผู้ฆ่าโจรมีเคราแดง) 41/423/19 41/350/20 |
121 | ภิกษุ 7 รูป ขึ้นเขาบำเพ็ญสมณธรรมในยุคศาสนาเสื่อม (พระทารุจีริยเถระ) 41/426/4 41/353/3 |
122 | พาหิยะ เดินทาง 120 โยชน์ ด้วยการพักโดยคืนเดียว เพื่อไปฟังธรรมพระศาสดาทรงตรัสว่า " เมื่อรูปเราได้เห็นแล้ว รูปจักเป็นเพียงเราเห็น " เขากำลังฟังธรรม ก็บรรลุพระอรหัตพร้อมด้วยปฏิสัมภิทา ขณะกำลังหาบาตรจีวรอยู่นั้น ถูกยักษิณีมาในรูปแม่โคนม ขวิดถึงความสิ้นชีวิต (พระทารุจีริยเถระ) 41/428/18 41/355/7 |
123 | เผาศพพระอรหันต์ไม่มีพิธีมาก (พระทารุจีริยเถระ) 41/431/15 41/357/18 |
124 | ธิดาเศรษฐีได้โจรเป็นสามี เมื่อรอดชีวิตจากเขาทิ้งโจรแล้วไปบวชเป็นปริพาชิกานางได้โต้วาทะ แพ้พระสารีบุตร จึงขอบวชเพียง 2-3 วัน ก็บรรลุพระอรหัตพร้อมปฏิสัมภิทา. (พระกุณฑลเกสีเถรี) 41/434/6 41/360/6 |
125 | ความฉิบหายย่อมมีแก่ผู้เสพกรรม 6 อย่าง คือ การนอนตื่นสาย เกียจคร้านดุร้าย ผัดวันประกันพรุ่ง เดินทางไกลคนเดียว เสพเมียผู้อื่น (อนัตถปุจฉกพราหมณ์) 41/446/16 41/369/15 |
126 | " ผู้ชนะผู้อื่นไม่ประเสริฐ ส่วนผู้ใดชนะตนได้ ด้วยชนะกิเลส ความชนะของผู้นั้น ประเสริฐ เพราะว่าใครๆ ไม่อาจทำความชนะนั้นให้กลับพ่ายแพ้ได้ ".(อนัตถปุจฉกพราหมณ์) 41/447/15 41/370/9 |
127 | ออกจากการบูชาที่ผิดสู่การบูชาที่ถูกต้อง (พราหมณ์ผู้เป็นลุงของพระสารีบุตรเถระ) 41/450/7 41/372/7 |
128 | พระสารีบุตรพาหลานผู้บำเรอไฟ ไปเข้าเฝ้าพระศาสดา ท้ายเทศนาพราหมณ์นั้นได้โสดาปัตติผล. (พราหมณ์ผู้เป็นหลานของพระสารีบุตรเถระ) 41/453/3 41/375/7 |
129 | " ผู้มุ่งบุญพึงบูชายัญ และทำบวงสรวงอย่างใดอย่างหนึ่งในโลกตลอดปี ทานนั้นแม้ทั้งหมดไม่ถึงส่วนที่ 4 การอภิวาทในท่านผู้ดำเนินตรงประเสริฐสุด ".(พราหมณ์ผู้เป็นสหายของพระสารีบุตรเถระ) 41/457/8 41/378/3 |
130 | ยิฏฐํ ได้แก่ ทานที่เขาให้ด้วยอำนาจการทำมงคล เป็นต้น โดยมาก , หุตํ ได้แก่ทานเพื่อแขกที่เขาจัดแจงทำ และทานที่เขาเชื่อกรรมและผลของกรรมทำ.(พราหมณ์ผู้เป็นสหายของพระสารีบุตรเถระ) 41/457/14 41/378/8 |
131 | พระพุทธเจ้าบอกอุบายเบื้องต้นของการทำพระปริตร (อายุวัฒนกุมาร) 41/461/8 41/381/1 |
132 | การไหว้ท่านผู้มีพระคุณ ย่อมเจริญด้วยเหตุ 4 ประการ พ้นจากอันตรายดำรงอยู่จนตลอดอายุ (อายุวัฒนกุมาร) 41/463/4 41/382/10 |
133 | คนอายุ 50 ปี จะพ้นอันตรายตอนอายุ 25 ปี ด้วยความเป็นผู้กราบไหว้เป็นปกติ.(อายุวัฒนกุมาร) 41/463/21 41/383/2 |
134 | ประวัติของสังกิจจสามเณร (สังกิจจสามเณร) 41/466/2 41/384/19 |
135 | สามเณรให้โจร 500 บรรพชา (สังกิจจสามเณร) 41/476/6 41/393/10 |
136 | " ก็ผู้ใดทุศีล มีใจไม่ตั้งมั่น พึงเป็นอยู่ 100 ปี ความเป็นอยู่วันเดียวของผู้มีศีลมีฌาน ประเสริฐกว่า (ความเป็นอยู่ของผู้นั้น) (สังกิจจสามเณร) 41/477/17 41/394/16 |
137 | ประวัติอธิมุตตกสามเณร. (สังกิจจสามเณร) 41/478/10 41/395/3 |
138 | พระเถระเรียนกรรมฐานในสำนักพระศาสดาแล้ว ไปบำเพ็ญในป่า บรรลุพระอรหัตแล้ว นั่งเข้าฌานอยู่บนหลังแผ่นหิน พวกโจร 500 ไม่ทันสังเกตจึงวางห่อสิ่งของทับบนศีรษะท่าน จนสว่าง พอตื่นขึ้นมาเห็นพระเถระจึงขออดโทษและขอ บวชแล้วพาไปเฝ้าพระศาสดา พระองค์แสดงธรรมจบทั้ง 500 รูป บรรลุพระอรหัต..(พระขานุโกณฑัญญเถระ) 41/480/7 41/397/6 |
139 | พระสัปปทาส กระสันอยากสึกแต่เลือกฆ่าตัวตาย ด้วยการเอามือให้งูพิษกัดงูก็ไม่กัด เพราะงูนั้นเคยเป็นทาสของท่านมาก่อน ท่านจึงคิดจะปาดคอด้วยมีด เมื่อใคร่ครวญถึงศีลของตน เกิดปีติ ท่านข่มปีติ แล้วเจริญวิปัสสนาบรรลุพระอรหัตพร้อมด้วยปฏิสัมภิทา (พระสัปปทาสเถระ) 41/483/6 41/399/6 |
140 | ภิกษุทั้งหลาย ธรรมดาพระขีณาสพย่อมไม่ปลงตนจากชีวิตด้วยมือตนเอง.(พระสัปปทาสเถระ) 41/485/10 41/400/23 |
141 | บุรพกรรมของพระสัปปทาส เพราะเคยทำให้ภิกษุรูปหนึ่งเกิดความคิดอยากจะสึก.(พระสัปปทาสเถระ) 41/486/2 41/401/11 |
142 | ภิกษุผู้ปรารภความเพียร ยกเท้าขึ้นวางบนพื้น เมื่อเท้ายังไม่ทันถึงพื้นเลยพระอรหัตมรรคก็ได้เกิดขึ้นแท้จริง ความเป็นอยู่แม้เพียงชั่วขณะของท่านผู้ปรารภความเพียร ประเสริฐกว่าความเป็นอยู่ 100 ปี ของบุคคลผู้เกียจคร้าน..(พระสัปปทาสเถระ) 41/487/7 41/402/13 |
143 | " บุตรทั้งหลาย ไม่มีเพื่อต้านทาน บิดาก็ไม่มี ถึงพวกพ้องก็ไม่มี เมื่อบุคคลถูกความตาย ครอบงำแล้ว ความต้านทานในญาติทั้งหลาย ย่อมไม่มี บัณฑิตทราบอำนาจประโยชน์นั้นแล้ว สำรวมในศีล พึงชำระทางไปพระนิพพานโดยเร็วทีเดียว " (นางปฏาจารา) 41/496/7 41/410/1 |
144 | " ก็ผู้ใด ไม่เห็นความเกิดขึ้นและความเสื่อมอยู่ พึงเป็นอยู่ 100 ปี , ความเป็นอยู่วันเดียว ของผู้เห็นความเกิด และความเสื่อม ประเสริฐกว่า ความเป็นอยู่ของผู้นั้น " (นางปฏาจารา) 41/497/15 41/411/3 |
145 | ทรัพย์กลายเป็นถ่าน. (นางกิสาโคตมี) 41/499/6 41/412/6 |
146 | " มฤตยู ย่อมพาชนผู้มัวเมาในบุตร และสัตว์ของเลี้ยง ผู้มีใจซ่านไปในอารมณ์ต่างๆ ไป ดุจห้วงน้ำใหญ่พัดชาวบ้านผู้หลับไหลไปฉะนั้น " (นางกิสาโคตมี) 41/503/6 41/415/16 |
147 | นางมีบุตร 7 คน ธิดา 7 คน เมื่อสามีตายได้แบ่งทรัพย์ให้ลูกๆ ลูกของนางไม่อยากดูแล นางจึงไปบวชเป็นภิกษุณี ทำสมณธรรมตลอดคืนยังรุ่ง เดินเอามือจับเสาเดินรอบ พระศาสดาแผ่พระรัศมีไปประทับนั่งตรงหน้าตรัสพระคาถา จบ พระพหุปุตติกาเถรี ดำรงอยู่ในพระอรหัต พร้อมปฏิสัมภิทา. (พระพหุปุตติกาเถรี) 41/505/6 41/417/6 |